ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เส้นทาง สางชะตา : กาพย์ยานี ๑๑



เส้นทาง สางชะตา : กาพย์ยานี ๑๑

      ยามบ่าย ไร้เมฆา..............พิรุณลา ฟ้าขาดฝน
เวิ้งว้าง ร้างใดวน.....................จนกระทั่ง สกุณา

      ใกล้เย็น จึงเห็นแหน...........ฝูงนางแอ่น แล่นถลา
โฉบฉิว พลิ้วไปมา....................จวบสนธยา มาเยี่ยมเยือน

      แม้ว่า อากาศร้อน...............ใจคลายผ่อน อย่าร้อนเหมือน
แม้รน ฝนแร้นเลือน....................ใจอย่าเคลื่อน เฟือนน้ำใจ

      คนชั่ว ชอบทำชั่ว.................อย่าเกลือกกลั้ว คล้อยชั่วไถย
บาปกรรม ทันยามใด...................จะปราศสุข ทุกข์ประดา

      ทำดี ต้องได้ดี.....................ใจมั่นมี มิกังขา
อย่าท้อ รอเวลา..........................กุศลส่ง กงเปรมปรีดิ์

      มั่นใน สุจริต........................มุ่งชีวิต ไม่คิดหนี
ทุจริต พิศได้ดี............................เพียงชั่วครู่ อยู่ชั่วคราว

      เส้นทาง สางชะตา................กว้างกว่าฟ้า ไกลกว่าหาว
ชีวี มิยืนยาว...............................เท่ากับวัฏฏ์ ที่พัดวน

      เกิด-ตาย ว่ายเวียนหมุน..........ตามแต่บุญ คุณกุศล
วิบาก พรากผจญ.........................เป็นสายใย ยาวไกลเอย ฯ

๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕

วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คนงาม ที่ทรามค่า : กาพย์ยานี ๑๑

                                                                            Google


คนงาม ที่ทรามค่า : กาพย์ยานี ๑๑


      " งามตา " ค่านิยม...............ในสังคม ชื่นชมหวัง
" งามใจ " ไม่จริงจัง...................จะเสริมส่ง จงจรรยา

      ศีรษะ ทรงสะสวย................(แต่)เต็มไปด้วย กิเลสตัณหา
ความคิด อวิชชา........................มากมายา สาระแน

      ราศี ที่หน้าผาก....................ราคีกราก ยากจักแก้
ดวงตา ช่างน่าแล........................เสียก็แต่ เห็นแก่ตัว

      ใบหู ดูเพริศเพรา...................เพราะหูเบา เลยเฉาชั่ว
จมูกตรง โด่งเสริมชัวร์...................ทั้งครอบครัว ดั้งบี้แบน

      ปากอิ่ม รอยยิ้มหวาน...............พูดเหมือนมาร พาลเหลือแสน
มุสา ด่าเก่ง;แคลน.........................มธุรส พจนา

      อกเต่ง งามเปล่งปลั่ง................(แต่)ใจร้ายดั่ง ขังสิงสา
ชั่ว/ดี มินำพา................................เทิดอัตตา ตามอารมณ์

      เสื้อผ้า ทันสมัย.......................(แต่)อุปนิสัย ไถยสั่งสม
ทุจริต จิตโสมม..............................ไม่ซื่อสัตย์ ทัศนีย์

      (งาม)แค่ไหน ก็ไร้ค่า.................เมื่ออุรา เสมือนผี
เลวทราม จะย่ำยี.............................ให้ตกต่ำ ระกำเอย ฯ

๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๕

วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ภาพขำขำ ๔๗

ภาพขำขำ ๔๗




เพ่...
เพ่...
ทะเลบ้านเพ่
คนแน่นซะขนาดนี้
ผมว่า
มาเที่ยวทะเลไทยดีกว่านะคับ
ทั้งสวย ทั้งปลอดโปร่ง...
มีความสุขกว่าเยอะเลย...







หือ...

ให้เค้าหลับตา หรอ ?

อ่ะ ก้อด้าย....

แล้วยังไงต่อ...?








