ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561

บุญต้นทุนต่ำ : กาพย์ยานี๑๑




บุญต้นทุนต่ำ : กาพย์ยานี๑๑

    ทางบุญ ต้นทุนต่ำ...........................แต่เลิศล้ำ อำไพผล
ทำง่าย ได้ด้วยตน(เอง)......................ปราศเลศกล คนหลอกลวง

    (ด้วยการ)ศึกษา พระไตรปิฎก............ธรรมสาธก ยกยอดห้วง
พุทธพจน์ หมดทั้งปวง........................ถูกบรรจุ ชุติมา

    ประพฤติ ปฏิบัติตาม.........................อยู่ด้วยความ รู้คุณค่า
พุทธธรรม นำชีวา..............................สุขสันติ นิรามัย

    หาใช่ ให้ทุ่มทุน..............................เงินเจือจุน หนุนวัดให้
สร้างสิ่ง(วัตถุ) ที่ยิ่งใหญ่.....................ที่สุดใน โลกใบนี้

    หาใช่ ให้มาบวช(ชีพราหมณ์)............มนตราสวด (ตั้ง)แต่ตีสี่
ทิ้งงาน บ้านช่องที่.............................มีภาระ ค้างคาใจ

    หาใช่ ให้มานั่ง...............................สมาธิหวัง บุญหลั่งไหล
ทั้งที่ มิ(ได้)ทำอะไร...........................ให้กิเลส ลดเบาบาง

    อย่า(หลง)เชื่อ พวกขายบุญ..............เงินทุ่มทุน วุ่นวายสร้าง
พูดจา แต่ละอย่าง..............................สุดท้ายอ้าง บริจาค(เงิน)....เชิญ

    ยิ่งทำ(บุญ) ยิ่งร่ำรวย.......................พูดเอออวย ไม่เคอะเขิน
คนได้(เงิน) ใจเพลิดเพลิน...................เจริญในทรัพย์ รวยระยับเอยฯ

๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๑

วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ชีวีมิใช่ของเล่น : กาพย์ฉบัง๑๖



ชีวีมิใช่ของเล่น : กาพย์ฉบัง๑๖

    การทำเล่นไม่จริงจัง......................จะต้องระวัง
อาจพลั้งพลาดสู่อกุศล

    สร้างความเดือดร้อนย้อนรน...................คืนมาสู่ตน
ให้ทนทุกข์ยากลำบากเข็ญ

    ชีวีมิใช่ของเล่น...................หากใช้ไม่เป็น
(ความ)ร่มเย็นอย่าหวังรางเลือนไกล

    ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี วินิจฉัย..................ก่อนทำอะไร
อย่าอ้างว่าใครก็ทำ

    เพราะมีวิปริตกิจกรรม...................ที่คนใฝ่ต่ำ
ชอบทำเป็นนิจพิสมัย

    สนุกสนานบันเทิงใจ..................(กับ)สิ่งสาระไร้
ก่อเกิดพิษภัยบั้นปลายผล

    มิหนำซ้ำยังลามรน...................ให้ขื่นอื่นคน
ต้องทนทุกข์ยากลำบากตาม

    (จง)รู้จักอุตส่าห์พยายาม...................อย่างคนรู้ความ
ก่อกรรมทำแต่กุศล

    สมควรแก่ความเป็นคน..................ฤดีพิมล
พ้นความเป็นสัตว์อัชฌา

    สมบูรณ์ด้วยสติปัญญา..................เจริญก้าวหน้า
ตลอดชีวาสถาพรฯ

๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๑

วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2561

เวลาชีวิต : กลอนคติชีวิต


เวลาชีวิต : กลอนคติชีวิต

    อรุณรุ่ง แห่งวัยเยาว์..........................เด็กๆเฝ้า เพียรเรียนรู้
ทุกสิ่งอย่าง ต่างเป็นครู........................ชูชีวี มีวิชา

