ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ส่งท้ายปีเก่า : กาพย์สุรางคนางค์๒๘



ส่งท้ายปีเก่า : กาพย์สุรางคนางค์๒๘

    ...........................................ส่งท้าย ปีเก่า
อายุ ของเรา.............................เท่ากับ ยืดขยาย
หนึ่งปี ที่เพิ่ม............................เสริมหลาก มากมาย
ประสบการณ์ ผ่านกราย..............หลายลาน พานพี

    ...........................................ครวญจิต คิดตาม
เหตุ-ผล กลความ......................ทราม-ถูก วิถี
ครรลอง ระบอบ.........................ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี
เทียบเคียง เที่ยงชี้.....................มีประโยชน์ บทเรียน

    ............................................เปรียบกับ ปีก่อน
ดี-ชั่ว ตัวย้อน............................สะท้อน แปรเปลี่ยน
ดีขึ้น แค่ไหน?...........................สาไถย ใจเจียร?(เจียร=ช้านาน)
ถ้าหาก พากเพียร.......................อยากเปลี่ยน แปลงตน

    ............................................ให้เจริญ ก้าวหน้า
(จง)มุ่งมาด ปรารถนา.................ชีวา ประสิทธิ์ผล
ดีกว่า เที่ยวไป..........................ไหว้พระ สวดมนต์
เทพ-มาร บานบน......................ปราศผล อันใด

    ............................................พบข้อ บกพร่อง
ที่ยัง จะต้อง.............................ขัดข้อง แก้ไข?
เพริศเพรา เกลาหัด....................พัฒนา ต่อไป
สู่ความ ศรีวิไล..........................ไม่หยุด สะดุดเอยฯ

๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐

วันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2560

พ่อแม่ไม่สั่งสอน : กาพย์ยานี๑๑



พ่อแม่ไม่สั่งสอน : กาพย์ยานี๑๑

    แม่แมว ช่างแกล้วกล้า............................ไม่กลัวหมา ปกป้องลูก
รักมั่น และพันผูก....................................อยู่ทุกวัน มิสั่นคลอน

    ก็แต่ แม่(แมว)ไม่รู้.................................ถูก-ผิดสู่ มุสั่งสอน
(ล่า)นก-หนู เลี้ยงอุทร.............................ตามบัญชร สัญชาตญาณ

    ชนหลาย ไม่แตกต่าง.............................มิเหินห่าง (แค่)หาอาหาร
ให้ลูก อิ่ม(หนำ)สำราญ............................ปกป้องพาน พบอันตราย

    (โดยมาก)ดีหน่อย คอยเสริมส่ง................ชีพธำรง มั่นคงหมาย
มีงาน บันดาลสบาย.................................ครอบครัวขยาย สืบสาย(เผ่า)พงศ์

    มากก็ บ่ใคร่รู้........................................ความเป็นผู้ อุระหลง
ถูก-ผิด คิดงุนงง.....................................จำนงทำ ตามแต่ใจ

    นอกจาก มิสอนสั่ง.................................พ่อแม่(มากมาย)ยัง (ปลูก)ฝังนิสัย
เลวทราม ศีลธรรมไร้................................ไม่ยึดผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี

    สอนให้ เห็นแก่ตน.................................ทุจริตฉล ท้นบัดสี
เอาเปรียบ เหยียบย่ำยี..............................มิละอาย ในบาปกรรม

    คนดี มีน้อยนิด......................................สอนลูกคิด สุจริตค้ำ
ชั่่วบาป ให้หลาบจำ.................................อย่าทำตน เป็นคนเลวฯ

 ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๐

วันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2560

คนบาปในคราบนักบุญ : กลอนสะท้อนสังคม




คนบาปในคราบนักบุญ : กลอนสะท้อนสังคม

    ไม่รู้สึก รู้สา ว่าบุญ/บาป(คืออะไร?).................กรานก้มกราบ นับถือ คือสิ่งไหน?
หันโกนผม ห่มผ้า(เหลือง)หาอะไร?..................คนสาไถย ไสยศาสตร์ อลัชชี

    คณนา เทวรูป อุปโลกน์................................บันดาลโชค ชวนมา เสริมราศี
Job ยับยั้ง ล้างกรรม ทำพิธี.............................อวดของดี มีให้ ใบ้หวยเบอร์

    ผลิตเครื่องราง ของขลัง อ้างฤทธิ์เดช...............แสร้งวิเศษ เวทมนตร์ ลวงล้นเอ่อ
ประกอบกิจ พณิชย์กรรม ทำจนเบลอ.................โหยหาเงิน เพลินเผลอ ว่า(ตน)เป็นใคร?

