ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2566

ธรรมชาติ-จิตเดิมแท้ : กาพย์ยานี๑๑


ก้อนทองคำธรรมชาติ ที่ขุดได้ในกัมพูชา


ธรรมชาติ-จิตเดิมแท้ : กาพย์ยานี๑๑


    ทองคำ โดยธรรมชาติ.................................ไม่สะอาด (หรือ)ปราศมัวหมอง

ละลาน(ตา) (ส)สารเนืองนอง......................ต้องสกัด กำจัด(ออก)ไป


    งดงาม ชมธรรมชาติ....................................สูดอากาศ สะอาดใส

ทุกๆ ลมหายใจ(เข้าออก)...........................ไม่บริสุทธิ์ ดุจจินตนา

 

    จิตใจ ในธรรมชาติ.......................................ตามโอวาท พุทธศาสนา(ฝ่ายเถรวาท)

แคลนขาด (ความ)ปภัสรา...........................เยี่ยงพรรณนา มหา(ยาน)นิกาย(ปภัสรา=บริสุทธิ์ผุดผ่อง)


    แต่มี กิเลสเฟื่อง..........................................ตามหนุนเนื่อง บ่ขาดสาย

คุ้นชิน ชีวิน-วาย........................................คล้ายเป็นตน ของตนตัว


    (ความ)กระสัน เกิดตัณหา.............................เป็นสัญญา ประทับหัว(สัญญา=ความจำได้หมายรู้)

ก่อกวน(จิตใจ) ทุกถ้วนทั่ว..........................จนเมามัว พัวพันปอง


    ต้องหัด กำจัดกิเลส.....................................พากเพียรเฉท ตัณหาผอง(เฉท=การตัด,การฟัน,การขาด)

มลทิน ทั้งสิ้นตรอง.....................................จ้องขจัด ปัดออกไป(จากจิตใจ)

 

    (จิต)จึงจะ ปภัสสร........................................หลังรานรอน อนุสัย(อนุสัย=กิเลสที่นอนเนื่องในสันดาน)

(ต้อง)อุตสา หะชาญชัย...............................(จิตใจคน)หาได้เกิด (ความ)ประเสริฐเอง


    ธรรมชาติ จิตเดิมแท้....................................ธรรมเผยแพร่ แลมิเพ่ง*

ขาดจิต คิดยำเกรง......................................พระศาสดา ธรรมาเอยฯ(เพราะไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้า)


๒๖ กันยายน ๒๕๖๖


*ความเห็นของผู้เขียน

ถ้าจิตเดิมแท้ของทุกชีวิต บริสุทธิ์ สะอาด ปราศจากกิเลสตัณหา อย่างที่หลายคนชอบพูดกัน

ก็คือ สภาพจิตของอรหันต์ เป็นวิมุติ หลุดพ้น เป็นนิพพาน ซึ่งจะไม่เวียนว่ายตายเกิด ไม่มีภพชาติ

พวกที่ยังมาเวียนว่ายตายเกิด มีกิเลสตัณหา มีปัญหาชีวิต มีความทุกข์ฯลฯ จะมีจิตที่บริสุทธิ์ได้ยังไง?


พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๓ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค

