ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561

ระเบียบชีวิตระเบียบจิตใจ : กลอนคติสอนใจ



ระเบียบชีวิตระเบียบจิตใจ : กลอนคติสอนใจ

    จัดระเบียบ ความคิด จิตใจส่อง......................ถูกครรลอง คลองธรรม ความกุศล
อยู่ในลู่ อยู่ในทาง กลางกระมล........................ลดอัตตา ตัวตน จนมลาย

    หยุดคิดตาม อำเภอใจ ฝ่ายกิเลส...................หยุดต้นเหตุ ตัณหา หิวกระหาย
ระงับความ ดิ้นรน ทุรนทุราย............................สืบสันติ สุขสบาย ไร้อาดุร

    กุศลจิต กฤษฎา กรรมประกอบ......................เบิกวิถี ดี-ชอบ ครอบคลุมหนุน(กฤษฎา=ที่ทำแล้ว)
บริสุทธิ์ สะอาด สมมาตรคุณ............................มิเปื้อนฝุ่น ธุลี ราคีครอง

    คอยขจัด ความขัดสน กระมลเกิด...................เพื่อมุ่งหน้า ทางประเสริฐ พราวเพริศผ่อง
สิ่งชั่วร้าย ต่ำทราม เลิกลำพอง.........................ตั้งอุรา ตอบสนอง รุ่งรองเรือง

    มุ่งจุดหมาย ปลายทาง สว่างสุก.....................สลัดทุกข์ กังวล ปะปนเปลื้อง
ศรัทธาสิ่ง ที่ถูกต้อง ป้องประเทือง....................มิวายวุ่น ขุ่นเคือง เรื่องระคาย

    ทรัพยา กรใช้ ให้ประสิทธิ์.............................เกื้อประโยชน์ แก่ชีวิต นิมิตหมาย
ไร้สาระ ค่านิยม โง่งมงาย................................มิประสงค์ หลงใหล ไคลใคร่ครวญ

    อุตสาหะ รดี ปฏิญาณ..................................กุศลา สมาทาน มิผันผวน
บ่พ่ายแพ้ แลประวิง สิ่งยั่วยวน..........................ที่ชักชวน หวนเห เรรวนมาน

    สิมุ่งมาด สัจจะ สู่เป้าประสงค์........................พยายาม ธำรง องอาจหาญ
(อด)ทนจนกว่า จะบรรลุ อุดมการณ์...................ที่สูงส่ง วรงค์ปาน วิมานเอยฯ

๓๐ กันยายน ๒๕๖๑

วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2561

"อีดอก" : กลอนสะท้อนสังคม




"อีดอก" : กลอนสะท้อนสังคม


    (เห็น)สาวๆทัก เพื่อนซี้ ว่า"อีดอก"......................แสดงออก ถึงจิตใจ ไม่ประสา
ความหมายที่ "อีดอก" บอกเล่ามา........................มึงโดนด่า หาใช่ ให้ยินดี

    เพลง"ไก่ย่าง ถูกเผา" เอามาเต้น........................มาร้องเล่น เช่นคนบ้า น่าบัดสี
แสดงท่า สกปรก รกราคี.....................................คนอัปรีย์ คิดขึ้น เพราะหื่นกาม

    มีความรัก นักเรียน เพียรครองคู่..........................คบสมสู่ แม้ผู้ใหญ่ ให้หักห้าม
จนต้องสอน เพศศึกษา พยายาม..........................กลับเป็นความ เคยชิน ราคินไป

    มีกระทั่ง ตั้งท้อง กลางห้องเรียน.........................หลงพากเพียร อัพเดต เฟสบุ้คไว้
อวดตั้งท้อง-ผัว-ลูก เหมือนถูกใจ..........................มีคนโง่ โผล่ไลค์ ให้คำชมฯลฯ

    จะว่าขาด คนแนะนำ คุณธรรมหรือ?.....................ความใสซื่อ คือเหตุผล (ให้)คนสั่งสม
ความอุบาทว์ ขาดวิจารณญาณ พาลโง่งม...............เป็นกระแส สังคม นิยมยอม

    จะโทษเด็ก ฝ่ายเดียว ก็ไม่ได้............................เพราะผู้ใหญ่ (ก็)ไร้ศีลธรรม งามถนอม
พฤติกรรม กระดำกระด่าง ต่างงมงอม.....................(สร้าง)สิ่งแวดล้อม ซอมซ่อ ฉ้อฉลมี

