ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2562

จงมีน้ำใจแต่อย่าไว้ใจคน : กลอนคติสอนใจ







จงมีน้ำใจแต่อย่าไว้ใจคน : กลอนคติสอนใจ

    ฝนกระหน่ำ เนื่องค่ำ-เช้า...............................แมวบ่นเว้า เบื่อชื้นฝน
ทำ(หน้า)เหนื่อยหน่าย ไม่อดทน....................(เพราะ)มิได้ซน เล่นตามใจ

    ฝนล้นฟ้า เพราะพายุ....................................เพิ่งล่วงลุ อุทกให้
ชาวนาค่อย สบายใจ....................................ข้าวรอดตาย ใบ(ใหม่)เริ่มผุด

    สัตว์ดุร้าย ในโลกนี้......................................บ่เคยมี ใครเทียบมนุษย์
ป่าเถื่อนเห็น เป็นที่สุด..................................มิยั้งหยุด ก่ออาชญา

    บางส่วนยล (แค่)คนส่วนน้อย.........................ผู้เฝ้าคอย ตั้งปรารถนา
ฝึกมนัส พัฒนา...........................................พ้นชั่วช้า รู้ละอาย

    จิตเมตตา เอื้ออารี........................................อย่างไม่มี นาทีสลาย
มุ่งก้าวหน้า พร้อมท้าทาย..............................มิ(ยอม)พ่ายแพ้ แก่อธรรม

    เมื่อจิตใจ ใสสะอาด......................................ชีวาวาตม์ (พลอย)พิลาสล้ำ
เมื่องดเว้น ก่อเวรกรรม..................................ย่อมน้อมนำ (สุข)สันติ์ดำเนิน

    สำนึกดี เป็นศรีศักดิ์........................................กุศลปัก เป็นหลักเหิน
ถึงศีลธรรม (คือ)ความเพลิดเพลิน....................(แต่ว่า)อย่าเล่อเลิน (ระหว่าง)เดินก้าวไป

    เพราะโลกนี้ มีมนุษย์.......................................(ผู้)เป็นที่สุด สัตว์สาไถย
ถึง(เรา)จะดี มีน้ำใจ.......................................ประมาทเมื่อไร ภัยเภทพาน(จากคนที่)

    เห็นแก่ตน ฉลชั่วช้า........................................มากมารยา มนาหาญ
โลภมากมั่น เป็นสันดาน..................................มิ(ให้ความ)สำคัญ การกตัญญูฯ

๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๒

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562

สงสัยไม่ใช่เมืองพุทธ? : กลอนสะท้อนสังคม












สงสัยไม่ใช่เมืองพุทธ? : กลอนสะท้อนสังคม

    สงสัย เมืองไทย ไม่ใช่(เมือง)พุทธ?............................บ่หยุด บ่เว้น เป็นเรื่องฉาว
ในครา ราตรี (มีแหล่ง)โลกีย์คาว.............................(สังคม)แตกร้าว กร้าวกระฉ่อน ว่อนทั้งวัน

    จำนวน วัดมี กว่าสี่หมื่น.............................................พระ-เณร เห็นดื่น เพ้อฟื้นฝัน
ธำรง พุทธศาสน์ อวดอัศจรรย์................................ฟาดฟัน กิเลส แลเวทนา(พูดๆไ)

    วันพระ อาราธ (ธะ)นา(ศีล)+ธรรม...............................วันสำ คัญทาง พุทธศาสนา
นุ่งขาว เข้าวัด คล้ายศรัทธา....................................ฟังพระ เทศนา ภาวนาทำ

    ยามที่ ทุกข์ใจ (มัก)จะไปวัด.......................................สารพัด ปัจจัย ถวายล้ำ
โกนผม ห่มขาว ล้างเก่ากรรม..................................หวังความ สำเร็จ สมเจตนาฯลฯ

    แต่ศีล ที่รับ กลับไม่รักษ์............................................แค่สัก แต่(ทำตาม)พิธี มิเห็นค่า
ฟังเทศน์ เท่าไร ไม่นำพา........................................พระ-เณร(จำนวนหนึ่ง) เห็นว่า ก็ราคี(มิต่างกัน)

