ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2560

บันทึกภาพธรรมชาติ : กลอนเปล่า




บันทึกภาพธรรมชาติ : กลอนเปล่า

   
๏    ได้ใกล้ชิดธรรมชาติที่บริสุทธิ์ 
เป็นความสุขของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล
ธรรมชาติเปรียบเสมือนแม่
มีแต่ให้อย่างไม่ผันผวน
ปัจจัยในการดำรงชีวีมิให้เซซวน
ล้วนอาศัย และได้จากธรรมชาติ

๏    การถ่ายภาพเป็นกิจกรรมที่สนุก
คือความสุขของคนที่รักในศิลปศาสตร์แขนงนี้
การได้ไปเยือนสถานที่ และได้ถ่ายภาพเก็บไว้
สร้างความรู้สึก
เหมือนได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติยิ่งกว่าเดิม

๏    แต่การถ่ายภาพให้สวยงาม
ต้องมีกรรมวิธีและสมาธิ
ราวกับความเชื่อมโยงระหว่างเรากับธรรมชาติ
เกิดการสะดุดและขาดหาย
เพราะเพ่งความสนใจไปที่จอภาพ ปุ่ม และการปรับค่าต่างๆมากมาย
จนกว่าจะได้ถ่ายภาพ 
ความคิดเกิดวุ่นวายอย่างไม่รู้ตัว

๏    วางกล้องถ่ายรูปลง
ละความสนใจไปจากกรอบแคบๆ
ใช้สายตาโฟกัส ไปทั่วทั้งธรรมชาติที่แท้จริง
พบกับภาพของสิ่งที่ กว้างกว่า-สูงกว่า-ลึกกว่า
แล้วปล่อยให้หัวใจเสพความสุนทรีย์
ด้วยลมหายใจที่สงบ

๏    แสงสรีย์ที่แปรเปลี่ยนไปตามเวลา
กลิ่นหอมของป่า หญ้าและพื้นพิภพ
เสียงนกที่เพรียกหากัน
จากพุ่มไม้ ชายป่า ณ ริมขอบฟ้า
ผิวกายได้สัมผัสกับความเคลื่อนไหวของอากาศ
ล้วนเป็นสมบัติทางธรรมชาติ
ที่ไม่อาจเก็บเอามาใส่ไว้ในรูปภาพใดๆ

๏    ดังนั้น
การถ่ายภาพสวยงามเก็บไว้มากๆ 
ก็อาจไม่ใช่ทรัพย์สมบัติอันวิเศษ อย่างที่หลายคนชอบครวญใคร่
การบรรจงเก็บความประทับใจ
ใส่ไว้ในความทรงจำของตัวเรา
วิธีนี้ต่างหากเล่า
ที่เป็นการบันทึกภาพธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ
ได้ครบถ้วนอย่างแท้จริงฯ

๓๐ เมษายน ๒๕๖๐

วันเสาร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2560

อย่าสร้างปัญหาให้ชีวิต : กลอนเจ็ด



อย่าสร้างปัญหาให้ชีวิต : กลอนเจ็ด

๏    ฝนตก ลงพลัน บรรเทาร้อน..................แมลงเม่า บินว่อน ก่อนลับหาย
ทิ้งปีก ทั้งคู่ อยู่มากมาย..........................(และ)ร่างกาย ไร้สิ้น ซึ่งวิญญาณ

๏    ปิดฉาก บันเทิง ความเริงร่า...................สู่หัตถ์ (แห่ง)สัจจา ปาฏิหาริย์
ขาดความ เคลื่อนไหว ในอาการ................สังขาร สังเวช เศษซากดู

๏    หวนคิด พิจารณา เลือกอาหาร...............ไม่ต้อง ทะยาน ทานเลิศหรู
สงบ ร่มเย็น การเป็นอยู่...........................ไม่สู่ แสวง แข่งเวียงวัง

๏    เครื่องใช้ ไม้สอย ที่จำเป็น.....................ไม่เฟ้น สินค้า คนบ้าคลั่ง
ซื้อมา มากมาย เสียดายตังค์.....................เก็บ(เงิน)หวัง ไว้ใช้ ยามจำเป็น

๏    ไม่ข้อง สุรา ยาเสพย์ติด........................คบพาล เป็นมิตร ชีวิตเข็ญ
ราตรี-ราคะ-เที่ยว ละเว้น...........................งดเล่น การพนัน ทัณฑ์อบาย

๏    ขยัน ทำกิน ไม่หมิ่นยาก........................ลำบาก พักรอ เดี๋ยวก็หาย
ประหยัด เก็บออม น้อมสบาย.....................ใช้จ่าย เกินตัว ชั่วมากมี

๏    ศีลธรรม สัมมา ถือปฏิบัติ.......................ห่างไกล สารพัด สิ่งบัดสี
ตั้งใจ ตระหนัก รักความดี..........................ทวี คุณธรรม นำชีวิน

๏    อย่าสรรค์ ปัญหา ให้ชีวิต.......................อย่าคิด ผิดทาง ย่างถวิล
ต่อให้ โสภี มีปีก บิน................................ไม่พ้น แผ่นดิน กลบหน้าเอยฯ

๒๙ เมษายน ๒๕๖๐

วันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2560

สถานะยิ่งใหญ่แต่จิตใจต่ำ : กลอนปัญหาสังคม



สถานะยิ่งใหญ่แต่จิตใจต่ำ : กลอนปัญหาสังคม

๏    ข่าวสาร บ้านเมือง.....................มีเรื่อง ชั่วช้า ชวนฉงน
เกิดขึ้น จากคน.............................ล้นท้น ทางการ ศึกษา
ตำแหน่ง หน้าที่............................เหนือประ ชาชี ปรีดา
(แต่กลับ)ก่อกรรม ต่ำช้า.................ดำดิ่ง ยิ่งกว่า สวะชน

๏    เพราะขาด ศีลธรรม....................ความระยำ ครอบงำ อุรา
กิเลส ตัณหา................................บัญชา ประทุ อกุศล
ครรลอง ของสัตว์..........................ขจัด ครรลอง ของคน
ชักพา กระมล...............................ครอบยึด มืดมน หนทาง