    หนักกว่านั้น ดันอ้าง ฝรั่งเขา..............................ให้เด็กๆ ของเรา เอาเยี่ยงนี้
ยกเป็นหลัก สากล สัปดนฤดี................................สนับหนุน(ว่า) คือวิถี ที่ดีงาม

    ปลุกสัญชาต (ตะ)ญาณ เป็นคันฉ่อง....................สิ่งถูกต้อง คล้องสัจ อย่าขาด-ห้าม
ไม่ต้องมี ศาสนา คติความ...................................มากำกับ ปราบทราม ปรามกระมล

    (อ้างว่า)เดี๋ยวจะสร้าง ความเครียด ให้กับเด็ก........ปิดกั้น(ความ)สร้าง สรรค์เสก ปัจเจกหนฯลฯ
เด็กรุ่นใหม่ สมัยนี้ จึงพิกล...................................เป็นเหมือนคน ปนสัตว์ ไป่พัฒนาฯ

๒๙ กันยายน ๒๕๖๑

วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2561

นิคมดาวอังคาร : กาพย์สุรางคนางค์๒๘




นิคมดาวอังคาร : กาพย์สุรางคนางค์๒๘

    ......................................ปลานฝน ต้นหนาว
ช่างร้อน อบอ้าว....................ราวกับ เมษาฯ
ยามเมื่อ คคนางค์..................ร้างเร่ เมฆา
แสงสุ ริยา...........................ย่อมถา ทำรน

    ......................................เมื่อไม่ มีป่า
ให้ร่ม พารา..........................ทรมาน์ คือผล(ลัพธ์)
ธรรมชาติ สมดุล....................สาบสุญ เพราะคน
นรา จึงผจญ.........................อุบัติผล เภทภัย

    .......................................มิรัก ษาโลก
รอคอย แค่โชค......................วาสนา ฝันใฝ่
อุตสา หกรรม........................กสิกรรม อำไพ
โดยมิ ใส่ใจ...........................ธรรมชาติไร้ ได้ฤา?

    ........................................นิคม ดาวอังคาร
ทะเยอ ทะยาน.......................โครงการ สำคัญถือ
เรื่องไม่ เป็นเรื่อง....................ฟุ้งเฟื่อง เลื่องลือ
ปรารถนา ระบือ......................ชื่อเสียง เกรียงไกร

    ........................................ทรัพยากร ขับเคลื่อน
โครงการ เลอะเลือน................เอามา จากไหน?
ทำลาย ธรรมชาติ....................โลกธาตุ นั่นไง
เร่งวัน บรรลัย.........................ให้พื้น พสุธาฯ

๒๘ กันยายน ๒๕๖๑

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2561

ความห่างเหินของหัวใจ : กาพย์ฉบัง๑๖



ความห่างเหินของหัวใจ : กาพย์ฉบัง๑๖

    นกเอี้ยงเพรียงร้องพ้องพันธุ์....................สอดรับสลับกัน
ตั้งแต่เริ่มกาลตีสี่

    นกฮูกกลับไม่ใยดี...................เงียบเสียงทันที
เหมือนไม่(อยาก)มีปฏิสัมพันธ์

    ท่ามกลางพฤกษาพนาสัณฑ์....................มากมีชีวัน
รอสุริยันอโณทัย

    ความห่างเหินของหัวใจ.................(เป็น)เหตุผลดลให้
มลายสัมพันธ์อันดี

    ไม่เลือกเพื่อนพ้องน้องพี่..................ภริยาสามี
บิดามารดรไม่ผ่อนผัน

    ทำให้ไม่ไว้ใจกัน.................ขาดความเชื่อมั่น
ต่างคิดต่างขันฝันใฝ่

    ยามมิหลงเหลือเยื่อใย...................ก่อกรรม์อันใด
ก็ไร้ความปรารถนาดี

    ทำตนเยี่ยงคนไม่มี..................น้ำใจไมตรี
พูดจาพาทีมิเมตตา

    ถูกใครทำเช่นเย็นชา....................อย่ามัวเสียเวลา
ร่ำหาอาลัยให้หยัน

    ตราบเท่าที่มีชีวัน..................(จง)ให้ความสำคัญ
กับการรักษาดวงหทัย

    หมดจดสดศรีนิรามัย..................เรื่องมิได้ดั่งใจ
ก็ไม่ทุกข์ร้อนผ่อนผันเทอญฯ

๒๗ กันยายน ๒๕๖๑

วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2561

ตัวใครตัวมัน? : กาพย์ยานี๑๑










ตัวใครตัวมัน? : กาพย์ยานี๑๑

    ป้ายเตือน เหมือนตอกย้ำ......................อาชญากรรม ค้ำสมัย
จิตตั้ง ระวังระไว....................................สังคมไทย ไร้สวัสดี

