ความเจ้าชู้คู่กับกวี? : กลอนคติสอนใจ
๏ กวี
ต้องขี้เมา และเจ้าชู้......................................เป็นผู้ มุสา
อัชฌาสัย
กลิ้งกลอก
หลอกลวง ดวงหทัยฯลฯ...................ใครๆ ชอบอ้าง สร้างภาพปอง
๏ คงเพราะ
ติดภาพ สุนทรภู่...................................ศรีปราชญ์ กันอยู่ รับรู้พร่อง
ใครจะ เจ้าชู้ อย่าดูมอง....................................แค่คล่อง
กรองกานท์ งานกวี(กานท์=บทกลอน)
๏ คนเรา
จะเจ้าชู้ อยู่ที่ใจ.......................................เหลวไหล
ใคร่รัก มักมากชี้
ราคะ
จริต แรงฤทธี.........................................ไม่มี ศีลธรรม กำกับกมล
๏ ปล่อยใจ
ไปตาม กามประสงค์..............................ลุ่มหลง ราคี ฤดีฉล(ไม่ซื่อสัตย์)
ค่านิยม
เจ้าชู้ คู่จิตคน......................................สัปดน ไม่(แตก)ต่าง
ทั้งหญิง-ชาย
๏ (เมื่อความ)เจ้าชู้
คู่(ความมี)วิชา วาทศิลป์..............ร้อยลิ้น ร้อยเล่ห์ เสน่ห์หลาย
(ยิ่งมี)รูปงาม
สำอาง (สามารถ)สร้างอุบาย...........หลอกใคร ได้ง่าย ให้สัมพันธ์
๏ บทกวี
ก็แค่ (สื่อ)แพร่คารม..................................ระบาย อารมณ์ พรมเพ้อฝัน
แต่การ
แต่งกวี
ให้ดีนั้น....................................ต้องเชี่ยวชาญ+มี(สติ)ปัญญา+วิชาการ(อักษรศาสตร์)
๏ ความจริง
สิ่งที่ นิยมกว่า......................................และง่ายกว่า แต่งกวี
พิษฐาน
คือร้องรำ
ทำเพลง เปล่งเสียงพาน......................ทุกพารา สาธารณ์ บันเทิงทำ
๏ บทกวี
ก็เพียง (คำที่มี)เสียงไพเราะ........................จังหวะเสนาะ เหมาะสม
ภิรมย์พร่ำ
ชุมชุก
ถูกใช้ ในกิจกรรม...................................ต้องการคำ อำมฤต วิจิตรเอยฯ
๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๒
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น