๏    ตำแหน่ง ใหญ่โต.......................แต่มโน โมหะ บัดสี
โฉดช้า ราคี.................................ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี มิกระจ่าง
ก่อกรรม ทำเข็ญ...........................เฉกเช่น เดนชน คนชั้นล่าง
โฉดฉล สนสร้าง...........................ทำลาย ไถล้าง สังคม

๏    ผ่านการ ศึกษา..........................ก็ปาน ปัญญา หาไม่
มนา สาไถย..................................ไร้วิจา รณญาณ เหมาะสม
มองพฤติ (ติ)กรรม.........................เห็นความ ต่ำทราม โสมม
คุณค่า (เท่า)อาจม.........................อุดม อุบาทว์ ทัศนา

๏    บังเกิด คำถาม...........................ถึงความ บกพร่อง ของผู้
กลั่นกรอง คนสู่..............................เป็น-อยู่ บริหาร สรรหา
กระบวนการ คัดเลือก......................เอาคน เทือกเถา เหล่าอาชญา
(ขึ้นมา)ปกครอง ประชา...................เหมือนผัก เหมือนปลา พาไป

๏    เอารัด เอาเปรียบ........................ย่ำเหยียบ ประดัง บังคับ
กดขี่ ขยี้ยับ...................................ราวกับ ขี้ข้า ทาสไพร่
กูเสีย ภาษี....................................จ้าง(มึง)มา กดขี่ (กู)หรือไง?
ไอ้อันธพาล จัญไร..........................ขอให้ เวรกรรม ตามจองฯ

๒๘ เมษายน ๒๕๖๐
*ช็อก! ผู้ว่าฯ กินเด็ก “คดีฟ้าเพียงดิน” แม่เหยื่อซัดเสร็จกิจจ่ายแค่ 1 พัน

เด็กเหยื่อกามแฉ มี 5 ตร.โทรม ปิดห้องจับรุม

 พ่อพาหนี-แจ้งตร.!! ดญ.กะเหรี่ยงถูกผช.ผญบ.-แพทย์ตำบล ข่มขืนจนท้อง ถูกข่มขู่

ออกหมายจับ! รศ.ดร.ดังโกงกว่าพันล้าน

หมอโกงหมอ หลอกทำทัวร์ ตุ๋น 64 ล้าน ยกทีม ร้องกองปราบ ฟันแพทย์ รพ.ดัง

วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2560

ช่องว่างระหว่างคน : กลอนคติชีวิต



ช่องว่างระหว่างคน : กลอนคติชีวิต

   
๏    คนขี้เกียจ กับคน ขยัน......................อยู่ร่วมกัน ได้ยาก ฉันใด
คนสัมมา กะคน สาไถย.........................อยู่ร่วมกัน ได้ยาก ฉันนั้น

๏    คนสกปรก กับคน สะอาด...................ย่อมไม่อาจ ราบรื่น สัมพันธ์
คนอัปรีย์ และ(คน)มี ศีลธรรม์..................อย่าหมายมั่น สมาน ฉันมิตร

๏    คนที่มี นิสัย คล้ายคลึง.......................ย่อมรู้ซึ้ง บึ้งทรวง ห้วงจิต
เข้ากันได้ ง่ายมี ชีวิต.............................ไม่ตะขิด ตะขวง ห่วงหา

๏    คนนิสัย-ใจแยก แตกต่าง.....................ยืนเคียงข้าง ยังไกล ไคลคลา
ร่วมภาษา ระคน สนทนา.........................เหมือนคนละ ภาษา พาที

๏    รสนิยม แตกต่าง สร้างสาน...................อุดมการณ์ อันแปลก แยกหนี
มโนทัศน์ วัฒนธรรม ประเพณี...................ถ่างฤดี ให้กว้าง ห่างไกล

๏    คือช่องว่าง ระหว่าง บุคคล....................เป็นตัวตน ดลจิต คิดไข
คือต้นทาง สร้างจล สนใจ........................ความรักใคร่ ในกัน และกัน

๏    เป็นปัจจัย ในการ คบหา.......................พิจารณา สมา นฉันท์
คือเงื่อนไข ก่อนสร้าง สัมพันธ์..................ที่สำคัญ ก่อนตัด สินใจ

๏    อย่าทำเรื่อง ลุกลาม ตามเขลา...............แล้วอ้างเรา เข้ากัน ไม่ได้
ต้องแตกแยก ต่างคน ต่างไป....................ทิ้งปัญหา คาไว้ ให้สังคมฯ

๒๗ เมษายน ๒๕๖๐

วันพุธที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2560

หาเช้ากินค่ำ : กาพย์ยานี๑๑



หาเช้ากินค่ำ : กาพย์ยานี๑๑

   
๏    เข้าใกล้ กาลเปิดเทอม..................แม่ค้าเริ่ม ขยันหา
ผลไม้ ผักขายค้า............................เต็มตลาด บาทวิถี

๏    ก่อนหน้า หาใส่ใจ........................ของกินหมาย แทบไม่มี
สะท้อน ย้อนชัดชี้...........................ใยจึงมี ชีวีเข็ญ

๏    หาเช้า เพื่อกินค่ำ.........................มักง่ายทำ งานบำเพ็ญ
มัวเมา เอาแต่เล่น............................เหมือนเป็นเด็ก ปราศเดียงสา

๏    คิดใกล้ ไม่คิดยาว.........................ทีละก้าว เฉพาะหน้า
แผนการ ภารชีวา.............................อนาคต ปรากฏไร้

๏    มีคู่ ดูชั่วคราว...............................ความหนุ่มสาว เอาแต่ใจ
เสพสม อารมณ์ไส............................ไม่ต่างสัตว์ เดรัจฉาน

๏    มีลูก เพิ่มทุกข์ยาก........................ออกมามาก ผักปลาปาน
เลี้ยง(แค่)รอด ปลอดภัยผลาญ............เป็นมาตรฐาน พันธุ์โง่เขลา

๏    ส่วนเรื่อง การศึกษา.......................ไม่อุตส่าห์ สู้หาเอา
ไปเรียน เปลี่ยนคนเรา........................งี่เง่าไซร้ ไม่ได้เลย