    หลากคน สนใจคิด..............................(สา)เหตุวิปริต ผิดวิถี
เมืองไทย ทำไมมี.................................ครองสถิติ(โลก) ไม่ดีงาม?

    ร่ำลือ คือเมืองพุทธ.............................(แต่)ไสยศาสตร์สุด รุดหน้าหลาม
ธรรมวินัย มิให้ความ..............................สำคัญกว่า อัตตาตน

    คนไทย ใครว่าเชื่อ..............................ศรัทธาเกื้อ กฎ(แห่ง)กรรมผล?
เหตุไฉน ให้ดิ้นรน.................................รดน้ำมนตร์ ล้างเคราะห์กรรม?

    (ทำ)ตามใจ หรือไทยแท้......................มิเหลียวแล รักษ์อุปถัมภ์
ความดี มีศีลธรรม.................................(ล่วง)ล้ำละเมิด ระเบียบวินัย

    (เมื่อ)อกุศล ดลความคิด......................ย่อมทุจริต จิตสาไถย
ถึงมี หน้าที่ใด......................................ก็ไม่คิด สุจริตครวญ

    พารา ปานป่าเถื่อน..............................ป้ายคำเตือน บอกเล่าถ้วน
ยุติธรรม แค่สำนวน................................มิชวนเชื่อ เหลือระอา

    คล้าย(บอกว่า)"ตัว ใครตัวมัน".............วิธีการ แก้ปัญหา?
สารพัด อาชญา.....................................ที่พึ่งพา หายากเอยฯ

๒๖ กันยายน ๒๕๖๑

วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2561

สร้างภาพ : กลอนคติเตือนใจ




สร้างภาพ : กลอนคติเตือนใจ

    มวลอา กาศเย็น.......................(เลื่อน)ลงมาเล่น กับอา กาศชื้น
ณ ยาม ค่ำคืน...........................กลมกลืน กลั่นเป็น หยาดฝน
ไหลหลั่ง รดริน.........................แผ่นดิน พสุ ธาดล(พสุธาดล=พื้นแผ่นดิน)
สดชื่น รื่นชล............................ปลายฝน ต้นหนาว คราวครา

    รุ่งอรุ โณทัย...........................ที่ไร้ สุรีย์ ศรีส่อง
เมฆี ปรี่ครอง............................อุ้มน้ำ ฉ่ำนอง ท้องฟ้า
โปรยปราย ไม่หยุด....................ประดุจ ประดิษฐ์คำ ร่ำลา
พิลาส วรรษา............................ใกล้กาล เวลา จรจรัล(จรจรัล=เดินไป)

    วัฏจักร ธรรมชาติ......................สามารถ คาดได้ ไม่เก้อ
ประสบการณ์ พานเจอ.................เสมอๆ มิแปรผัน
ยิ่งมี ข้อมูล...............................ยิ่งกูล เกื้อกิจ สัมพันธ์
พยา กรณ์กัน.............................หลายวัน ล่วงหน้า สาธยาย

    ก็เหมือน พฤติกรรม...................คนทำ ประจำ บำเพ็ญ
ความคิด อ่าน(ความ)เห็น.............เป็นเหตุ แห่งผล ต้นสาย
สามารถ คาดเดา........................รู้เท่า ทันคน กลอุบาย
ดี-ชอบ-ชั่วร้าย...........................คล้ายๆ นิสัย สันดาน

    วันดี คืนดี................................ทำสิ่งที่ แปลกหู แปลกตา
ย่อมถูก กังขา.............................ไม่ศรัทธา เชื่อถือ คือคำขาน
(การ)คบค้า สมาคม.....................อย่าฟัง (แค่)คารม คมคราญ
ธรรมชาติ ผองพาล......................ชอบการ สร้างภาพ ฉาบหน้าเอยฯ