    ห่มผ้าเหลือง เขื่องท่า ว่าเหนือคน....................ทำเช่นชน ชั้นสูง ฟุ้งปราศรัย
ชอบคดคิด กิจตาม อำเภอใจ...........................ทำอะไร ไม่คะนึง ถึงชั่ว-ดี

    แอบอ้างบุญ สถุลทำ ความวิปริต......................ละเมิดสิทธิ์ คนอื่น รื่นสุขี
แปลงสัปดน ปนเป ประเพณี.............................ทั้งๆที่ ธรรมวินัย ไม่รับรอง

    บ่อย-หนักเข้า เอานักเลง เบ่งคุมวัด..................สารพัด อันธพาล มานจองหอง
ทุจริต ที่ดิน สินเงินทอง...................................วางตนเฉก เจ้าของ ครองวัดวา

    มีพวกมาก ลากถู ชูเชิดใหญ่............................ทุ่มเงินใช้ ซื้อตำแหน่ง แข่งยศถา
ทำเยี่ยงเหล่า เจ้านาย สมัยศักดินา.....................ชาวบ้านพา เช่นไพร่ กราบไหว้กู

    สังคมล้น คนบาป (ใน)คราบนักบุญ....................ทรามสถุล คิดเมา (ว่า)เขาไม่รู้
คนสมเพช เวทนา เหมือนลา-งู(พิษ)...................ไหว้ไม่ลง คงไม่รู้ ดูแคลนใคร?

๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๐

*แม่ลูกพึ่งศูนย์ดำรงธรรม ถูกยิงขู่หน้าบ้าน คาดปมร้องวัดจัดมหรสพเสียงดัง
From <https://www.thairath.co.th/content/1163922>

*เดนนรกในคราบผ้าเหลือง..!!
ทหารบุกจับไอ้โล้นห่มเหลือง เป็นถึงเจ้าอาวาสระดับพระครู ทั้งเสพทั้งขาย สุดอึ้ง ค้นกุฏิเจอของกลางอื้อ
From <http://www.tnews.co.th/index.php/contents/395118>

*บุกจับคาจีวร หน.แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตุ๋น พ.ต.ต. อดีตผช.พยาบาล

From <https://www.thairath.co.th/content/1165158

วันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ชวนกูรูการตลาดทำนาย digital marketing 2018! | สุทธิชัย Live

สงบอารมณ์ชมเชย : กาพย์ฉบัง๑๖



สงบอารมณ์ชมเชย : กาพย์ฉบัง๑๖

    ถึงคราพายุฉุปะสงบ.....................ปัถวีพิภพ(ฉุป-=ลม)
ประสบสภาวะกระสานติ์(กระสานติ์=สงบ)

    อุษาทัศนาสะคราญ....................ผุดผาดสัญญาณ
ขจ่างชัชวาลดาลดล(ขจ่าง=กระจ่าง)

    ไพรสัณฑ์สะพรั่งหลังฝน...................ดุจเดชเพทมนตร์
สุคนธะรามกำจร(ราม=งาม)

    เยือกเย็นเป็นสุขสโมสร....................โศภินทินกร
รุจิราอาทรผ่อนหนาว

    ธรรมานุสติผลิพราว.....................ปัญญาสกาว
สว่างกลางเกล้ากระมล

    อารมณ์ทั้งผองของคน...................(เมื่อ)สงบเตียนเวียนวน
สิริสิผจญผลผสาน

    มลทินสิ้นห้วงดวงมาน....................วิจารณญาณ
กระจ่างสว่างปานปราชญา

    สามารถตรองตรึกศึกษา....................อนุชิตพิทยา(อนุชิต=ชนะเนืองๆ)
พิเคราะห์พิจารณาเหตุผล

    ความคิดสร้างสรรค์ดาลดล...................สุนทรจรจล
วิศิษฏ์วิมลท้นทะยาน(วิศิษฏ์=ยอดเยี่ยม)

    จินตนา-สัจจะประสาน..................สมดุลคุณสราญ
ประกิดพิสดารการเอยฯ(ประกิด=ประดับ)

๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๐

วันพุธที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560

กระตุ้นเศรษฐกิจ/กระตุ้นวิกฤติ? : กลอนสะท้อนสังคม



กระตุ้นเศรษฐกิจ/กระตุ้นวิกฤติ? : กลอนสะท้อนสังคม

    เหมันต์ สมัย ในวันที่............................เช้ามี หมอกบาง พรางสถล
กระแส (พายุ)ไต้ฝุ่น หนุนอิทธิพล............โปรยปราย สายฝน ปรนปัถพี

    ไม่เพียง แค่ลม เข้าพรมพัด....................ฝนพรำ ซ้ำซัด ถนัดถนี่
ความหนาว เคล้าฝน(ลม) ดล วนาลี..........ทวี ศีตล วสุธา(ศีตล อ่าน ศีตะละ=หนาวเย็น,วสุธา=พสุธา)

