ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ทุกคนมีค่าเสมอกัน? : กลอนคติชีวิต




ทุกคนมีค่าเสมอกัน? : กลอนคติชีวิต

    "ทุกคน มีค่า เสมอกัน"?..........................เพ้อฝัน บรรยาย หน่ายแหนง
ประดิษฐ์ คิดคำ จำแลง.............................ขัดแย้ง ความจริง อิงนิยาย

    "คุณค่า ของความ เป็นคน.......................อยู่ที่ ผลงาน" มั่นหมาย
เป็นหลัก บริหาร(งานบุคคล) พรรณราย........องค์กร มากมาย ใช้มี(พรรณราย=งาม)

    ทักษะ (ความ)สามารถ ของ(แต่ละ)คน.......น้อย-มาก หลากล้น ผลชี้
ค่าแรง ควรได้ เท่าไรดี?............................ซึ่งเป็น วิธี ยุติธรรม

    คนชั่ว ช้าอาช (ชะ)ญากร........................สร้าง(แต่)ความ เดือดร้อน ระส่ำ
กับคน ที่มี ศีลธรรม..................................ควรสำ คัญค่า เสมอเคียง?

    คำพูด ออกไป ไม่ฉลาด.........................ไม่ขาด ถูก(คน)ล้อ ต่อเถียง
(คนที่)จิตใจ จัดเจน เอนเอียง....................(ย่อม)ร้อยเรียง เรื่องคด พจนา

    (คน)พาโล โง่เขลา เมาฤดี......................คนมี กิเลส ตัณหา
ต้องระมัด ระวัง วาจา...............................อย่าสัก แต่เว้า เอามัน(เว้า=พูด)

    (ได้ยิน)ใครพูด ใครจา อย่ารีบเชื่อ............ส่องความ เอื้อเฟื้อ สัจขันธ์
(ถ้า)สอดคล้อง ความจริง สิ่งอัน................ยืนยัน ถูกต้อง ถ่องตน

    เชื่อ(คำพูด)ผิด ชีวิต (จะ)แปรเปลี่ยน........หมุนเวียน มรรคา อกุศล
พ่อแม่ แลอื่น ดื่นชน...............................ขืนยล (มีค่า)เสมอกัน บรรลัยฯ

๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๑

๑. มาตุฆาต ฆ่ามารดา ๒. ปิตุฆาต ฆ่าบิดา ๓. อรหันตฆาต ฆ่าพระอรหันต์ ๔. โลหิตุปบาท ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงยังพระโลหิตให้ห้อขึ้นไป ๕. สังฆเภท ยังสงฆ์ให้แตกจากกัน
กรรม ๕ อย่างนี้ เป็นบาปอันหนักที่สุด ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพานตั้งอยู่ในฐานปาราชิกของผู้ถือพระพุทธศาสนา ห้ามไม่ให้ทำเป็นเด็ดขาด
มาตุฆาต ปิตุฆาต อรหันตฆาต ได้แก่การฆ่ามารดา ฆ่าบิดาฆ่าพระอรหันต์ ด้วยเจตนา คือจงใจฆ่า แม้สำคัญผิดคิดว่าเป็นคนอื่นสัตว์อื่น ก็ไม่พ้นโทษอันชื่อว่า อนันตริยกรรม เพราะมีเจตนา จึงเป็นการฆ่าที่สมบูรณ์
โลหิตุปบาท ได้แก่ทำร้าย คือพยายามฆ่าพระพุทธเจ้า แต่ฆ่าไม่สำเร็จ เพียงแต่ทำให้บาดเจ็บ แม้เพียงพระโลหิตห้อ (โป่ง นูนช้ำเลือด) ขึ้น
สังฆเภท ได้แก่ยังสงฆ์ให้แตกกัน คือทำลายพระสงฆ์ผู้พร้อม-เพรียงกัน ในสีมาเดียวกัน ในวัดใดวัดหนึ่ง ให้แตกเป็นก๊ก จนถึงไม่ร่วมอุโบสถสังฆกรรม ต้องแยกออกทำอุโบสถสังฆกรรม หรือปวารณา-กรรม หรือสังฆกรรมอื่นๆ เป็น ๒ หมู่
กรรมทั้ง ๕ อย่างนี้ แต่ละอย่างๆ จัดเป็นบาปอันหนักที่สุดเพราะมาดา บิดา เป็นผู้มีพระคุณต่อบุตรมากที่สุด บุตรใดฆ่ามารดาบิดาผู้บังเกิดเกล้าของตนได้ ก็นับว่าเป็นคนเลวคนชั่วที่สุด เขาย่อมฆ่าคนอื่นๆ ได้แน่นอน พระอรหันต์ เป็นผู้หมดจดจากกิเลส เป็นผู้บริสุทธิ์อย่างยิ่ง เป็นนาบุญสูงสุดของชาวโลก ผู้ใดฆ่าพระอรหันต์ได้ก็นับว่าเป็นคนเลวคนชั่วที่สุด เขาย่อมฆ่าคนอื่นที่ยังมีกิเลสได้อย่างแน่นอน
กรรมเหล่านี้ ชื่อว่า “อนันตริยกรรม” แปลว่า กรรมที่ไม่มีระหว่าง คือผู้ใดทำเข้าแล้ว แม้จะทำกรรมดีต่างๆ ลบล้าง ก็ไม่อาจลบล้างได้ ผู้นั้นตายลง คงได้รับผลของกรรมนี้ทันที ไม่มีผลของกรรมอื่นมาคั่นในระหว่างตัวอย่างเช่น พระเจ้าอชาตศัตรู ปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสารผู้เป็นพระชนก ภายหลังทรงสำนึกผิด จึงทรงสร้างกรรมดีเป็นอันมาก ทรงเป็นศาสนูปถัมภก ในคราวปฐมสังคายนา ซึ่งนับว่ามีอุปการคุณต่อพระศาสนาเป็นอย่างยิ่ง สมควรจะได้เป็นพระอริยะแต่ก็ไม่ได้เป็น พอสิ้นพระชนม์ก็ต้องตกนรกทันที
From <http://www.tnews.co.th/contents/346085>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น