๏    เปิดเทอม เพิ่มรายจ่าย....................เพิ่งขวนขวาย ไม่อาจเฉย
วายวุ่น วารคุ้นเคย.............................เฉลยชาติ อุบาทว์ชนฯ

๒๖ เมษายน ๒๕๖๐

วันอังคารที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2560

อย่าทอดทิ้งพ่อแม่ที่แก่เฒ่า : กาพย์สุรางคนางค์๒๘


อย่าทอดทิ้งพ่อแม่ที่แก่เฒ่า : กาพย์สุรางคนางค์๒๘

   
๏    ..........................................คนจน เข็ญใจ
ผ่านมา คราใด..........................ก็ใคร่ แต่เล่า
ถึงลูก ถึงหลาน.........................มิพาน นานเนา
(เพราะ)ต่างย้าย แตกเหย้า..........ทำมา หากิน

๏    ..........................................วันนี้ ก็มา
บอกกล่าว เล่าว่า.......................เพิ่งจะ(ไป)เยือน ถึงถิ่น
เยี่ยมลูก เยี่ยมหลาน..................ดู(ท่าทาง)สำราญ สมจินต์
สุขี ชีวิน..................................และภาค ภูมิใจ

๏    ..........................................คือความ ผูกพัน
ของคน เท่านั้น.........................สัตว์(อื่น)หา มีไม่
สมัคร รักเกื้อ............................เลือดเนื้อ เชื้อไข
ติดทรวง ห่วงใย........................ไม่เคลื่อน เลือนราง

๏    ..........................................ลำบาก ลำบน
ก็ยอม อดทน............................ทุ่มเท ทุกอย่าง
เพื่อลูก(หลาน) ได้ดี...................ให้มี หนทาง
ก้าวหน้า สล้าง...........................ก้าวย่าง มั่งมีฯลฯ

๏    ...........................................พ่อแม่ แก่เฒ่า
อย่าทิ้ง ท่านเศร้า........................ส่วนเรา สุขี
หมื่น-พัน ล้านคน........................บนโลก ใบนี้
รักเรา เท่ามี...............................มิเทียม ท่านเลยฯ

๒๕ เมษายน ๒๕๖๐

วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2560

ด้อย/ความจำเริญ? : กลอนปัญหาสิ่งแวดล้อม

ภาพถ่ายจากละแวกบ้าน


ด้อย/ความจำเริญ? : กลอนปัญหาสิ่งแวดล้อม

   
*กระแสไฟฟ้าตก-ไฟดับตอนหัวค่ำ*
๏    คงเปิดแอร์ กันใหญ่ จนไฟ(ฟ้า)ตก............................ร้อนทรมาน ปานนรก เหงื่อโชกไหล
(กระแสไฟฟ้า)มิเพียงพอ หล่อเลี้ยง แม้เพียง(หลอด)ไฟ....(แม้แต่)พัดลมไม่ หมุนพัด ขาดความเย็น

๏    พลังงาน ผลาญใช้ ตามใจชอบ.................................มีรายรอบ ของใช้  ก่ายกองเห็น
ล้วนทันสมัย คล้ายความ จำเริญเจน...............................ภูมิใจเช่น เป็นผู้ดี ศิวิไลส์

๏    แต่ความรับ ผิดชอบ ไม่ชอบรับ.................................สันดานถ่อย ย่อยยับ อัประมาณให้
สิ่งแวดล้อม ซอมซ่อ รอบรรลัย.....................................ถูกคนใช้ ไม่รักษ์ มักทำลาญ

๏    ภาชนะ พลาสติก อีกปัญหา(ใหญ่).............................แทบท่วมท้น โลกา พากันผลาญ
รู้จักใช้ แต่ไม่รู้ จักหลักการ..........................................บริหาร รีไซเคิ่ล (แค่)เพลิดเพลินพอ

๏    แปลงขยะ เป็นพลัง งานไฟฟ้า..................................เจอปัญหา โรงงาน ถูกต้านต่อ
ชาวบ้านไม่ ยินยอม พร้อมด่าทอ...................................(ว่าเป็น)ต้นเหตุก่อ มลพิษ ชีวิตพัง

๏    อยากเป็นอยู่ อย่างสบาย ใช้ชีวี.................................ชื่อว่ามี ความพัฒนา พากันหวัง
แต่ความคิด วิทยา ประดุจดัง........................................ด้อยพัฒนา ล้าหลัง ชาติทั้งมวล

๏    ความเคยชิน กินทิ้ง กินขว้างเกลื่อน............................แลดูเหมือน ยิ่งเพิ่ม เสริมภัยล้วน
กระแสเตือน โลกร้อน วอนชักชวน.................................แพ้กระบวน โฆษณา สินค้าเพียร

๏    ความจำเริญ ทางจิตใจ ไม่บรรลุ.................................ความจำเริญ ทางวัตถุ อุกฤษฏ์เสถียร
ทำลายล้าง โลกา;ชะตาเจียน.......................................จวนพินาศ ปราศเปลี่ยน ปลายทางเอยฯ

๒๔ เมษายน ๒๕๖๐

วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2560

บันดาลบุญ : กลอนหก



บันดาลบุญ : กลอนหก

   
๏    ด้วยศรัทธา ปสาทะ.......................ต่อธรรมะ ประสิทธิ์ผล(ปสาทะ=ความเลื่อมใส)
จึงละเว้น เห็นแก่ตน.........................ก่อกุศล สร้างหนทาง

๏    สู่โสภา สุคติ.................................สัมมาดำริ มิเหินห่าง
ขจัดเขลา ให้เบาบาง........................ยรรยงย่าง บุญกิริยา

๏    บริจาคทรัพย์ นับเป็นทาน................ช่วยแรงงาน ชาญปรึกษา
การอุปถัมภ์ ความเมตตา....................ปราณีให้ แผ่ใครเขา

๏    หลักศีลธรรม จำนงมั่น.....................กุศลดั้น กวดขันเฝ้า
วาจา-กาย -ใจใฝ่เกลา.......................เฉดหมองเศร้า-โฉด-มิจฉา