    ทำถูกบ้าง ผิดพลาดบ้าง....................ในระหว่าง ทางศึกษา
ความเสียหาย ต่อสายตา......................น้อยมูลค่า ไม่น่ากลัว

    ยามสาย ย่างวัยรุ่น............................เป็นวัยวุ่น วุ่นวายทั่ว
ต้องพัฒนา ตระเตรียมตัว......................สู่ผู้ใหญ่ วัยฉกรรจ์

    ถึงครา เวลาเที่ยง.............................รู้หลีกเลี่ยง และสร้างสรรค์
ผิด-ถูกต้อง ถ่องเท่าทัน........................แยกความฝัน จากความจริง

    วัยผู้ใหญ่ ใคร่วิริยะ...........................สร้างฐานะ สำคัญยิ่ง
ครอบครัวให้ ได้พึ่งพิง..........................ซึ่งเป็นสิ่่ง ต้องใส่ใจ

    ตอนบ่าย วัยอาวุโส...........................เป็นร่มโพ เป็นร่มไทร
เป็นผู้หลัก เป็นผู้ใหญ่...........................ให้ลูกหลาน กรานเคารพ

    เย็นย่ำ ยามสนธยา............................ใกล้เวลา พ้นพิภพ
ประสบการณ์ ผ่านประสบ.......................ทบทวนเห็น เป็นวิทยา(ทาน)

    เตรียมตัว สู่ความตาย.........................เตรียมเกิดใหม่ ภายภพหน้า
ควรสลด หมดเวลา...............................ดิ้นรนหา สะสมเอยฯ

๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๑

วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561

พวกนอกศาสนา(พุทธ) : กลอนคติเตือนใจ



พวกนอกศาสนา(พุทธ) : กลอนคติเตือนใจ

    พวกนอก ศาสนา(พุทธ)............................(คือ)พวกไม่ ศรัทธา ธรรมวินัย
อยากทำ อะไร...........................................ก็ทำ ตามใจ ปรารถนา
เมินพุทธ (ธะ)บัญญัติ..................................รุกล้ำ กำหนัด ยกอัตตา
ตั้งกฎ กติกา..............................................กระสัน ตัณหา พาไป

    หลักธรรม คำพูด......................................พิสูจน์ ได้ว่า ข้าคิด(เอา)เอง
ยิ่งยวด อวดเก่ง..........................................ครัดเคร่ง หลัก-เรื่อง เหลวไหล
(ทำ)ยังกะ ตรัสรู้(แล้ว).................................ไม่(ต้อง)ดู ไม่(ต้อง)อ่าน พระไตร(ปิฎก)
ตอน(ข้า)นั่ง ทางใน....................................ธรรมพรั่ง หลั่งไหล ได้มี(ข้าจึงรู้)

    น่า อ นาถจิต...........................................ลูกศิษย์ ลูกหา บ้าบอ(ตาม)
เล่าขาน กันต่อ...........................................หลวงพ่อ บรรลุ วิถี
อริยะ บุคคล..............................................หลุดพ้น ตัณหา ราคี
พระ อ ลัชชี...............................................ยินดี ที่เขา เมามาย

    เป็นล่ำ เป็นสัน.........................................ลาภ-ยศ-สักการ เป็นอันมาก
เงินทอง ของฝาก.......................................ล้นหลาก บากหน้า มาถวาย
คนสร้าง หวังบุญ........................................เนื่องหนุน ชีวา สุขสบาย
มิระแคะ ระคาย..........................................ต้นสาย ปลายทาง ลางเลือน

    เมินธรรม (มะ)วินัย(ของพุทธองค์)................ก็ไม่ ใช่พุทธ (ธะ)ศาสนา
แค่เพียง ห่มผ้า..........................................ทำท่า ทำทาง ดั่งเสมือน
เมิน อ ริยมรรค(๘)......................................ยังสัก แต่พูด บิดเบือน
ผิดพลาด คลาดเคลื่อน................................ตามวัด กลาดเกลื่อน โลกาฯ

๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๑

วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2561

การเดินก้าวแรกย่อมยากเสมอ : กาพย์สุรางคนางค์๒๘




การเดินก้าวแรกย่อมยากเสมอ กาพย์สุรางคนางค์๒๘

    .............................................ไม่ใช่ เรื่องแปลก
การเดิน ก้าวแรก..........................ย่อมยาก เสมอ
ทารก ทุกคน...............................ต่างผจญ พบเจอ
ลัม-ลุก ทุกข์-เก้อ.........................เงอะงะ หกคะเมน

    .............................................แต่เด็ก ก็สู้
พากเพียร เรียนรู้..........................อุตสา หะเห็น
สนุก เพลิดเพลิน.........................หัดเดิน เหมือนเล่น
ทุกวัน มิเว้น...............................เป็นสิ่ง ท้าทาย

    .............................................การมี ชีวิต
พัฒนา ประสิทธิ์..........................ตั้งจิต มุ่งหมาย
(ต้อง)ผลักดัน ตัวตน....................สู่ผล บั้นปลาย
ทุ่มเท มิหน่าย.............................ขวนขวาย ปรับปรุง

    .............................................ปุถุชน ทั่วไป
ต้องการ ฝันใฝ่.............................ถึงปลาย สายรุ้ง
วิถี ศีลธรรม.................................นำอุระ จรุง
ชีวัน มั่นมุ่ง..................................มิ(ใช่แค่)ฟุ้ง ซ่านใจ

    ..............................................เริ่มต้น หนทาง
เหนื่อยน้าว ก้าวย่าง......................จงสร้าง พลังไส
ศีลวัตร ศรัทธา.............................จะพา ประไพ
อุปสรรค ใดๆ...............................พ้นไป ไม่ยากเย็น

    ..............................................ผู้มี ศีลธรรม
อิ่มปลื้ม ดื่มด่ำ..............................ข้ามทุกข์ ขลุกเข็ญ
เสพสัน ติสุข................................ทุกเมื่อ เอื้อเป็น-
อยู่ดั่ง เดือนเพ็ญ...........................เด่นฟ้า รัตกาลฯ(รัตกาล=ราตรี)

๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๑

วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ทุกคนมีค่าเสมอกัน? : กลอนคติชีวิต




ทุกคนมีค่าเสมอกัน? : กลอนคติชีวิต

    "ทุกคน มีค่า เสมอกัน"?..........................เพ้อฝัน บรรยาย หน่ายแหนง
ประดิษฐ์ คิดคำ จำแลง.............................ขัดแย้ง ความจริง อิงนิยาย

    "คุณค่า ของความ เป็นคน.......................อยู่ที่ ผลงาน" มั่นหมาย
เป็นหลัก บริหาร(งานบุคคล) พรรณราย........องค์กร มากมาย ใช้มี(พรรณราย=งาม)

    ทักษะ (ความ)สามารถ ของ(แต่ละ)คน.......น้อย-มาก หลากล้น ผลชี้
ค่าแรง ควรได้ เท่าไรดี?............................ซึ่งเป็น วิธี ยุติธรรม

    คนชั่ว ช้าอาช (ชะ)ญากร........................สร้าง(แต่)ความ เดือดร้อน ระส่ำ
กับคน ที่มี ศีลธรรม..................................ควรสำ คัญค่า เสมอเคียง?

