ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2564

อยู่ใต้ฟ้า อย่ากลัวฝน : กลอนคติสอนใจ


อยู่ใต้ฟ้า อย่ากลัวฝน : กลอนคติสอนใจ


    อยู่ใต้ฟ้า อย่ากลัวฝน(ฉันใด).................................เกิดเป็นคน (จง)อดทนปัญหา(ฉันนั้น)

เพราะปกติ ของ(ทุก)ชีวา..................................ต้องฟันฝ่า อุปสรรคมี


    เคยเห็นใคร ไม่(เคย)เปียกฝน?..............................ใคร(เคย)เห็นคน บนโลกนี้?

ไร้ปัญหา ราญราวี............................................แม้เศรษฐี หรือราชาฯลฯ


    ฝนตกหนัก บ้าง-เบาบ้าง.......................................(น้ำ)ท่วม-แล้งบ้าง สร้างปัญหา

ให้ทุกปี ใครมีปัญญา?......................................(ควบ)คุมฝน-ฟ้า สาแก่ใจ

 

    ชีวิตก็ บ่แตกต่าง...................................................บนเส้นทาง ก้าวย่างไซร้

ปัญหาตาม ติดร่ำไป..........................................(เป็น)ปกติวิสัย (ทำใจ)ให้เคยชิน


    แก้(ปัญหา)ได้บ้าง-ไม่ได้บ้าง..................................ปัญญา(แตก)ต่าง ดั่งทรัพย์สิน

ไร้(ความ)เท่าเทียม เจียมเจตจินต์.......................(พยายามจน)ปัญญาสิ้น (ควร)เลิกดิ้นรน

 

    สำคัญ(ทำ)ใจ ให้สุจริต...........................................(สร้าง)ความนึกคิด เป็นกุศล

ก่อกรรมดี มิ(ต้อง)กังวล.....................................หวั่นเกรงหน ผลตามมา

 

    (คน)ทำดีไซร้ ไร้หมองมัว.......................................(แต่ต้อง)ระวังตัว คนชั่วช้า

จิตใจบาป หยาบมนา........................................กลั่นแกล้งกล้า สามานย์กล


    รู้รักษา ชีวารอด....................................................เสมือนตลอด ฤดูฝน

ใช้สมอง ป้องกันตน..........................................อย่าเปียกฝน จน(ป่วย)ไข้เลยฯ


๒๙ เมษายน ๒๕๖๔

วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2564

🌴 เอาอะไรไป ในการข้ามภพชาติ? : กาพย์ยานี๑๑





เอาอะไรไป ในการข้ามภพชาติ? : กาพย์ยานี๑๑


    บ่อยครั้ง ย่างชีวี..............................................ก็ไม่มี ทางให้เลือก

บางครั้ง ยังไสเสือก...................................ต้องเลือกทาง (ท่าม)กลางปัญหา


    แมวป่วย* ต้อง(การความ)ช่วยเหลือ..................เงินจุนเจือ เพื่อต่อชะตา(ชีวิต)**

(ทุก)ชีวี ถูกตีค่า........................................ให้ราคา หาเท่ากัน(ไม่เท่ากัน)


    ทุกผู้(ทุกนาม) อยากอยู่ยง...............................มิประสงค์ ปลงอาสัญ

เมตตา ปราณีธรรม์(จากผู้อื่น).....................ช่วยรังสรรค์ ฝันเป็นจริง

 

    เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่เขา.........................................(คือ)วิธีบรรเทา เมาตน(อัตตา)ยิ่ง

การให้(ทาน) ใช้เป็นสิ่ง.............................กำจัดทิ้ง (ความ)เห็นแก่ตัว


    (หมั่น)ทำดี วิริยะ.............................................อุตสาหะ ละความชั่ว

กลั่นกรอง ความหมองมัว..........................ล้างหัวใจ ให้ใสตระการ

 

    เพียงใจ ใสพิสุทธิ์...........................................จึงจะหลุด พ้นสังสาร(วัฏ)

เป้าหมาย ปลายนิพพาน...........................ต้องมุ่งมั่น-ขยัน-ทุ่มเท

 

    (แค่)ทานให้ (หาก)ยังบ่ายเบี่ยง........................ภพชาติเยี่ยง (ย่อม)เลี่ยงหันเห(เพราะยังยึดติด)

ทรัพย์ดื่น ดุจผืนทะเล..............................ลมเพพัด กระทบหาดทราย


    ซัด(ฝั่ง)เห็น เป็นระลอก..................................เสมือนหลอก กลับเลือนสลาย

(คน)รวยร่ำ หลังความตาย........................เอาอะไร ไปติดตน?(ในการข้ามภพชาติ)