๖๙. อาสยานุสยญาณนิทเทส
แสดงอาสยานุสยญาณ
......
[๑๑๔] อนุสัยของสัตว์ทั้งหลาย เป็นอย่างไร
             คือ อนุสัย ๗ ได้แก่  
 ๑. กามราคานุสัย (กิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในสันดานคือกามราคะ)
                          ๒. ปฏิฆานุสัย (กิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในสันดานคือปฏิฆะ)
                          ๓. มานานุสัย (กิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในสันดานคือมานะ)
                          ๔. ทิฏฐานุสัย (กิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในสันดานคือทิฏฐิ)
                          ๕. วิจิกิจฉานุสัย (กิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในสันดานคือวิจิกิจฉา)
                          ๖. ภวราคานุสัย (กิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในสันดานคือภวราคะ)
                          ๗. อวิชชานุสัย (กิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในสันดานคืออวิชชา)
             กามราคานุสัยของสัตว์ทั้งหลายย่อมนอนเนื่องในปิยรูป (อารมณ์อันเป็นที่รัก)
สาตรูป (อารมณ์อันเป็นที่ยินดี) ในโลก ปฏิฆานุสัยของสัตว์ทั้งหลายย่อมนอนเนื่อง
ในอัปปิยรูป (อารมณ์อันไม่เป็นที่รัก) อสาตรูป (อารมณ์อันไม่เป็นที่ยินดี) ในโลก
อวิชชาตกไปในสภาวธรรม ๒ นี้ ด้วยอาการอย่างนี้ มานะ ทิฏฐิ และวิจิกิจฉาพึงเห็น
ว่า ตั้งอยู่ในฐานะแห่งเดียวกันกับอวิชชานั้น นี้ชื่อว่าอนุสัยของสัตว์ทั้งหลาย
             จริตของสัตว์ทั้งหลาย เป็นอย่างไร
             คือ ปุญญาภิสังขาร (สภาพที่ปรุงแต่งกรรมฝ่ายดี) อปุญญาภิสังขาร (สภาพ
ที่ปรุงแต่งกรรมฝ่ายชั่ว) อาเนญชาภิสังขาร (สภาพที่ปรุงแต่งภพอันมั่นคงไม่หวั่นไหว)
ที่เป็นกามาวจรภูมิ หรือที่เป็นรูปาวจรภูมิ และอรูปาวจรภูมิ นี้ชื่อว่าจริตของสัตว์
ทั้งหลาย
             [๑๑๕] อธิมุตติของสัตว์ทั้งหลาย เป็นอย่างไร
             คือ สัตว์ทั้งหลายมีอธิมุตติทรามก็มี มีอธิมุตติประณีตก็มี สัตว์ทั้งหลาย
ที่มีอธิมุตติทราม ย่อมคบหาสมาคม เข้าไปนั่งใกล้สัตว์ผู้มีอธิมุตติทรามเหมือนกัน
สัตว์ทั้งหลายผู้มีอธิมุตติประณีต ย่อมคบหาสมาคม เข้าไปนั่งใกล้สัตว์ผู้มีอธิมุตติ
ประณีตเหมือนกัน แม้ในอดีตกาล สัตว์ทั้งหลายผู้มีอธิมุตติทราม ก็คบหาสมาคม
เข้าไปนั่งใกล้สัตว์ผู้มีอธิมุตติทรามเหมือนกัน 
สัตว์ทั้งหลายผู้มีอธิมุตติประณีตก็คบหาสมาคม เข้าไปนั่งใกล้สัตว์ผู้มีอธิมุตติประณีตเหมือนกัน 
แม้ในอนาคตกาล สัตว์ทั้งหลายผู้มีอธิมุตติทราม ก็จักคบหาสมาคมเข้าไปนั่งใกล้สัตว์ผู้มีอธิมุตติทราม
เหมือนกัน สัตว์ทั้งหลายผู้มีอธิมุตติประณีต ก็จักคบหาสมาคมเข้าไปนั่งใกล้สัตว์ผู้มี
อธิมุตติประณีตเหมือนกัน นี้ชื่อว่าอธิมุตติของสัตว์ทั้งหลาย
             อภัพพสัตว์ เป็นอย่างไร
             คือ สัตว์ทั้งหลายผู้ประกอบด้วยธรรมเป็นเครื่องกั้น คือ กรรม กิเลส วิบาก
เป็นผู้ไม่มีศรัทธา ไม่มีฉันทะ มีปัญญาทราม ไม่อาจเข้าสู่สัมมัตตนิยามในกุศลธรรม
ทั้งหลาย เหล่านี้ชื่อว่าอภัพพสัตว์
             ภัพพสัตว์ เป็นอย่างไร
             คือ สัตว์ทั้งหลายผู้ไม่ประกอบด้วยธรรมเป็นเครื่องกั้น คือ กรรม กิเลส วิบาก
เป็นผู้มีศรัทธา มีฉันทะ มีปัญญาดี อาจเข้าสู่สัมมัตตนิยามในกุศลธรรมทั้งหลาย
เหล่านี้ชื่อว่าภัพพสัตว์
             นี้เป็นญาณในอาสยะและอนุสัยของสัตว์ทั้งหลาย ของพระตถาคต.

การสกัดทองคืออะไร

เป็นการใช้สารละลายแร่ทองคำออกมาจากหินหรือแร่ชนิดอื่น เช่น สารละลายไซยาไนด์ ซึ่งเก็บแร่ทองคำไว้ประมาณร้อยละ 90-95 และนำสารละลายที่ได้มาแยกทองคำออกด้วยการตกตะกอน ถลุงเป็นแท่งโลหะผสม ด้วยทองคำและเงิน จากนั้นนำมาทำให้บริสุทธิ์โดยแยกโลหะที่มีอยู่ทั้งหมดออกจากกันจนได้ทองคำบริสุทธิ์ ร้อยละ 99.99 ปัจจุบันกระบวนการสกัดทองคำให้บริสุทธิ์มีทั้งหมด 4 วิธีหลัก ได้แก่