๏    ใคร่ความรู้ อุตส่าห์ค้น......................ฝึกกระมล กลภาวนา
ปรับความคิด ถูก(ต้อง)ทิศา.................สัมมาทิฐิ สิริสถล

๏    บันดาลกูล เกื้อบุญได้......................ลานหลั่งไหล มาให้ยล
อยู่เป็นสุข ปราศทุกข์พ้น.....................ไปจวบจน ชีวาสัญ(ชีวาสัญ=ชีวะ+อาสัญ)

๏    มิศรัทธา ไสยศาสตร์........................ย่อมไคลคลาด อุบาทว์ธรรม์
มิหยาบช้า กล้าบาปกรรม์.....................(ย่อม)เป็นสุขสันติ์ บันเทิงสม

๏    ถือคุณธรรม นำความคิด...................อย่ายึดติด ตามค่านิยม
ที่แพร่หลาย ในสังคม..........................(ที่)มักงมงาย เหลวไหลเอยฯ

๒๓ เมษายน ๒๕๖๐

วันเสาร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2560

เวรกรรมของลูกแมวกำพร้า : กลอนเจ็ด



เวรกรรมของลูกแมวกำพร้า : กลอนเจ็ด

   
๏    ลูกแมว อ่อนเยาว์ (ถูก)เอามาทิ้ง.............(แค่)ยืนยัง ไม่นิ่ง ยิ่งสงสาร
ปลาทู แกะไป ให้รับประทาน.....................เพื่อการ อยู่รอด และปลอดภัย

๏    คงทำ กรรมเวร เป็นอันมาก....................(จึง)ลำบาก ยากแค้น แร้นวิสัย
เกิดมา เป็นแมว ไม่แคล้วไคล....................ประจัญ อันตราย ในครรลอง(ของแมว)

๏    ทุกสิ่ง อิงเภท และเหตุผล......................สัจธรรม กำบน ดลสนอง(กำบน=หวั่นไหว)
ไร้-มี ที่ดิน สินเงินทองฯลฯ........................ต่างต้อง จองกรรม กระทำมา

๏    อดีตกาล ขันเข็น เวรกรรมไว้...................จึงถูก ผลักไส ให้กำพร้า
(เช่น)ทำใคร ให้พราก จากมารดา................ต้องตก ชะตา ชีวาจร

๏    (หรือ)ทิ้งลูก ของตน ทนว้าเหว่................ระหก ระเห เที่ยวเร่ร่อน
ไม่มี ที่สนุก ซุกหัวนอน..............................เดือดร้อน ลำบาก เย็นยากนาน

๏    มีใคร ทำร้าย เราได้เท่า..........................คนรัก ของเรา เขาหักหาญ?
ใครที่ ชี้นำ ความสำราญ.............................ได้ปาน คนรัก เราภักดี?

๏    อย่าทำ ให้ใคร ต้องไร้ร้าง........................แยกทาง ครอบครัว ชั่วบัดสี
อย่าเห็น แก่ตน ฉลชีวี................................หลีกหนี ครอบครัว แค่ตัวสบาย

๏    เวรกรรม ตามติด ไม่ผิดพลาด...................ธรรมชาติ ธรรมนูญ ไม่สูญหาย
ครอบงำ-ค้ำจุน-หนุน-ทำลาย.......................เวียนว่าย ตายเกิด เชิดวิญญาณฯ

๒๒ เมษายน ๒๕๖๐

วันศุกร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2560

มงคลชีวิต : กลอนจรรโลงใจ



มงคลชีวิต : กลอนจรรโลงใจ

   
๏    มงคล ชีวิต......................เริ่มจาก ความคิด ที่ดี
กุศล กลศรี..........................กำหนด วิถี พิษฐาน
ให้เจน เห็นแจ้ง....................แสวง พิพัฒน์ ชัชวาล
พ้องสบ พบศานติ์.................เป็นสุข สำราญ ปานปรีดิ์

๏    ซื่อสัตย์ สุจริต...................ประดัง รังสฤษฏ์ อิฏฐา(อิฏฐ-=น่าพอใจ)
ศีลธรรม กรรมา.....................โสภา เศวต เจตศรี(เศวต=สีขาว)
ไม่คด โกงใคร.......................ผ่องใส ในการ สมาทาน(ความ)ดี
ดำเนิน ชีวี............................ตามวิถี ถูกต้อง คลองธรรม

๏    ไม่เห็น แก่ตน....................ไม่เอา เปรียบคน อื่นเขา
(หลัก)การรัก ตัวเรา................ต้องไม่ โง่เขลา-ทราม-ต่ำ
ละเว้น ความชั่ว......................เมามัว บำราบ บาปกรรม(บำราบ=ทำให้ราบ)
ผดุง คุณธรรม........................ประจำ ดวงจิต นิตยา

๏    โอบอ้อม อารี......................เมตตา ปราณี อดิศัย
อ่อนโยน โชนใจ.....................มิโฉด โหดไร้ ไคล้หา(ไคล้=เล่ห์กล)
เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่......................แม้แต่ คนไม่ เคยเห็นหน้า
ช่วยเหลือ เชื่อศรัทธา..............กุศลา จะนำ งาม-ดี

๏    หัวใจ เข้มแข็ง....................พลิกแพลง เผชิญ ชีวิต
พัฒนา ความคิด.....................พินิจ จิตใจ ไคลบัดสี
ไม่คบ คนพาล........................ปราชญา สมาน ไมตรี
(คือ)มงคล ชีวี........................ประเสริฐ เพริศพี นิรันดรฯ

