กลอนธรรมะ กลอนคติชีวิต กลอนคติเตือนใจ กลอนคติสอนใจ กลอนสุภาษิต บทความจรรโลงใจ
ผลงานของชายคนหนึ่งซึ่งนอกจากตามหลักสูตรของโรงเรียนแล้ว ต้องเรียนรู้ศึกษาหาความรู้เอง ทั้งหลักธรรมและการประพันธ์ ชอบคิด-วิเคราะห์-สรุปบทเรียนใหม่เป็นประจำ แล้วบันทึกไว้เป็นบทกวีเพราะมิเช่นนั้นจะลืมบทเรียนเก่า คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง จึงโพสต์สู่สื่อสาธารณะ
ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้
วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567
วิกฤติโลกร้อน หรือสายเกินแก้? : กาพย์ยานี๑๑
วิกฤติโลกร้อน หรือสายเกินแก้? : กาพย์ยานี๑๑
๏ (น้ำ)ท่วมใหญ่ ในหน้าร้อน............................อุทาหรณ์ ก่อนจะสาย(หรือว่าสายเสียแล้ว?)
ธรรมชาติ ถูกทำลาย...................................ความฉิบหาย (เป็น)เรื่องใกล้ตัว
๏ เหมือนการ กระทำบาป.................................ต้องคำสาป(กรรมตามสนอง) รับผลชั่ว
ความเขลา หลงเมามัว................................สถิตทั่ว ทั้งหัวใจ
๏ สภา วะโลกร้อน...........................................คำเตือนว่อน ห่อนหวั่นไหว
น้อย(คน)นัก จักใส่ใจ..................................(ยัง)ทำอะไร ตามใจตน
๏ มองการณ์ วันข้างหน้า..................................(จะ)มีปัญหา ทุกแห่งหน
เห็นแค่ ความมืดมน.....................................โลกร้อนรน ท้นทรมาน์
๏ หลงใหล ในดวงจิต.......................................(กับความ)สุขน้อยนิด เฉพาะหน้า
(กิน-เที่ยว-ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยฯลฯ)
มองข้าม มินำพา..........................................อนาคต หมด(สิ้น)-มืดมน(มองไม่เห็นทางออก)
๏ คนไซร้ มักไม่ซื่อ(ตรง)...................................สม(คำ)ร่ำลือ คือเหตุผล
โลกนี้ จิประจญ............................................โกลาหล ล้นพรรณนา
๏ โลกา คราวิกฤติ.............................................ทุกชีวิต ทุกทิศา
จักต้อง ข้องชะตา(กรรมเดียวกัน)....................ทุกข์ทั่วหน้า ทุก(ทิวา)ราตรี
๏ โลกา จะเปี่ยมทุกข์........................................ร้อนรนรุก สุขสลายหนี
(เพราะ)คนไซร้ บ่ใยดี....................................โลกย่ำยี พินาศเอยฯ
๒๔ เมษายน ๒๕๖๗
วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2567
วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2567
บวชทำลายพุทธศาสนา : กลอนคติเตือนใจ
บวชทำลายพุทธศาสนา : กลอนคติเตือนใจ
๏ "ตัดหาง ปล่อยวัด" ปัจจุบัน............................เห็นทำ ตามกัน กับลูกหลาน
พวกไม่ รักดี มิเอาถ่าน...................................มอบให้ สมภาร สันดานดัด(ดัดนิสัย)
๏ อีกยัง มายา ค่านิยม.......................................สร้างบาป สะสม บ่มสารพัด
ล้างเคราะห์ ล้างกรรม หวังกำจัด.....................เข้าวัด บวชแก้ แพร่หลายมี
๏ อีกทั้ง พวกพระ ยึด(เป็น)อาชีพ.......................ปากกัด ตีนถีบ(ความยากจน) อยากรีบหนี
หาสุข สราญกาย สบายฤดี.............................มากมี มาบวช (รับจ้าง)สวดมนต์กันฯลฯ
๏ สรุปความ ทำตาม ประเพณี.............................บวชพอ เป็นพิธี มิกวดขัน
แคลนขาด ศรัทธา จรรยาบรรณ......................ช่างมัน เถิดคำ "ธรรมวินัย"
๏ ผ้าเหลือง เครื่องหมาย คล้ายเป็นพระ...............แต่ใจ ไร้สมณะ อัชฌาสัย
โลกุต ตรธรรม=คำท่องไป..............................โลกีย์ สิกระหาย ใส่กระมล
๏ จึงเห็น เป็นข่าว แทบเช้าค่ำ............................พวกพระ ระยำ ทำอกุศล
ทำลาย ศรัทธา สาธุชน...................................สร้างผล มลทิน แผ่นดินธรรม
๏ ชาวบ้าน ชาวช่อง ต้องใส่ใจ............................เชิดชู "ธรรมวินัย" ให้เลิศล้ำ
ไม่ใช่ ประเพณี พิธีกรรม..................................ชี้นำ สำนึก ตรองตรึกการ
๏ สังคม งมงาย คล้ายอุปสรรค............................เสื่อมหลัก (พุทธ)ศาสนา ละแก่นสาร
(ไม่ใช่คนนอก)คนใน ใจชั่ว คือตัวมาร................ทำพุทธ ชุติกาล อันตรธานเอยฯ
๒๑ เมษายน ๒๕๖๗