    สุริยน โดนบัง หลังก้อนเมฆ....................ปัจเจก เดียวดาย ในฟากฟ้า
มิได้ ไหวหวั่น พรั่นอุรา...........................ดำเนิน มรรคา สมาทาน

    มีคน ล้นหล้า จนน่าคิด...........................วิกฤติ โลกา คณาผลาญ
ล้วนเกิด จากคน ล้นปริมาณ.....................มีความ ต้องการ ไม่เคยพอ

    ต่างคน ต่างแย่ง ยื้อแข่งขัน.....................ดึงดัน ตัณหา กระสันหนอ
เห็นแก่ ตัวเอง เกรงไม่พอ........................เร่งก่อ วิกฤติ มลพิษเพียร

    (ต้องเรียกว่า)พยายาม ทำลาย สิ่งแวดล้อม...แหนห้อม หาเงิน จนเกินเสถียร
อยากรวย ล้ำล้น จิตวนเวียน.....................(ใช้จ่าย)ฟุ่มเฟือย ไม่เปลี่ยน พฤติกรรม

    สินค้า สมัยใหม่ (มัก)ไม่ทานทน..............(ตอบ)สนองคน มักง่าย ใคร่ครวญคร่ำ
ตัวทำ นำสมัย ใคร่หรูล้ำ..........................คร่ำเคร่ง เก่งกวด อวดร่ำรวย

    ช๊อปปิ้ง ปลายปี มีของใหม่.....................ของเก่า ทิ้งไป ใจฉาบฉวย
ขยะ สะสม ถมไม่ช่วย-............................อำนวย อนุรักษ์ ทรัพยา(กรธรรมชาติ)

    อ้างคือ การกระตุ้น เศรษฐกิจ.................."กระตุ้น วิกฤติ" สิไม่ว่า
เร่งลาญ ทำลาย ให้โลกา.........................ฉิบหาย ไม่ช้า หมดค่าเอยฯ

๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๐

*แฟชั่นรวดเร็ว ทำคนไทย 40% โละเสื้อผ้าใส่เพียงครั้งเดียวทิ้งขยะ
ชาวเวียดนามและจีน มี 27% และ 23% (ตามลำดับ)
ในทางกลับกัน ชาวออสเตรเลีย 
ฮ่องกง และสิงคโปร์มีแนวโน้มน้อยที่สุดมีเพียง 4%, 6% และ 6% (ตามลำดับ)
From <https://www.thairath.co.th/content/1156572

วันอังคารที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ความยึดติดสร้างวิกฤติชีวา : กลอนคติเตือนใจ



ความยึดติดสร้างวิกฤติชีวา : กลอนคติเตือนใจ

    พายุ ลูกใหม่ ไล่ระดับ.........................แรงเร่า เท่ากับ (พายุ)โซนร้อน
ลมฝน ล้นพลา อากร............................บั่นทอน ทรัพยา พสุมดี(พสุมดี อ่าน พะสุมะดี=แผ่นดิน)

    บ้านช่อง เรือนชน โดนซัด...................พิบัติ ขัดสน ป่นปี้
สูญเสีย ทรัพย์สิน ชีวี............................ส่งท้าย สิ้นปี บีฑา

    กิจกรรม ธรรมชาติ บาทบท..................มีกฎ มีเกณฑ์ เป็นอรรถา
วิถี ชีวิต พิจารณา................................สัจจะ อนิจจา อาการ

    หากแต่ แดคน ดลคิด.........................ประพฤติ ยึดติด พิษฐาน
อยากมี อยากเป็น มิเว้นวาร...................หลากลาน ตัณหา อาลัย

    เมื่อไม่ ได้ดั่ง หวังวาด........................สมมาด ปรารถนา ปราศรัย
ก็อัด ก็อั้น ตันใจ.................................จนไม่ ใยดี วิจารณ์

    ทุกขะ ระดม โทมนัส..........................ติดขัด ทัศนา กระสานติ์(กระสานติ์=สงบ)
วิปริต คิดขบ ประสบพาล......................กระทำ กรรมปาน ไร้ปัญญา

    ทำร้าย (ได้)ทั้งตน-คนอื่น...................ข่าวดื่น คืนวัน คลุ้งปัญหา
สะท้อน ความอ่อนแอ อุรา.....................วิกฤติ ประชา ปราชัย

    กิเลส ราคี ครองพิภพ........................สยบ ศีลธรรม ส่ำไส
เกิดมี วิกฤติ จิตใจ...............................ทุกวัย ไม่อาจ คาดคะเน

