ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561

บ้านหลังนี้ไม่มีแสงสว่าง : กลอนสะท้อนสังคม





บ้านหลังนี้ไม่มีแสงสว่าง : กลอนสะท้อนสังคม

    บ้านเขาดู สวยดี มีแสงสว่าง...........................บ้านฉันต่าง ห่างไกล ไร้แสงสี
ถนนหนทาง (ของ)เขาเกลี้ยง-ตรง จรรโลงฤดี......ถนนบ้านนี้ คดโค้ง ดงป่าทาง

    ที่อื่นเขา ทำอะไร ไม่กลิ้งกลอก.......................ที่นี่หลอก กลอกกลิ้ง ยิ่งผีสาง
เรื่องเดียวกัน มีปัญหา (เขา)รีบชะล้าง.................บ้านฉันค้าง คาไว้ ใต้บาทา

    เอาอำนาจ บาตรใหญ่ ใช้ทุจริต........................อภิสิทธิ์ ผิดไส ไร้ครหา
โกงกินเงิน เยาวชน ยันคนชรา...........................ซื้อไม้ล้าง ป่าช้า มาเล่นละคร

    ถึงจับได้ ไล่ทัน ก็ตันติด.................................ความมืดมิด ปกคลุม สุมซับซ้อน
กระบวนการ ยุติธรรม ร่วมตำบอน.......................ตราชั่่งคลอน อ่อนไหว ไม่เที่ยงตรง

    สถานการณ์ บานปลาย (เหลือ)ใครไม่คด?..........ทรยศ แผ่นดิน ราคินหลง
หน่วยงานล้าง ทุจริต บิดเอวองค์........................ไม่กล้าหาญ ฟันธง คง(ความ)ยุติธรรม

    ปล่อยให้โกง กินได้ ไม่กระดาก........................ดีแต่เปรย เอ่ยปาก อยู่ซากซ้ำ
ชอบผลัดวัน ประกันพรุ่ง ยุ่งเหยิงทำ....................ปฏิบัติตาม คำสั่ง คนจังไร

    กฎหมายเขียน ให้ดี ก็มีค่า-..............................แค่บังหน้า ด่างดำ นำสงสัย
เลือกปฏิบัติ ตัดสิน (เป็น)มือตีนใคร?...................คนมีอำนาจ คาดหมาย ใช้บัญชา?

    สอดส่องไป ภายนอก (ผ่าน)ซอกหน้าต่าง(ที่ปิด)........เห็นแสงสว่าง ไสว ไปทั่วหล้า
เพื่อนร่วมโลก โชคดี ใช้ชีวา......................................ส่วนบ้านฉัน ฝันหา ตลอดกาลฯ

๓๑ มีนาคม ๒๕๖๑

วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2561

หลักความถูกต้อง : กลอนคติสอนใจ




หลักความถูกต้อง : กลอนคติสอนใจ


    อันว่าดวง สุรีย์ ไม่มีสอง................................ศูนย์กลางของ โลกัย ให้เวียนหมุน(โลกัย=ของโลก)
แหล่งกำเนิด พลังงาน พานพิบุล.......................แลเกื้อหนุน ทุกชีวา นิรามัย(นิรามัย=เป็นสุข)

    "ทำแล้วมี ความสุข คือ(ความ)ถูกต้อง"............ถ้อยทำนอง ของคน ถือผลได้
ความรู้สึก ส่วนตัว เป็นหัวใจ.............................แต่ละคน แตกต่างไป ไม่แน่นอน

    "ประเพณี สังคม นิยมทำ"..............................มักถูกนำ ยกทำนุ อุทาหรณ์
ประเพณี นิยม ปมซับซ้อน................................หลากสะพรั่ง สังวร คลอนกฎเกณฑ์

    "เอาตามที่ ผู้นำ ออกคำสั่ง"............................ประดุจดั่ง บัญญัติ ประหลาดเห็น
ความถูกต้อง คล้องบุคคล ฉลชัดเจน..................เหมือนไม้หลัก ปักเลน เป็นมายา

    ความถูกต้อง ของคนดี มีศีลสัตย์......................ไตร่ตรองตัด ตัวตน พ้นครหา
มิเอาคน ส่วนใหญ่ ใช้ประชา.............................สร้างสัมมา มาตรฐาน บัญชรชู(สัมมา=ชอบ,ดี)