    คำพูด ออกไป ไม่ฉลาด.........................ไม่ขาด ถูก(คน)ล้อ ต่อเถียง
(คนที่)จิตใจ จัดเจน เอนเอียง....................(ย่อม)ร้อยเรียง เรื่องคด พจนา

    (คน)พาโล โง่เขลา เมาฤดี......................คนมี กิเลส ตัณหา
ต้องระมัด ระวัง วาจา...............................อย่าสัก แต่เว้า เอามัน(เว้า=พูด)

    (ได้ยิน)ใครพูด ใครจา อย่ารีบเชื่อ............ส่องความ เอื้อเฟื้อ สัจขันธ์
(ถ้า)สอดคล้อง ความจริง สิ่งอัน................ยืนยัน ถูกต้อง ถ่องตน

    เชื่อ(คำพูด)ผิด ชีวิต (จะ)แปรเปลี่ยน........หมุนเวียน มรรคา อกุศล
พ่อแม่ แลอื่น ดื่นชน...............................ขืนยล (มีค่า)เสมอกัน บรรลัยฯ

๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๑

๑. มาตุฆาต ฆ่ามารดา ๒. ปิตุฆาต ฆ่าบิดา ๓. อรหันตฆาต ฆ่าพระอรหันต์ ๔. โลหิตุปบาท ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงยังพระโลหิตให้ห้อขึ้นไป ๕. สังฆเภท ยังสงฆ์ให้แตกจากกัน
กรรม ๕ อย่างนี้ เป็นบาปอันหนักที่สุด ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพานตั้งอยู่ในฐานปาราชิกของผู้ถือพระพุทธศาสนา ห้ามไม่ให้ทำเป็นเด็ดขาด
มาตุฆาต ปิตุฆาต อรหันตฆาต ได้แก่การฆ่ามารดา ฆ่าบิดาฆ่าพระอรหันต์ ด้วยเจตนา คือจงใจฆ่า แม้สำคัญผิดคิดว่าเป็นคนอื่นสัตว์อื่น ก็ไม่พ้นโทษอันชื่อว่า อนันตริยกรรม เพราะมีเจตนา จึงเป็นการฆ่าที่สมบูรณ์
โลหิตุปบาท ได้แก่ทำร้าย คือพยายามฆ่าพระพุทธเจ้า แต่ฆ่าไม่สำเร็จ เพียงแต่ทำให้บาดเจ็บ แม้เพียงพระโลหิตห้อ (โป่ง นูนช้ำเลือด) ขึ้น
สังฆเภท ได้แก่ยังสงฆ์ให้แตกกัน คือทำลายพระสงฆ์ผู้พร้อม-เพรียงกัน ในสีมาเดียวกัน ในวัดใดวัดหนึ่ง ให้แตกเป็นก๊ก จนถึงไม่ร่วมอุโบสถสังฆกรรม ต้องแยกออกทำอุโบสถสังฆกรรม หรือปวารณา-กรรม หรือสังฆกรรมอื่นๆ เป็น ๒ หมู่
กรรมทั้ง ๕ อย่างนี้ แต่ละอย่างๆ จัดเป็นบาปอันหนักที่สุดเพราะมาดา บิดา เป็นผู้มีพระคุณต่อบุตรมากที่สุด บุตรใดฆ่ามารดาบิดาผู้บังเกิดเกล้าของตนได้ ก็นับว่าเป็นคนเลวคนชั่วที่สุด เขาย่อมฆ่าคนอื่นๆ ได้แน่นอน พระอรหันต์ เป็นผู้หมดจดจากกิเลส เป็นผู้บริสุทธิ์อย่างยิ่ง เป็นนาบุญสูงสุดของชาวโลก ผู้ใดฆ่าพระอรหันต์ได้ก็นับว่าเป็นคนเลวคนชั่วที่สุด เขาย่อมฆ่าคนอื่นที่ยังมีกิเลสได้อย่างแน่นอน
กรรมเหล่านี้ ชื่อว่า “อนันตริยกรรม” แปลว่า กรรมที่ไม่มีระหว่าง คือผู้ใดทำเข้าแล้ว แม้จะทำกรรมดีต่างๆ ลบล้าง ก็ไม่อาจลบล้างได้ ผู้นั้นตายลง คงได้รับผลของกรรมนี้ทันที ไม่มีผลของกรรมอื่นมาคั่นในระหว่างตัวอย่างเช่น พระเจ้าอชาตศัตรู ปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสารผู้เป็นพระชนก ภายหลังทรงสำนึกผิด จึงทรงสร้างกรรมดีเป็นอันมาก ทรงเป็นศาสนูปถัมภก ในคราวปฐมสังคายนา ซึ่งนับว่ามีอุปการคุณต่อพระศาสนาเป็นอย่างยิ่ง สมควรจะได้เป็นพระอริยะแต่ก็ไม่ได้เป็น พอสิ้นพระชนม์ก็ต้องตกนรกทันที
From <http://www.tnews.co.th/contents/346085>

วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ตัณหาเคยปราณีใคร? : กาพย์ฉบัง๑๖





ตัณหาเคยปราณีใคร? : กาพย์ฉบัง๑๖

    ตัณหาเคยปราณีใคร?.....................หมู่เฮาชาวไทย
ร่วมใจสอดรู้สอดเห็น

    เรื่องคาวราวสาระประเด็น..................ระรื่นตื่นเต้น
ถือเป็นหน้าที่สิเน่หา

    วิพากษ์วิจารณ์กันนานา..................เหมือนเป็นปราชญา
ผู้เชี่ยวชาญปัญหาราคี

    ต้นเหตุข่าวหมองทำนองนี้..................เกิดจากฤดี
ของคนไม่มีศีลธรรม

    มั่นใจในอกุศลกรรม..................ก่อการกระทำ
พาตนต่ำช้าสาไถย

    คุ้นเคยข้องทรามตามใจ..................ขาดระเบียบวินัย
มิใส่ใจในครรลอง

    กิเลสตัณหาตระกอง..................แอ่นอกปกป้อง(ตระกอง=กอด)
ยกย่องฉ้อฉลหนแสวง

    ทุจริตจิตคดจรดทแยง..................โฉเกเสแสร้ง
แอบแฝงซ่อนเร้นเจนบัดสี

    มิคิด(ถึงหลัก)ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี.................ปรารถนาราคี
จึงมีข่าวคาวฉาวไกล

    (ถามว่า)ส่งผลคน(อื่น)เห็นเช่นใด?....................(ตอบว่า)เป็นเสนียดจัญไร
ไม่มีคำชมนิยมเลยฯ

๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๑

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2561

คนดีมิประมาท : กลอนคติเตือนใจ



คนดีมิประมาท : กลอนคติเตือนใจ

    ดินนุ่ม อุ้มน้ำ ดื่มด่ำฝน...........................อิ่มจน ล้นหลาก จากทุ่งท้อง
ไหลลง ลำธาร ผ่านแควคลอง....................คะนอง สมุทร ณ สุดปลาย

    ต้นไม้ รายทาง ต่างดูดซับ.......................เก็บน้ำ สำหรับ ดับกระหาย
รากอุ้ม ชุ่มน้ำ ฉ่ำชื้นคาย...........................(เผื่อ)แผ่ดิน มิสิ้นสาย หน่ายสัมพันธ์

    (แต่)โลกนี้ มีคน คอยปล้นคร่า..................ทรัพยา ธรรมชาติ พินาศสรรค์
ทำลาย โลกา ประจำวัน............................แบ่งปัน ประโยชน์ โปรดตัวตน

    ความเห็น แก่ตัว คือหัวใจ........................ของคน ส่วนใหญ่ ผู้ไม่สน
คอยเบียด เบียนใคร ให้ขื่นกมล..................ทุกข์ทน เคืองเข็ญ มิเว้นวาง

    ถึงเป็น คนดี มีศีลสัตย์............................ปฏิบัติ ประพฤติ ยึดไม่สร่าง
ซึ่งกุ ศลธรรม นำหนทาง...........................ลดล้าง มลทิน พ้นจินดา

    ก็ยัง วางใจ มิได้ตลอด............................สิปลอด ปวงพาล สร้างปัญหา
ก็อย่า หลงใหล ในปุญญา.........................เพราะถ้า (มี)กรรมเก่า ตามเท่าทัน(หรือกรรมใหม่ ใครจะรู้?)