  • AQUA REGIA โดยใช้กรดไนตริกเเละกรดไฮโดรคลอริกเป็นตัวทำปฏิกิริยา ทำให้ทองที่ได้มีความบริสุทธิ์ประมาณ 99.9X%
  • CHORINATION โดยใช้แก๊สคลอรีน (CHORINE) เป็นตัวทำปฏิกิริยาให้ได้ความบริสุทธิ์ ทำให้ทองที่ได้มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5%
  • ELECTROLYSIS โดยใช้กระบวนการทางไฟฟ้าเป็นตัวทำปฏิกิริยาและใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมกระแสไฟฟ้า ทำให้ทองที่ได้มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.99%
  • กิมซั่ว เป็นการสกัดเเบบโบราณที่นิยมใช้ในประเทศไทย โดยใช้น้ำกรดไนตริกเป็นตัวทำปฏิกิริยาและใช้โลหะเงินเป็นจำนวนมากในการหลอมให้เข้ากับทองที่สกัด จากนั้นจึงนำไปต้มในน้ำกรดไนตริก ทำให้ทองที่ได้มีความบริสุทธิ์ประมาณ 98-99%(https://bkkdiamond.com/gold-extraction/).

อากาศ เป็นของผสมที่มีลักษณะเป็นเนื้อเดียว ประกอบด้วยแก๊สชนิดต่างๆ และไอน้ำ อากาศที่ไม่มีไอน้ำผสมอยู่เรียกว่า อากาศแห้ง ส่วนอากาศที่มีไอน้ำผสมอยู่เรียกว่า อากาศชื้น 
โดยทั่วไปจะมีไอน้ำผสมอยู่ประมาณร้อยละ 0-4 ของอากาศทั้งหมด ไอน้ำมีความสำคัญมาก เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางลมฟ้าอากาศ เช่น ฝน ลม พายุ ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง
    ในอากาศแห้งส่วนใหญ่ จะประกอบด้วยแก๊สไนโตรเจนประมาณ ร้อยละ 78 แก๊สออกซิเจน ประมาณร้อยละ 21 และแก๊สอื่นๆ อีกประมาณ ร้อยละ 1 ได้แก่ แก๊สอาร์กอนประมาณ ร้อยละ 0.93 แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ ร้อยละ 0.03 นอกจากนั้น อีกประมาณร้อยละ 0.04 เป็นแก๊สนีออน ฮีเลียม คริปตอน ซีนอน ไฮโดรเจน มีเทน ไนตรัสออกไซด์ และเรดอน ตามปกติแล้ว จะไม่มีอากาศแห้ง เนื่องจากอากาศทั่วๆ ไปเป็นอากาศชื้นที่มีไอน้ำ และแก๊สอื่นๆ ปนอยู่ด้วย
    อากาศชื้น เป็นอากาศที่มีไอน้ำปนอยู่ด้วยประมาณ ร้อยละ 0-4 โดยมวลหมายความว่า ถ้าอากาศชื้นมีมวล 1 กิโลกรัม (1,000 กรัม) จะมีไอน้ำอยู่มากที่สุด 40 กรัม ปริมาณไอน้ำในอากาศทำให้ปริมาณแก๊สไนโตรเจนซึ่งมีอยู่ในอากาศแห้งประมาณ ร้อยละ 78 และปริมาณแก๊สออกซิเจนในอากาศแห้งประมาณ ร้อยละ 21 เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเล็กน้อย.(https://www.thaihealth.or.th/%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8/)

“ขั้วโลกใต้” ใกล้วิกฤต น้ำแข็งลดต่ำสุดในประวัติการณ์ l TNN ข่าวเช้า l 26...

ยูเอ็นเตือนโลก! เปิดประตูนรก “เศรษฐา” พบ “ไบเดน” เวทีโลก | TNN ข่าวดึก ...

วันเสาร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2566

เปิดสาเหตุฝนถล่มไทย เช็กความเสี่ยง "น้ำท่วมใหญ่" ปีนี้ | TNN ข่าวเที่ยง...

เอาชีวิตรอดถ้าอยู่คนเดียวแล้ว #แน่นหน้าอก #หายใจไม่ออก #อาหารติดคอ #ใจสั...

อาหารติดคอ ปฐมพยาบาลอย่างไร? | พบหมอมหิดล [by Mahidol Channel]

คิดบวก ไม่ใช่หลอกตัวเอง : กาพย์ยานี๑๑


ลูกแมวถูกทิ้งวัดในวันเข้าพรรษา
1 วันหลังจากรับมาเลี้ยง

ผ่านไปเกือบ 2 เดือน ก็พบว่า 
ตาหยีที่เป็นอาการของแมวป่วย กลับกลายเป็นลักษณะของแมว"ปัญญาอ่อน" 
ยังปีนป่ายไม่เป็น วิ่งเหมือนกบกระโดด เล่นกับลูกแมวด้วยกันไม่เป็น กินอิ่มได้สักพักก็จะง่วง-นอนหลับ

คิดบวก ไม่ใช่หลอกตัวเอง : กาพย์ยานี๑๑


    ลูกแมว ปัญญาอ่อน.................................รับเลี้ยงตอน เข้าพรรษา

(มี)พัฒนา การเชื่องช้า.............................เรียก(ชื่อ)ไม่มา ตาไม่โต(ตาปรือตลอดเวลา)


