พลานุภาพของคนดี :
กลอนจรรโลงใจ
๏ พวงดอกคูณ พูนผลิ
เพิ่มสีสวย.....................หน้าบ้านงาม สำรวย รับเมษาฯ
ใบจรุง
มุงบัง รังสิ์สุริยา................................ยลเย็นตา เย็นใจ
ใสสะคราญ(รังสิ=แสงสว่าง)
๏ มิได้เกิด ขึ้นเอง
ตามธรรมชาติ....................แค่เจ้าของ(บ้าน)ตรองมาด พิลาสขาน
ดัดกิ่งแผ่ ขนานดิน
จินตนาการ......................อุตสาหะ บริบาล นมนานปี
๏ เช่นบรรดา สาธุชน
กุศลจิต.........................ครองชีวิต คิดเลิศ ประเสริฐศรี
เลือกก่อกรรม
ตามครรลอง คลองความดี.........ไม่ใช่ทำ ตามพิธี-วัฒนธรรม
๏ เชื่อถือกฎ แห่งกรรม
อำนวยผล....................มิเห็นแต่ แก่ตน กระมลล้ำ
มีมนัส ศรัทธา
หลักคุณธรรม..........................(ว่า)สามารถนำ ข้ามทุกข์ (สร้าง)สุขสบาย
๏ เล็งเห็นสัจ ปัจจัย
วิสัยโลกย์........................มีเศร้าโศก-ทุกข์-ทราม-ความเสียหายฯลฯ
เพราะสาเหตุ เจตคน
ทุรนทุราย......................ส้องขวนขวาย สถิต ผิดศีลธรรม
๏ คนหนึ่งคน ดลดาล
สามานย์ถ่อย..................คนเป็นร้อย พลอยวิตก โศกระส่ำ
คนครึ่งหล้า สาธารณ์ พาลระยำ.......................โลกทั้งโลก (ย่อม)ตกระกำ ตามยากเย็น
๏ คนหนึ่งคน ทำดี
จะนิรมิต............................คนอีกร้อย มีชีวิต สุขจิตเห็น
คนครึ่งโลก ตกลงใจ
สาไถยเร้น......................โลกกลับกลาย คล้ายเป็น เช่นพิมาน
๏ พลานุภาพ ของคนดี
ที่ปรากฏ.....................งามหมดจด สวเวทย์ วิเศษศานติ์
(สว-=ของตน,เวทย์=พึงรู้)
ความดียัง พรั่งแผ่
แด่สาธารณ์........................ให้สำราญ พานสุข สิ้นทุกข์เอยฯ
๕ เมษายน ๒๕๖๐
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น