    (จง)มุ่งมาด ปรารถนา (แต่)อย่ายึดติด....ชีวิต คิดครวญ สรวลเส
อยู่ให้ หรรษา ฮาเฮ..............................ไม่ต้อง ปองเล่ห์ เพทุบายฯ

๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๐

*(25 ธ.ค.) น.ส.พะเยาว์ เมืองงาม ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก เปิดเผยว่า
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของพายุไต้ฝุ่น “เท็มบิน” (TEMBIN) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
มีศูนย์กลางอยู่ที่ปลายแหลมญวนอย่างใกล้ชิด มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 26 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และในวันพรุ่งนี้ พายุนี้จะเคลื่อนตัวลงสู่อ่าวไทย และภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และคลื่นสูง 4 เมตร
From <https://mgronline.com/south/detail/9600000129483

*ง้อเมียไม่สำเร็จ!
ผู้จัดการร้านอาหารดังเครียด ชักปืนยิงเมียเจ็บ ก่อนจ่อขมับตัวเองลั่นไกดับต่อหน้าลูก
From <https://mgronline.com/crime/detail/9600000129361> 

วันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2560

วันนี้วันพระ : กลอนจรรโลงใจ



วันนี้วันพระ : กลอนจรรโลงใจ

    วันนี้ วันพระ ชำระจิต.............................ทัศนีย์ ชีวิต พิษฐาน(ทัศนีย์=งาม,พิษฐาน=มุ่งหมาย)
ศีลธรรม สิกขา สมาทาน..........................วัฒนา อาจาร บันดาลใจ

    ละทำ ความชั่ว ทั่วทั้งหมด......................ตั้งกฎ กติกา อัชฌาสัย
มุ่งทำ ความดี มีวินัย................................จะไม่ ละเมิด ล้ำเลิศมี

    ปฏิบัติ รัถยา สาธุศาสน์..........................พุทโธ โอวาท วิลาสศรี(รัถยา=ทางเดิน,วิลาส=งามมีเสน่ห์)
บำเพ็ญ กุศล บนกรรมดี............................ให้มี สัจจะ ปฏิญาณ

    กำจัด อวิชา อกุศล................................กระมล สำรวม สำเริงศานติ์(สำเริง=ร่าเริง)
เมตตา ปราณี ฤดีดาล...............................เต็มใจ ให้ทาน มานวิทูร(วิทูร=ฉลาด)

    สี่วัน ต่อเดือน เตือนวันพระ.......................วิริยะ เข้าไว้ อย่าได้สูญ
ศีลธรรม ความดี ที่เพิ่มพูน.........................เกื้อกูล ชีวาตม์ ก้าวพัฒนา

    น้อมนำ ทำดี เป็นนิสัย.............................กล่อมเกลา จิตใจ ไกลตัณหา
สว่าง สวัสดี เสริมชีวา...............................สุขสันติ์ หรรษา สุราลัย(สุราลัย=สวรรค์)

    (ทำเหมือน)ทุกวัน(เป็น)วันพระ พันธกิจ......วัฒนะ ประสิทธิ์ วิจิตรศรัย(ศรัย=อาศัย)
มิยุ่ง มุ่งยาก ลำบากใย..............................ทำไป ปกติ เป็นนิตยา

    เป็นพระ เพราะใจ ใสสะอาด.....................ไม่ขาด ศีลธรรม งามรักษา
ใครทำ ใครได้ ใคร่ศรัทธา..........................สิมี สุขะ สถาพรฯ

๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๐

วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ความตายไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ : กาพย์ยานี๑๑

นักร้องดังของเกาหลีใต้ คิม จงฮยอน สมาชิกบอยแบนด์วง SHINEE ฆ่าตัวตายเสียชีวิตในบ้านพัก


ความตายไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ : กาพย์ยานี๑๑

    ความตาย ไม่ใช่ทาง....................."พ้นทุกข์"อย่าง บางคนขาน
เห็นใคร วายวางวาร.......................ชอบอุทาน "พ้นทุกข์"(เสีย)ที

    ซากศพ สงบนิ่ง...........................วิญญาณทิ้ง สิงสู่หนี
จากกาย ไปเกิดมี..........................ชีวิตใหม่ ในวัฏฏะธรรม

    ใช่ว่า จะประสบ............................ความสงบ พบเลิศล้ำ
มิ"หมด เวรหมดกรรม"....................ตามถ้อยคำ (จด)จำพูดจา

    เวรกรรม (ย่อม)ตามติดไป...............นำชดใช้ ถึงชาติหน้า
เหมือนเงา เนาจนกว่า.....................จะ(ชด)ใช้หมด ทดแทนคืน

    ประสบ พบปัญหา..........................ตามชะตา อย่าใฝ่ฝืน
ข่มใจ ใคร่กล้ำกลืน.........................ยืนหยัดสู้ อยู่ต่อไป