๒๕ กันยายน ๒๕๖๑

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2561

พัฒนาความดีให้ดียิ่งขึ้น : โคลงสี่สุภาพ


พัฒนาความดีให้ดียิ่งขึ้น : โคลงสี่สุภาพ

๑. คนเราย่อมอยากพริ้ง..........................ประไพ
ยลดูสวยตลอดไป............................ยิ่งล้ำ
แต่สังขารเสื่อมวัย............................ตามสัจ
นับวันปราดเพลี่ยงพล้ำ......................ก้าวสู่กลชราฯ

๒. รักษาจิตใจให้...................................สวยงาม
ดูแลขจัดความ.................................ด่างพร้อย
ปัดกวาดสิ่งต่ำทราม..........................สกปรก
เจียน รก จนเรียบร้อย........................เลอล้ำทัศนีย์ฯ

๓. ฤดีอาจเพริศพริ้ง...............................พิไล
คู่กัปกาลนานไกล.............................เกียรติก้อง
โดยความเอาใส่ใจ............................ฝึกหัด
ขัดเกลามลทินข้อง............................ให้สุทธิสัตศรีฯ(สัต=ดี,งาม)

๔. คุณงามความดีคุ้ม..............................ครองจินต์
หลุดรอดบ่วงมลทิน...........................บาปไคล้
พัฒนาเป็นอาจิณ..............................ปฏิบัติ
สามารถตัดกิเลสไร้...........................หลุดพ้นอกุศลมูลฯ

๕. เทิดทูนศรัทธาด้วย.............................หัวใจ
ฝังจิตเป็นนิสัย..................................จวบม้วย
ทุกๆลมหายใจ..................................ตรองตรึก
รำลึกละเมียดด้วย..............................สอดคล้องคลองธรรมฯ

๖. ความดีพัฒนา(ขึ้น)ได้..........................ตลอดกาล
ตราบเท่าดวงวิญญาณ........................ด่าวดิ้น
ยังจิตสุกสะคราญ..............................สะอาด
พิลาสอยู่ไม่สิ้น.................................ไป่ร้างรัมณีย์ฯ(รัมณีย์=รมณีย์)

๗. ทำดียิ่งขึ้นๆ......................................พยายาม
เห็นผลของดีงาม...............................พรั่งแพร้ว
ใครทำใครพบความ............................สุขสงบ
ประสบทวยทุกข์แคล้ว.........................รอดพ้นบาต อบายฯ(บาต=ตก,ตกไป)

๒๔ กันยายน ๒๕๖๑

วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2561

เดินมาถูกทาง : กาพย์ยานี๑๑




เดินมาถูกทาง : กาพย์ยานี๑๑


    ดั่งคน เดินขึ้นเขา................................ตั้งแต่เช้า จนพลบค่ำ
มองย้อน บทจรย้ำ.................................ความสำเร็จ ขอบเขตดู

    ฝึกตน จนมาถึง...................................ณ วันหนึ่ง พึงรับรู้
จุดที่ วันนี้อยู่........................................ดูห่างไกล ในก่อนกาล

    ความคิด พิศพิเคราะห์...........................ช่างเหมาะเจาะ ต่อมาตรฐาน
ศีลธรรม เชี่ยวชำนาญ.............................คิดอ่านคล่อง ครรลองเธียร

    ถูก-ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี...............................สำนึกมี สิระเสถียร
จิตใจ ไม่แปรเปลี่ยน...............................เวียนไปสู่ อกุศล

    พูดจา ปสาทะ.....................................มิระราน พาลผู้คน
พาที มิหลงตน......................................ยกขึ้นข่ม ทับถมใคร

    บ่เฟ้น เห็นแก่ตัว..................................ละอาย-กลัว ชั่ว-สาไถย
(มีความ)เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ไป.....................โดยไม่หวัง ต่างตอบแทน

    ส่องใน ใจผู้คน....................................ต่างจากตน จนไกลแสน
ความโฉด คงโลดแล่น............................แน่นอุรา มารยามี

    (จึง)รู้ว่า (เดิน)มาถูกทาง.......................สะอาดสะอาง ย่างวิถี(สะอาง=งามสะอาดหมดจด)
เป็นทาง ซึ่งคนดี...................................เท่านั้นที่ เดินผ่านมา

    มิหวัง-ห่วง-กังวล.................................บั้นปลายผล พ้นทุกขา
สัทธรรม สินำพา....................................ประสบสุข สวัสดิเอยฯ

