ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2560

การพนัน : โคลงสี่สุภาพ



การพนัน : โคลงสี่สุภาพ

๑. โลภมากแต่เกียจคร้าน.......................ทำงาน
คือกระมลสันดาน.............................หยาบช้า
อยากรวยทรัพย์ศฤงคาร....................มักง่าย
แต่ไม่บุกบั่นคว้า..............................งอเท้างอมือฯ

๒. ถือคติทำงานน้อย.............................คือฉลาด
ไม่พัฒนาความสามารถ......................ความรู้
มักง่ายใจประมาท.............................ชอบเสี่ยง
เพ่งเพียงผลดีกู้................................ผลร้ายไม่เห็นฯ

๓. จึงเป็นเหยื่อให้แก่.............................การพนัน
ทุ่มเงินหวังเดิมพัน............................ละโมบได้
อัตราเสี่ยงเสีย(เงิน)มัน......................มากกว่า
โอกาสกำไรไซร้...............................ช่างน้อยนักเหลือฯ

. เมื่อสูญเสียเงินไร้..............................ยากจน
ความทุจริตคิดฉล..............................เกียจคร้าน
จึงลักขโมยของคน............................อื่นเขา
ทำผิดกฎหมายจ้าน............................จนเข้าคุกตะรางฯลฯ(จ้าน=จัด,มาก,ยิ่ง)

. ต่างคนต่างเดือดร้อน..........................เพราะ(การ)พนัน
คนเล่นไม่มีวัน...................................ก้าวหน้า
ทุกคนที่พัวพัน..................................ทำบาป
ตราบจนบุญเก่าล้า.............................จักต้องรับผลฯ

๖. สาธุชนคนรัก(ความ)รู้..........................รักดี
ครองสติปัญญามี...............................คิดได้
ฉลาดกุศลวิธี....................................วิศิษฏ์(วิศิษฏ์=เลิศ,ยอดเยี่ยม)
สุจริตส่งเสริมให้................................เลี้ยงชีพร่ำรวยฯ

. การพนันไม่ช่วยให้..............................เปี่ยมสุข
เป็นที่มาของ(ความ)ทุกข์.....................ยากไร้
อยากสบายอย่าไปคลุก.......................คลีเกี่ยว
คนเทียวเล่นพนันไซร้..........................ไม่พ้องความดีฯ

๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๐

วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เสน่หาแห่งราตรี : กาพย์ยานี๑๑



เสน่หาแห่งราตรี : กาพย์ยานี๑๑

    หยาดฝน ค่อยหล่นริน........................เสนาะยิน โศภินเยี่ยง
จากไกล ค่อยไล่เรียง...........................ใกล้เคียงอยู่ คู่ชื้นเย็น

    กลิ่นอาย ของสายฝน.........................กล่อมกระมล หยุดโลดเต้น
ราตรี นี้จะเป็น.....................................เช่นเสน่หา แห่งราตรี

    ไร้ความ ร้อนอบอ้าว...........................หลับถึงเช้า น้าวสุขี
ไร้เสียง มโหรี.....................................ที่บรรเลง(เสียงดัง) มิเกรงใจ

    ไร้คน เที่ยวกลางคืน...........................ขับรถรื่น แผดเสียงไส
ไร้ฝูง แมงกะไซค์.................................ขับรถไว ไคร่แข่งกัน

    จะได้ ไปจากโลก(ความจริง)................ไปสู่โลก แห่งความฝัน
วิถี ของชีวัน........................................ที่บีบคั้น เหลือพรรณนา

    อุ่นกาย ใต้ผ้าห่ม................................ชวนชื่นชม รมย์ผัสสา
อุ่นใจ ในบรรยา-..................................กาสสงบ สบสัญญี(สัญญี=มีความรู้สึก)

    หลับสนิท สุทธ์นิทรา...........................เพิ่มพลา เพื่อพรุ่งนี้
แรงกาย จะได้พี...................................แรงใจปรี่ มีพลัง

    เพื่อขับ สู้สรรพสาร..............................สถานการณ์ ขานสมหวัง
เพื่อมี สติดัง........................................แสงสุรังค์ พรั่งปัญญา(สุรังค์=แสงเรืองรอง)

    จะได้ ใช้ชีวิต.....................................ไม่หลงผิด ปลิดปัญหา
ผลประสิทธิ์ จากนิทรา...........................ทรงคุณค่า น่าทุ่มเทฯ

๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๐

วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2560

คนเลือกคู่ : กาพย์ยานี๑๑



คนเลือกคู่ : กาพย์ยานี๑๑

    เพื่อเซ็กส์ และเพื่อทรัพย์........................หลากคนสรรพ จึงจับคู่
ชีวิน ร่วมกินอยู่......................................ปูพื้นฐาน สานครอบครัว

    (เพื่อ)อำนาจ ความอยู่รอดฯลฯ.................มิอิดออด ปลอดดี-ชั่ว
มีแต่ (ความ)เห็นแก่ตัว............................บัญชาหัว จิตหัวใจ