    ชีพมี ย่อมมีทาง............................บุญสรรคสร้าง พร่างไสว
สะสม ระดมไว้...............................ให้ชาติหน้า โสภาพี

    ชีพหมด อดทุกสิ่ง..........................ต้องอ้างอิง กรรมเก่าชี้
ว่าใคร จะได้(ถือกำเนิด)ดี.................หรือมีกรรม ลำบากเกณฑ์

    ถ้าหาก อยากทุกข์พ้น.....................(จง)ฝึกกระมล กุศลเน้น
นิพพาน เท่านั้นเป็น.........................(ทาง)เว้นเกิด-ตาย คลายวัฏฏาฯ

๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๐

*กรมสุขภาพจิต เผย 
"วัยรุ่น" เสี่ยงโรคซึมเศร้า 3 ล้านกว่าคน คาดป่วยแล้วกว่า 1 ล้านคน 
ห่วงเข้าถึงการรักษาน้อย เหตุอาการป่วยดูยาก คิดว่าเป็นแค่นิสัยเกเร พ่วงเด็กไม่อยากถูกมองมีปัญหา

วันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2560

อย่าเพิ่มความทุกข์ : กลอนคติเตือนใจ



อย่าเพิ่มความทุกข์ : กลอนคติเตือนใจ

    ลำพัง ฤดูหนาว............................ความหนาว เคล้าคลอ ก่อความเข็ญ
สัมผัส น้ำเย็น................................ช่างเป็น ทุระ ประสบการณ์(ทุระ=ยาก,ลำบาก)

    ยิ่งมี ลมพัด.................................ยิ่งเร้า หนาวจัด ฉกาจหาญ
หนาวเหน็บ เนิ่นนาน.......................ต้องการ แอบอิง ผิงไฟ

    ธรรมดา ชีวิต................................ธรรมชาติ ประสิทธิ์ ปัญหาให้
สารพัด ปัจจัย................................ต้องใฝ่ แสวงหา มาบรรเทา

    ความยาก ลำบาก..........................ถ้าหาก ใครมี ฤดีเขลา
ชิดชั่ว มัวเมา.................................ยิ่งเท่า กับเสริม เติมยากเย็น

    อุปสรรค ปัญหา............................เกิดมา เพื่อประสบ พบเห็น
เพราะโล กาเป็น.............................เส้นทาง ระหว่าง สวรรค์-นรก

    ทุกข์โศก โลกมี............................เป็นตาม วิถี ; ห้ามวิตก
พรึงพรั่น งันงก...............................กลุ้มอก กลุ้มใจ ไปเพิ่มเติม

    ยิ่งพรั่น ปัญหา..............................เร้ารุก ทุกขา โศกาเสริม
ยิ่งมาก กว่าเดิม..............................เหมือนเหิม ลมให้ หนาวฤดู

    ประสบ ปัญหา..............................เปิดญาณ ปัญญา มาเรียนรู้
กำลัง(ใจ) สร้างสู้...........................อย่าสลด หดหู่ เศร้าดูดาย

    (ยาม)ยากเข็ญ เป็นทุกข์.................จงปลุก ปลอบมาน มั่นคงหมาย
(ทำใจให้)สบาย สบาย....................อย่าทุรน ทุราย ไปด้วยเลยฯ

๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๐

วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ศีลธรรมสร้างความอบอุ่น : โคลงสี่สุภาพ



ศีลธรรมสร้างความอบอุ่น : โคลงสี่สุภาพ

๑. ความหนาวมาทำให้...........................คืนวัน
แตกต่างปกติหรรษ์...........................เริงรื้น
แสงสีจากสุริยัน...............................อบอุ่น
สัมผัสสุนทรีย์ครื้น-...........................เครงให้หทัยสนอมฯ(สนอม=ถนอม)

๒. หอมกลิ่นอากาศเช้า..........................ชวนเชย
เย็นลึกถึงทรวงเลย...........................ซ่านซึ้ง
ลมหนาวพัดรำเพย...........................อ่อนๆ
ซอนผิวกายเยียบรึ้ง..........................หาผ้าห่มกันหนาวฯ

๓. บรรเทาความยากแค้น........................เคืองเข็ญ
ศีลธรรมสมบูรณ์เป็น.........................เลิศแท้
หัดหทัยส่องเห็น..............................สัจจะ
สัมมาอาชีวะแล้...............................ล่วงล้ำเลอสลวยฯ

๔. อำนวยความเริงรื้น.............................ฤาดี(ฤาดี=ความยินดี)
ชวนสุขสบายชีวี..............................ทุกข์ไร้
ผ่อนคลายเภทภัยพี..........................พิบัติ
ขจัดมลทินไคล้................................เพริศแพร้วพัฒนาฯ(ไคล้=หลงใหล)