    แต่กิน อาหารคล่อง(กินทุกชั่วโมง)............จนพุงป่อง (ใครเห็นก็)ร้องโอ้โห

ขาลุย ไม่คุยโว(แย่งอาหารแมวใหญ่).........(กิน)อิ่มแล้วโชว์ โซเซนอน

 

    มิได้ ปรารถนา(ไม่อยากได้)......................แมว(มี)ปัญหา ปัญญาอ่อน

(โลก)รอบกาย อันตรายว่อน......................(ใครปัญญาอ่อน)คงเดือดร้อน เข้าสักวัน


    (แต่)ก็ดี ที่ได้หนุน....................................การทำบุญ จุนสร้างสรร

สาธุ กุศลธรรม์.........................................ขอมุ่งมั่น ซึ่งทานมัย(ทานมัย=สำเร็จด้วยทาน)


    (แม้)ประสบ พบ(ความ)ลำบาก...................จะบั่นบาก จน(ชีวิต)หาไม่

อุปสรรค หนักเพียงใด...............................จะตั้งใจ ใฝ่ฝ่าฟัน


    พากเพียร ภาวนา......................................ด้วยสัจจา หา(ใช่)เพ้อฝัน

(ภาวนา=การเจริญ,การทำให้เกิดมีขึ้น,การฝึกอบรมจิตใจ)

มิมัวเมา จะเท่าทัน....................................มองชีวัน ด้วยปัญญา

 

    บุญกรรม ช่วยทำให้...................................มีจิตใจ ไคลตัณหา(กิเลส)

บ่มเพาะ ความเมตตา(พรหมวิหาร๔)...........คือสัมมา ปฏิบัติธรรม


    ใยต้อง นุ่งห่มขาว......................................(เมื่อ)จิตเพริศพราว สกาวล้ำ

(สกาว=ขาว,สะอาด,หมดจด)

มนต์ผอง มิท่องจำ....................................ก้าวหน้านำ นักสวด(มนต์)เอยฯ


๒๓ กันยายน ๒๕๖๖


พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๙ สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค

๔. อนิจจสูตรที่ ๒
ว่าด้วยความเป็นไตรลักษณ์แห่งขันธ์ ๕
[๙๓] พระนครสาวัตถี ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็น ทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลาย พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน ของเรา. เวทนาไม่เที่ยง ... สัญญาไม่เที่ยง ... สังขารไม่เที่ยง ... วิญญาณไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลาย พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วย ปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา. เมื่อเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามความเป็นจริงอย่างนี้ ทิฏฐิเป็นไปตามส่วนเบื้องต้น (อดีต) ย่อม ไม่มี เมื่อทิฏฐิเป็นไปตามส่วนเบื้องต้นไม่มี ทิฏฐิเป็นไปตามส่วนเบื้องปลาย (อนาคต) ย่อมไม่มี เมื่อทิฏฐิเป็นไปตามส่วนเบื้องปลายไม่มี ความยึดมั่นอย่างแรงกล้า ย่อมไม่มี. เมื่อความยึดมั่นอย่าง แรงกล้าไม่มี จิตย่อมคลายกำหนัดในรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ย่อมหลุดพ้น จากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ถือมั่น. เพราะหลุดพ้น จิตจึงดำรงอยู่ เพราะดำรงอยู่ จึงยินดีพร้อม เพราะยินดีพร้อม จึงไม่สะดุ้ง เมื่อไม่สะดุ้ง ย่อมดับรอบเฉพาะตนเท่านั้น ภิกษุนั้น ย่อมรู้ชัด ว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มี.

ใช่พลังคิดบวก-หวังรวย ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตจริง

 สาวก “กฎแรงดึงดูด” ใช้พลังคิดบวกหวังรวย ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตจริง


แนวคิดทางจิตวิญญาณยอดนิยม ที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้แก้ปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของผู้คนกันมากที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน เห็นจะได้แก่ความเชื่อใน “กฎแรงดึงดูด” (law of attraction) ซึ่งใช้พลังในการคิดบวกดึงดูดโอกาสสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยเข้ามาหาตนเอง

คนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อถือศรัทธาในเนื้อหาของหนังสือ “เดอะ ซีเคร็ต” (The Secret) ซึ่งเขียนโดยรอนดา เบิร์น เมื่อปี 2006 ต่างเชื่อมั่นว่าการคิดบวกโดยวาดฝันจินตนาการถึงอนาคตทางการเงินที่สดใส จะดึงดูดพลังบวกทั้งมวลในจักรวาลให้มาหนุนเสริมโอกาสสร้างฐานะเพื่อเป็นมหาเศรษฐีได้ ซึ่งน่าสงสัยอย่างยิ่งว่า ในชีวิตจริงจะมีสักกี่คนที่ประสบความสำเร็จทางการเงินด้วยเทคนิคนี้ ?