คนอ่อนแอ...
ขอความช่วยเหลือจากคนอื่น

คนเข้มแข็ง...
ให้ความช่วยเหลือแก่คนอื่น

คนอ่อนแอ...
ทำร้ายคนอื่น

คนเข้มแข็ง...
ปกป้องคนอื่น













ต๊ะเอ๋....
เค้าหาตัวเอง อยู่ตั้งนาน
มีอะไรอยากเล่าให้ฟังเยอะแยะเลย
แต่พอเจอแล้ว
เค้าคิดไม่ออกเลยอ่ะ...
เรื่องอะไรน๊า....??












เพ่..
เพ่..
เพ่จะไปที่ไหนกันคับ
ขอผม ติดเรือไปด้วยดิ
แบบว่า...
ผมอยากไปเที่ยวที่อื่นบ้าง คับ









ไม่หลง...
ยังไม่หลง...
เรายังไม่หลงทาง...

ท่องเอาไว้
ท่องเอาไว้

โอ้ย...
ไม่ไหว
แม่จ๋า....
หนูหลงทางแว้วววว







ความรักจากคนหลายใจ : กาพย์ฉบัง ๑๗



ความรักจากคนหลายใจ : กาพย์ฉบัง ๑๗


      เธอมาบอกว่า " รักฉัน "..............หมายผูกสัมพันธ์
จำนัลจรรจาสามิภักดิ์

      กี่คนเธอสนใจฝัก ?...............กี่ทีมีรัก ?
อยากจักซักถามข้องความไข

      อย่ามาอ้าง " ช่างประไร "..............." ผ่านแล้วผ่านไป "
ในใจมีฉันมั่นหนึ่งเดียว ฯลฯ

      คงเป็นถ้อยคำซ้ำเกี้ยว..............." รักเธอคนเดียว " 
บัดเดี๋ยวเหลียวหาใหม่มาแหน

      มีคนมากล้นท้นแดน...............จิตจรคลอนแคลน
เปลี่ยนแฟนปานว่าบ้ามือถือ

      รักหลายได้หน้าระบือ..............ชอบคำร่ำลือ
หลงว่าเลื่องชื่อฤาไฉน ?

      ความรักจากคนหลายใจ...............มีค่าอะไร ?
ได้แต่ความทุกข์สิ้นสุขสันติ์

      เตือนใจให้รู้เท่าทัน...............พาลชนฉลฉันท์
ไม่มีศีลธรรม์อันผ่องใส

      เห็นแต่แก่ตัวทั่วไตร..............กลับกลอกวอกไว
เบื่อเก่าเอาใหม่ใฝ่ประจญ

      ก่อนจักรักใครสักคน...............อย่ารีบร้อนรน
สืบค้นหนหลังสังเกตกรรม ฯ

๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๕     

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ชั่ว-ดี มิอาจอยู่ร่วมกัน : โคลงสี่สุภาพ



ชั่ว-ดี มิอาจอยู่ร่วมกัน : โคลงสี่สุภาพ


. ไมยราบยักษ์ริมห้วย.................ยึดครอง
พันธุ์แพร่แจจับจอง......................ผ่องจ้าว
พืชพันธุ์อื่นขืนลอง.......................ปองปัก
แทรกไป่ทรงดงด้าว......................ดับสิ้นดินไส ฯ

. อุทาหรณ์สอนให้.......................ใสเห็น
สัจจ์แจ่มแพลมดุจเพ็ญ...................เมฆพ้น
คนดีย่อมยากเข็ญ..........................เป็นอยู่
ในหมู่คนชั่วท้น..............................ชัดแท้ชมแถลง ฯ

. แลใจใครหากข้อง........................ความฉล
ชาญชั่วมัวกมล................................เกลือกม้าง
ความดีที่กุศล..................................กลสืบ
ย่อมยากยงทรงสร้าง........................อยู่ยั้งยืนไสว ฯ

. คนดีจงอยู่ข้าง..............................คนดี
จึงจักจำเริญมี..................................รุ่งเรื้อง
เหล่าพาลกาลกิณี.............................พึงห่าง
ประสบปลอดภัยเปลื้อง......................ปลาบปลื้มลืมเข็ญ ฯ

. จิตใจจงกล่อมสิ้น...........................อกุศล
จึงจักดีพิมล......................................เพริศแพร้ว
สุจริตพิสิฐผล.....................................ผุดผ่อง
เสริมส่งกงแกร่งแกล้ว.........................เสขส้องสรรเสริญ ฯ

๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕

วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

หลงรูป : กาพย์ยานี ๑๑

                                                                 