๕. พาดำเนินถูกต้อง...............................วิถี
ไม่ประสงค์ชีวี..................................ชั่วช้า
หลักผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี..........................ยึดมั่น
บั่นทอนเรื่องวุ่นว้า.............................โศกเศร้าสันติ์สนองฯ

๖. มอบมุมมองสอดคล้อง........................สิ่งดีงาม
ไม่คิดวิปริตทราม..............................ต่ำช้า
ศีลธรรมหนุนนำความ........................สุจริต
ประสิทธิ์ผลบนหล้า...........................ได้อย่างยุติธรรมฯ

๗. ความสุขสมหวังให้.............................ตอบแทน
ครอบครัวมิขาดแคลน........................รักคล้อง
คนมีศีลธรรมแสน..............................อบอุ่น
การุญมิตรเพื่อนพ้อง..........................สุขสร้างสามัคคีฯ

๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๐

วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ลืมคิด : กลอนคติชีวิต



ลืมคิด : กลอนคติชีวิต

    สูดลม หายใจ ใสสะอาด............................อากาศ สุทธา ในหน้าหนาว
ลมแพลง แรงพัด สะบัดราว..........................ห้วงหาว เริงร่า แล่นประชัน

    บางครั้ง คนหนอ ก็ลืมคิด...........................กิน-ใช้ ใกล้ชิด ชีวิตสรรค์
ทรัพยา ธรรมชาติ ปัจจัยจรร-........................โลงชู ชีวัน กันจนวาย

    มิสดับ ซาบซึ้ง ถึงพระคุณ..........................วนเวียน เพียรหมุน ผลาญสูญสลาย
คอยคิด กิจกรรม มุ่งทำลาย..........................มาดหมาย ให้ตน สุขล้นลาน

    ลืมคิด พิจารณา ว่าชีวิน.............................อยู่-กิน เป็นสุข สนุกสนาน
ทำตาม ที่จิต ติดต้องการ.............................เมื่อตาย วายปวาณ (ทุกสิ่ง)พลันสุญญา

    สิ่งที่ ผลาญล้าง มาทั้งหมด........................ปรากฏ ประโยชน์ไร ในโลกหล้า?
คิดดู ผู้ใด ใช้ชีวา.......................................สมบูรณ์ คุณค่า น่าชื่นชม?

    มุ่งทำ ความดี มิทำชั่ว................................เกรงกลัว บาปก่อ บ่สั่งสม
มโนธรรม งามมี มานนิยม............................อุดม น้ำใจ แบ่งให้ปัน

    มิเห็น แก่ตน มนวิสุทธิ์...............................เพียรรุด อุตสาห์ เมตตาสรรค์
มิตระหนี่ หวงแหน แม้นมิตรกัน.....................เอื้อเฟื้อ เกื้อฝัน สุขสันติ์มี

    ใยต้อง เบียดเบียน เพียรลวงหลอก?.............กลิ้งกลอก ฉ้อฉล กลบัดสี
ความมี ชีวิต คิดให้ดี..................................แค่ไม่ กี่ปี ก็วิลัยฯ(วิลัย=ความย่อยยับ)

๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๐

วันพุธที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560

สุขใจไร้กังวล : กลอนจรรโลงใจ



สุขใจไร้กังวล : กลอนจรรโลงใจ

    จิบเครื่องดื่ม ร้อนๆ ตอนเช้าๆ.......................ในวันที่ เหน็บหนาว บรรเทาเข็ญ
เสื้อผ้าหนา พาอุ่น สุนทรเป็น.........................สุขสงบ ร่มเย็น เห็นสัญญี(สัญญี=มีความรู้สึก)

    เมื่อไม่ทำ ความผิด คิดฉ้อฉล......................ความกังวล ย่อมไคล ใจสุขี
คนตั้งจิต คิดทำ แต่ความดี............................ย่อมไม่มี วิตก รกรุมจินต์

    บ่มัวเมา เอาเปรียบ เหยียบย่ำใคร.................แบ่งชนชั้น จัญไร ไม่ถวิล
มนุษยชาติ (คือ)ธาตุลม-น้ำ-ไฟ-ดิน................ก่อเกิดมี ชีวิน ร่วมวิญญาณ

    ผู้ใดหยุด ทุจริต จิตสะอาด..........................มิต้องมาด ปรารถนา พิษฐาน
ภายภาคหน้า ประสบศรี พิมลมาน...................มิต้องวาน ไหว้พระ เทวดา-พรหม