เพื่อตอบคำถามข้างต้นและพิสูจน์ว่ากฎแรงดึงดูดใช้ได้ผลจริงหรือไม่ คณะนักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย ได้ทำการศึกษากับชาวอเมริกัน 1,023 คน โดยให้ตอบแบบสอบถามทางออนไลน์ เพื่อวัดระดับความเชื่อถือศรัทธาต่อกฎแรงดึงดูดของคนเหล่านี้ ทั้งยังศึกษาวิเคราะห์พฤติกรรมของพวกเขาในการ “แมนิเฟสต์” (manifest) หรือการตั้งจิตแน่วแน่เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของตนเองต่อจักรวาล ซึ่งมักจะทำกันโดยใช้วิธีนั่งสมาธิสร้างภาพในใจหรือเขียนบันทึกประจำวันด้วย

รายงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร “จดหมายข่าวบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม” (Personality and Social Psychology Bulletin) เผยว่าบรรดาสาวกของลัทธิกฎแรงดึงดูด มักไม่ประสบความสำเร็จทางการเงินในชีวิตจริง โดยหลายคนถึงกับต้องล้มละลาย เนื่องจากชอบเข้าไปเกี่ยวข้องกับการลงทุนความเสี่ยงสูง

ทีมผู้วิจัยระบุว่า แม้คนเหล่านี้จะเชื่อมั่นสูงว่าตนเองกำลังประสบความสำเร็จทางการเงินอยู่ในปัจจุบัน และจะมีอนาคตทางการเงินที่ดีขึ้นไปอีกอย่างแน่นอนในวันข้างหน้า แต่ทว่าผลวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคลกลับชี้ว่า ไม่พบหลักฐานเชิงประจักษ์ซึ่งพิสูจน์ยืนยันว่ามีความสำเร็จทางการเงินเพิ่มขึ้นเลย ซ้ำยังมีแนวโน้มของพฤติกรรมทางการเงินที่น่าเป็นห่วงอีกด้วย

“คนที่มีความศรัทธาในระดับสูงต่อการแมนิเฟสต์ มองว่าตนเองมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะประสบความสำเร็จให้ได้ และจะบรรลุถึงความสำเร็จดังใจปรารถนาอย่างแน่นอนในอนาคต” ดร.ลูคัส ดิกสัน ผู้นำทีมวิจัยกล่าว “แต่ความตั้งใจเช่นนี้ทำให้พวกเขามีแนวโน้มจะเชื่อมั่นว่า ตนเองสามารถประสบความสำเร็จในระดับที่เหลือเชื่อได้ในเวลาอันรวดเร็ว ส่งผลให้ถูกหลอกล่อเข้าไปลงทุนในภาคการเงินที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่นสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซีได้ง่าย”

“แม้อยู่ในภาวะทางการเงินที่ย่ำแย่ แต่คนเหล่านี้กลับศรัทธาในกฎแรงดึงดูดต่อไปอย่างไม่สั่นคลอน จนการมองโลกในแง่ดีซึ่งมีประโยชน์ในบางครั้ง กลับพรางตาทำให้คนกลุ่มนี้มองไม่เห็นความเป็นจริง โดยละทิ้งการคิดแบบใช้เหตุผลรวมทั้งสามัญสำนึกหรือคอมมอนเซนส์ไปพร้อมกัน ทำให้มีความเชื่อมั่นต่อการลงทุนความเสี่ยงสูงมากเกินไป” ดร.ดิกสัน กล่าวสรุป

ทีมผู้วิจัยยังบอกว่า สื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย มีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการเผยแพร่แนวคิดเรื่องกฎแรงดึงดูดให้เป็นที่นิยมของคนหมู่มาก โดยมีบรรดาอินฟลูเอนเซอร์พากันออกมาชี้ช่องรวยทางลัดด้วยเทคนิคนี้อย่างไม่ขาดสาย โดยสถิติของติ๊กต็อก (TikTok) เมื่อเดือน พ.ค. ของปีนี้ มีผู้เข้าชมคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการแมนิเฟสต์แล้วถึง 34,600 ล้านครั้ง

https://www.bbc.com/thai/articles/c0dgdd714nvo



วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2566

คือความดีที่ค้ำจุนโลก : โคลงสี่สุภาพ


คือความดีที่ค้ำจุนโลก โคลงสี่สุภาพ


๑. โลกาก่อเกิดด้วย...........................สิ่งใด?
บ่สามารถมีใคร..............................ล่วงรู้
"ธรรมชาติ"เป็นปัจจัย......................ประสาท(คำกริยา=
ยินดีให้, โปรดให้
)
อาจมีคนกล่าว"พระผู้-......................เป็นเจ้า"บัญชาฯ