๒๗ เมษายน ๒๕๖๔


*หลายปีที่ผ่านมา ผู้เขียนรับแมวที่ถูกทิ้งวัดมาเลี้ยงดูที่บ้านจำนวนหนึ่ง

จากแต่ก่อนที่แค่ไปให้อาหารแมวที่วัดทุกวัน เพราะการเลี้ยงดูสัตว์เป็นภาระมาก

โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาลเวลาเจ็บป่วย สัตวแพทย์คิดค่าใช้จ่ายแพง คนป่วยยังไม่เสียเงินมากเท่านี้


**เงิน เป็นปัจจัยสำคัญในการทำบุญกุศลให้สำเร็จ(สำหรับฆราวาส)

ดังนั้น พุทธศาสนิกชนควรให้ความสำคัญ กับการทำมาหากิน หมั่นเก็บออมเงินไว้ใช้เองและทำบุญทำทาน

ยกตัวอย่าง อนาถบิณฑิกเศรษฐี ในสมัยพุทธกาล.

วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2564

อภิสิทธิ์คือความลำเอียง : กลอนคติเตือนใจ

                  






อภิสิทธิ์คือความลำเอียง : กลอนคติเตือนใจ


    ชาติใด ไม่มี อภิสิทธิ์?........................................ชีวิต คนไซร้ ไร้ความเสมอ(ภาค)

(คน)พร้อมจะ ลำเอียง เพียงเพิ่งเจอ...............เผอเลอ เป็นละเมิด (กฎ)กติกา


    ชอบ-ชัง ตั้งต้น กระมลเอียง................................มองเมียง เรียงราย ไปทั่วหล้า

ธรรมชาติ สันดาน คนด้านชา.........................ตัวข้า-ของข้า สำมะคัญ(สำคัญ)


    คนเห็น แก่ตัว แสนชั่วร้าย...................................พูดง่าย (แต่)ใครบ้าง คิดสร้างสรรค์?

มิเห็น แก่ตัว หัวใจมั่น...................................ศีลธรรม์ จรรยา เหนือหทัย?

 

    จึง(เกิด)ความ จำเป็น ประเด็นโลกย์.....................(อยาก)บรรเทา เศร้าโศก วิโยคไส

ต้องสร้าง สถานะ เหนือกว่าใคร.....................เพื่อได้ อภิสิทธิ์ นิตยา


    (รวย)ทรัพย์ ยศ สรรเสริญ เจริญสุข......................โลกธรรม ล้ำรุก ถูกปรารถนา

ใครมี สิได้ ใช้ชีวา........................................เดชา อภิสิทธิ์ สมจิตปอง

 

    สมบัติ ราชการ หากพาลเอียง.............................ใช้เพียง เยี่ยงเรา เป็นเจ้าของ

เอาตำแหน่ง หน้าที่ ช่วยพี่น้อง......................พวกพ้องฯลฯ = ทุจริต ผิดจรรยา

 

    แม้ใคร รู้เข้า ย่อมกล่าวโทษ................................ก่อเรื่อง เคืองโกรธ ครหา

(ประชาชน)พร้อมใจ ด่าทอ รอชี้หน้า..............ขนานนาม ต่ำช้า ว่า "ทรชน"


    (ช่วยเหลือ)ทำบุญ กับคน เพียงคนหนึ่ง...............ไฉนถึง ทำบาป กับราษฎร์ท้น?

บุญ-บาป กลับสนอง ต้องร้อนรน....................คืนคน ทุจริต เขลาคิดเอย


๒๔ เมษายน ๒๕๖๔

วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2564

ทำบุญบ่หวังผล : กาพย์ยานี๑๑



ทำบุญบ่หวังผล : กาพย์ยานี๑๑


    เยี่ยมยล ชนส่วนใหญ่..............................ทำบุญไพล่ (หวัง)กำไรผล

ทานบาท หมายมาดดล.........................หมื่นเท่าท้น สวรรค์วิมานฯลฯ


    น้อยคน สิสนใจ......................................กับการให้ ฤทัยหาญ

(โดย)มิหวัง สร้างผลดาล......................ทะเยอทะยาน การตอบแทน


    ดวงใจ ที่ไม่ละโมบ................................ผู้อ้อมโอบ สบยากแสน

นักปราชญ์ มักขาดแคลน......................ทุกดินแดน แคว้นนคร

 

    (คน)ส่วนใหญ่ ใจตระหนี่........................บ่อารี มีแต่หลอน(หลอก)

สร้างภาพ ราวกับ(เล่น)ละคร..................หวังผลตอน ย้อนคืนตน


    มรรคา โลภะไร้.....................................จงฝึกใจ ไคล อกุศล

ทำบุญ หนุนพิมล.................................สลัดพ้น มลทินภัย

 