    รูปสวย และรวยทรัพย์ฯลฯ.......................จึงถูกขยับ เป็นข้อใหญ่
นำคน ปรนเปรอใจ..................................ปรนเปรอกาย ให้แก่คน

    ล้นหลาม คำตัดพ้อ................................แสดงส่อ ต่อ(โอกาส)พลาดผล
เพราะเกิด มายากจน................................วิมลไร้ รูปกายมี

    บ้างก็ ขอแค่สวย....................................บ้างขอรวย อำนวยศรีฯลฯ
เลือกคู่ คน(มัก)ดูที่..................................เรื่องเหล่านี้ ชี้สำคัญ

    บางคน ยลจริงจัง....................................คุณสมบัติตั้ง พิถีพิถัน
มุ่งความ เลิศกรรมพันธุ์..............................ลูกหลานเกิด ประเสริฐเป็น

    ถือสติ และปัญญา...................................แกร่งกายา (ความ)สามารถเน้น
กำหนด คือกฎเกณฑ์................................การเลือกคู่ ดูยั่งยืน

    คนเรา ใครเล่ารู้......................................สักวันคู่ สู่เป็นอื่น
เพราะไม่ ใส่ใจพื้น-...................................ฐานจิตใจ ใฝ่ศีลธรรมฯ

๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๐

วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2560

กฎแห่งกรรม ลำนำชีวิต : กลอนคติชีวิต



กฎแห่งกรรม ลำนำชีวิต : กลอนคติชีวิต

    บทลงโทษ ของกฎ แห่งกรรม....................คือลำนำ ค้ำวัฏ (ฏะ)สงสาร
ทรงประสิทธิ์ กฤษฎา อาการ........................บนพื้นฐาน ผสาน บาป-บุญ(กฤษฎา=ที่ทำแล้ว)

    เหนืออำนาจ วาสนา มนุษย์........................จะยื้อยุด ฉุดกระชาก ลากหนุน
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อิทธา การุญ............................มิอาจหมุน กูลเกื้อ เจือจาน

    ทำอะไร เอาไว้ ในพิภพ.............................ต้องประสบ สนอง ถ่องสถาน
ไม่เลือกคน ชนชั้น บันดาล...........................ล้วนพบพาน ผลลัพธ์ กลับคืน

    ทุกขเวท (ทะ)นา ทั้งหลาย.........................(ความ)สุขสบาย ใจแฉล้ม แช่มชื่น
คือผลกรรม จำนน จนกลืน-..........................กล้ำวิบาก ยากฝืน ชะตา

    เป็นความจริง อิงสัจ วิสัย............................หามิใช่ ความเชื่อ ศาสนา
ประสบการณ์ นักปราชญ์ อัชฌา.....................เพียรศึกษา ความรู้ คู่โลกัย(โลกัย=ของโลก)

    อย่าก่อกรรม ทำบาป ขับเข็ญ.......................จงงดเว้น ชั่วช้า สาไถย
เพียรทำดี พิริยะ ประไพ................................ทำจิตใจ ใสสะอาด ทัศนีย์

    จะเป็นผู้ อยู่เย็น เป็นสุข...............................ไคลคลาดทุกข์ วิโยค โศกศรี
จะเป็นผู้ อยู่ดี กินดี.......................................โดยไม่มี อุปสรรค ตรากตรำ

    ทุกชีวี พึงพินิจ พิเคราะห์..............................ดี-ชั่วเพราะ ประพฤติ ยึดพร่ำ(พร่ำ=ซ้ำๆ,บ่อยๆ)
ตามตัวบท ของกฎ แห่งกรรม..........................น้อมลำนำ ธรรมชาติ สัจเอยฯ

๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๐

วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ผู้นำประเทศที่ดี : กลอนคติสอนใจ



ผู้นำประเทศที่ดี : กลอนคติสอนใจ

๏    ผู้นำ(ประเทศ) ที่ดี.....................ต้องมี จิตใจ รักชาติ
มิใช่ แค่ประกาศ...........................แต่ปราศ สัจจะ อดิศัย
พูดจริง ทำจริง.............................ทุกสิ่ง ปากตรง กับใจ
สัตย์ซื่อ ถือวินัย...........................วิสัยทัศน์ ก้าวหน้า เจริญ

๏    ประโยชน์ ของชาติ.....................เป็นมาตร (ตระ)การ สูงสุด
ชีวา มนุษย์.................................หยุดเห็น แก่ตน ชนสรรเสริญ
ประโยชน์ ส่วนตัว.........................ไม่มัวเมา เฝ้าเพลิดเพลิน
พวกพ้อง ต้องดำเนิน.....................ไม่เทิน เกินหน้า สาธารณ์(เทิน=ทูน)

๏    กรรมา สุจริต..............................อุทิศ ชีวิต เพื่อชาติ
มิใช้ อำนาจ.................................บาตรใหญ่ ใจอัปรีย์ บริหาร
ไม่เอา อารมณ์..............................ผสม ปฏิบัติ ราชการ
สะอาด จัดการ..............................และฉลาด จัดการ ชาญชัย