๒. โลกาคงอยู่ด้วย..............................ความดี
ท่ามกลางยุคกลี.............................ทลายล้าง(ครั้งแล้วครั้งเล่า)
(ความ)อุตสาห์+อดทนฯลฯมี.............สรรเสก(เสกสรร=เลือกทำเอง)
คุณเอนกเสริมสร้าง..........................เริ่มต้นใหม่ครันฯ

๓. สังคมมั่นคงด้วย..............................ความดี
หาใช่ความอัปรีย์.............................ปลุกปั้น
จารีตประเพณี.................................(เฉพาะที่)ก่อประโยชน์
โปรดช่วย(กัน)จรรโลงดั้น-.................ด้นสืบทอดทวยฯ

. ครอบครัวสุขสันติ์ด้วย.......................ความดี
ยิ่งกว่าความมั่งมี..............................ทรัพย์ท้น
ความรักความสามัคคี........................เผื่อแผ่(แก่กันและกัน)
บ่เห็นแก่ตัว(พารอด)พ้น....................เภทร้ายแหลกลาญ(ครอบครัวแตกแยก)ฯ

. ชีวันรุ่งเรืองด้วย...............................ความดี
ศีลธรรมประสิทธิ์ศรี...........................ส่งให้
จุดหมายของชีวี...............................พิชิต,เชิด-
ชูประเสริฐสูงไซร้..............................ไม่ต้องเสียชาติชนฯ(ไม่เสียชาติเกิด)

๖. กุศลจิตจึงก่อเกื้อ..............................ความดี(ไม่ใช่อกุศลจิต)
ใจสุจริต-สุทธี...................................หล่อเลี้ยง(สุทธี=มีใจสะอาด)
ความคิดชอบ(ถูกต้อง)=มนตรี..............เคลื่อนขับ
มิกลอกกลับจิตเพี้ยง...........................(การ)ปกป้องรักษาฯ

. (ใจ)ยอมรับคุณค่าเอื้อ........................ชีวี
มั่นคงในความดี.................................สืบรั้ง
กายกรรมเจือวจี.................................มนัสจัก
ปักหลักมิหยุดยั้ง................................คืบหน้าความดี

. ความดีส่งผลให้................................(ความ)สุขสันติ์
เกิดแก่ทุกชีวัน...................................ทั่วถ้วน
อย่ามัวเมาใฝ่ฝัน.................................คิด(ฟุ้ง)ซ่าน(ไร้สาระ)
บั่นทอนโอกาสล้วน.............................รับรู้สัจธรรมฯ

๒๐ กันยายน ๒๕๖๖

วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2566

เยอรมันอาการหนัก โดนรัสเซียตัดก๊าซ โดนรถ EV จีนโจมตี เศรษฐกิจพังจนกลายเป...

นโยบายแจกเงิน ไทยเสี่ยงล้มละลาย เหมือนเวเนซุเอลา - Money Chat Thailand l...

หัวเว่ยโค่นไอโฟน สหรัฐฯ ย้ายฐานผลิตหนีจีน - Money Chat Thailand l รศ.ดร....

วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2566

จิตก่อนตาย เรื่องไร้สาระ : กาพย์ยานี๑๑

 

จิตก่อนตาย เรื่องไร้สาระ : กาพย์ยานี๑๑


    คำสอน (เรื่อง)จิตก่อนตาย.........................เผยแพร่หลาย (ว่าคือคำสอนของ)พุทธศาสนา

ทั้ง(ๆ)ที่ ไร้ที่มา..........................................ไม่อาจหา (จาก)พระไตรปิฏก


    สุดแท้ แต่จะเชื่อ.......................................หากไม่เบื่อ คนลามก

ชอบทำ คำโกหก........................................ยังหยิบยก ว่า"คำครู(บาอาจารย์)"

 

    (อันที่จริง)แม้แต่ พระไตร(ปิฏก)ยัง...............สมควรฟัง หูไว้หู

(เพราะเป็นคำสอน)ของใคร ก็ไม่รู้.................(ถูก/ผิด ต้อง)พิสูจน์ดู จีงรู้จริง


    กล่าวใย (เรื่อง)ไร้ตำรา...............................อ้าง(พุทธ)ศาสนา (เพื่อให้)ทรงค่ายิ่ง

อย่าหลง(ใหล) จงละทิ้ง...............................(เพราะ)หาใช่สิ่ง ต้องจริงจัง


    คนเขลา มิเอาถ่าน......................................(หลับหูหลับตา)หลงอาจารย์ เป็นบ้า(เป็น)หลัง

(อาจารย์)สอนอะไร ใคร่เชื่อฟัง......................บ่ยับยั้ง ชั่งฤดี


    โลกล้น คนโง่เขลา......................................ปัญญาเบา เมาวิถี

ไม่คิด ผิด(ชอบ)-ชั่ว-ดี..................................มิเลื่อมใส วินัยธรรม(ธรรมวินัย)