    ถาวร วัตถุ ชูสวยเด่น................................................เงินเป็น สรณะหลัก แห่งศักดิ์ศรี
การป ฏิบัติธรรม ตามพิธี.........................................ไม่มี ความรู้ ความเข้าใจ(เพราะไม่ศึกษา-ไม่สนใจพระไตรปิฎก)

    บ้านเมือง มากมี การทุจริต........................................ความคิด มิจฉา ลามสาไถย
เรื่องเห็น แก่ตน ล้นทั่วไป........................................แลไร้ ใจกระดาก อยากบาปกรรม

    รุ่งเรือง เฟื่องไสว อย่าใฝ่คิด.......................................ตราบยัง ยึดติด จิตใจต่ำ
สองมือ ถือสาก ปากท่องธรรม..................................คนระยำ ได้ดี มีพวกดัน

    ความยุติ (ติ)ธรรม คู่อำนาจ........................................ผูกขาด บาตรใหญ่ ตามใจฉัน
จากรุ่น สู่รุ่น คุ้นเคยครัน..........................................เปลือกปั้น  เป็นพุทธ (เพียง)สมมุติเองฯ

๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๒

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ค่าแรง 400 บาท ฝัน? - จริง? (27 ส.ค.62) กาแฟดำ | 9 MCOT HD

รวมดราม่า "ครูอ้อม" แฉความเลวอาหารโรงเรียน | เนขั่นคนข่าวเข้ม | 29 ส.ค. ...

พึ่งพระไปซะทุกอย่าง : กลอนสะท้อนสังคม







พึ่งพระไปซะทุกอย่าง : กลอนสะท้อนสังคม

    ฝนไม่ ตกต้อง ตามฤดู........................................กินอยู่ ยากแค้น แสนเคืองเข็ญ
ข้าวตาย คานา น้ำตากระเด็น............................มิเห็น ทางออก ย้อนยอกยล

    ชักชวน กันมา ขอพระช่วย...................................เนื่องด้วย บัดนี้ บ่มีฝน
อาราธ (ธะ)นา พระสวดมนต์............................หวังดล บันดาล ประทานพิรุณ

    อกหัก ร้องไห้ รี่ไหว้พระ......................................รดน้ำ มนต์ซะ จะเอื้อหนุน
คนรัก หวนคืน รื่นละมุน...................................สมบูรณ์ สุนทร พรประไพ

    ลืมกระเป๋า สตังค์ ยังวอนพระ................................โปรดเพ่ง ตบะ(นั่งทางใน) ช่วยหาให้
ของโดน ปล้นชิง พึ่งพิงใคร?............................พึ่งตำรวจ ปวดใจ ไม่นำพาฯลฯ

    (ค่านิยม)พึ่งพระ สะท้อน ความอ่อนหัด...................มโนทัศน์ อัดอั้น ด้วยตัณหา
โมหะ จริต อวิชชา..........................................ไม่มี ปัญญา ประภากร

    มีธรรม มีตน เป็นที่พึ่ง.......................................ลึกซึ้ง พระธรรม คำสั่งสอน
พิสุทธิ์ อุตสาห์ อย่าอาวรณ์...............................(หยุด)ปลิ้นปล้อน ซ่อนเงื่อน เถื่อนคดจินต์

    เริ่ม(ต้น)จาก สัมมา สะอาดคิด...............................ก่อกรรม สุจริต เป็นนิจสิน
พยายาม ทำดี ชีวาชิน......................................นึกถวิล ศีลธรรม น้อมนำทาง

    ผู้นำ ประเทศ ที่เจตนา.........................................จะแก้ ปัญหา จงสะสาง
ความผิด มิจฉา ลดละวาง..................................หยุด(ทำ)ชั่ว เป็นตัวอย่าง กระจ่างตา

    เคารพ กฎหมาย ใช่เหยียบย่ำ................................การทำ ตามใจ จะกลายปัญหา
(หาก)บริหาร ตามกฎ กติกา...............................ไม่ต้องมา ขอพร (เดือด)ร้อนพระเลยฯ

๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๒

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2562

กรุณาปราณีผลานิสงส์ : กาพย์ฉบัง๑๖




กรุณาปราณีผลานิสงส์ : กาพย์ฉบัง๑๖

    การให้(ทาน.ความช่วยเหลือ)โดยไม่หวังผล.......................(ช่วย)ขจัดความเห็นแก่ตน
หลุดพ้นกลกรรมความตระหนี่

    เปรียบเสมือนปัถพินอินทรีย์......................เผื่อแผ่แลพลี
เพื่อสรรพชีวีอดิศัย

    ความเอื้ออารีมีน้ำใจ......................น้อมนำทำให้
เป็นที่รักใคร่ในทุกสถาน

    ความดีมีผลดลบันดาล.....................เสกสุขสำราญ
คืนสนองพ้องพานคนดี

    ความใจกว้างสร้างศักดิ์ศรี.....................ขณะที่ความตระหนี่
สร้างสิ่งบัดสีบีฑา

    ทุกอย่างต่างมีที่มา....................ทั้งสติปัญญา
หรือฐานะความร่ำรวยฯลฯ

   ยามทุกข์ย่ำยีมีคนช่วย.....................ย่อมประกอบด้วย
เหตุผลตน(เคย)ช่วย(คนอื่น)เอาไว้

    ปรารถนาสุขีมีชัย.....................ก็จงใส่ใจ
ในหลักกรุณาปราณี

    วาดหวังอยู่ดีกินดี.....................ทรัพย์เสริมเพิ่มทวี
จงอย่าตระหนี่ถี่เหนียว(ใจแคบ)

    (ก่อน)ช่วยใครให้สำนึกเทียว......................(ใจ)คนโคตรคดเคี้ยว
ประเดี๋ยวดีประเดี๋ยวร้ายคล้ายเสมอ

    (เพราะฉะนั้น)ช่วยใครอย่าได้เผอเรอ.......................เพราะจะพบเจอ
เสมอๆซึ่งคนเนรคุณฯ

๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๒

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2562

สวดมนต์-ภาวนา พาพ้นโรคภัยไร้ทุกข์? : กลอนคติเตือนใจ


สวดมนต์-ภาวนา พาพ้นโรคภัยไร้ทุกข์? : กลอนคติเตือนใจ

    หากใคร คิดว่า.................................ธรรมา คือสิ่ง วิเศษ
ทรงฤทธิ์ อิทธิเดช......................ช่วยเฉด สารพัน ปัญหา
โดยที่ ตัวตน.............................แค่กรวด(น้ำ) สวดมนต์ ภาวนา
รอเทพ (พะ)ยดา........................ประทาน พรพา ขจัดภัย

    ก็ขอ บอกเล่า...................................ท่านกำ ลังเข้า ใจผิด
นั่นคือ ความคิด..........................มิจฉา ประสา คุณไสย
(ความเชื่อว่า)ทำบุญ กับพระ.........เพื่อจะ ประสบ โชคชัย
โดยมิต้อง ทำอะไร......................แสนไร้ สาระ สัปดน

    พุทธธรรม คำสอน..............................สะท้อน สัจจริง สิ่งที่
ธรรมชาติ เป็น-มี.........................วิถี ปฏิบัติ อรรถผล
อิงกฎ แห่งกรรม..........................การกระทำ ทั่วถ้วน ส่วนบุคคล
อันแต่ ละคน...............................ต้องสน ใจทำ ให้สัมมา

    หลักธรรม คำนึง.................................ตนเป็น ที่พึ่ง แห่งตน
สอดคล้อง เหตุ-ผล......................แห่งหน ทางสัจ-ศาสนา(พุทธ)
อย่าให้ ใครหลอก........................(อย่า)เชื่อคำ กลิ้งกลอก บอกว่า
สวดมนต์-ภาวนา..........................สิพา พ้น(โรค)ภัย ไร้ทุกข์

     พิสูจน์ ดูได้......................................หากคน เราไม่ อุตส่าห์
ก่อกรรม ทำมา.............................หากิน ถวิลเล่น เห็นสนุก
เอาแต่ สวดมนต์...........................ภาวนา พาตน พ้นทุกข์(ได้หรือไม่)?
ครอบครัว เปี่ยมสุข........................(เพราะ)ถวายทุก สิ่งมี พลีพระฤา?

๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๒

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ตราบที่ชีวิตยังมีลมหายใจ : กาพย์ฉบัง๑๖




ตราบที่ชีวิตยังมีลมหายใจ : กาพย์ฉบัง๑๖

    เสียงกบร้องขับรับฝน.......................โดดเดี่ยวเดียวดล
ชวนฉงนสนเท่ห์เวทนา

    (ที่นี่)กลางเมืองมิใช่กลางป่า......................ท้องไร่ทุ่งนา
ไม่รู้ว่า(กบตัวนี้)มาจากไหน?

    ขับร้องก้องอย่างตั้งใจ......................สื่อสารถึงใคร?
ท่ามกลางสายฝน(กลางดึก)อนธการ

    (แม้)ไร้เสียงสนองรับขับขาน.....................มิทำให้การ
มุ่งมั่นสร้างสรรค์ลาญลง

    กบตัวน้อยด้อยพันธุ์พงศ์.....................แต่ไม่ใหลหลง
ทะนงพิสุทธิ์จุดหมาย

    มิครณาว่าจะเดียวดาย....................โชคมีดี-ร้าย
ท้าทายโลกธาตุ-วาสนา

    (จง)เสริมความผ่องใสในมนา.....................เพิ่มพีทวีค่า
ทุ่มเทเวลาอย่าอ่อนไหว

    อุกฤษฏกรรม(ย่อม)สำเร็จด้วยใจ.....................มั่นคงจรรโลงไกร(อุกฤษฏ์=สูงสุด)
ไม่ระย่อต่ออุปสรรคขวากหนาม

    การ(อดทน)อุตสาหะพยายาม.....................คือสิ่งสวยงาม
แม้(จะ)ล้มเหลว(ถูก)เหยียดหยามก็ตามที

    ยืนหยัดศรัทธาทำหน้าที่......................ตราบเท่าชีวี
ยังมีลมหายใจเทอญฯ

๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๒

ทำไมโลกยุ่งได้ถึงขนาดนี้? Suthichai live 26/8/62

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ผ่าแผน “กระตุ้นเศรษฐกิจ” รอบใหม่ “ความท้าทาย” รัฐบาล : ตอบโจทย์ (23 ส.ค....

ความคิด-ความรู้-ความเพ้อฝัน : กลอนเปล่า





ความคิด-ความรู้-ความเพ้อฝัน : กลอนเปล่า

    พิรุณพิไรร่ำตลอดค่ำคืน
ความชุ่มชื้นฟื้นพนา
หลังฟันฝ่ากระแสฝน
เมฆีคลี่คลุมนภดล
สุริยนสิ้นไร้
ไม่สามารถต้านทาน

    ความคิด คือ จินตนาการ
อย่าสำคัญว่า คือ ความรู้
การเก็บรวบรวมสิ่งที่สังเกตเฝ้าดู
เกิด-ปรากฏ-ดำรงอยู่-แปรเปลี่ยนไปฯลฯ
คือเงื่อนไขที่ควรคู่
กับการเป็นความรู้ที่แท้จริง

    ความบกพร่องของการสังเกต
การปฏิเสธสิ่งที่มิประสงค์
ค่านิยมผิดๆ อันสถิตธำรง
การเจาะจงตรงเป้าหมาย ที่ใคร่คะเนฯลฯ
คือปัจจัยทำให้
หัวใจหันเหไปจากความเป็นจริง

    แต่ก็ยังไม่เหลวไหล-เลวร้ายเท่า
ความเป็นคนโง่เขลาเอาแต่ใจ
สรุปอะไร
ตามที่ใคร่-มั่นหมาย-ปรารถนา
ทำอะไรโดยไม่นำพา
ว่าความจริง คืออย่างไร?