หลงรูป : กาพย์ยานี ๑๑


      รูปงาม นำใหลหลง...............ไม่มั่นคง ทรงสิกขา
จิตไพล่ ไม่นำพา.........................ความถูก-ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี

      อยากได้ ใคร่ครอบครอง.........อยากจับจอง ตรองวิถี
เอาใจ แม้ไม่มี.............................ขวนขวายหา มาเปรอปรน

      ตั้งมั่น ต้องสมหมาย................เมื่อพลาดผาย ไร้เหตุผล
มึนเขลา เมากมล..........................มลานล้น อวิชชา

      เลอะลาม ตามจริต..................ฟุ้งซ่านคิด มากมิจฉา
วู่วาม สิ้นสัมมา.............................ยึดอัตตา ธิปไตย

      โทษเขา เท่าภูผา...................ไม่รู้ว่า ตนสาไถย
เกลียดเขา ไม่เข้าใจ......................ว่าตนไซร้ ไร้ศีลธรรม

      ดวงแด เห็นแก่ตัว....................จึงพาลทั่ว ชั่วถลำ
ก่อเวร เป็นบาปกรรม.......................ติดตัวซ้ำ ทรามต่อไป

      หากแม้ ตั้งแต่ต้น.....................ยึดกุศล กลพิสัย
ไม่ตาม อำเภอใจ............................ถือถูกต้อง ครรลองกรรม

      ก็จะ ไม่ใหลหลง......................จิตมั่นคง ทรงสิกขา
" ถูกต้อง " ท่องศรัทธา...................มีสุขะ วัฒนะเอย ฯ

๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕

วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เทียนพรรษา : กลอนแปด


เทียนพรรษา : กลอนแปด

      เทียนแกะลาย ซ้ายขวา ถวายตั้ง..........................บรรจงนั่ง จุดไฟ ให้แสงสี
เบญจางค ประดิษฐ์ กราบอิษฏี............................น้อมฤดี นิรา มลธรรม(อิษฏี=การบูชา,นิร-=ไม่มี,มลธรรม อ่าน มะละทำ)

      ประภาส่อง ผ่องใส ไพรพิหาร.............................พร้อมดวงมาน พรรษา ประสงค์ถัมภ์(ถัมภ์=หลัก)
จักชื่นชู บูชา สาธุกรรม......................................น้อมจิตนำ กำหนด พจนา

      ด้วยแสงเทียน เศียรทาน์ ที่ข้าฯมอบ.....................ดำริชอบ(สัมมาสังกัปปะ) กรอบสัจ กำจัดสา-
ไถยสน พ้นทรวง ดวงชีวา..................................กุศลา กฤษดามัย เกริกไกรมี(กฤษดา=ที่ทำแล้ว,มัย=สำเร็จ)                        

      ขอปัญญา ใสสว่าง อย่างเทียนแสง......................วิชชาแจ้ง แจ่มจรัส ประภาสศรี
เจริญเนา ก้าวหน้า สุทธาธีร์................................ชื่นชีวี ดีงาม ดำรงชัย

      มองพุทธะ ปฏิมา ประทักษิณ..............................สงบจินต์ ศีลสัตย์ วัตระศรัย(ศรัย=ที่อาศัย)
อภิวาท บาทเบื้อง ประเทืองใจ............................กำลังไกร ไขข้อง ยิ้มย่องเอย ฯ

๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๕

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ความรัก กับดักชีวิต : กาพย์สุรางคนางค์ ๓๒



ความรัก กับดักชีวิต : กาพย์สุรางคนางค์ ๓๒


      ความรัก.................กับดัก ชีวิต
เกิดมา ก็ติด......................ประกฤติ ปรารถนา (ประกฤติ=ความเป็นธรรมดา)
เกาะเกี่ยว กายใจ................ไปชั่ว ชีวา
เสมือน สุธา.......................กระแส ชีวี

      ความรัก..................กับดัก เวลา
คิดหมาย ไขว่คว้า................ตามวา ระวิถี
รักจาก พ่อแม่......................แลผอง น้องพี่
รักเพื่อน เลื่อนพี...................มีคู่ ครอบครัว

      ความรัก....................กับดัก ความฝัน
ยึดติด จิตมั่น........................สรรค์สั่ง ฝังหัว
ต้องมี ต้องได้.......................ไว้เป็น ของตัว
ไม่ได้ คล้ายชั่ว.....................กลั้วช้ำ กล้ำชาย