 

    ชอบเชื่อ เรื่องเหลือล้น.................................เหนือเหตุผล มลวิสัย(มล=คำวิเศษณ์ มัวหมอง,สกปรก)

(ชอบ)เชื่อตาม ตามกันไป..............................ชอบคุณไสย งมงายปอง


    (ซึ่ง)ผิดกฎ บทบาทกรรม..............................สิ่งใดทำ(ไว้) กรรม(ย่อมตาม)สนอง

ฉลจิต คิดลำพอง..........................................กูช่ำชอง ต้องกราบ(ไหว้)เอยฯ


๑๒ กันยายน ๒๕๖๖


พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์

[๙๒] พระผู้มีพระภาคจึงตรัสดังนี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผ้าที่เศร้าหมองมลทินจับ
ช่างย้อมพึงนำเอาผ้านั้นใส่ลงในน้ำย้อมใดๆ คือ สีเขียว สีเหลือง สีแดง หรือสีชมพู ผ้านั้น
พึงเป็นของมีสีที่เขาย้อมไม่ดี มีสีมัวหมอง ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร? เพราะผ้าเป็นของไม่บริสุทธิ์
ฉันใด เมื่อจิตเศร้าหมองแล้ว ทุคติเป็นอันหวังได้ ฉันนั้น.
             ผ้าที่บริสุทธิ์สะอาด ช่างย้อมพึงนำเอาผ้านั้นใส่ลงในน้ำย้อมใดๆ คือ สีเขียว สีเหลือง
สีแดง หรือสีชมพู ผ้านั้นพึงเป็นของมีสีที่เขาย้อมดี มีสีสด ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร? เพราะ
ผ้าเป็นของบริสุทธิ์ ฉันใด เมื่อจิตไม่เศร้าหมองแล้ว สุคติเป็นอันหวังได้ ฉันนั้น.
อุปกิเลส ๑๖
[๙๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมเหล่าไหน เป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต [คือ] อภิชฌาวิสมโลภะ [ละโมบไม่สม่ำเสมอ คือความเพ่งเล็ง] พยาบาท [ปองร้ายเขา] โกธะ [โกรธ] อุปนาหะ [ผูกโกรธไว้] มักขะ [ลบหลู่คุณท่าน] ปลาสะ [ยกตนเทียบเท่า] อิสสา [ริษยา] มัจฉริยะ [ตระหนี่] มายา [มารยา] สาเฐยยะ [โอ้อวด] ถัมภะ [หัวดื้อ] สารัมภะ [แข่งดี] มานะ [ถือตัว] อติมานะ [ดูหมิ่นท่าน] มทะ [มัวเมา] ปมาทะ [เลินเล่อ] เหล่านี้เป็น ธรรมเครื่องเศร้าหมองของจิต. [๙๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นรู้ชัดว่า อภิชฌาวิสมโลภะ พยาบาท โกธะ อุปนาหะ มักขะ ปลาสะ อิสสา มัจฉริยะ มายา สาเฐยยะ ถัมภะ สารัมภะ มานะ อติมานะ มทะ ปมาทะ เป็นธรรมเครื่องเศร้าหมองของจิตด้วยประการฉะนี้แล้ว ย่อมละอภิชฌาวิสมโลภะ พยาบาท โกธะ อุปนาหะ มักขะ ปลาสะ อิสสา มัจฉริยะ มายา สาเฐยยะ ถัมภะ สารัมภะ มานะ อติมานะ มทะ ปมาทะ อันเป็นธรรมเครื่องเศร้าหมองของจิตเสีย. [๙๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในกาลใดแล ภิกษุรู้ชัดว่า อภิชฌาวิสมโลภะ พยาบาท โกธะ อุปนาหะ มักขะ ปลาสะ อิสสา มัจฉริยะ มายา สาเฐยยะ ถัมภะ สารัมภะ มานะ อติมานะ มทะ ปมาทะ เป็นธรรมเครื่องเศร้าหมองของจิตด้วยประการฉะนี้แล้ว ก็ละอภิชฌา- วิสมโลภะ พยาบาท โกธะ อุปนาหะ มักขะ ปลาสะ อิสสา มัจฉริยะ มายา สาเฐยยะ ถัมภะ สารัมภะ มานะ อติมานะ มทะ ปมาทะ อันเป็นธรรมเครื่องเศร้าหมองของจิตเสียได้ แล้ว ในกาลนั้น เธอเป็นผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันแน่วแน่ในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมแล้วด้วยวิชชาและ จรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดา ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม เป็นผู้ประกอบด้วยความ เลื่อมใสอันแน่วแน่ในพระธรรมว่า พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสดีแล้ว อันบุคคลพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามาในตน อันวิญญูชนจะพึงรู้เฉพาะตน (แล) เป็นผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันแน่วแน่ในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค ปฏิบัติดีแล้ว ปฏิบัติตรงแล้ว ปฏิบัติเป็นธรรม ปฏิบัติชอบยิ่ง คือ คู่บุรุษ ๔ บุรุษบุคคล ๘ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคนั้น เป็นผู้ควรรับเครื่องสักการะ เป็นผู้ควรของต้อนรับ เป็นผู้ ควรทักขิณา เป็นผู้ควรทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ก็เพราะเหตุที่ ส่วนแห่งกิเลสนั้นๆ อันภิกษุนั้นสละได้แล้ว คายแล้ว ปล่อยแล้ว ละเสียแล้ว สละคืนแล้ว เธอย่อมได้ความรู้แจ้งอรรถ ย่อมได้ความรู้แจ้งธรรม ย่อมได้ปราโมทย์อันประกอบด้วยธรรมว่า เราเป็นผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันแน่วแน่ในพระพุทธเจ้า เราเป็นผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใส อันแน่วแน่ในพระธรรม เราเป็นผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันแน่วแน่ในพระสงฆ์ และเพราะ ส่วนแห่งกิเลสนั้นๆ อันเราสละได้แล้ว คายแล้ว ปล่อยแล้ว ละเสียแล้ว สละคืนแล้ว ดังนี้ เมื่อปราโมทย์แล้ว ย่อมเกิดปีติ เมื่อมีปีติในใจ กายย่อมสงบ เธอมีกายสงบแล้ว ย่อม ได้เสวยสุข เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น. [๙๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นแลมีศีลอย่างนี้ มีธรรมอย่างนี้ มีปัญญาอย่างนี้ ถึงแม้จะฉันบิณฑบาตข้าวสาลีปราศจากเมล็ดดำ มีแกงมีกับมิใช่น้อย การฉันบิณฑบาตของภิกษุนั้น ก็ไม่มีเพื่ออันตรายเลย. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผ้าอันเศร้าหมอง มลทินจับ ครั้นมาถึงน้ำอันใส ย่อมเป็นผ้าหมดจด สะอาด อีกอย่างหนึ่ง ทองคำครั้นมาถึงปากเบ้า ย่อมเป็นทองบริสุทธิ์ ผ่องใส ฉันใด ภิกษุ ก็ฉันนั้นแล มีศีลอย่างนี้ มีธรรมอย่างนี้ มีปัญญาอย่างนี้ ถึงแม้จะฉันบิณฑบาตข้าวสาลีปราศจาก เมล็ดดำ มีแกงมีกับมิใช่น้อย การฉันบิณฑบาตของภิกษุนั้น ก็ไม่มีเพื่ออันตรายเลย. [๙๗] ภิกษุนั้นมีใจประกอบด้วยเมตตา ประกอบด้วยกรุณา ประกอบด้วยมุทิตา ประกอบด้วยอุเบกขา แผ่ไปยังทิศหนึ่งอยู่ ทิศที่ ๒ ทิศที่ ๓ ทิศที่ ๔ ก็เหมือนกัน มีใจ ประกอบด้วยเมตตา ประกอบด้วยกรุณา ประกอบด้วยมุทิตา ประกอบด้วยอุเบกขา อันไพบูลย์ เป็นมหัคคตะ ไม่มีประมาณ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาท แผ่ไปยังทิศเบื้องบน เบื้องต่ำ ด้านขวาง ทั่วโลกทั้งสิ้น โดยเป็นผู้หวังประโยชน์แก่สัตว์ทั่วหน้า ในที่ทุกแห่ง ด้วยประการฉะนี้ เธอย่อม รู้ชัดว่า สิ่งนี้มีอยู่ สิ่งที่เลวทรามมีอยู่ สิ่งที่ประณีตมีอยู่ ธรรมเป็นเครื่องสลัดออกที่ยิ่งแห่ง สัญญานี้ มีอยู่ เมื่อเธอรู้เห็นอย่างนี้ จิตย่อมหลุดพ้น แม้จากกามาสวะ แม้จากภวาสวะ แม้จากอวิชชาสวะ เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ก็มีญาณรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มี ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ภิกษุนี้ เรากล่าวว่า เป็นผู้อาบแล้วด้วยเครื่องอาบอันเป็นภายใน....

วันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2566

วันเสาร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2566

จะเป็นอย่างไรในอีก 10 ปีข้างหน้า เมื่อคนไทยกว่า 40% จะเข้าสู่วัยเกษียณ |...

รัสเซียยิงขีปนาวุธ S-200 ยูเครน สหรัฐฯจะติดตั้งนิวเคลียร์ในอังกฤษ | TNN ...

"รัสเซีย" เผย ขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ ประจำการพร้อม | ทันโลก EXPRESS ...