    ลดละ ความตระหนี่...............................ทางที่ดี คือทานให้

มิหวัง ผลกำไร....................................มิคาดหมาย สิ่งตอบแทน

 

    ทำดี ย่อมได้ดี......................................คือวิถี ที่มั่นแม่น

ธรรมชาติ มิขาดแคลน.........................กฎแน่นแฟ้น กติกา


    ทำบุญ บ่หวังผล..................................ตักเตือนตน หนข้างหน้า

วิธี พิสิฐกว่า.......................................ทำ(บุญ)เพื่อหา ผลกำไรฯ(พิสิฐ=ประเสริฐ,วิเศษ,ล้ำเลิศ)


๒๓ เมษายน ๒๕๖๔

วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2564

ต่างชะตาชีวิต : กลอนคติชีวิต


ต่างชะตาชีวิต : กลอนคติชีวิต


    ต่างคน เกิดมา ต่างกัน........................................ผิดแผก เผ่าพันธุ์ เชื้อสาย

มิเพียง ผิวพรรณ สรรพางค์กาย......................(แม้แต่)ฐานะ (ความ)สุขสบายฯลฯ ไม่เหมือนมี


    แตกต่าง ชะตา ชีวิต...........................................(ถึงจะ)ใกล้ชิด (เป็น)พวกพ้อง น้องพี่

เส้นทาง ห่างไกล ใช้ชีวี.................................เป็นสิ่ง ที่มี ที่มา(สาเหตุ)


    (คือ)ต่างคน ต่างทำ กรรมก่อ..............................จึงบ่ สมควร ถือสา

ตั้งข้อ สงสัย ใยชีวา......................................เหลื่อมล้ำ ต่ำช้า (ราว)ฟ้ากับดิน

 

    ใยต้อง เพ่งโทษ โกรธเคือง................................หลากเรื่อง (เช่น)ได้รับ ทรัพย์สินฯลฯ

แม้แต่ หน้าตา ปัญญาจินต์............................เรื่องกิน-ของใช้ฯลฯ ไร้สมดุล


    ครุ่นคิด ริษยา อย่าทำ........................................(เพราะจะ)ยิ่งซ้ำ ต่ำเติม เพิ่มสถุล

เพียรทำ กรรมดี ทวีบุญ................................เกื้อหนุน พูนสุข ทุกข์ทอน

 

    อย่าคอย น้อยเนื้อ ต่ำใจ.....................................เหมือน(คน)ไม่ มีใคร สั่งสอน

ทำดี เถิดหนา อย่าอาวรณ์............................เดือดร้อน กับโชค ชะตา

 

    เก่ากรรม ข้ามไป(แล้ว) ไม่อาจย้อน......................แก้ไข คลายผ่อน ห่อนหา

กรรมใหม่ ใส่ใจ ไว้ดีกว่า...............................เว้นกรรม ต่ำช้า ผิดศีลธรรม


    ยอมรับ กับ(ชะตา)กรรม มินำพา.........................มิเสีย เวลา มาครวญคร่ำ

หากเรา เข้าใจ ในหลักธรรม..........................ก่อกรรม ทำดี กรีฑาเทอญ


๑๓ เมษายน ๒๕๖๔

วันจันทร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2564

พื้นฐานธรรมดา : กลอนคติธรรม


พื้นฐานธรรมดา : กลอนคติธรรม


    พืนฐาน การเป็น คนดี........................................ต้องมี อุระ สุจริต

ยึดถือ (ความ)ซื่อตรง จำนงนิตย์.....................ความคิด จิตใจ ใสสะอาด


    พื้นฐาน การมี ศีลธรรม*.....................................มโนกรรม สัมมา จึงสามารถ

กิเลส ตัณหา มิระบาด....................................พิสุทธิ์ ผุดผาด มนัสใน


    พื้นฐาน จรรยา ปฏิบัติ........................................ก็คือ (การ)ถือสัตย์ อัชฌาสัย

เทิดทูน คุณธรรม ค้ำหทัย...............................ปองเห็น(จรรยา) เป็นใหญ่ เหนือใจตน

 

    พื้นฐาน มานมนา สุจริต......................................ดวงจิต (ต้อง)ลดละ อกุศล

กิเลส ตัณหา สัปดน........................................กำจัด ปัดพ้น มนฤดี


    สรรพสิ่ง อิงปัจจัย พื้นฐาน..................................เป็นไป ในหลักการ วิถี

ปราศเหตุ ปัจจัย ย่อมไม่มี................................ทางเห็น-เป็น-มี ปริยาย

 

    ธรรมชาติ สัตว์ยืน(อยู่บน) พื้นฐาน.......................ดวงมาน เห็นแก่ตน ฉลชั่วร้าย