    ซึ่งก็คือ ความเพ้อฝัน
เพราะละเลยคุณธรรม์อันสุกใส
ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี มิใส่ใจ
ทำอะไรอย่างหลงผิด
ชีวิตพัง

    ทำอะไร ไม่รู้จักคิด
การกระทำไม่แก้ไข เพราะไร้ความคิด
และความเห็นผิดเป็นชอบ
กำกับขอบเขต
คือสาเหตุแห่งวิถีของความด้อยพัฒนา

    ชีวิตย่อมเวียนวน
ทนทรมานกับปัญหา
ที่ดูเผินๆก็เหมือนเผชิญโชคชะตา
แต่ถ้ามีสติสัมปชัญญะ
ย่อมจะเข้าใจความจริง

    ชีวิตของคนหนึ่งคน
อาจพลิกผันผลสุดท้ายได้ไม่ยาก
แต่ชะตากรรมของชนหมู่มาก
มีอุปสรรคแสนหนักหนา

    คุณภาพของคนส่วนใหญ่
ทำให้สังคมดำเนินไปในมรรคา
ที่บางครั้ง
คนส่วนน้อยผู้มีสติปัญญา
ต้องตัดสินใจปลีกตัวออกมา
อย่าเสียเวลาร่วมชะตากรรมฯ

๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๒

วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562

Suthichai Live: เศรษฐกิจวิบาก!

ขอให้(ฉัน)ไม่มีอายุยืนยาว : กลอนวิกฤติโลกร้อน









ขอให้(ฉัน)ไม่มีอายุยืนยาว : กลอนวิกฤติโลกร้อน

    สิบปีก่อน แอบซ่อนหวัง......................................(วิกฤติ)โลกร้อนยัง ร้างปัญหา
จนแก่เฒ่า เรามรณา..................................(ค่อย)ถึงเวลา ปรากฏภัย

    แต่สิบปี ที่ผันผ่าน.............................................สถานการณ์ (หาเป็น)เช่นนั้นไม่
สภาวะโลก ร้อนเร็วไว................................เกินกว่าใคร ใคร่คาดกัน(ผลกระทบโลกร้อนเร็วกว่าคาด 3-5 เท่า)

    (เพราะมัว)หลงนึกว่า เหล่ามนุษย์.........................จะสะดุด หยุดดื้อรั้น
(หยุด)ทำลายโลก อย่างเมามัน....................(ด้วยการ)รับข่าวสาร (เตือน)ภยันตราย

    ที่ไหนได้ (คนกลับ)ไร้สำเหนียก...........................(ทำเหมือน)กวักมือเรียก ปีศาจร้าย
รีบเร่งมา ปรากฏกาย..................................ทำลายล้าง สร้างเภทพาน

    โลกวันนี้ เริ่มวิบัติ..............................................ภัยสารพัด ปราศสงสาร
ชีวิตคน ท้นทรมาน.....................................(นี่แค่จุด)เริ่มสัญญาณ แห่งกาลกลี

    ใครจะยัง หวังว่าคน...........................................สิตื่นตน ก่อน(โลก)ป่นปี้
ก็ตามสบาย (แต่)ใจฉันนี้..............................หมดฤดี ไม่มีหวัง

    สารพัด พิบัติภัย...............................................(จะ)ทยอยหลั่งไหล ไม่หยุดยั้ง
นับวันที่ ทวีพลัง.........................................เพราะโลกดั่ง ร้างสมดุล

    ขอ(ให้ฉัน)อย่ามี อายุยืน....................................ตายอย่าคืน เกิดเวียนหมุน
ไม่อยากมา ถูกทารุณ...................................ในโลกอุ่น ร้อนกรุ่นเอยฯ

๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๒

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ฝ่าวิกฤตแล้งกลางฤดูฝน l Highlight TNN ข่าวเช้า

พื้นฐานปัญหาสังคม : กาพย์ฉบัง๑๖







พื้นฐานปัญหาสังคม : กาพย์ฉบัง๑๖

    รัฐ(ที่)ล้นพลเมืองส่วนใหญ่.......................มีมโนธรรมไร้
โง่เขลาเมามายในมิจฉา(ทิฏฐิ)

    บกพร่องส้องเสพ(สติ)ปัญญา......................เอาวันเวลา
ทำสิ่งไร้สาระเล่นสนุก

    เมามายในอบายมุข......................ยาเสพย์ติดขลุก
ถูกอกถูกใจ(ในเรื่อง)ไร้แก่นสาร