    เข้าใจกฎ แห่งกรรม ทำสุจริต.......................เข้าใจกิจ อนิจจัง ทุกอย่างสม
หาความรู้ สู่ให้ ไม่โง่งม................................ปล่อยอุรา ปรารมภ์ ชมชื่นเชย

    สร้างสัมมา อาชีพ มิตีบตัน...........................คิดสร้างสรรค์ ทันยุคสมัย ไม่อยู่เฉย
คุณภาพของ ชีวี มิละเลย..............................เกื้อจำรูญ คุ้นเคย เสบยอุรา

    สิ่งใช้สอย จำเป็น มิเร้นขาด..........................ของฟุ่มเฟือย ไม่มาด ปรารถนา
อบายมุข ทุกอย่าง ห่างมรรคา........................เรื่องขัดเขิน เงินตรา จะไม่มี

    สละเรื่อง วุ่นวาย ไปให้พ้น............................เมินผู้คน มารยา สามานย์หนี
บริหาร ชีวิต วิจิตรดี......................................ย่อมสุขี ฤดีได้ ไร้กังวลฯ

๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๐

วันอังคารที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2560

การให้ความช่วยเหลือใครต้องมิไร้สติปัญญา : กาพย์ยานี๑๑




การให้ความช่วยเหลือใครต้องมิไร้สติปัญญา กาพย์ยานี๑๑

    อากาศหนาวเย็นเช่นนี้.....................จะทำอะไรดี
(ไปกว่า)ดูสารคดีดับไฟ(ป่า)

    นักดับเพลิงทุ่มเทใจ...................กล้าหาญชาญชัย
โดยไม่รู้สึกนึกกลัว

    เปลวไฟลุกไหม้ไปทั่ว...................ป่าวอดทอดตัว
ฟ้าสลัวมัวหม่นจนคล้ำ

    ผู้คนมากมายหลากหลายกรรม...................แบ่งหน้าที่ทำ
ด้วยความชำนาญงานสนอง

    ทักษะกระทำช่ำชอง....................โดยมิลำพอง
ประมาทปราดปองปาฏิหาริย์

    (การ)ทุ่มเทเสียสละเพื่อสาธารณ์...................(ต้องมี)วิจารณญาณ
เลือกวิธีการอันเหมาะสม

    อย่าทำอย่างคนโง่งม...................(หรือ)หวังคนชื่นชม
นิยมมักง่ายไม่สุขุม

    (จะมี)ปัญหาไหลมาประชุม.....................เภทร้ายภัยรุม
ปกคลุมสุมคณาอุปสรรค

    (ผู้)อยากทำความดีมีใจรัก....................จะต้องตระหนัก
ถึงหลักสัจธรรมค้ำจุน

    การทำความดีพิบุล..................เมตตาการุญ
ควรมีคุณหนุนชีวา

    ละเว้นหากเป็นปัญหา...................ไม่มีปัญญา
มรณาอย่างไร้ค่าเลยฯ

๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๐

*นาทีสลด! 
รปภ.ใช้สองมือรับร่างหญิงโดดจากชั้น11 ฆ่าตัวตาย
ผล...ดับทั้งคู่
From <https://www.thairath.co.th/content/1156305>

วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2560

วิธีบำรุงพระพุทธศาสนา : กลอนคติเตือนใจ



วิธีบำรุงพระพุทธศาสนา : กลอนคติเตือนใจ

    ลมหนาว เร่ามา ตามนัด........................กระโชก โบกซัด พัดไหว
อากาศ หนาวพลัน ทันใด........................(คง)สมใจ หลายคน บ่นรอ

    ยิ่งก้าว เข้า(ใกล้)วิถี ปีใหม่....................หลั่งไหล (ซอง)ผ้าป่า มาขอ
ทั้งพระ ฆราวาส กาจก่อ..........................สืบต่อ มารยา ประเพณี

    อ้างว่า บำรุง (พุทธ)ศาสนา....................(ทำให้)พระอยู่ หรูหรา สง่าศรี
ชีวา เกษม เปรมปรีดิ์..............................อยู่ดี กินดี มีเงิน(ร่ำรวย)

    วิธี บำรุง (พุทธ)ศาสนา(ที่ถูกต้อง)...........คำสอน ศาสดา สรรเสริญ
ธรรมะ วินัย ไม่กล้ำเกิน...........................เพลิดเพลิน ปฏิบัติ ศรัทธา

    พุทธะ พาณิชย์ กิจกรรม.........................อย่านำ ร่ำลือ ถือสา
มิใช่ พุทธศาสน์ ปรัชญา..........................เพียงพาล มารยา มาหลอกคน

    เรียนรู้ หลักธรรม วินัย............................(ทำให้)เข้าใจ แก่นสาร นิพพานผล
เลิกเขลา เท่าทัน พาลชน........................มิสน ชั่่วทราม ตามไป