    อคติ ค่านิยม มิโน้มนำ....................................ถือความดี ศีลธรรม และความรู้
ใจซื่อสัตย์ เที่ยงตรง ธำรงอยู่............................ไร้มลทิน;วิญญู รู้ชั่ว-ดี

    ความถูกต้อง (ต้อง)คล้องสัจจา เป็นสากล..........ไม่ยึดตัว บุคคล ยลสักขี
มั่นคงคู่ กาลเวลา ทุกนาที................................ไม่เปลี่ยนตาม สถานที่ นิรันดร

    สำคัญคือ ถูกต้อง สอดคล้องกฎ-......................แห่งกรรม ที่ กำหนด บทสะท้อน
ใครก่อกรรม ทำอะไร ไม่แคลนคลอน...................ผลแห่งกรรม ตามย้อน ซอกซอนเอยฯ

๓๐ มีนาคม ๒๕๖๑

วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2561

มรดกที่ดี : กาพย์ฉบัง๑๖

เมื่อ 4 ปีก่อน ผู้ก่อเหตุถือว่าเป็นคนที่ค่อนข้างมีฐานะ พ่อกับแม่ได้ทิ้งมรดกเป็นที่ดิน จนนำไปขายได้เงิน จำนวน 32 ล้านบาท 
แต่ได้เอาไปใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ไปเปิดคลับ เสพยา เลี้ยงเพื่อน จนเงินหมด



มรดกที่ดี : กาพย์ฉบัง๑๖

    ทำมาหากินสินทวี...................ก่อร่างมั่งมี
จนเป็นเศรษฐีชีวีหรรษ์

    บุตรสืบเผ่าพงศ์วงศ์วรรณ.....................มิขาดชาติพันธุ์
สมใจใฝ่ฝันมั่นหมาย

    เลี้้ยงดูอยู่จนบั้นปลาย...................อาทรก่อนตาย
มากมายมรดกตกทอดถึง

    (คือสิ่งที่)คนทั่วไปใคร่คำนึง.....................ปลื้มปลาบซาบซึ้ง
พึงจิตพิศมาดปรารถนา

    ส่วนใหญ่ไม่คิดพิจารณา....................มรดกเงินตรา
หาได้ให้คุณหนุนอนันต์

    (ถ้า)ลูกชั่่ว-โง่เขลาก็เท่านั้น....................ไม่กี่ปี-วัน
คงผลาญจนหมดอดสู

    มรดกที่ควรเชิดชู.....................ก็คือความรู้
(โดยเฉพาะ)รู้ "ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี" วิสัย

    (สอนลูกให้)มีมโนธรรมประจำใจ......................จะทำอะไร
อย่าให้ชั่วช้าสามานย์

    หัดมีวิจารณญาณ....................เอาการเอางาน
อย่าผลาญสมบัติขาดสุขุม

    รักดีมีวิชาประชุม..................มรดก ตกรุม
อาจกุมรักษา(และ)หาเพิ่มเอยฯ

๒๙ มีนาคม ๒๕๖๑

วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2561

สิ่งที่สร้างความแตกต่าง : กลอนเปล่า



สิ่งที่สร้างความแตกต่าง : กลอนเปล่า


    ตั้งแต่อดีตสมัย
เพราะมีใครบางคน
มองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามราตรี
ที่มีดารกาพราวพร่าง
ทางช้างเผือกทอดยาว
จากขอบฟ้าด้านหนึ่งไปจรดขอบฟ้าอีกด้านหนึ่ง
ดึงดูดการสังเกต
ก่อเกิดความสงสัยใคร่รู้
จนนำไปสู่การสร้างปฏิทิน
และวิชาดาราศาสตร์

    เพราะมีใครบางคน
สนใจที่จะมองขึ้นไปสูงกว่า
ไกลกว่า กว้างกว่า คนธรรมดาทั่วไป
จึงบังเกิดความรู้ ความเข้าใจ
ในธรรมชาติ และสัจจะของชีวิต

    เพราะมีคนมากมาย
รักในการสร้างสรรค์สิ่งที่วิจิตร
เราจึงมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ใช้สอย
มีเวลาว่างเพื่ออ้อยอิ่ง
ทำสิ่งที่บันเทิงเริงรื่นใจ

    เพราะมีใครหลายคน
สนใจไตร่ตรอง
พิจารณาความ ผิด ชอบ ชั่ว ดี
สิ่งที่ถูก ที่ผิด
สิ่งที่ควร และไม่สมควร
มีความมุ่งมั่น
ในอันที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง
มากกว่าจะสนองความเห็นแก่ตัว
ละเว้นความชั่ว
ระงับความน่ากลัวของสัญชาตญาณแห่งสัตว์
จนสามารถขัดเกลาจิตใจให้สะอาด มีจริยธรรม