๒๑ เมษายน ๒๕๖๐

วันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2560

ผู้พิทักษ์อริราษฎร์(ไม่ใช่สันติราษฎร์) : กาพย์ฉบัง๑๖



ผู้พิทักษ์อริราษฎร์(ไม่ใช่สันติราษฎร์) : กาพย์ฉบัง๑๖

   
๏    เมื่อเช้ายังมีเมฆฝน..................สุดขอบ นภดล
เสียจนสุริยนห่างหาย

๏    ไม่ทันถึงเที่ยงก็เรียงราย.................กระจัดกระจาย
สูญสลายไปกับสายลม

    แดดร้อนย้อนมาระบม..................คิมหันต์ ครันสม
เหงื่อชโลมทั่วทั้งกายา

๏    กิจกรรมธรรมชาติสัจจา................ตรงไปตรงมา
ไม่มีมารยาเหมือนมนุษย์

๏    ที่มักอ้างตนบริสุทธิ์.................แต่จิตใจคุด
มิหยุดหยาบช้าสาไถย

๏    (ทำตัว)ชั่วช้ามิละอายใจ................ปากบอกออกไป
อ้างตนวิมลใสใจดี

๏    ทุจริตกิจจาหน้าที่.................เบียดเบียนประชาชี
(ทั้งๆที่)รับเงินภาษีราษฎร

๏    ใช้ตำแหน่ง(หน้าที่)แปลง-ดัด-ปัด-ย้อน...................คนดีเดือดร้อน
(เพื่อ)ผลประโยชน์ทับซ้อน(รับ)สินบน

๏    ใช้เงิน-เส้นสายฯลฯขยายผล..................ตำแหน่งแห่งหน
ให้ตนได้ดิบได้ดี

๏    สังคมซึ้งซาบความอัปรีย์.................กาสีกากี
คนดีมีน้อยพลอยเสื่อมเสีย

๏    พูดไปก็สองไพเบี้ย..................ไม่พูดก็เพลีย
(เพราะ)พวกถูกขนาน " เหี้ย(ตะกวด) " สมญาฯ

๒๐ เมษายน ๒๕๖๐

*คุณแม่เด็กวัย 14 ถูกรุมโทรม เล่าเหตุการณ์วันนั้นกับสรยุทธ ชี้ ลูกสาวถูกมอมยา แถมถูกตำรวจข่มขู่จนผู้ต้องสงสัยรายอื่นรอดหมด

วันพุธที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2560

ชีวิตรักของใครสมัยนี้ : กลอนสะท้อนสังคม



ชีวิตรักของใครสมัยนี้ : กลอนสะท้อนสังคม

   
๏    เคยได้ดู สารคดี หลายปีก่อน........................เรื่องสะท้อน ชีวิตรัก ชักเหตุ-ผล
หญิงอังกฤษ ก่อนแต่งงาน ผ่านผจญ.................ชายยี่สิบ หกคน ปรนประมาณ

    มองวิสัย วัยรุ่น วุ่นวายปรี่..............................สมัยนี้ ริร้อยรัก ช่างหักหาญ
ไม่ระวัง ยั้งจิต ปิดอาการ.................................ทะเยอทะยาน ตัณหา แส่ราคี

๏    ทำเหมือนเล่น เช่นรัก สมัครละเมิด.................ยิ่งมีหลาย ยิ่งเลอเลิศ บรรเจิดศรี
คนหลงรัก มากมาย คล้ายของดี........................คนรักมี มากมาย ภูมิใจตน

๏    มีรักง่าย หมายรอ ก่อรักใหม่..........................เปลี่ยนตามใจ ไม่ซื่อ ถือคดฉล
คอยชม้าย ชายตา มองหาคน...........................ถูกกระมล สนเท่ห์ ทุ่มเทใจ

๏    ต่อให้แต่ง งานแล้ว ใช่แคล้วคลาด..................ทำอุจาด บัดสี เสียนิสัย
ต่อให้มี ลูกแล้ว ใช่แคล้วไคล............................อ้างเข้ากัน ไม่ได้ แยกย้ายทาง

๏    พบเห็นข่าว อาชญากรรม เพราะความรัก...........เพิ่มขึ้นนัก ชักกังวล คนหรือสาง?
เลิกกันง่าย คล้ายรส-สี ที่จืดจาง.........................ฆ่ากันง่าย คล้ายวายวาง แตกต่างคน

๏    ตราบศีลธรรม มิดำรง คงวิปลาส......................ด้วยอำนาจ ราคี ฤดีฉล
เมื่อหัวใจ ไม่อายอับ ทำสัปดน...........................สังคมคง สับสน วนวุ่นวาย

๏    ชีวิตรัก ชักไม่ใช่ ไฉไลสิ่ง...............................มองความจริง อิงสัจ จัดเป้าหมาย
ความคลาดคลา คู่ครอง ตรองบั้นปลาย................อาจพ้นทุกข์ สุขสบาย มิร้ายเลยฯ

๑๙ เมษายน ๒๕๖๐

วันอังคารที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2560

มิติชีวิต..ปริมาณและคุณภาพ : บทความคติชีวิต




มิติชีวิต..ปริมาณและคุณภาพ : บทความคติชีวิต

    หากเปรียบเสมือนการผลิตสินค้า
    ที่เน้นให้ได้จำนวนมากๆ เพื่อจะมียอดการผลิต-จำหน่ายมากๆ แต่คุณภาพของสินค้าไม่สนใจ
    การดำเนินชีวิตของบางคนก็มีลักษณะเช่นนั้น
    มุ่งเน้นที่มิติด้านปริมาณ แต่ไม่ใส่ใจในคุณภาพของชีวิต
    คนส่วนใหญ่ยังเรียกด้านปริมาณเหล่านี้ ว่าเป็นคุณภาพของชีวิตด้วยซ้ำไป

    อย่างเช่นเรื่องอาหารการกิน
    เป็นปกติที่จะเห็นเด็กทานขนมกรุบกรอบ ผู้ใหญ่ชอบทานอาหารขยะ เพราะมีรสชาติอร่อย ดูเท่ห์-ทันสมัย ดูมีฐานะ แต่คุณค่าทางโภชนาการไม่ค่อยจะมี
    ทานอาหารตามใจปาก ทานเพื่อความอร่อย เพื่อความสุข จนกระทั่งทานมากเกินไป
    ไม่เพียงไม่สร้างประโยชน์ แต่ยังเป็นโทษต่อสุขภาพร่างกาย ทำให้ขาดสารอาหารและเป็นบ่อเกิดแห่งโรคหลายๆโรค
    คนที่ใส่ใจในสุขภาพ จะพิจารณาถึงคุณค่าทางโภชนาการที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ให้เหมาะสมสอดคล้องกับกิจกรรมที่ทำ คำนึงถึงความสะอาดถูกสุขอนามัย ไม่ใช่ความอร่อย ค่านิยมหรือภาพลักษณะทางสังคม
   