    หลักการ ปฏิบัติ บูชา.............................ศาสดา สรรเสริญ เชิญใช้
วัตถุุ บูชา ปราชัย...................................ผลได้ ไม่เท่า ทำตาม(พระธรรมคำสอน)

    รู้จัก (วิธี)บำรุง ศาสนา...........................รู้ตรึก ศึกษา ตั้งคำถาม
ถูก-ผิด คิดใคร่ ใจความ...........................นิยาม บำรุง รุ่งเรืองฯ(บำรุง=ทำให้เจริญงอกงาม)

๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๐

วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ความรักและความจริง : กาพย์ยานี๑๑



ความรักและความจริง : กาพย์ยานี๑๑

    บุปผา คันธกลิ่น.................................เกิดกับดิน ถิ่นสถาน(คันธ-=กลิ่นหอม)
ผูกจิต พิศสะคราญ...............................เสพสำราญ บันเทิงฤทัย

    ความรัก และ(ความ)ผูกพัน...................เคียงคู่กัน นิรันดร์สมัย
รักมี อยู่ที่ใจ........................................ยังให้จิต คิดเวียนวน

    คล้อยนำ ความอบอุ่น...........................รื่นละมุน พรั่งพูนผล
เปิดกว้าง ระหว่างคน.............................ท้นกระทั่ง สิ่งทั้งปวง

    เมื่อรัก มักบังเกิด.................................ล้ำเลยเถิด เชิดแหนหวง
ซาบซึ้ง สู่บึ้งทรวง.................................ทักทวงสิทธิ์ อิสรา

    รักแล้ว มิแคล้วไคล..............................ดวงหทัย สิเน่หา
ผูกพัน มานชีวา....................................เสมือนว่า มาคู่กัน

    แต่รัก จักแตกต่าง................................ไกลเหินห่าง ระหว่างฝัน
(กับ)ความจริง อิงสัจธรรม์.......................อันคงอยู่ คู่โลกัย(โลกัย=ของโลก)

    (และ)แตกต่าง ระหว่างคน......................เพราะมีกมล ขุ่นข้น-ใส
พัฒนา การจิตใจ...................................ทำให้รัก หลายหลากมี

    ความรัก และพรากพลัด..........................คือสิ่งสัจ อรรถวิถี
รักใคร่ คิดให้ดี......................................โลกใบนี้ อนิจจังฯ

๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๐

วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ใครเล่าจะรู้ : กลอนเปล่า



ใครเล่าจะรู้ : กลอนเปล่า

    ใครเล่าจะรู้ว่า
อนาคตจะเป็นเช่นไฉน?
หลากสิ่งผ่านมา....
พบแล้วพลันลาจากไป
เหลือทิ้งเอาไว้....
เพียงรอยแห่งความทรงจำ

    มีชีวิต....
ต้องคิดต่อ
ก่อเรื่องราวเช้าจดจ่อค่ำ
แม้ยามเข้านอน
หลับตายังตรึกตรำ
กำหนดแผนการวันหน้าต่อไป

    ความผูกพันกับอดีต
คือความคิดวินิจฉัย
ประโยชน์นำมาก็หาไม่
รังแต่จะพาใจ
ให้จินตนาการไกล....
ใคร่คิดฝัน

    ความห่วงหาอนาคต
แม้ละลดได้....
จะพาจิตผ่อนคลายอย่างอัศจรรย์
ปล่อยวันข้างหน้า
เป็นไปตามชะตาและสถานการณ์
เพียงเตรียมพร้อมประจัญ
ด้วยขวัีญและกำลังใจที่มั่นคง

    ตราบเท่าที่ชีวียัง
ให้ตั้งใจอย่าใหลหลง
รักษากุศลธรรมจำนง
ดำรงสุจริตนิตยา

    ไม่ว่าจะต้องเผชิญสิ่งใด
ตรึงใจในศีลสัตย์ปรารถนา
เว้นสาบบาปสิ้นจินดา
จนตราบมรณาจะมาเยือน

    หลากหลายสิ่งสรรพ์ผ่านเข้ามา
แปลงเปลี่ยนวิถีชีวาเมื่อประสาน
สร้างสุข-ทุกข์ไซร้
ทำหฤทัยเกิดไหวหวั่น
มองเป็นเช่นประสบการณ์
เพียงผ่านมาพานพบมี

    แทบทุกสถานการณ์
ในชีวันนั้นมิรู้ล่วงหน้า
การดำเนินชีวา
จึงต้องอุตสาหะ-ทำให้ดี
เตรียมรับมือสุดความสามารถชีวาตม์มี
ก็ยังอดไม่ได้ที่....
ชีวี ระทึก-วุ่นวายฯ

๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๐