๒๓ กันยายน ๒๕๖๑

วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2561

ความรู้-ความคิดสร้างสรรค์ : กลอนจรรโลงใจ


ความรู้-ความคิดสร้างสรรค์ : กลอนจรรโลงใจ


    ฉันทลักษณ์ ร้อยกรอง ช่ำชองตรึก....................ทรงจำ สำนึก ชาญศึกษา
แต่หาก ขัดสน จนจินตนา(การ)..........................ปัญญา สร้างสรรค์ กันดารฤดี

    สุนทร กลอนไกร (ย่อม)ไม่ปรากฎ.....................อรรถรส อัดอั้น ประพันธ์ศรี
คิดอะไร ไม่ออก ยอกย้อนมี...............................บทกวี มิอาจ เพริศพัฒนา

    อารมณ์ สมงาม ความรู้สึก................................แนบผนึก ลึกล้ำ คำภาษา
รดี บริสุทธิ์ ชุติมา............................................มโนธรรม สัมมา สุทัศไนย(รดี=ความรัก,ความชอบใจ)

    สัจธรรม ความรู้ ประทุแจ้ง................................เสริมแต่ง กานท์กลอน สะท้อนไหว
ความฉลาด ปราดเปรื่อง เรืองฤทัย......................ปัจจัย ร่ายพิบุล คูณค่าคง(พิบุล=กว้างขวาง)

    มากกว่า ความรู้ คือความคิด.............................สร้างสรรค์ ชีวิต สิทธิประสงค์(สิทธิ=ความสำเร็จ)
ความรู้ ไร้ค่า ถ้ายังงง.......................................พิศวง ทรงจิต ติด(ขัด)ใช้งาน

    ถ้าแส่ แค่คิด (แต่)ไร้(ความรู้)ผิด-ชอบ................มิรู้รอบ วิชา จริยฉาน
เป็น(ได้)แค่ ประดิษฐ์ จิตฟุ้งซ่าน.........................ปราศประโยชน์ โจษขาน จรรโลงใคร

    ความคิด มิอาจ ขาดความรู้...............................ความรู้ ชูพิจิตร เพราะคิดไข
หมั่นฝึก ตรึกตรอง ช่ำชองใช้..............................ช่วยให้ โชติช่วง ล่วงจำเริญ

    (ยิ่งถ้า)ปราศจาก ความรู้ ทู่ความคิด....................ชีวิต อิดหนา สาระเขิน
มิต่าง ห่างสัตว์ ดิรัจฉานเกิน...............................ประเชิญ ชีวัน รอการตายฯ

๒๒ กันยายน ๒๕๖๑

วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561

อันตรายรอบตัว : กลอนสะท้อนสังคม









อันตรายรอบตัว : กลอนสะท้อนสังคม

    อยู่บ้านตน ยังโดนฆ่า.....................อุตส่าห์มา เรียนหนังสือ
ถูกรุ่นพี่ อัปรีย์ฮือ.............................ข่มขืนคือ ข่าวอาชญา

    ทำบุญ(ที่่)วัด อาจพานพบ...............เดนบัดซบ สัตว์สิงสา
ใคร่ความหื่น ข่มขืนพา......................ควรรู้ว่า (สังคม)น่ากังวล

    ลูกหลานไทย ในวันที่.....................ภัยเภทพี ทุกแห่งหน
ผู้ปกครอง ต้องเตือนตน.....................สั่งสอน(ลูกหลาน)กล(วิธี) พาพ้นภัย

    (เช่น)ปิดบ้านช่อง ต้องมิดชิด...........อย่าคบคิด คนสาไถย
(คน)หากแปลกหน้า อย่าไว้ใจ.............คนชิดใกล้(ตัว) ไม่ปล่อยวาง

    สิ่งแวดล้อม พรั่งพร้อมสบ................ด้านเลว-ลบ ครบทุกอย่าง
จงอย่าออก นอกลู่ทาง.......................อยู่ให้ห่าง แหล่งอบาย

    ค่านิยม สังคมหลาก........................พาทุกข์ยาก ลากเสียหาย
สิ่งทรามต่ำ อย่ากล้ำกราย...................สิสูญสลาย ความเป็นคน

    รู้จัก ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี........................เลือกวิถี โสภีผล
คอยคิดขบ อบรมกมล........................อิงกุศล จริยธรรม