      ความรัก....................กับดัก ความคิด
ชื่นชู อุทิศ............................ชิดเหมา เป้าหมาย
กระเสือก กระสน....................กระวน กระวาย
จวบจน ตนตาย......................ไม่คลาย คลาดคลา

      ความรัก.......................กับดัก จิตใจ
ถักสุข ทุกข์ไส........................ได้-เสีย ละเหี่ยหา
จนกว่า จะรู้.............................กุศล สัญญา
โลกุต ตรา(อ่าน ตะรา)...............ธรรมา อภิรมย์

      ความรัก........................กับดัก สักขี
ปล่อยวาง ช่างมี........................ชีวี สุขสม
เมื่อไม่ ใฝ่หา............................ลาทุกข์ ระทม
สติ วิกรม.................................อุดม สฤษฏ์เอย ฯ

๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕     

วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

รางวัลชีวิต : กาพย์ยานี ๑๑



รางวัลชีวิต : กาพย์ยานี ๑๑


      แว่วเสียง สกุณี...................ประโคมดนตรี พงพีไพร
จำลา คราหลับใหล....................ปลุกกายใจ ให้ประโพธ(ประโพธ=ตื่นจากหลับ/มีสติ)

      สกุณ อรุณรับ......................พร้อมเพลงขับ สรรพเสียงโสต
(คือ)รางวัล อันรุ่งโรจน์................โลกมอบให้ ด้วยไมตรี

      แสงทอง รองเรืองฟุ้ง.............พรายพาดพุ่ง รุ่งระวี
สอดสลับ ซับซ้อนสี....................เสพสุนทรีย์ ทุกวี่วัน

      อากาศ สะอาดใส...................สูดหายใจ ให้หฤหรรษ์
มองเห็น เป็นรางวัล.......................อันธรรมชาติ ประสาทสิทธิ์

      สัมมา อาชีวะ.........................วิริยะ สุระทิศ (สุระ=กล้าหาญ)
กุศล กนประกิด.............................ค้ำความคิด คุ้มจิตใจ(กน=เฝ้า,ประกิด=ประดับ)

      เอื้อเฟื้อ ช่วยเผื่อแผ่.................แก่สาธารณ์ สำราญใส
(คือ)รางวัล อันอำไพ......................บุญทานไท ได้ประจำ

      ยามเย็น เล่นกีฬา.....................เพื่อกายา พลาล้ำ
พักผ่อน ตอนพลบค่ำ.......................สงบจิต สฤษฏ์ใจ

      เดือนพราว ดาวพยับ.................หรีดหริ่งขับ เพลงหลับใหล(พยับ=มืดมัว)
(คือ)รางวัล อันวิไล.........................มอบมาให้ ส่งท้ายเอย ฯ

๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๕     

หมายเหตุ 
เดือนพราว ดาวพยับ เพราะ เมื่อดวงจันทร์มีแสงสว่างมาก จะกลบแสงดาวไปจนแทบหมดท้องฟ้า

วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ภาพขำขำ ๔๖

ภาพขำขำ ๔๖






ฝรั่งช่างเข้าใจคิด

พิจารณาสังขาร์ขันธ์

บุคลาทิษฐาน์อัน

ไม่เลือกชั้นวรรณะเอย ฯ















แม่ถ่ายรูปไม่เป็น อ่ะ

แม่ไม่มองกล้องเลย

ดูอย่างหนูสิ

ถ่ายรูป ตาต้องมองกล้อง...








นาายครับ 
นายครับ
นายขับรถได้เก่งจริงๆเลยครับ 
ช่องว่างแค่นี้ ยังผ่านมาได้ 
ไม่ตายก็บุญแล้ว 
สวดยอดดดด







แปะ ! 
นายแพ้อีกแล้ว 
เล่นซ่อนหากับนายทีไร 
ชั้นชนะทุกที...หมูมากๆ 
5 5 5 5





เอ้า... 
ออกแรงอีกหน่อย 
ดึงเบาแบบนี้ 
เมื่อไหร่จะหลุดจาก เกยตื้นได้หล่ะ... 
ห๊า !









คุณครูขา.....