    รังเกียจเดียดฉันท์งานการ.....................(แต่)โลภมากดักดาน
สันดานมั่นคุดทุจริต

    มักง่ายหมายเพลินเผชิญชีวิต.....................โฉดฉลกระมลจิต
มักผิดศีลธรรมก่อกรรมเข็ญ

    งอมืองอเท้าเอาแต่เล่น....................สร้าง(สรรค์)อะไรไม่เป็น
จัดเจนฉกาจสัญชาตญาณ

    ไร้ทักษะ(ฝีมือ)ความเชี่ยวชาญ.....................ด้อยพัฒนาการ
เยี่ยงสัตว์เดรัจฉานขวนขวาย(กิจกรรม)

    กิน-นอน-สืบพันธุ์ฯลฯบรรยาย.....................รักความสบาย(ขี้เกียจ)
เพ้อฝันมั่นหมายไปวันๆ

    ที่จะพัฒนาอย่าฝัน.....................ประเทศชาตินั้น
มีแต่สิแพร่การณ์วิกฤติ

    ประเชิญปัญหา(ทุก)สารทิศ......................สังคมอุดมพิษ
วิปริตผิดผันนิรันดรฯ

๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๒

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ความเจ้าชู้คู่กับกวี? : กลอนคติสอนใจ



ความเจ้าชู้คู่กับกวี? : กลอนคติสอนใจ

    กวี ต้องขี้เมา และเจ้าชู้......................................เป็นผู้ มุสา อัชฌาสัย
กลิ้งกลอก หลอกลวง ดวงหทัยฯลฯ...................ใครๆ ชอบอ้าง สร้างภาพปอง

    คงเพราะ ติดภาพ สุนทรภู่...................................ศรีปราชญ์ กันอยู่ รับรู้พร่อง
ใครจะ เจ้าชู้ อย่าดูมอง....................................แค่คล่อง กรองกานท์ งานกวี(กานท์=บทกลอน)

    คนเรา จะเจ้าชู้ อยู่ที่ใจ.......................................เหลวไหล ใคร่รัก มักมากชี้
ราคะ จริต แรงฤทธี.........................................ไม่มี ศีลธรรม กำกับกมล

    ปล่อยใจ ไปตาม กามประสงค์..............................ลุ่มหลง ราคี ฤดีฉล(ไม่ซื่อสัตย์)
ค่านิยม เจ้าชู้ คู่จิตคน......................................สัปดน ไม่(แตก)ต่าง ทั้งหญิง-ชาย

    (เมื่อความ)เจ้าชู้ คู่(ความมี)วิชา วาทศิลป์..............ร้อยลิ้น ร้อยเล่ห์ เสน่ห์หลาย
(ยิ่งมี)รูปงาม สำอาง (สามารถ)สร้างอุบาย...........หลอกใคร ได้ง่าย ให้สัมพันธ์

    บทกวี ก็แค่ (สื่อ)แพร่คารม..................................ระบาย อารมณ์ พรมเพ้อฝัน
แต่การ แต่งกวี ให้ดีนั้น....................................ต้องเชี่ยวชาญ+มี(สติ)ปัญญา+วิชาการ(อักษรศาสตร์)

    ความจริง สิ่งที่ นิยมกว่า......................................และง่ายกว่า แต่งกวี พิษฐาน
คือร้องรำ ทำเพลง เปล่งเสียงพาน......................ทุกพารา สาธารณ์ บันเทิงทำ

    บทกวี ก็เพียง (คำที่มี)เสียงไพเราะ........................จังหวะเสนาะ เหมาะสม ภิรมย์พร่ำ
ชุมชุก ถูกใช้ ในกิจกรรม...................................ต้องการคำ อำมฤต วิจิตรเอยฯ

๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๒

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2562

อำลามาเรียม : กลอนไว้อาลัยลูกพะยูนน้อย




  


อำลามาเรียม : กลอนไว้อาลัยลูกพะยูนน้อย

    เจ้าหญิงน้อย ลอยล่องฟ้า(แล้ว)..............................หลังจากมา ร่วมอาศัย
ณ แดนดิน ท้องถิ่นไทย..................................และ(อยู่)ในใจ ไทยทั้งมวล