    จักช่วยพ้น หนทางภัย.....................เป็นเลิศใน โลกใหญ่ล้ำ
อนาคต หมดจดนำ............................สุขสำเร็จ สมเจตนาฯ

๒๑ กันยายน ๒๕๖๑

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2561

การหักห้ามใจ : กาพย์ยานี๑๑



การหักห้ามใจ : กาพย์ยานี๑๑

    การจัก หักห้ามจิต........................(จาก)สิ่่งทรามผิด ให้เห็นผล
จักต้อง ปิดป้องตน..........................เหินห่างพ้น หนทางพาน

    ไม่เห็น ไม่รับฟัง...........................คอยหยุดยั้ง ความคิดอ่าน(ถึงสิ่งผิด)
ไม่ส้อง เสพต้องการ........................ประหัตประหาร ไปจากจินต์

    ตั้งสติ มีสำนึก..............................ความรู้สึก ตรึกถวิล
ห่างไกล ให้เคยชิน..........................ชีวินวัตร ประภัสสรา(ประภัสสร=บริสุทธิ์)

    ปรีดา เปรมปราโมทย์.....................เห็นประโยชน์ มิกังขา
ผลดี พิจารณา................................พร้อมคุณค่า สถาพร

    (แม้)เริ่มต้น ล้นอุปสรรค..................จงแน่นหนัก มิพัก-หย่อน
(ถึงทำ)ผิดพลาด อย่าขาดตอน...........ทบทวนสะท้อน ย้อนบทเรียน

    วิถี ทางพิสิทธิ์...............................ร่ายประดิษฐ์ ลิขิตเขียน
บันทึก รำลึกเธียร.............................หม้่นพากเพียร เพิ่มปรีชา

    (ความ)อดทน ความอดกลั้น.............ช่วยฝ่าฟัน ดันรุดหน้า
มีสิ่ง ที่ศรัทธา..................................ที่พึ่งพา มนัสไกร

    อุตสาห์ อย่าย่อหย่อน......................ปราศจากพร เพื่อ(ทำตัว)เหลวไหล
นอกจาก จะตั้งใจ..............................ใคร่สำเร็จ เสร็จการเอยฯ

๒๐ กันยายน ๒๕๖๑

วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2561

ชีวิตธรรมดาที่ยิ่งใหญ่ : กลอนคติชีวิต



ชีวิตธรรมดาที่ยิ่งใหญ่ : กลอนเปล่า

    ค่ำคืนแขวนเดือนและดาว
นภาพร่างแพรวพราว
ราวประดับด้วยเพชรมณี
ชวนฝันหรรษาสุขี
ในโลกที่มีแต่จินตนาการ

    แสงแรกแห่งอรุโณทัย
กวักมือเรียกให้ชีวัน
ลืมตาตื่นขึ้นจากความฝัน
มาประสบปัจจุบัน
เพื่อมุ่งมั่นสรรสร้างสิ่งดีๆ

    คืนและวันผันเปลี่ยนเร็วไว
มิต่างอย่างไรกับฤดูกาล
บางส่วนของโลกาสถาน
ค่อยๆคืบคลาน
เข้าสู่วิมาน(ฤดู)ใบไม้ร่วง

    สีสันปั้นแต่งธรรมชาติ
สวยสะดุดผุดผาด
วิลาสยิ่งกว่าภาพเขียน
อย่าหลงใหลในสุนทรีของการแปลงเปลี่ยน
จนลืมพากเพียรพัฒนาชีวิน

    น้ำนมมารดายังมีวันแห้งเหือด
เมื่อเลือดเนื้อเชื้อสายพ้นวัยทารก
ทุกชีวิตบนโลก
มีปกติต้องพึ่งพาตน
และพัฒนาจนสามารถดูแลผู้อื่นต่อไป

    จงมีศรัทธา
อุตสาหะอย่าอ่อนไหว
ชีวิตธรรมดาก็สามารถยิ่งใหญ่
หากคอยเอาใจใส่
เผื่อแผ่ประโยชน์ให้แก่สาธารณ์

    เลิศล้ำกว่าเห็นแก่ตน
เอารัดเอาเปรียบคนอื่นอย่างหน้าชื่นตาบาน
เป็นอยู่ก็ทำให้ใครๆรำคาญ
ตายไปก็ไม่ปาน
ขยะเทศบาลน่าเกลียดน่าชังฯ