ไอ้เบิร์ด

เค้าแอบดูใต้กระโปรงหนูค่ะ



พบเพื่อจาก พรากเพื่อเจอ : กลอนคติชีวิต



พบเพื่อจาก พรากเพื่อเจอ : กลอนคติชีวิต


      หลังจาก ค่ำคืน อันชื่นฉ่ำ                 ฝนพรำ นำพา พฤกษาฉวี
หมอกขาว พราวพร่า (ปาน)สุขาวดี             ธรณี สีสด รจนา (รจนา=งาม)

      เศษไม้ ใบหล่น จนกระจัด               แลลัด รังนก ตกอยู่หรา
สานจาก หญ้าฟาง กระจ่างตา                  สกุณา ตัวน้อย คล้อยชีวี

      รอบข้าง ช่างเงียบ เชียบสงบ           ซากศพ ซบหน้า วิญญาณ์หนี
พ่อแม่ อยู่ไหน ไม่เห็นมี                         จรลี นานแล้ว แน่วแน่ใจ

      ลูกนก ตกตาย แล้วไปเกิด             กาลเปิด พ่อแม่ แพร่ลูกใหม่
วัฏฏะ สงสาร ภิบาลไพร                        ดูแล แก้ไข ไม่เผลอเรอ

      ชีวา ประสบ พบเพื่อจาก              กเฬวราก ยากนับ ย่อยยับเกร่อ
สัจจ์จริง สิ่งรัก พรากเพื่อเจอ                 เวียนวน ปรนเปรอ เย่อมายา

      พบกัน เพื่อจาก พรากเพื่อเจอ       อย่าเผลอ ยึดมั่น ยั้งตัณหา
สังขาร สารสัตว์ " อนัตตา "                  ต้องมา ต้องไป อาลัยรอน ฯ

๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕

วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คนจริงใจ: กาพย์ยานี ๑๑





คนจริงใจ: กาพย์ยานี ๑๑


      ร้อนชิง ฝนทิ้งช่วง..................ละเลยล่วง ห้วงสัปดาห์
นาดิน ดูสิ้นท่า.............................ดกดื่นหญ้า แย่งกล้ากิน

      ลำคลอง ห้วยหนองขอด..........ดอนดินยอด ทอดแยกสินธุ์
มัจฉา ยากหาชิน...........................นกทิ้งถิ่น บินจากไกล

      ป่าแล้ง ใบแห้งหล่น.................เกลื่อนโคนต้น  พ้นชีพขัย
ตามกิ่ง ประวิงใบ............................เขียวสดใส ไตรขจี

      ฟ้าไกล ไร้เมฆฝน.....................จิตใจคน ล้นไร้ศรี
(ความ)จริงใจ แทบไม่มี....................ปฎิพัทธ์ เพียงอัตตา

      เงินทอง ยังหาง่าย.....................(ความ)จริงใจหาย ใยยากหา
แม้แลก แจกเงินตรา..........................ไม่แน่ว่า จะจริงใจ

      มิหนำ มาซ้ำหลอก......................." จริงใจ " บอก กลอกสาไถย
หมายมิ่ง ความจริงใจ..........................จากเราไป ไม่อายตน

      ธรรมชาติ ของสัตว์ส่ำ....................ไม่ดื่มด่ำ กรำกุศล
ยิ่งร้าย จิตใจคน...................................ลึกล้ำล้น อกุศลไกร

      รอฝน สุชลหลั่ง.............................พอมีหวัง ดังจิตไหว
รอจน คนจริงใจ....................................รอจนตาย ไม่แน่เอย ฯ

๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๕

วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ความสันโดษ เป็นทรัพย์อันประเสริฐ : กาพย์ฉบัง ๑๖





ความสันโดษ เป็นทรัพย์อันประเสริฐ : กาพย์ฉบัง ๑๖


      เท่าที่มีเท่าที่ได้..............พออกพอใจ
กลไกแห่ง " ความสันโดษ "