    เพราะยังมีคน
คอยย้ำเตือนจิตใจให้พัฒนาตัวเอง
แสวงหาความเจริญก้าวหน้าอยู่เสมอ
ไม่นิ่งนอนใจในสิ่งที่เป็นอยู่
ไม่หลงตัวเอง
แลดูตัวเองด้วยสายตาที่เป็นกลาง
ค้นหา ขจัดความบกพร่อง
คัดกรองสิ่งที่ดี
แก้ไข ปรับปรุง ให้ดียิงขึ้น
ตั้งใจทำอะไรให้ดีขึ้น ดีขึ้น
จึงมีชีวีที่ดีขึ้น ดีขึ้น กว่าเดิม

    เพราะมีคน
ผู้อดทน อุตสาหพยายาม เพื่อความสำเร็จ
พากเพียรทำสิ่งที่คนทั่วไปไม่คิด ไม่ทำ
จึงสามารถข้ามพ้น
ไปยืนอยู่บนจุดที่คนอื่นคิดไม่ถึง

    เพราะยังมีคน
ผู้รู้ตัวรู้ตน
ยึดถือ ให้ความสำคัญ
ต่อมโนธรรมสำนึก
เหนือความรู้สึกส่วนตัว
จึงเห็นคนทำการเสียสละประโยชน์ส่วนตัว
ด้วยความปรีดาปราโมทย์
ที่จะสร้างสรรค์ประโยชน์สาธารณะ

    เพราะใครอีกหลายๆคน
ยอมอดทนอดกลั้นต่อความต้องการอันแรงกล้า
เคารพกฎ ระเบียบ กติกา
สังคมจึงปรากฏความสงบสุข
ไม่สับสน อลหม่าน วุ่นว้า
มีระเบียบ เรียบร้อย
อยู่ร่วมกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย
ไม่ทำร้าย ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน

    คุณธรรมความดี
สร้างชีวีที่แตกต่างให้กับคน
คนหลายคน
ที่ประกอบด้วยคุณธรรมความดี
ย่อมสร้างวีถีที่แตกต่าง
ให้กับทั่วทั้งสังคมฯ

๒๘ มีนาคม ๒๕๖๑

วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2561

ชีวิตเร่ร่อน : กาพย์ยานี๑๑




ชีวิตเร่ร่อน : กาพย์ยานี๑๑


    เตร็ดเตร่ คนเร่ร่อน..........................ซุกหัวนอน ณ สถาน
รถไฟ ใต้อาคาร...............................ผู้โดยสาร ทุกวันคืน

    ร่างกาย เปื้อน-ผ่ายผอม...................สายตาตรอม ตรมขมขื่น
นอน-นั่ง-เยื้องย่าง-ยืน.......................ไร้(ความ)สดชื่น รื่นภิรมย์

    กรรมใด ในชาตินี้............................ที่เคยสร้าง ชอบสั่งสม?
ศรัทธา ค่านิยม................................ใดบ่มเพาะ เกาะใจเธอ?

    พื้นฐาน การเรียนรู้...........................ใดนำ(มา)สู่ ความพลั้งเผลอ?
พาให้ ได้พบเจอ...............................ชะตาเสมอ ปราศ(จาก)ตัวตน

    กรรมใด ในชาติก่อน.........................ที่ตามย้อน บั่นทอนผล?
ต่ำต้อย ด้อยชีพชนม์..........................บนแผ่นดิน ถิ่นอุดม

    เคยทำ ใครลำบาก...........................จึงตกยาก ตรากตรำขม?
ความดี ไม่นิยม..................................บ่มเพาะทราม (ตาม)อำเภอใจ?

    ศีลธรรม จิตสำนึก.............................เคยตรองตรึก บ้างหรือไม่?
คดโกง ใครต่อใคร..............................เอาเปรียบหมาย ไม่แบ่งปัน?

