ผลงานของชายคนหนึ่งซึ่งนอกจากตามหลักสูตรของโรงเรียนแล้ว ต้องเรียนรู้ศึกษาหาความรู้เอง ทั้งหลักธรรมและการประพันธ์ ชอบคิด-วิเคราะห์-สรุปบทเรียนใหม่เป็นประจำ แล้วบันทึกไว้เป็นบทกวีเพราะมิเช่นนั้นจะลืมบทเรียนเก่า คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง จึงโพสต์สู่สื่อสาธารณะ
ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน
สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้
วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553
กลอนความรัก : ความรัก
กลอนความรัก : ความรัก
รักมักเริ่ม ประเดิมใจ ยามได้เห็น รูปที่เฟ้น เป็นที่รัก อยากหลงใหล
ได้ยินเสียง สำเนียงถ้อย สร้อยจับใจ อยู่ใกล้ใกล้ ได้แอบคิด สนิทนาน
รักที่เกิด เตลิดไว มิใช่รัก อย่าทึกทัก ว่ารักแท้ แม้สมาน
ยิ่งรักแรก ยิ่งแทรกซ้อน ร้อนรนราน สัญชาตญาน บันดาลให้ ใจรวนเร็ว
ความลุ่มหลง ปักตรงใจ ให้มืดบอด ปัญญามอด สติไหม้ ทำไหลเหลว
รีบสัมพันธ์ สานชู้สาว เอาให้เร็ว ไม่รู้เหว หรือเปลวไฟ ไถลตัว
ความรักคือ สื่ออารมณ์ ผสมผสาน สายสัมพันธ์ พานผูกจิต ติดในหัว
เมื่อรักเปิด เกิดตัณหา ละล้าละลัว ไม่รู้ทั่ว ทำชั่ว/ดี สติจาง
รักคือเล่ห์ เสน่หา ธรรมชาติ บงการสัตว์ มุ่งมาดกิจ ชีวิตสร้าง
หากฉลาด อาจเพ่งเห็น เป็นหลุมพราง แรงดูดคว้าง ยากยั้งหยุด หลุดรอดภัย
รักคือบ่วง ล่วงครรลอง ใครมองรู้ รักชักชู สู่สัตว์เลี้ยง เพี้ยงผลักไส
รักผูกหลวม แต่สวมแน่น รึงแกนใน ยากที่ใคร ตัด-ไข-แก้ แพ้พลัง
รักคือน้ำ ลำธารเชี่ยว คดเคี้ยวชัด ใครพลั้งพลัด ถูกซัดไหล ไม่เห็นหลัง
ดูดจมลึก ยากตรึกตรง งง..งวย..งั่ง ไม่รู้ทาง ไม่รั้งทิศ ไม่พิจารณา
รักคือกับ สลับดัก มักว่าดี ต่างอยากมี ต่างอยากรัก ต่างอยากหา
แต่ใครเล่า เข้าใจรัก สักเมล็ดงา รู้ไหมว่า ที่ว่ารัก...รักอย่างไร ?
รักต่อเขา? หรือรักเรา? ขอเขลาถาม รักเพื่อความ สุขของเรา? เขาสุขไหม?
รักเพื่อจอง เป็นเจ้าครอง เช่นของใช้? รักเพื่อให้? ไม่หวงแหน? เป็นแฟนกัน?
รักเพื่อหา มารับใช้ ไร้ศักดิ์ศรี? รักเพื่อมี มิน้อยหน้า สาระขันธ์?
รักเพื่อได้ เพื่อนใกล้ชิด พิศชีวัน? รักเพื่อสรรค์ สร้างครอบครัว รั้วสกุล?
รักเพื่อเล่น เช่นชั่วคราว ราวแก้ขัด? รักเพื่อหัด ลองดาดดู รู้รสสุนทร์?
รักเพราะมัน ทันสมัย เราวัยรุ่น? เพราะง่านงุ่น ขาดไม่ได้ ใจมันเหงา?
รักอย่างไร? อย่าให้รัก หนักหน่วงจิต! รักชีวิต คิดครวญใคร่ อย่าให้เขลา
รักต้องดี มีประโยชน์ โทษบางเบา รักและเศร้า อยู่เคล้าคละ อยากจะเตือน
รักเฉกเช่น น้ำเย็นหวาน ปั่นใส่สี รักมักมี เหมือนเวทมนตร์ ดลใดเหมือน
รักล่อใจ ให้ลุ่มหลง ลงเลอะเลือน รักจักเฉือน เปื้อนชีวิต หากผิดคน
คิดจะรัก หักห้ามใจ รอไว้ก่อน หากยังอ่อน ประสบการณ์ พานสับสน
รักวัยเยาว์ มักเขลาง่าย ไม่วิมล รอให้พ้น เบญจเพส เขตปลอดภัย
ความเขลามัก ผลักเสือกไส ให้ใหลหลง คิดว่าคง ดำรงรัก สลักไศล
จึงทุ่มเท ให้ทุกสิ่ง ทิ้งกายใจ ที่สุดใคร? ได้สมรัก สมอยากจริง?
๗ กันยายน ๒๕๕๓
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น