      วิถีชีวาปราโมทย์.............ประกอบประโยชน์
บรรเทาโทษของสังขาร

      โลกที่ดูดั่งอลังการ............พินิจพิจารณ์
กันดารพานพบประสบเห็น

      ชีพชนม์ล้นหลากลำเค็ญ.............ขาดแคลนแร้นเป็น
เฉกเช่นปกติโลกพิสัย

      หากแต่ความคิดจิตใจ...............จินตนาการไกล
จนไร้ผิดชอบขอบเขต

      " ความอยาก "ชักพาอาเพศ...............มโนกรรมทำเหตุ
เกิดกิเลสไม่สิ้นสูญ

      " ผิดหวัง "ตั้งตาอาดูร...............กลับกลอกพอกพูน
เกลือกกูลต่อกรรมทรามหมอง

      ทำให้ได้ทุกข์ขลุกครอง..............ชลนัยน์ไหลนอง
คับข้องพร่องพ่ายขยายผล

      ป้องกันด้วยการอดทน..............แก้ไขกมล
หลุดพ้น " ยึดมั่น "อันหลากหลาย

      คนย่อมเกิด-แก่-เจ็บ-ตาย.............โอนอ่อนผ่อนคลาย
พอใจตามได้-มี-เป็น

๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕

วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บทเรียนชีวิต



บทเรียนชีวิต 


" บทเรียนชีวิต "....
เป็นวิทยาที่ไม่มีสอนในสารระบบการศึกษา
เป็นความรู้ที่จำเป็นต้องเรียน
เป็นความเพียรที่ต้องทำ

มีความสำคัญที่สุด กว่าทุกสหวิชาใดๆในชีวิต
เพราะทุกชีวิตจะต้องผ่านการทดสอบ
ไปตลอดชั่วอายุขัย
ตั้งแต่เกิด...จนกระทั่งตาย
แม้ไม่คิด...ไม่ต้องการ...
ก็ตามที

ชีวิตทุกชีวิตต้องเรียน
ทุกชีวิตต้องผ่านการทดสอบ
แม้ว่ามีเพียงบางชีวิตที่ตั้งใจเรียน
โดยที่ส่วนใหญ่จะตั้งใจเล่น...
ก็ตามที

ธรรมชาติได้กำหนดบทเรียนและบททดสอบ
ที่ชอบธรรมเอาไว้ ให้กับทุกชีวิต
อาจจะยากหรือง่ายกว่ากัน
หรืออาจจะมีความแตกต่างกัน
สุดแท้แต่ชะตาชีวิต ที่แตกต่าง หลากหลาย
และละเอียดอ่อน

ผลของการเรียนคือ ความรอบรู้ในชีวิต
ผลของการทดสอบคือ การประสบความสำเร็จ / ล้มเหลว
ความเจริญก้าวหน้า / ความเสื่อมถอย
ความสุข / ความทุกข์
ความเป็น / ความตาย
ฯลฯ

" บทเรียนชีวิต "...
เป็นบทเรียนที่สามารถถ่ายทอดสู่กันได้
ช่วยให้การทำข้อสอบได้ผลดี-ไม่ยาก
แต่ในท้ายที่สุด...
ชะตาชีวิตที่แตกต่างกัน
จะปรากฏบทเรียนและบททดสอบที่แตกต่างกัน...ของแต่ละชีวิต
ทำให้จำเป็นต้องได้รับการเรียนรู้เพิ่มเติม...ด้วยตัวเอง
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..และไม่สิ้นสุด....

ทุกสหวิชาที่มีการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษา
นับได้ว่า เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของ " บทเรียนชีวิต "
บทเรียนอันยิ่งใหญ่
หลากหลาย
และมีผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตทุกชีวิต

บางคนก็ตั้งใจเรียน ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต วิริยะอุตสาหะ
มีสติสัมปชัญญะ สุขุม รอบคอบ ไม่ประมาท
เอาใจใส่ต่อการพัฒนาปรับปรุงตนเอง อย่างสม่ำเสมอ
ทำให้มีผลการเรียนที่ก้าวหน้า
ชีวิตมีความสุข

บางคนก็เรียนด้วยความฉ้อฉล ทุจริต เกียจคร้าน
ขาดสติสัมปชัญญะ มักงาย ประมาท คิดสั้น ใจเบา
ไมใส่ใจในการพัฒนาปรับปรุงตนเอง
ทำให้มีผลการเรียนไม่ดี
ชีวิตตกต่ำ และเป็นทุกข์

ความเป็นผู้ที่มีโครงสร้างร่างกายที่แข็งแรง สวยงาม
มีสมองที่มีประสิทธิภาพ
ซึ่งเป็นผลการเรียน จากชีวิตก่อน
จะนำมาซึ่งความได้ประโยชน์ในชีวิตนี้