    เรื่องการรักษาความงามของรูปกายและใบหน้า
    คนมากมายไม่สนใจในโภชนาการอย่างที่เล่ามา ทำให้อ้วน มีไขมันสะสมฯลฯ
    แล้วจึงมารักษารูปร่างด้วยการอดอาหาร ทานอาหารเสริมตามที่เห็นโฆษณาฯลฯ แทนที่จะเป็นการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญอาหารส่วนเกิน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
    การใช้เครื่องสำอางเป็นสิ่งที่นิยมแพร่หลาย จนแทบจะกลายเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ชีวิต แม้กระทั่งกับผู้ชาย
    การศัลยกรรมปรับเปลี่ยนใบหน้า-รูปร่าง ก็กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้วในทุกวันนี้
    แต่วิธีเสริมความงาม อันเกิดจากความมีสุขภาพดี ไม่ค่อยได้รับการเหลียวแล
    ทั้งๆที่ปัจจัยสำคัญต่อความงดงามของร่างกาย มาจากสุขภาพที่ดี ประกอบกับการบริโภคที่มีโภชนาการครบถ้วนสมบูรณ์ ออกกำลังกายอย่างพอดี มีการพักผ่อนหลับนอนที่เพียงพอ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีมลภาวะ
    ความมีคุณธรรม-ศีลธรรม มีจิตใจที่โอบอ้อมอารี มีเมตตา สามารถส่งผลต่อความงามของคนได้ และเห็นได้อย่างชัดเจน
    คนมีศีลธรรม จะมีบุคลิกลักษณะ ผิวพรรณที่ดีได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องสำอางใดๆเลยด้วยซ้ำ เป็นความงดงามจากภายในจิตใจ ที่แผ่ขยายออกมาสู่ร่างกายภายนอก
    แต่เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ยาก ในโลกของความเร่งรีบ-แข่งขัน ในสังคมของคนที่มีแต่ความอยาก-ความโลภมากมายไม่สิ้นสุด

    เรื่องการออกกำลังกายก็เหมือนกัน
    คนหนุ่มสาวที่ออกกำลังกายส่วนใหญ่ จะมุ่งความสวยงามเป็นหลัก สุขภาพเป็นรอง
    เน้นรูปร่างไม่ใช่ความแข็งแรงของอวัยวะภายใน
    ผู้ใหญ่มีไม่น้อยเลยที่เล่นกีฬาเพื่อความเท่ห์ เพื่อให้ได้รับการยอมรับในสังคม แต่ประโยชน์ต่อสุขภาพแทบไม่มี เล่นกีฬาเพื่อสังสรรค์ในหมู่เพื่อนฝูง
    คนเหล่านี้ชอบเที่ยวกลางคืน เที่ยวตามสถานบันเทิงแหล่งเริงรมย์ มีอาหาร-เหล้า-เบียร์ ให้ความรื่นรมย์  
    การกระทำเช่นนี้จะมีค่าใช้จ่ายมาก แต่สุขภาพไม่ค่อยจะได้
    คนเหล่านี้พอมีครอบครัว มีอายุมากขึ้น ก็เลิกออกกำลังกายไปแทบทั้งหมด
    วิธีรักษาสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายมากเสมอไป
    การทำงานบ้านก็ช่วยออกกำลังกายได้ การมีรองเท้าคู่เดียวแล้วไปวิ่งเหยาะๆ ก็ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงได้เป็นอย่างดี ประหยัดเวลาและมีโอกาสังสรรค์กับคนที่ชอบวิ่งเหมือนกัน เป็นต้น
    คนเราควรออกกำลังกายไปตลอดชีวิต เพราะธรรมชาติของร่างกายจะอ่อนแอ-มีโรคภัยเบียดเบียนเมื่อไม่ออกกำลังกาย

    การหาความบันเทิง
    ดูจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คนจะหาความบันเทิงด้วยการเดินทางไปท่องเที่ยว ได้ไปใช้จ่าย-ช้อปปิ้ง โดยเฉพาะในต่างประเทศ เห่อของนอก
    และดูจะเป็นความภาคภูมิใจ ที่จะเอามาอวดใครต่อใครว่าได้ไปเที่ยวหลายแห่งในหลายประเทศ บางคนถึงกับเก็บเป็นสถิติไว้เลยทีเดียว เสมือนว่าเป็นรางวัลของการมีชีวิต
    บางคนทำงานหาเงินทั้งปี เพื่อจะได้ไปเที่ยวต่างประเทศไม่กี่วัน เที่ยวกลับมาก็มาก้มหน้าก้มตาหาเงินเพื่อจะได้ไปเที่ยวใหม่
    บางคนถึงกับยอมเป็นหนี้ เพื่อจะได้มีสินค้าแบลนด์เนม
    ส่วนหนึ่งของคนพวกนี้ ก็คือคนที่ชอบรณรงค์เรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สภาวะโลกร้อน
    โดยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่า การเดินทางต้องใช้ยานพาหนะ ยานพาหนะต้องใช้เชื้อเพลิง เชื้อเพลิงที่ถูกเผาผลาญก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมและโลก
    การบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือย ล้วนต่างต้องแลกด้วยการทำลายทรัพยากรจากธรรมชาติ เพิ่มขยะให้กับโลก และเพิ่มสภาวะโลกร้อน
    เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นทุกวันกับชีวิตที่เน้นปริมาณ ไม่ใช่คุณภาพ