๏    ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี...........................ต้องมี สามัญ สำนึก
ศีลธรรม นำตรึก............................มิทำ ตามความรู้สึก สาไถย
อยู่ให้ คนรัก.................................และจัก จากตำ แหน่งไป
ประจำ หัวใจ................................ประชา ชนให้ นิรันดร์

๏    ประเทศ ใดมี..............................ผู้นำ ที่ดี ดูได้จาก
ปัญหา ยุ่งยาก...............................แม้มาก สามารถ พลิกผัน
สังคม ก้าวหน้า..............................ทุกเรื่อง ไม่เชื่องช้า ฝ่าฟัน
ประชา สุขสันติ์..............................มีหวัง มีฝัน อันโสภีฯ

๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๐

*คุณสมบัติอื่นๆ เช่น
มีสติปัญญา มีความรู้รอบด้าน
มีความสามารถ ทั้งด้านบริหารรัฐกิจ บริหารงานบุคคล จูงใจคนฯลฯ
มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีวุฒิภาวะสูง สุขุมรอบคอบ กล้าหาญ อดทน ฯลฯ

วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ต่อต้านการโกงกิน : กลอนคติเตือนใจ



http://www.bangkokbiznews.com/



ต่อต้านการโกงกิน กลอนคติเตือนใจ

    ธรรมดา ถ้านัก การเมือง........................ทำเรื่อง ทุจริต ผิดกฎหมาย
ข้าราชการ ไม่นิ่ง ดูดาย............................ประชาชน ขวนขวาย กดดัน

    เป็นใคร ก็ไม่ อาจโกง(กิน).....................จรรโลง สุจริต ทิศสรรค์
ทั้งชาติ ชูวัฒ (ฒะ)นธรรม์.........................ร่วมกัน ไม่โกง(กิน) ปลงปอง

    ประโยชน์ ของชาติ สำคัญกว่า.................ประโยชน์ อัตตา พวกพ้อง
ร่วมด้วย ช่วยกัน เชิดครรลอง.....................ปกป้อง ประเทศ ไผท(ไผท=แผ่นดิน)

    อย่าสนับ สนุน คนโกง(กิน)......................เสริมส่ง โครงสร้าง สาไถย
โกงเป็น กระบวนการ จัญไร........................โกงได้ ถ้าแบ่ง ให้กันฯลฯ

    ข้าราช (ชะ)การต้อง ซื่อสัตย์.....................ปฏิบัติ หน้าที่ แข็งขัน
ไม่ใช่ ช่วยโกง ยงยรร................................หนุนกัน ได้ดิบ ได้ดี(ยงยรร=ยรรยง=งามสง่า,กล้าหาญ)

    โดยเฉพาะ ระบบ ยุติธรรม.........................ต้องจองจำ คนชั่วไว้ อย่าให้หนี
ยึดทรัพย์ กลับคืน ผืนปัถพี..........................อย่าทำ อัปรีย์ อย่างที่เป็น

    ปล่อยคน โกงบ้าน โกงเมือง......................รุ่งเรือง สุขี เฉกที่เห็น
โยกย้าย เงินไป ซ่อนเร้น.............................ณ ต่าง ประเทศเช่น ปัจจุบัน

    คนไทย ต้องไม่ ยอมรับ.............................รู้จัก อับอาย ไหวหวั่น
สำนึก รักชาติ สัตยาบัน...............................ช่วยกัน ต่อต้าน การโกงกินฯ

๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๐

วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2560

สร้างวัดไว้ทำไม? : กลอนคติเตือนใจ



สร้างวัดไว้ทำไม? : กลอนคติเตือนใจ

    เราลืม กันไป แล้วหรือว่า........................พุทธะ ศาสนา สอนอะไร?
หรือว่า ละเลย มิเคยใส่ใจ..........................มีเป้า หมายใหม่ ตามใจตน?

    สร้างวัด สร้างวา มาไว้เที่ยว.....................เก็บเกี่ยว เศรษฐกิจ ผลิตผล
ยิ่งชาว ต่างชาติ เที่ยววัดท้น.......................ยิ่งยล ผลสำเร็จ เจตนา

    เครื่องราง ของขลัง คลั่งปลุกเสก..............หวยใบ้ ให้เลข อเนกหา
ประกอบ พิธีกรรม อธรรมา..........................คาถา อาคม สะสมครอง

    สิ่งศักดิ์ สิทธิ์ประหลาด นอกศาสนา............สร้างสรรค์ ปานว่า ประโยชน์สนอง
ความโง่ งมงาย ไคลครรลอง.......................(ที่)ถูกต้อง ตามดำรัส ศาสดา

    โกนผม ห่มผ้า(เหลือง) ใคร่ประสงค์...........มีเจต จำนง เจาะจงว่า
ลาภ-ยศ-สรรเสริญ-สุข-เงินตรา....................พากัน บรรพชา เพื่อหากิน