๑๙ กันยายน ๒๕๖๑

วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2561

"แล้วหนูจะอยู่กับใคร?" : กาพย์ฉบัง๑๖




"แล้วหนูจะอยู่กับใคร?" : กาพย์ฉบัง๑๖

    "แล้วหนูจะอยู่กับใคร?".....................คำถามคาใจ
จากเด็กวัยเพียงเก้าปี

    ซึ่งถูกตัดสินชีวี...................กระทำย่ำยี
ด้วยฝีมือฆาตกร

    ผู้ไม่รู้สึกทุกข์ร้อน................อิดหนาอาทร
สังวรกับการกระทำ(ชั่ว)

    คนจิตใจไม้ไส้ระกำ..................มนาระยำ
มีล้นหลามทั่วสังคม

    (สิ่ง)เลวร้ายใฝ่หาระดม.................ชั่วช้าสะสม
นิยมสร้าง(ความ)เสื่อมเสียหาย

    คนบริสุทธิ์ต้องล้มตาย..................เลือดเนื้อเชื้อสาย
(ชีวิต)ถูกทำลายทิ้งไว้ข้างหลัง

    ความโศกเศร้าเข้าบดบัง..................ไร้อุระพลัง
อนาคตหมดหวังสว่างไสว

    ค้นหาสาเหตุคืออะไร?..................ยาเสพย์ติดไหม?
(แรงงานไร้ฝีมือ)ต่างด้าวหลั่งไหลเต็มไปหมด

    มาเพิ่มคดีมิละลด.................จับได้ไร้สลด
บทลงโทษลด-แจก-แถม

    (หลัก)สิทธิมนุษยชนพิกลแกม.................คอยสอดแทรกแซม
ต่างชาติร่วมแจมสนับสนุน

    เที่ยวทักชักใยให้ทุน..................ช่วยเหลือเจือจุน
เหล่าคนสถุลฆาตกรฯ

๑๘ กันยายน ๒๕๖๑

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561

ประพฤติธรรม : กลอนคติเตือนใจ


ประพฤติธรรม : กลอนคติเตือนใจ


    ธรรมะ ถ้าไม่ ประพฤติตาม.........................เพื่อความ ทัศนีย์ นิรัติศัย(นิรัติศัย=ประเสริฐยิ่ง)
(ได้แต่)แคล่วคล่อง ท่องจำ ธรรมวินัย............พูดให้ ใครอื่น ยื่นศรัทธา

    ก็เหมือน นกแก้ว นกขุนทอง......................ตามร้อง แต่ใจ ไม่ประสา
ย่อมมิ สามารถ พัฒนา................................ปัญญา สมาธิ ศีลธรรม

    (แม้ว่า)ท่องจำ ธรรมได้ ไม่กี่บท.................จำจด อดทน จนเช้า-ค่ำ
ประพฤติ เป็นวัตร เก่งกาจกรรม.....................กระทำ ตามไป ไตร่ตรองตน

    ธรรมะ จะแจ่มแจ้ง เปลี่ยนแปลงจิต..............คุณธรรม ความคิด ทิศกุศล
พัฒนา (จาก)สัตว์ร้าย กลายเป็นคน................(จาก)ปุถุชน เป็นบุคคล อริยะ

    ค่านิยม ลมปาก มิฝักใฝ่.............................(มุ่ง)ใส่ใจ ในศีลวัตร และสัจจะ
ประกอบกรรม สัมมา อาชีวะ..........................ลดละ อกุศล บาปมลทิน

    ลาภ-ยศ-ศักดา-คำสรรเสริญ........................(เป็นแค่)ประสบการณ์ ประเชิญ เมินถวิล
สังขาร ปาน(แค่)เปลือก เกลือก(ใช้)ชีวิน.........ไม่นาน พานสิ้น พรากวิญญาณ์

    เหลือแต่ บาป-บุญ ตุนตกแต่ง......................ภพชาติ(ใหม่) ผาดแผลง แฝงผัสสา
รับผล บาป-บุญ หนุนชะตา............................ที่เคยทำ ตามมา สนองคืน

    ประโยชน์ใด ในการ สราญชีวิต.....................เสพวิจิตร ชั่วครู่ อยู่ระรื่น
ปราศจากผล สะพรั่ง ที่ยั่งยืน.........................เวรกรรมกรม ขมขื่น กลืนน้ำตาฯ(กรม=ตรม)

๑๗ กันยายน ๒๕๖๑