ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ความเจ้าชู้คู่กับกวี? : กลอนคติสอนใจ



ความเจ้าชู้คู่กับกวี? : กลอนคติสอนใจ

    กวี ต้องขี้เมา และเจ้าชู้......................................เป็นผู้ มุสา อัชฌาสัย
กลิ้งกลอก หลอกลวง ดวงหทัยฯลฯ...................ใครๆ ชอบอ้าง สร้างภาพปอง

    คงเพราะ ติดภาพ สุนทรภู่...................................ศรีปราชญ์ กันอยู่ รับรู้พร่อง
ใครจะ เจ้าชู้ อย่าดูมอง....................................แค่คล่อง กรองกานท์ งานกวี(กานท์=บทกลอน)

    คนเรา จะเจ้าชู้ อยู่ที่ใจ.......................................เหลวไหล ใคร่รัก มักมากชี้
ราคะ จริต แรงฤทธี.........................................ไม่มี ศีลธรรม กำกับกมล

    ปล่อยใจ ไปตาม กามประสงค์..............................ลุ่มหลง ราคี ฤดีฉล(ไม่ซื่อสัตย์)
ค่านิยม เจ้าชู้ คู่จิตคน......................................สัปดน ไม่(แตก)ต่าง ทั้งหญิง-ชาย

    (เมื่อความ)เจ้าชู้ คู่(ความมี)วิชา วาทศิลป์..............ร้อยลิ้น ร้อยเล่ห์ เสน่ห์หลาย
(ยิ่งมี)รูปงาม สำอาง (สามารถ)สร้างอุบาย...........หลอกใคร ได้ง่าย ให้สัมพันธ์

    บทกวี ก็แค่ (สื่อ)แพร่คารม..................................ระบาย อารมณ์ พรมเพ้อฝัน
แต่การ แต่งกวี ให้ดีนั้น....................................ต้องเชี่ยวชาญ+มี(สติ)ปัญญา+วิชาการ(อักษรศาสตร์)

    ความจริง สิ่งที่ นิยมกว่า......................................และง่ายกว่า แต่งกวี พิษฐาน
คือร้องรำ ทำเพลง เปล่งเสียงพาน......................ทุกพารา สาธารณ์ บันเทิงทำ

    บทกวี ก็เพียง (คำที่มี)เสียงไพเราะ........................จังหวะเสนาะ เหมาะสม ภิรมย์พร่ำ
ชุมชุก ถูกใช้ ในกิจกรรม...................................ต้องการคำ อำมฤต วิจิตรเอยฯ

๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๒

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น