    กิจกรรม อำพราง อ้างกุศล........................สัปดน กับดัก หวังทรัพย์สิน
พระเยี่ยง เศรษฐี ใช้ชีวิน.............................อยู่กิน สุขสบาย ไร้อาดุร

    ความจริง (คน)ส่วนใหญ่ หลงไสยศาสตร์......ไม่ขาด ความเมา เขลาสถุล
สร้างวัด มาดหมาย อยากได้บุญ....................เจือจุน สำเร็จ สมเจตนา

    ยังอยาก เวียนว่าย มาตาย-เกิด....................โลกีย์=วิถีเลิศ เชิดตัณหา
ลาภ-ยศ-สรรเสริญ-สุข เพลินพา....................มิใช่ มุ่งหน้า พระนิพพานฯ

๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๐

วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ชีวีมิแน่นอน : กาพย์ฉบัง๑๖



ชีวีมิแน่นอน : กาพย์ฉบัง๑๖

    (เสียง)ฟ้าร้องก้องมาแต่ไกล..................คือสิ่งเตือนให้
มิควรไว้ใจในหน้าฝน

    แม้ว่า ณ ปัจจุบันยล..................นิศานภดล(นิศา=กลางคืน)
สกลสกาวดาวไสว

    สราญสันติภวประไพ................หรีดหริ่งเรไร(ภว อ่าน พะวะ=ความมี,ความเป็น)
ร่วมใจร้องพร่ำทำเพลง

    อีกสักครู่อาจดูวังเวง.................พายุผันบรรเลง
เคร่งเครียดเบียดเสียดสายฝน

    พัดพังบ้านช่องเรือนชน.................เกิดโกลาหล
ถอนโค่นต้นไม้บรรลัยมี

    เปรียบเสมือนชะตาชีวี.................ปัจจุบันสันติ์ศรี
เปรมปรีดิ์ภิรมย์สมประสงค์

    ประมาทอัตตาทระนง..................ในความมั่นคง
(ว่า)จะทรงสถิตนิจนิรันดร์

    วันหน้าไม่แน่อาจแปรผัน.................เวรกรรมตามทัณฑ์
ประสบปัญหาพยาธิฯลฯ

    สุขได้แต่อย่าให้ลืมสติ..................ทุกข์ยามดำริ
ตั้งสมาธิมิอ่อนไหว

    ประคับประคองจิตใจ...................เท่าทันการณ์ไกร(การณ์=เหตุ)
ในความไม่แน่นอนสังวรเทอญฯ

๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๐

วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เมื่อไหร่จะรวย? : กาพย์ยานี๑๑



เมื่อไหร่จะรวย? : กาพย์ยานี๑๑

    สิ้นเสียง สกุณา.........................ทยอยไคลคลา ออกหากิน
เสียงสยาย สายฝนริน....................พื้นดินปรก อุทกผสาน

    ธรรมชาติ โอกาสให้....................ชีวีใช้ ประกอบการ
แสวงหา ซึ่งอาหาร........................สืบสังขาร ศานติ์สุขสม

    แต่ทว่า ปัญญามนุษย์...................กสิกรรมผุด สรรอุตดม(อุตดม=สูงส่ง,บริบูรณ์)
พิริยะ มิปรารมภ์............................วิกรมกิจ สฤษฏ์สนอง

    ผลิตผล ล้นสำทับ........................ร่ำรวยทรัพย์ สินเงินทอง
ก้าวข้าม ความคับข้อง.....................ด้วยครรลอง ของกุศล

    มักง่าย ใคร่เกียจคร้าน...................คือสันดาน ลานหลายคน
คิดคด มิอดทน..............................หาหนลัด อุบัติไถล

    หวังรวย ด้วยการพนัน....................ทรัพย์วารวัน แบ่งปันไป
ทุ่มเท เล่ห์หลงใหล........................ไม่กรำกิจ ผลิตประสาร(ประสาร=ขยาย)

    หมดตัว กลับมัวคิด........................โทษเศรษฐกิจ (ความ)ผิดรัฐบาล
คาดหวัง อย่างดักดาน.....................ให้รัฐบาล ผลักดันผล

    อยากแส่ แต่ร่ำรวย.........................รักเล่นหวย ไม่ช่วย(เหลือ)ตน(เอง)
(ทำให้)ชีวิต มิดมืดมน......................ยากจนอนาถ ทั้งชาติเอยฯ

๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐

*คนไทยใช้เงินซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล 7.7 แสนล้านบาท/ปี
ใช้เงินเล่นหวยใต้ดิน 3 แสนล้านบาท/ปี
รวมประมาณ 1 ล้านล้านบาท/ปี
ไม่นับรวมการพนันอย่างอื่น
https://www.thairath.co.th/content/706894

*5 ปัญหาหนักอก ของประชาชนที่อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไข
อันดับ 1 ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง 81.89%
อันดับ 2 ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น 78.57%

วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2560

อย่าไว้ใจคน : กาพย์สุรางคนางค์๓๒



อย่าไว้ใจคน : กาพย์สุรางคนางค์๓๒

๏    อย่าไว้ ใจคน..........................จะจน หัวจิต
(เพราะ)คนส่วน ใหญ่คิด...............(ตนทำ)ผิดไม่ ถือสา
ก่อกรรม ทำเข็ญ.........................ไม่เว้น วัดวา
ไร้ศีลธรรม์ จรรยา........................หาเชื่อ บาป-บุญ

๏    ความเห็น แก่ตัว.......................อยู่เต็ม หัวใจ
มารยา สาไถย............................ไร้ระอา สถุล
ปากอย่าง ใจอย่าง.......................ช่างริษยา ทารุณ
สกปรก หมกมุ่น...........................ลืมบุญ คุณคน

๏    หวังผล ตอบแทน......................จึงแหน คบหา
ทุจริต ติดตรา..............................อุรา โฉดฉล
พร้อมจะ ทรยศ............................(เมื่อใคร)หมดประโยชน์ แก่ตน
เอาเปรียบ อื่นชน..........................ล้น(ความ)อยาก มากมาย

๏    คนดี มีน้อย..............................อย่าคอย หลงคิด
ความมี ไมตรีจิต...........................มิตรภาพ สหาย
เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่............................(ส่วนใหญ่)มีแต่ ดูดาย
ครวญใคร่ ให้ร้าย..........................ไม่เมตตา ปราณี

๏    (ความ)สัมพันธ์ ของคน...............มักล้น มลทิน
ข่าวหลาย ได้ยิน...........................บ่สิ้น บัดสี
เพราะคน ส่วนใหญ่........................ไม่ชอบทำ ความดี
สัมพันธ์ สรรพี...............................อคติ บีฑา

๏    อย่าไว้ ใจคน.............................ช่วยพ้น ภัยเภท
ยากจะ ปฏิเสธ...............................กิเลส ตัณหา
คือต้น กำเนิด................................ก่อเกิด อาชญา
เคียงคู่ โลกา.................................มนา มนุษย์เอยฯ

๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐

*พ่อเฒ่าศรีสะเกษร้องลูกสาว ผอ.กองการศึกษา อบต.หายตัวลึกลับกว่า 1 เดือน 
เผยลูกสาวมีสามีและลูกเล็ก 1 คน แต่มีนายทหารเขาพระวิหารมาเกี่ยวพัน 
ตรวจพบหลังหายตัวลูกสาวโอนเงินให้แม่นายทหารหลายครั้งกว่า 3 แสนจนเกลี้ยงบัญชีธนาคาร 
เชื่อถูกคนมีสีอุ้มฆ่าล้างหนี้ เหตุยืมเงินไปอื้อแล้วไม่ยอมคืน แถมติดพนันหนักหนี้สินรุงรัง

วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ฝึกใจ : กาพย์สุรางคนางค์๓๒



ฝึกใจ : กาพย์สุรางคนางค์๓๒

๏    ฝึกใจ ให้เย็น.........................เยี่ยงเป็น น้ำฝน
สงบ กระมล..............................บนโลก ผกผัน
(ที่คน)ต่างจ้อง เอาเปรียบ............เหยียบย่ำ ซึ่งกัน
อิจฉา ถาทัณฑ์..........................กลั่นแกล้ง แย่งชิงฯลฯ

๏    ฝึกใจ ให้เต็ม..........................อิ่มเอม เขษมศรี
ความโลภ ไม่มี...........................ยินดี ทุกสิ่ง
(ที่)มี-หา มาได้..........................ไม่กระหาย เกินจริง
แบ่งปัน ทานยิ่ง..........................มิ่งสร้าง กว้างไกล(มิ่ง=สิ่งที่เป็นสิริมงคล)

๏    ฝึกใจ ให้เพียร.........................เรียนรู้ ศึกษา
เสริมสติ ปัญญา..........................วิทยา อดิศัย
พ้นความ โง่เขลา........................เมามัว หัวใจ
ขจัดความ หลงใหล.....................ไม่รู้ สัจจา

๏    ฝึกใจ ให้ทรง...........................ซื่อตรง วิถี
คุณธรรม ความดี.........................ปฏิบัติ ปรารถนา
ศีลธรรม ค้ำชู.............................เป็นผู้ ปราชญา
เลื่อมใส ศรัทธา.........................สุจริต กิจกรรม

๏    ฝึกใจ ให้ชุติ............................มีวุฒิ ภาวะ
สัมมา ทม..................................อาชีวะ เลิศล้ำ(ทม อ่าน ทะมะ)
ครองใจ ไม่ประมาท.....................ฉลาด หลักธรรม
อดทน ตนตรำ............................สำนึก ตรึกตรอง

๏    ฝึกใจ ใสสะอาด.......................ปราศจาก มลทิน
เว้นบาป สาปสิ้น..........................โศภิน สินสนอง
รักษา ความดี..............................ชีวี สิเรืองรอง
สุขสันติ์ สมปอง...........................ทดลอง เถิดชนฯ

๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๐

วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ผู้ไม่ยอมจำนน : กลอนเปล่า



ผู้ไม่ยอมจำนน : กลอนเปล่า

    อย่าห่วงไปเลยสหาย
หากแม้นไม่นิ่งดูดาย
ขวนขวายทำมาหากิน

    หนทางแห่งชีวีมิสุดสิ้น
จากขอบฟ้าจรดแผ่นดิน
ยังยินดีต้อนรับขับสู้
ผู้ไม่งอมืองอเท้าเอาแต่ท้อ

    คนสุจริต
อย่าจมอยู่กับความผิดหวัง
ภายใต้แสงแห่งสุรีย์รังค์
จงมีกำลังใจที่จะไม่ฉ้อฉล

    คุณธรรมนำพาผู้คน
ผู้ศรัทธา-สาธุชน
เอาชนะความลำบากยากจน
ข้ามพ้นหนทางลำเค็ญ
เป็นประจักษ์ตา คู่หล้ามาอย่างยาวนาน

    คนดีผู้มีความขยัน
ประกอบด้วยใจอุตสาหะมุ่งมั่น
ไม่ทอดทิ้งหน้าที่กิจการ
คิดอ่านพัฒนาและหาหนทางคลี่คลายอุปสรรค

    ทำการสิ่งใดมิใจร้อน
รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา
เอาจริงเอาจังอย่างสม่ำเสมอ
ผู้ไม่พึ่งพาโชควาสนา
มิประมาทเผอเรอ
มิชะเง้อเห่อหาความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
โดยไม่เอาใจใส่ ทำงานเฉพาะหน้าให้สำเร็จสมบูรณ์เสียก่อน

    ทุกคนอยากได้ดี
แต่มีสักกี่คนที่สามารถ?
พัฒนาตัวเองให้เก่งให้แกร่ง
มีโอกาสเสมอ สำหรับผู้มีจิตใจเข้มแข็ง
ผู้ไม่ยอมแพ้แม้หมดเรี่ยวแรง
คอยแสวงหาช่องทางสร้างฐานะ

    ไม่ต้องเกิดมาพร้อมความเฉลียวฉลาด
เป็นอัจฉริยะบุคคลล้นปัญญา
เพียงเธอไม่ระย่อต่ออุปสรรคปัญหา
ตั้งใจฟันฝ่าอย่าท้อแท้

    โชคชะตาจะไม่ทอดทิ้ง
สรรพสิ่งจะไม่เชือนแช
ไม่มีความมืดมน
สำหรับผู้ที่มิยอมจำนนใจ
ในการดำรงชีวีฯ

๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๐

วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2560

หลง-รู้ ? : กาพย์ยานี๑๑



หลง-รู้ ? : กาพย์ยานี๑๑

    เช้านี้ มีลมแรง..........................ความเปลี่ยนแปลง อากาศผล
เมฆพราง บังสุริยน.......................หลังสายฝน ปรนค่อนคืน

    มาลี รูปวิจิตร............................งามประดิษฐ์ โศภิษฐ์ดื่น(โศภิษฐ์=งามยิ่ง)
ละอองฝน ดลแช่มชื่น...................ประดับผืน พสุธา

    ชีวี งามพิลาส............................ด้วยอำนาจ ของวาสนา
(ซึ่ง)มิใช่ เทพยดา........................หรือดินฟ้า ประสาทเป็น(ประสาท=โปรดให้)

    แต่เพราะ บุญกรรมเก่า.................บงการเข้า เราไม่เห็น
ตัวบท แห่งกฎเกณฑ์.....................ดูเร้นไร้ ในสายตา

    คนจึง คำนึงคิด...........................ตามที่จิต ประดิษฐ์หา
ทั้งที่ มีวิทยา................................และมายา จินตนาการ

    ทำตาม ความชอบ-เชื่อ.................กิจกรรมเอื้อ องอาจหาญ
หลากหลาย ไม่ประมาณ.................คล้อยสันดาน ความเคยชิน

    เนื่องหนุน บุญ-บาปทำ..................วัฏจักรซ้ำ มิสุดสิ้น
สับสน บนแผ่นดิน..........................ดาลชีวิน ชินชาใจ

    บางคน จนลืมคิด..........................ว่าหลงผิด จิตสาไถย
หลงว่า รู้อะไร................................ไปทุกอย่าง ทั้งโลกเอยฯ

๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๐

วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2560

องค์ประกอบของชีวิต : กลอนคติชีวิต




องค์ประกอบของชีวิต : กลอนคติชีวิต

    ไม่ใช่ แค่ได้ กล้อง(ถ่ายรูป)ดี...................ยังต้องมี ฝีมือ ดีด้วย
สภาพ อากาศ อำนวย...............................เมฆ-สูรย์ฯลฯ หนุนช่วย อวยชัย

    แต่ทั้งนี้ และทั้งนั้น.................................ภาพถ่ายอัน วิสุทธิ์ สดใส
งามสวย ด้วยธรรมชาติ ปัจจัย.....................(ผสมกับการ)จัดองค์ ประกอบให้ เข้าที