กำเนิด เกิดดับ มิกลับกลาย..............................แพร่หลาย เผ่าพันธุ์ พาลมนา

 

    เกิดมา ก็มี กิเลส...............................................ดวงเจต กระสัน ตัณหา**

หากเห็น เป็นกรรม ธรรมดา...............................ก็อย่า หมายมั่น การเปลี่ยนแปลง


    ปรับปรุง พื้นฐาน จิตใจ......................................ทำให้ ขยัน ขันแข็ง

ผลักดัน ดวงฤดี มีเรี่ยวแรง................................แสวง ประเสริฐ เลิศล้ำเทอญฯ


๑๒ เมษายน ๒๕๖๔


*ศีล แปลได้หลายความหมาย โดยศัพท์แปลว่า ความปกติของกายและวาจา...

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A8%E0%B8%B5%E0%B8%A5 )


**หลายปีก่อน

ผู้เขียนเคยดูคลิปเทศนาของพระเถระ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ปราชญ์ทางพุทธศาสนา" ใน YouTube 

ท่านสอนไว้ตอนหนึ่งว่า "...คนราจะได้ดีต้องมีตัณหา แต่เป็นตัณหาในด้านดี..."

ผู้เขียนได้แต่อุทานในใจว่า "ตายห่- สอนแบบนี้ธรรมะวิบัติหมด"

(ตัณหา๓ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา พระพุทธเจ้าสอนว่าต้องกำจัดให้หมดสิ้นไปจากจิตใจ)

แสดงว่า ท่านแยกแยะ "ฉันทะ" กับ "ตัณหา" ไม่ออก

กล่าวอีกนัยหนึ่ง 

ท่านคงเอาวิธีของตัวเองมาสอนคนอื่น ที่ท่านได้ดีเพราะมีความ "อยาก(ตัณหา)ได้ดี 

ท่านไม่ได้เป็นคน "รัก(ฉันทะ) "ดี นั่นเอง.

วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2564

โควิด19 ระบาดรอบที่ 3 : กลอนคติเตือนใจ









โควิด19 ระบาดรอบที่ 3 : กลอนคติเตือนใจ


    (นายกฯบอก)"เมื่ออะไร จะเกิด ก็ต้องเกิด"...........เตรียมตัวเถิด คนไทย ใจผวา

โรค(โควิด19)ระบาด รอบนี้ ชี้ชะตา..................อนาคต ข้างหน้า (ของ)ประเทศไทย


    เงินแจกฟรี มีน้อย ร่อยหรอแล้ว..........................รัฐ(บาล)ไม่แคล้ว หยุดแจก แบก(ภาระ)ไม่ไหว

ขืนล็อกดาวน์ คราวนี้ คงมีภัย...........................รัฐบาล บรรลัย ในทันที


    เศรษฐกิจ ติดขัด อาจย่อยยับ.............................(คน)ไทยทั้งชาติ สามารถรับ ภาวะหนี้(สิน)?

ความสุ่มเสี่ยง เลี่ยงไม่ได้ ในชีวี.......................ฐานะ(การเงิน)ใคร ไม่ดี มีแต่ตรม

 

    วัคซีนเก่า เอาอะไร สู้(โควิด19)กลายพันธุ์...........ควรรู้ทัน ปัญหา เพิ่มสะสม

(วัคซีน)แค่ลดแรง โรคา ทุกข์ระทม..................อย่าวิกรม เก่งกล้า ประมาทภัย(วิกรม=เก่งกล้า)


    มิจำเป็น เว้นออก ไปนอกบ้าน............................แหล่งบันเทิง เริงสถาน พึงพรั่นไหว(พรั่น=กลัว)

(เว้น)ระยะห่าง ล้างหัตถา(มือ) หน้ากากใส่........รักษ์วินัย ให้ดี ชีวัน(ยืน)ยง

 

    หลีกเลี่ยงการ ชุมนุม สุมหัวเข้า..........................ซื้อกับข้าว เอากลับบ้าน ทานประสงค์

เสมือนราว คราวเคราะห์ โรคเจาะจง.................มาจำนง ลงโทษ เลิกโอดครวญ

 

    แม้ฝรั่ง ยังตาย มลายล้น...................................เจียมกระมล คนไทย ไม่เสสรวล

อย่ามักง่าย ไม่ทำเล่น เฟ้นสมควร....................ความสงบ ทบทวน ชวนกันทำ


    ความไร้ซึ่ง โรคา คือลาภประเสริฐ......................(เมื่อ)โรคระบาด ฉกาจเกิด เตลิดกล้ำ

การรู้จัก ป้องกัน(โรค) ปานทองคำ...................(มี)คุณค่าล้ำ สำคัญ บันเทิงเทอญฯ


๘ เมษายน ๒๕๖๔