    การหาคู่ครอง-คู่ชีวิต
    ก็มีทั้งปริมาณและคุณภาพมาเกี่ยวข้อง
    เป็นค่านิยมของคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนทันสมัย ด้วยการคบคนเป็นคู่ครองโดยไม่ต้องแต่งงาน ไม่สนใจจะสร้างครอบครัว
    พบเห็นมากขึ้นเรื่อยๆกับคนหนุ่มคนสาว ทั้งวัยเรียนและวัยทำงาน เพื่อตอบสนองความสุขทางเพศ ความอยากมีแฟน
    ส่วนใหญ่จะมุ่งหาคู่ครองที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม มีฐานะดี โดยที่ไม่สนใจนิสัยใจคอ-ความประพฤติ
    การครองคู่เช่นนี้มักมีวาระสั้นๆไม่ยั่งยืน จบลงด้วยการเลิกราและหาใหม่
    เพราะรูปร่างหน้าตา-ฐานะ เป็นเพียงเปลือกนอกของคน 
    ความนึกคิด ค่านิยม อุปนิสัยใจคอฯลฯ ต่างหากที่เป็นแก่น-เป็นตัวตนของคนที่แท้จริง
    รูปร่างหน้าตาย่อมเสื่อมไปอย่างรวดเร็วตามอายุและกิจกรรม
    บางคนตอนเริ่มคบกันก็เสแสร้ง-ปกปิดนิสัยที่แท้จริง เพียรเอาอกเอาใจเพื่อให้คนที่ตนสนใจรักใคร่ชอบพอ
    เมื่อได้ครองคู่สมใจก็ทำตัวตามใจชอบ ตามนิสัยที่แท้จริง
    ก่อให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง แยกทางกันไป ทิ้งปัญหาเด็กที่พ่อแม่แยกทางกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในสังคม
    จึงเป็นการดำเนินวิถีที่มีแต่ปริมาณ ไม่มีคุณภาพ

    เรื่องการทำบุญทำกุศล
    คนที่ได้ยินคำนี้ มักคิดถึงการบริจาคทรัพย์สิน เพราะเป็นสิ่งที่เคยชินและสืบต่อมาอย่างยาวนาน
    คนเหล่านี้ไม่สนใจจะศึกษาคำสอนของศาสนา(พุทธ) เอาแต่ฟังคำเขาเล่าว่าแล้วก็ทำตามๆกันไป
    จึงมีกิจกรรมส่งเสริมกิจกรรมไหว้พระ 9 วัด ฯลฯ เพิ่มการใช้จ่าย-กระตุ้นเศรษฐกิจของชาติ(ซึ่งเป็นคนละเรื่อง)
    คนทำก็คิดว่า ทำแค่นี้ได้บุญกุศลมากมาย หมดเคราะห์หมดโศก-ได้ไปสวรรค์แล้ว เพราะเชื่อเช่นนั้น
    ส่วนคนที่มีความคิด จะศึกษาหาความรู้จากคำสอนจากคัมภีร์ทางศาสนา ตรวจสอบหาความจริงจากประสบการณ์
    การทำบุญแบ่งเป็น ทาน ศีล ภาวนา
    การให้ทาน ทำง่ายที่สุด มีผลน้อยที่สุด
    การรักษาศีล ทำยากกว่า มีผลมากกว่า
    และการภาวนา-อบรมจิตใจให้บริสุทธิ์ปราศจากมลทิน ทำยากที่สุด แต่เป็นบุญเป็นกุศลที่ทำให้คนพ้นจากสภาวะสัตว์และความเป็นปุถุชน
    การให้ทาน รักษาศีล และบำเพ็ญภาวนา
    เป็นกิจวัตรปกติของผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจที่ถ่องแท้ ในพระธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา

    เป้าหมายชีวิตที่คุ้นเคยกันในหมู่มนุษย์
    คือ ความร่ำรวยด้วยทรัพย์สิน มีที่อยู่-เครื่องใช้ที่ทันสมัยสะดวกสบาย มีเกียรติยศชื่อเสียง มีคนนับหน้าถือตา มีตำแหน่งใหญ่โต มีอำนาจอิทธิพล ฯลฯ
    ไม่แปลกอะไรที่จะพบเห็นการแสวงหามาด้วยวิธีการอันชั่วฉล เพราะทรัพยากรเหล่านี้มีน้อยและต้องขันแข่งแก่งแย่งกัน
    คนแทบทั้งหมดจะคิดว่านี่คือสิ่งที่สร้างความสุข-ความสำเร็จให้ชีวิต และคนที่คิดแบบนี้มักจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวเป็นส่วนใหญ่ ทำอะไรๆเพื่อประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น
    เป็นมิติของปริมาณ ไม่ใช่คุณภาพของชีวิต

    ความสมหวัง-ความสำเร็จของชีวิตขึ้นอยู่กับการตั้งเป้าหมาย
    คนที่มีความคิดดี จะแสวงหาทรัพย์สินเพื่อการดำรงชีวิตที่สุขสบาย การแสวงหาทรัพย์สินเพื่อให้มีฐานะที่มั่นคง ไม่ใช่เพื่อความอวดร่ำอวดรวย อวดมั่งอวดมี เพราะไม่มีความจำเป็น
    การประสบความสำเร็จจากคุณงามความดี-ความรู้-ความสามารถ ย่อมนำมาซึ่งเกียรติยศชื่อเสียง โดยไม่ต้องแสวงหาอยู่แล้ว
    การมีตำแหน่งใหญ่โตที่อาศัยเส้นสาย การเลียแข้งเลียขาผู้มีอำนาจ ไม่ใช่ความภาคภูมิใจของคนที่ภาคภูมิใจในตัวเอง
    การมีอำนาจอิทธิพลเหนือคนอื่น มักถูกใช้เป็นเครื่องมือเบียดเบียนผู้อื่น-สร้างบาปอกุศล เพื่อหาประโยชน์ส่วนตน จึงเป็นอะไรที่ไร้สาระมาก

    การเกิดมาแล้วใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์ต่อคนหมู่มากได้ ไม่ใช่เพียงแค่ชีวิตตัวเอง
    จึงเป็นชีวิตของคนที่เกิดมามีคุณภาพมากที่สุด
    ตัวเองไม่เดือดร้อน ครอบครัวสุขสบาย สังคมมีความสันติสุข เป็นเป้าหมายที่ไม่ใช่แค่เรื่องในอุดมคติ 
    หากแต่ทำให้เป็นจริงได้ ด้วยความมุ่งมั่นและอุตสาหพยายาม