    รวมกัน บันดาล สรรค์แต่ง.........................ภาพแห่ง อัศจรรย์ สันสี
เอิบอิ่ม ปริ่มเปรม ฤดี.................................ทุกๆ นาที ที่ได้ยล

    ชีวี มีไซร้ ไม่แตกต่าง...............................ปัจจัย หลายอย่าง ร่วมสร้างผล
บันดาล ชะตา ของคน................................บรรเจิด-ขัดสน ปรนเป็น

    ชาติตระกูล หนุนนำ กำเนิด........................บังเกิด พันธุกรรม ส่ำเห็น
รูปทราม-งามงด ปรากฏเด่น.........................สติปัญ ญาเช่น มิเปลี่ยนแปลง

    สังคม และสิ่ง แวดล้อม.............................หล่อหลอม ฤทัย ปัจจัยแฝง
พ่อแม่ ญาติพี่น้อง พ้องแหล่ง.......................ตบแต่ง ตัวตน กลไก

    หากแต่ ความคิด ของคน...........................แต่ละคน ก็ดล เงื่อนไข
ผลักดัน บันดาลคน บางคนไคล....................ห่างไกล ต้นกำเนิด เกิดมา

    ชีวี ดี-ร้าย ไม่แน่นอน................................สอดซ่อน ธรรมชาติ วาสนา
เวรกรรม ตามทัน ดันชะตา...........................ประจักษ์ มรรคา ชีวาเอยฯ

๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๐

วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ความไม่เห็นแก่ตัว : โคลงสี่สุภาพ



ความไม่เห็นแก่ตัว : โคลงสี่สุภาพ

๑.ธรรมชาติสัตว์ทั้งหลาย....................เกิดมา
ย่อมเห็นแก่อัตตา..........................เป็นที่ตั้ง
สัญชาตญาณบัญชา.......................วิตก(วิตก=ความคิด)
ยกตนสำคัญทั้ง.............................มนุษย์แม้(แต่)ดิรัจฉานฯ

๒.เป็นสันดานเกิดพร้อม......................ชีวี
เป็นสามัญวิถี.................................แห่งหล้า
เป็นสาเหตุชิงดี..............................ชิงเด่น
เป็น-อยู่-ตาย ภายหน้า....................ถึงสิ้นพงศาฯ

๓.ทวยสัตว์หารู้จัก..............................ศีลธรรม
ไม่แยกแยะกิจกรรม.........................ดี-ร้าย
ยึดอัตตะประโยชน์สำ-.....................คัญหลัก
มักทำตามใจคล้าย..........................(สิ่ง)ถูกต้องคลองวิถีฯ

๔.ยินดีที่จะได้....................................เบียดเบียน
เอารัดเอาเปรียบเพียร......................พากพร้อม
เข่นฆ่าแกงกันเชียร..........................เลือดหลั่ง
กินเพื่อประทังชีพค้อม......................แลไร้เหตุผลฯ

๕.คนสามารถเรียนรู้.............................พัฒนา
เสริมสติเพิ่มปัญญา..........................เพริศแพร้ว
หลักศีลธรรมจริยา............................ยืนหยัด
ถือปฏิบัติร่วมแล้ว.............................สร้างสังคมศานติ์ฯ

๖.แรงสันดานสัตว์ร้าย...........................ในใจคน
ยังคงอยู่เวียนวน..............................คุเคล้า
เมื่อไม่สำคัญกระมล.........................กำกับ
ยอมรับอำนาจเร้า.............................ชั่วช้าตอบสนองฯ

๗.ไม่มองความชั่วคล้าย........................สามัญ
เป็นปฐมจริยธรรม์.............................ปกเกล้า
ศรัทธากฎแห่งกรรม์..........................กลัวบาป
ปราบความเห็นแก่ตัวเข้า....................สู่ห้วงสาธุชนฯ

๘.ช่วยดลบันดาลให้.............................สังคม
เปี่ยมสันตินิยม.................................เลิศล้ำ
ทรัพยากรอุดม.................................คู่โลก
ดับทุกข์โศกชอกช้ำ..........................ไม่ต้องเห็นแก่ตัวฯ

๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๐

วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2560

หมดอนาคต? : กลอนภาวะโลกร้อน



หมดอนาคต? : กลอนภาวะโลกร้อน

    ฝนไม่ตก (แค่)สามวัน บันดาลให้..................ผู้คนบ่น ทนไม่ ไหวแล้วหนอ
ขาดทั้งเมฆ ทั้งฝน ท้นทุกข์คลอ......................บังเกิดก่อ (ร้อน)ทรมาน ผลาญปรีดา

    ความสัมพันธ์ (ของ)เมฆ-ฝน บนอากาศ..........คือกลไก ธรรมชาติ ปราศปริศนา
ความชื้นพบ ความเย็น เพ็ญนภา......................ก่อกำเนิด เมฆา มาปกคลุม(เพ็ญ=เต็ม)