    คนดี ที่ประมาท อาจไม่รอด.....................วายวอด เพราะเวร(กรรม) เป็นวัฏฏ์ผัน
ความประมาท คือโทษ โปรดเท่าทัน............ย่ำยี ชีวัน บรรลัยกรอม

    เมื่อมี ชีวา อย่าประมาท..........................จึงจะ สามารถ ชาติถนอม
ป้องกัน ภยันตราย ให้พรักพร้อม.................สรรพสิ่ง แวดล้อม รักษาเทอญฯ

๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๑

วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ภูมิคุ้มกันโลก : กาพย์สุรางคนางค์๒๘






ภูมิคุ้มกันโลก : กาพย์สุรางคนางค์๒๘

    .............................................ชีวิต บนโลก
ต่างประ เชิญโชค.........................โรคหลาก มากหลาย
ตั้งแต่ กำเนิด..............................เกิด-โต จนตาย
มิได้ ง่ายดาย..............................สบาย กายมี

    .............................................ร่างกาย แข็งแรง
ต้องฝึก+แสวง............................แกร่งไกร วิถี
(สร้าง)ภูมิคุ้ม กันโรค....................ศุภโภค โชคดี(โภค=สมบัติ)
ซื่้อ-ขาย ไม่มี..............................สุขี ชีวัน

    .............................................โลกมี ดี-ชั่ว
มากมาย ไปทั่ว............................รอบตัว เรานั้น
ภายใน ฤดี..................................ต้องมี ศีลธรรม์
เป็นภูมิ คุ้มกัน..............................ภยัน ตราย

    ..............................................หลากค่า นิยม
พาโล โสมม................................อุดม (ความ)เสียหาย
สยาย ถ่ายทอด............................(ความ)มืดบอด วอดวาย
ผู้คน มากมาย..............................หลงใหล (สิ่ง)เลวทราม

    ..............................................ศีลธรรม นำให้
ปัญญา ไสว.................................กำลัง ใจหลาม
อยู่เย็น เป็นสุข..............................ทุกเมื่อ เอื้อ(ดี)งาม
พบเจอ แต่ความ............................จำเริญ รุ่งเรือง

๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๑

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2561

สนุกกับชีวิต : กาพย์ยานี๑๑



สนุกกับชีวิต กาพย์ยานี๑๑

    สนุก กับชีวิต................................(ตราบเท่าที่)ไม่ทำผิด ทิศทางหลง
ดีงาม เลือกดำรง............................ประสงค์สู่ กุศลไกร

    (เป็น)คนดี มีศีลสัตย์......................อย่างยืนหยัด มิเหลวไหล
สุจริต ทรงจิตใจ.............................ไม่ละเมิด มโนธรรม

    ใฝ่สูง มุ่งจำเริญ............................เพลิดเพลินใจ มิใฝ่ต่ำ
(จะ)ร่มเย็น เป็นประจำ......................(เพราะ)บ่เกินกล้ำ ทำอัปรีย์

    ทำสิ่ง ที่ถูกต้อง............................ตามครรลอง คลองธรรมศรี
ไม่ทำ ตามฤดี.................................มีกิเลส ต้นเหตุพาล

    ศึกษา หาความรู้...........................พัฒนาอยู่ อย่างกล้าหาญ
ฝึกฝน จนเชี่ยวชาญ.........................ในภารกิจ พิจิตรเจน

    สัมมา อาชีวะ................................อุตสาหะ อย่าทำเล่น
ไม่(ต้อง)ทำ จนลำเค็ญ.....................เป็นทุกข์ยาก ลำบากใจ

    ใช้สอย คอยประหยัด......................ผู้มัธยัสถ์ อัชฌาศัย
สุขี เท่า(ที่)มี-(หา)ได้.......................ไม่ดิ้นรน จนเกินตัว

    จะสนุก กับชีวิต..............................ทุกสารทิศ มีมิตรทั่ว
หลัง(ความ)ตาย ไม่ต้องกลัว...............ตกนรก หมกไหม้เลยฯ

๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๑

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

สาธุ : กลอนสะท้อนปัญหาอาชญากรรม






สาธุ : กลอนสะท้อนปัญหาอาชญากรรม

    เสียงสาธุ ดังอุโฆษ...........................ความลิงโลด แผ่ไพศาล
เมื่อ(มี)ข่าวว่า ทางรัฐบาล....................เริ่ม(กลับมา)ประหาร อาชญากร

    ที่ผ่านมา เหมือนปล่อยผี....................คนอัปรีย์ เพื่มสลอน
ข่มขืน-ฆ่า มิอาทร...............................ยา(เสพย์ติด)กัดกร่อน สังคมไทย

    สุจริตชน หวาดผวา...........................มิรู้ว่า เวลาไหน
จะถูก(ข่มขืน)ฆ่า สะท้านใจ...................มิปลอดภัย ใช้ชีวัน

    การปฏิบัติ อย่างเมตตา......................ต่ออาชญา(กร) หาได้ผัน-
เปลี่ยนโฉดชน ฉลชั่วกรรม์....................(ให้)มาถือมั่น คุณความดี

    มิหนำซ้ำ ยังทำให้............................คน(ชั่ว)เข้าใจ ผิดวิถี
(ถึง)ทำชั่วช้า สารพัดมี.........................(ศาลตัดสิน)ไม่กี่ปี ติดตะราง

    (แถมยัง)ลดโทษให้ ได้ออกมา............ทำโฉดช้า อิสระสร้าง
บุกบ้านคน ริมหนทางฯลฯ.....................อาชญากร่าง ไม่เกรงกลัว

    บทลงโทษ เบาเกินไป........................(คือการ)ส่งเสริมให้ ใคร่ทำชั่ว(เพราะคิดว่ากำไร)
(จง)มีปัญญา อย่าเมามัว.......................ฝังหัวคิด สิทธิ์มนุษย์ชน(โง่ๆ)

    การตัดสิน(ลงโทษ) ต้องยุติธรรม..........จึงจะนำ อำไพผล
หลักครรลอง ปกครองคน......................ให้ตั้งตน บนทางดีฯ

๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๑

วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2561

เคารพธงชาติ แต่ไม่รักชาติ : กลอนปัญหาทุจริต












เคารพธงชาติ แต่ไม่รักชาติ : กลอนปัญหาทุจริต

    เคารพ ธงชาติ ทุกเช้า-เย็น.........................ไม่เห็น ทำให้ ใคร(หลายคน)รักชาติ
ทำตัว ชั่วช้า น่าอนาถ...................................มุ่งมาด ปรารถนา กล้าโกงกิน

    เงินเดือน ก็ดี มีมากใช้................................ทำไม จึงช่าง ชอบกังฉิน?
ทุจริต ทั่วแคว้น ผืนแผ่นดิน............................ระบิล บ้านเมือง เขื่องบั่นทอน

    เห็นแก่ ตัวตน ใจฉลชั่ว...............................ไม่กลัว ผลกรรม ตามหลอกหลอน
เบียดเบียน ประดา ราษฎร..............................สั่นคลอน สันติธรรม ความมั่นคง

    ทำลาย ได้แม้ แต่บ้านเกิด...........................ละเมิด กฎหมาย ร้ายประสงค์
ชักศึก เข้าบ้าน ลาญเผ่าพงศ์..........................เสริมส่ง พวกพ้อง ซ้องส่วนตน

    ถ้าผู้ ทุจริต มีนิดหน่อย................................ปัญหา จะพลอย ด้อยเภทผล
แต่เท่า ที่พารา ต้องผจญ...............................คือคน ขี้โกง หลากพงศ์พาน

    โกงตั้ง แต่พระ-คณะครู...............................ทุจริต จนสู่ ถึงโรงศาล
แทบทุก อาณา ข้าราชการ.............................สันดาน คันฉ่อง ข้องการโกง