แต่ก็ไม่แน่เสมอไป
เพราะผลการเรียนในชีวิตนี้
มีปัจจัยสำคัญคือ อุปนิสัยใจคอ ความคิด วิจารณญาณ
และพฤติกรรม
ของชีวิตนี้...เป็นสำคัญ

ผู้ที่มีโครงสร้างร่างกายที่แข็งแรง แต่ประมาท
ต้องเจ็บป่วยล้มตาย ก่อนวัยอันควร...
มีอยู่มากมาย
ผู้ที่มีรูปลักษณ์สวยงาม แต่นิสัยไม่ดี
ต้องมีชีวิตที่ตกระกำลำบาก คับข้อง อัดอั้นตันใจ...
มีนับไม่ถ้วน
ผู้ที่มีสมองที่เปี่ยมประสิทธิภาพ แต่ทุจริตฉ้อฉล
ต้องโทษทัณฑ์อันตราย...
มีเหลือคณานับ

ผลการเรียน....
วัดกันที่คุณภาพของชีวิต
ไม่ใช่ปริมาณทางวัตถุ
วัดกันที่ความสุข / ทุกข์
ไม่ใช่ความรวย / จน
วัดกันที่คุณค่าของความเป็นคน
ไม่ใช่ยศถาบรรดาศักดิ์
วัดกันที่มโนธรรม
ไม่ใช่เกียรติยศชื่อเสียง
ฯลฯ

คนจน อาจมีผลการเรียน(ชีวิต)ที่ดีกว่า คนรวย
คนธรรมดา อาจมีผลการเรียนที่ดีกว่า คนมียศศักดิ์
คนโง่ อาจมีผลการเรียนที่ดีกว่า คนฉลาด
คนอ่อนแอ อาจมีผลการเรียนที่ดีกว่าคนแข็งแรง
แต่คนดี จะมีผลการเรียนที่ดีกว่า คนเลว
ในท้ายที่สุด...เสมอ

การประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว...
ในบางครั้ง..ในบางโอกาส
ไม่สามารถวัดได้ว่า เป็นการประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว
ในชีวิต...ทั้งชีวิต
เพราะมีการทดสอบที่สำคัญหลายครั้ง
ในแต่ละช่วงชีวิต

การมีความสุขในตอนนี้
อาจเป็นทุกข์ในวันข้างหน้า
การเป็นทุกข์ในวันนี้
อาจเป็นสุขได้...ในอนาคต
ซึ่งอาจจะไม่ใช่ผลจากการทดสอบในปัจจุบัน

เพราะผลการเรียน ส่วนใหญ่
จะไม่ได้ประกาศออกมาอย่างทันทีทันใด
แต่ต้องผ่านกระบวนการ
ผ่านสถานการณ์
ต้องใช้เวลา...
และอาจเป็นผลการทดสอบ ของชีวิตที่แล้วมา
ไม่ใช่ผลการทดสอบ ของชีวิตนี้

ในชีวิตหนึ่ง
บางช่วงก็ดี บางช่วงก็ย่ำแย่
แต่ถ้าหากมีการเรียนรู้ มีความตั้งอกตั้งใจ อุตสาหพยายามปรับปรุง
ย่อมสามารถแก้ไขผลการเรียนให้ดีขึ้นได้ในอนาคต

ผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านใดด้านหนึ่ง
อาจล้มเหลวในด้านอื่น
จึงไม่ควรลุ่มหลง
ผู้ที่ล้มเหลวในด้านใดด้านหนึ่ง
อาจสามารถประสบความสำเร็จในด้านอื่นได้
จึงไม่ควรท้อแท้และหมดกำลังใจ

แต่การทดสอบที่สำคัญที่สุด
คือ หลังความตาย
ซึ่งจะนำไปสู่การกำเนิดชีวิตใหม่
เป็นการประกาศผลการทดสอบครั้งใหญ่
ของการเรียนในชีวิตที่ผ่านมา

การมีชีวิตรอด ไม่ใช่ความสำเร็จ
การตาย ไม่ใช่ความล้มเหลว
เพราะสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา คือ
การมีชีวิตอยู่อย่างไร ?
ตายอย่างไร ?
และ ชีวิตหลังความตาย เป็นอย่างไร ?
ต่างหาก
ที่เป็นสาระสำคัญ....ฯ

๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๕