    บังแสงแดด แผดร้อน ก่อนกระทบ..................พื้นพิภพ ประทุ ไออุสุม(อุสุม=ความร้อน)
ความชื้นและ ความเย็น เค้นประชุม...................(ลอย)จากพสุธา ป่าทุม ลุ่มนที(ทุม=ต้นไม้)

    ความชื้นและ ความเย็น อีกเช่นกัน...................รวมตัวกลั่น เกิดฝน วิมลศรี
รินหลั่งพรำ ธรรมชาติ ทั่วปัถพี..........................ให้ชีวี มี-อยู่ คู่โลกา

    เมื่อมนุษย์ สุดเขลา เอาแต่ได้.........................สร้างวิบัติ ตัดไม้ ทำลายป่า
แหล่งกำเนิด (ความ)ชื้น-เย็น เร้นพสุธา...............จึงบังเกิด ปัญหา ภัยผจญ

    ความสมดุล สูญสิ้น ถิ่นกำเนิด..........................ก่อให้เกิด วิปริต ผลิตฝน
ฝนห่างหาย ไม่ตก หรือตกจน............................น้ำท่วมท้น ธานี พิบัติภัย

    อีกพาหนะ พากัน น้ำมันผลาญ..........................ก๊าซเรือนกระจก โลกลาญ บันดาลให้
สภาวะ ความร้อน ย้อนดั่งไฟ..............................อุณหภูมิ สูงใกล้ บรรลัยกัลป์

    อนาคต หมดแน่ แม้ไม่คิด................................ตัดสินใจ เปลี่ยนชีวิต วิกฤติผัน
ช่วยกันฟื้น ผืนป่า พนาวัน..................................ลดการใช้ น้ำมัน ทันทีเทอญฯ

๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๐

*ประเทศไทยอาจจะมีความร้อนสูงขึ้นอีก 3-4 องศาเซลเซียส หรือ อุณหภูมิอาจจะสูงขึ้น 43-45 องศาเซลเซียส ใน 40 ข้างหน้า

วันอังคารที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ศาสนาพุทธกำลังถูกทำลาย : กลอนคติเตือนใจ



ศาสนาพุทธกำลังถูกทำลาย : กลอนคติเตือนใจ

    อัน ลาภ-ยศ-สรรเสริญ-สุข......................ทุกอย่าง ต่างล้วน ไม่เที่ยง
พุทธองค์ ทรงสอน ให้เลี่ยง.......................เพราะเป็น แค่เพียง โลกธรรม

    เมื่อไม่ เชื่อฟัง คำสอน............................จึงได้ เดือดร้อน ย้อนระส่ำ
เมื่อไม่ ใส่ใจ ในหลักธรรม..........................ย่อมระทก ตกต่ำ ลำเค็ญ(ระทก=หนาวใจ)

    วิสุทธิ์ พุทธศาสน์ เป็นสัจจะ......................มิใช่ ทัศนะ คติเฟ้น
เลิศล้ำ ธรรมบท ดั่งกฎเกณฑ์......................เฉกเช่น ชีวัน จรรยา

    โกนผม ห่มผ้า มาบวช..............................โอ้อวด ว่าฉัน แก่พรรษา
เล่าเรียน เปรียญธรรม ตำตา........................แต่ทว่า กระทำ ตามกระมล

    ธรรมะ อาศัย เอาไว้เทศน์..........................ปฏิเสธ ปฏิบัติ มนัสฉล
วินัย ไว้บอก หลอกลวงคน..........................หวังผล ทรัพยา บรรณาการ

    เมื่อมิ เคารพ ธรรมวินัย..............................โลกีย์ วิสัย ใช้เป็นฐาน
พระสงฆ์ คงไม่ ไกลชาวบ้าน........................สามัญ สันดาน พาลสถุล

    ยกยอ ข้อวัตร บัดสี...................................ไม่มี ศรีสง่า เนื้อนาบุญ
แสร้งเล่น(ละคร) เป็นพระ แสนการุญ..............แต่วิตก หมกมุ่น โลกีย์(วิตก=ความคิด)

    ต้องการ ส่งเสริม (พุทธ)ศาสนา...................เงินตรา-ลาภ-ยศ(พระ) จงปลดหนี
ต้องการ กำจัด อลัชชี..................................ต้องมี ธรรมวินัย ใช้นำทางฯ

๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๐

*ดับเครื่องชนมหาเถรสมาคม  “ถวายฎีกา-ฟ้องศาลปกครอง” ปลด “พงศ์พร”
จาก <http://www.manager.co.th/SpecialScoop/ViewNews.aspx?NewsID=9600000082210>



*ผงะ“สมเด็จสนิท–เจ้าคุณธงชัย”มีชื่อเซ็นใบปริญญา มหา’ลัย IUM จดทะเบียนที่ฟลอริดา เมืองมะกัน
แต่เรียนทางออนไลน์ มุ่งสอน“พุทธพาณิชย์”โจ่งแจ้ง เน้นระดับ ป.โท-เอก