    กินกระ ทั่งค่า อาหารเด็ก............................ลูกเล็ก อดสู (เพราะ)ครูคดโค้ง
(ที)แรกก็ เข้าใจ(ว่ามี) ไม่กี่โรง(เรียน)..............สอบโยง (พบ)ทั้งประเทศ สมเพชไทย

    มโน สำนึกมี สักกี่คน?................................ประชาชน ที่ดี มีบ้างไหม?
 เคารพ ธงชาติ ทั้งชาติ;ใย............................จึงไม่ รักชาติ? อนาถเอยฯ

๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๑

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561

บุญ-บาป-บวช : กลอนสี่



บุญ-บาป-บวช : กลอนสี่

    การบวช กวดขัน.........................หมั่นตรึก ศึกษา
ศีล-สมาธิ-ปัญญา..........................บุญพลา ปัจจัย

    พ่อ-แม่ (พลอยได้)เข้าวัด.............ขัดเกลา นิสัย
การบวช (จึง)ทำให้........................ได้บุญ สุนทร

    หากบวช อวดแค่........................แวะมา พักผ่อน
เล่น-กิน-นั่ง-นอน...........................รอนธรรม วินัยฯลฯ

    ได้แต่ แค่บาป............................สาบชีวา สาไถย
ทุกข์เข็ญ เป็นไป...........................ไร้ความ จำเริญ

    บวชมา หากิน............................ทรัพย์สิน สรรเสริญ
ยศ-สัก การเพลิน..........................เหินห่าง ทางธรรม

    ปลุกเสก ของขลัง.......................ปลูกฝัง ใฝ่ต่ำ
พุทธพา ณิชย์กรรม........................สำราญ ฤทัย

    ยิ่งบาป อาบอก..........................ตกนรก หมกไหม้
ทุจริต คิดใคร่...............................ทำให้ ทุกข์ระทม

    อย่าสัก แต่บวช..........................ตรวจกรรม ทำสม(ธรรมวินัย)
ประโยชน์ โรจน์รมย์.......................อุดม สมบูรณ์ฯ

๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๑

วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ร้อนรนท้นท่วมพสุธา : กลอนสี่(กลอนปัญหาสิ่งแวดล้อม)


สะพรึง! แผ่นน้ำแข็งที่แอนตาร์กติกา ละลายเร็วจี๋ 25ปี หาย3ล้านล้านตัน 




ร้อนรนท้นท่วมพสุธา : กลอนสี่(กลอนปัญหาสิ่งแวดล้อม)

    เสียงนก เจี้อยแจ้ว..........................ดังแว่ว ดุษฎี(ดุษฎี=ความชื่นชม)
รู้(สึก)ตัว อีกที.................................หลีกลี้ นิทรา

    ลมเย็น เป็นประไพ..........................ลูบไล้ ใบหน้า
สดชื่น อุรา......................................วัฒนา อรุณ

    สุริยะ ขยับ....................................ปรับเปลี่ยน เวียนหมุน
เอื้อเฟื้อ เจือจุน................................สุนทรี ชีวัน

    พืชสัง เคราะห์แสง..........................เรี่ยวแรง แข็งขัน
คุณค่า อนันต์...................................แบ่งปัน โลกา

    สร้างศรี พิบุล.................................สมดุล ดิน-ฟ้า
โดยไม่ ปรารถนา..............................มูลค่า ตอบแทน

    แต่คน ฉลชิง.................................สรรพสิ่ง หวงแหน
สร้างความ แร้นแค้น..........................คืนแผ่น ปัถพี

    โลกา วิกฤติ..................................ประชิด พิษชี้
ทุกๆ ชีวี.........................................มีภยะ ผจญ(ภย-=ภัย)

    (คน)อยากสุข สบาย.......................มักง่าย มีผล
ทำเดือด ร้อนรน...............................ท่วมท้น พสุธาฯ

๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๑