    น้องมาเรียม (หญิงสาว)ผู้งามสง่า............................ไม่ถึงเวลา สี่เดือนถ้วน(พบเมื่อ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๒)
ก็สร้างรัก และชักชวน.....................................ชาวไทยหวน คิดคะนึง

    อนุรักษ์ ธรรมชาติ.................................................อย่างมุ่งมาด เกินคาดถึง
ด้วยพฤติกรรม กล่าวรำพึง................................ที่ตรึงติด จิตใจชน(เช่น ความขี้อ้อน นอนเกยตื้น ดูดครีบรอกินนมฯลฯ)

    หญิงงามเอ๋ย (ผู้ชอบ)นอนเกยตื้น.............................ไร้วันฟื้น เพราะกลืนผล-
ผลิตจาก น้ำมือคน..........................................จนมรณา มาพรากไป

    ชีวิตแล้ว ชีวิตเล่า..................................................ที่ความเขลา ของคนใคร่
กระทำตาม อำเภอใจ.......................................โดยไม่คิด พิจารณา(ถึงผลกระทบ)

    ความโฉดร้าย ในมนุษย์..........................................คอยยื้อยุด ฉุดลากหล้า
สู่ปากเหว แห่งสนธยา......................................ปวงสัตว์ป่า คร่าสูญพันธุ์

    หยุดทำเรื่อง ไร้สาระ..............................................ลดสร้างขยะ ประพฤติผัน
เลิกบริโภค อย่างเมามัน(ฟุ่มเฟือย)......................ก่อนธรรมชาตินั้น สิบรรลัย

    ร่วมดูแล สิ่งแวดล้อม..............................................สมบูรณ์พร้อม อย่ายอมให้
พฤติทราม ทำลายไป.......................................โดยที่ไม่ แก้ไข(พฤติกรรมของตัวเอง)เลยฯ

๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๒

*7+7 เรื่องน่ารู้ “น้องมาเรียม-พะยูน” ขวัญใจชาวเน็ตผู้น่ารัก
From <https://mgronline.com/travel/detail/9620000054825>

บทเพลง(รัก)และความรัก : กาพย์ยานี๑๑



บทเพลง(รัก)และความรัก : กาพย์ยานี๑๑

    บทเพลง(รัก) และความรัก....................................เป็นชนัก ปักหลงใหล
ครอบงำ นำจิตใจ...........................................ของหลายคน จนวุ่นว้า(โดยเฉพาะวัยรุ่น)

    เนื้อเพลง ที่เปล่งเสียง..........................................รึงรัดเรียง เคียงอุรา
ลอยล่อง ท่องนภา.........................................พ้นโลกา นราสถาน

    กล่อมเกลา ความเขลาคลั่ง....................................เสมือนดั่ง สั่งวิญญาณ
(จน)เป็นผู้ ไม่รู้การณ์......................................วิจารณญาณ บั้นปลายผล(การณ์=เหตุ,เค้า,มูล)

    หลงใหล ในความรัก.............................................แลใฝ่ฝัก อยากเวียนวน
ทุ่มเท ทั้งกระมล............................................ให้จนหมด มิอดสู

    ความรัก ความสำคัญ.............................................เหนือชีวัน สัญญาณรู้
ชีวี มี-เป็น-อยู่................................................คู่ครองรัก สมัครพิสมัย

    แต่ด้วย ทวยอำนาจ...............................................ที่ธรรมชาติ ครอบ(งำ)กาย-ใจ
เรรวน ปรวนแปรไป.........................................ตามปกติ วิถีชน

    บทเพลง บรรเลงรัก(มากมายที่)...............................กลายประจักษ์ เป็นฉากฉล
ย่ำยี ฤดีจน....................................................ต้องทนทุกข (ขะ)ทรมาน

    เพลงเพียง ที่เที่ยงแท้............................................คงมีแค่ กระแส(วัฏ)สงสาร
ติดตน ผจญพาน............................................กฎแห่งกรรม์ บันดาลเอยฯ

๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๒