    ความมีสติปัญญา วัดกันที่ความมีจิตสำนึก-ความคิดอ่าน 
    ไม่ใช่แค่ความเฉลียวฉลาดมีไหวพริบเหนือคนอื่น หรือเอารัดเอาเปรียบคนอื่น

    มิติของชีวิตที่วัดกัน
    จึงแบ่งแยกเป็นด้านปริมาณและด้านคุณภาพ
    คนมากมายสนใจเพียงแค่ด้านปริมาณ คนส่วนน้อยเน้นที่คุณภาพ
    บางคนอยากประสบความสำเร็จทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ แต่ที่จะทำได้น่าจะมีไม่กี่คน
    เพราะคนส่วนใหญ่ในโลกเป็นคนยากจน ไร้เกียรติยศชื่อเสียง ปราศจากตำแหน่งหน้าที่การงานมั่นคง
    ชีวิตของคนส่วนใหญ่ จึงเป็นชีวิตที่ขาดทั้งปริมาณและคุณภาพ

๑๘ เมษายน ๒๕๖๐

วันจันทร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2560

วันสงกรานต์ วันสงคราม? : กลอนเจ็ด



วันสงกรานต์ วันสงคราม? : กลอนเจ็ด

    เคยเล่น สงกรานต์ วารวัยรุ่น...................เคยคุ้น สาดน้ำ ความสุขผอง
เคยชอบ เสียงเพลง เร่งทำนอง..................แป้งดิน สอพอง สองแก้มพราว

    จนมี ขี้เมา มุ่งฉาวหมาย.........................ลูบคลำ ร่างกาย ใคร่สาวๆ
บรรดา ขาโจ๋ ชอบโชว์พาว(power).............ตี-ฟัน(ยิง) กันราว เกมกีฬา

    สงกรานต์ อันตราย สายตาเห็น.................เริ่มเป็น วันสนอง ผองคนบ้า
พวกมี กิเลส เจตน์มารยา...........................ออกมา ปล่อยผี ราคีพล

    ผู้แก่ ผู้เฒ่า ก็เอาด้วย.............................เหมือนช่วย ขยาย เครือข่ายฉล
สมัยก่อน มีแต่ แค่เยาวชน.........................สาละวน สาดน้ำ ชื่นฉ่ำใจ

    บ่อยาก เรียกว่า วันสงกรานต์..................สงสาร โบราณ กาลสมัย
ขอเรียก (วัน)สงคราม ทรามพฤตินัย...........ชาติไทย พินาศ วัฒนธรรม

    สงกรานต์ วันนี้ ขอลี้หลบ.........................นอนสงบ ในบ้าน มานชื่นฉ่ำ
ไม่ต้อง ตากแดด แผดตัวดำ........................ไม่ทำ ชีวาตม์ ประมาทมี

    ความสนุก สุขสม อารมณ์คิด.....................(สามารถ)เลือกกิจ เลือกกรรม งามวิถี
ไม่ต้อง ข้องทราม ความราคี.........................ไม่เสี่ยง ชีวี (ความสุข-สนุก)มีมากพอ

    ศิลปะ หัตถกรรม=ความบันเทิง..................รื่นเริง ประเพณี ที่ดีหนอ
อย่านำ ความเสื่อม มาเชื่อมต่อ......................อย่าก่อ อกุศล อัปมงคลเลยฯ

๑๗ เมษายน ๒๕๖๐

วันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2560

Best Family Movie - Mom's meal (媽媽做的飯)

ชีวีนี้...ยาก : กลอนคติชีวิต

ภาพข่าว : 

               เกาหลีเหนือล็อกเป้ายิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพสหรัฐฯ ในแปซิฟิก-ทำเนียบ ปธน.โสมขาว หากถูกกองเรือจู่โจมรุกราน



ชีวีนี้...ยาก : กลอนคติชีวิต

    เกิดมา บนโลก ใบนี้........................ชีวี ช่างยาก ลำบาก
เยาว์วัย โรคภัย ก็มาก.........................ฉุดกระชาก เด็กไคล หลายคน

    เบื่อไป โรงเรียน เพียรวิชา.................ศึกษา ยากต้อง ท่องบ่น
ยังไม่ เท่าการ ประจญ.........................ขัดสน สอบเข้า เล่าเรียน

    จบมา หางาน การทำ........................ตรากตรำ ลำบาก ลากเศียร
สร้างฐา นะดี วิเชียร.............................หวังเปลี่ยน เป็นสุข ปลูกสบาย

    หาคู่ ดูยิ่ง ลำบาก.............................ผู้คน ล้นหลาก มากหลาย
แต่(คน)ดี มีน้อย คอยวุ่นวาย..................(ขืน)มักง่าย (จะ)ทำลาย ครอบครัว

    ยากนัก จักได้ ครอบครอง...................ผู้สนอง ชีวี มิชั่ว
ไม่เป็น คนเห็น แก่ตัว............................เมามัว ทุจริต จิตทราม

    มีลูก ผูกบ่วง ห่วงรัด...........................โลกทัศน์ ปัจจุบัน ลานหลาม
สิ่งแวด ล้อมเลว ลุกลาม.........................สร้างความ ลำบาก ยากเย็น

    กลัวลูก เสียคน ผจญเภท.....................อุบัติเหตุ อาชญา หนาเห็น
สังคม ล้มป่วย ด้วยเป็น...........................สาปเร้น สันติ นิรามัย

    สงคราม ทำท่า ว่าใกล้เกิด....................ละเมิด(ข้อตกลง) สะสม อาวุธใหญ่
ต่างฝ่าย ต่างไม่ เกรงใคร.........................อาจใช้ อาวุธ อะตอม(ระเบิดนิวเคลียร์)

    มองภาพ กว้างๆ ยังยาก........................ลำบาก มากมาย รายล้อม
(ยังมี)แก่-เจ็บ-ป่วย-ตาย ไม่ยอม...............ปล่อยใคร กรายกรอม ตรอมตรมฯ

๑๖ เมษายน ๒๕๖๐