    (ชะตา)ชีวา มีสาเหตุ.........................แห่งอาเพศ แลสุขสันติ์
เกิดมา (มี)เวลาสั้น.............................อย่ายึดมั่น-บาปเมามัวฯ

๒๗ มีนาคม ๒๕๖๑

วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2561

ทำบุญง่าย-ได้บุญน้อย : กาพย์ยานี๑๑




ทำบุญง่าย-ได้บุญน้อย : กาพย์ยานี๑๑


    ให้ทาน นั้นไม่ยาก..........................ยิ่งเงินมาก มีหลากหลาย
เศษธุลี มิเสียดาย.............................สบายๆ ในการกระทำ

    ถือศีล ถวิลตั้ง................................กาย(วาจา)ระวัง พลั้งเพลี่ยงพล้ำ
ไม่ผิด(ศีล) ก่อกิจกรรม......................ยุติต่ำช้า ประกอบเวร

    แม้ว่า ยากกว่าให้(ทาน)...................ก็ยังไม่ ใคร่ขืนเข็ญ
รู้ตัว บาปชั่วเว้น................................วัตรจัดเจน เช่น(เรื่อง)ธรรมดา

    อบรม ข่มจิตใจ...............................กิเลสไร้ ไกลตัณหา
มลทิน สิ้นอุรา..................................จึงนับว่า ยากเย็นจริง

    ความโลภ และราคะ.........................(เหมือน)พันธนะ ชีวะยิ่ง(พันธนะ=เครื่องผูก,เครื่องจำ)
เกิด-เห็น เป็นระวิง............................สิงชีวาตม์ สัญชาตญาณ

    โทสะ ประทุษร้าย............................แพร่ลามง่าย เร็วไพศาล
อาฆาต อาจคืบคลาน.........................พานพยาบาท เคียดแค้นใจ

    ทุจริต แอบริษยา.............................คือสภา วะนิสัย
ยกตน ยลเหนือใคร............................ไม่เชื่อบท กฎแห่งกรรมฯลฯ

    คือสิ่ง ยิ่งยวดยาก............................จะถางถาก บาก(บั่น)ล่วงล้ำ
ผู้ใด สามารถทำ.................................ย่อมข้ามโศก พบโลกเย็น

    หลักการ บันดาลบุญ.........................บังเกิดคุณ พูนผลเห็น
ง่าย-ยาก น้อย-มากเป็น.......................สิ่งสดับ รับรู้เองฯ

๒๖ มีนาคม ๒๕๖๑

วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2561

เข้าเมืองตาหลิ่ว ไม่ต้องหลิ่วตาตาม : กาพย์สุรางคนางค์๓๒




เข้าเมืองตาหลิ่ว ไม่ต้องหลิ่วตาตาม : กาพย์สุรางคนางค์๓๒

    เข้าเมือง ตาหลิ่ว.........................ต้องหลิ่ว ตาตาม
เข้าหมู่ คนทราม............................ต้องทราม ตามไหม?
หรือที่ ประเทศ..............................เขตประชา ธิปไตย
ยังต้อง ทำอะไร.............................ตามใคร เขาทำ?

    คนชอบ เล่นหวย.........................ต้องเล่น(หวย) ด้วยหรือ?
(คน)ส่วนใหญ่ ไม่ซื่อ......................หรือต้อง ตามต่ำ?
ประพฤติผิด ประเวณี.......................ชีวา ระยำ
ก็ต้อง กระทำ.................................กามสรรพ อัปรีย์?

    ราชการ ทุจริต.............................มิจฉา โกงกิน
งบประมาณ แผ่นดิน........................อาจิณ บัดสี
ก็ต้อง ตามคล้อย............................ต้อยมรรคา ราคี?
อันเสมือน วิถี.................................ชีวา ราชการ

    (ผู้)มั่นคง ความดี..........................มีศี ลธรรม
อุรา ประจำ....................................สัมฤทธิ์ พิษฐาน
ย่อมชัง รังเกียจ..............................เดียดฉันท์ กรรม์พาล
หยาบช้า สามานย์...........................สันดาน ทรชน

    เข้าเมือง ตาหลิ่ว...........................ไม่หลิ่ว ตาตาม
หากต้อง พบความ...........................ต่ำช้า โฉดฉล
เข้ากัน ไม่ได้(กับคนเลว)...................ไม่ต้อง กังวล
อุตส่าห์ หาหน................................ทางพ้น ออกมา

    อยู่(ใน)สถาน ที่ดี..........................(คือ)วิถี มงคล
ไม่คบ พาลชน.................................พิมล วาสนา
เข้าเมือง ตาหลิ่ว..............................ไม่ต้อง หลิ่วตา
ผู้มี ปัญญา......................................รู้สา มารถเอยฯ

๒๕ มีนาคม ๒๕๖๑

วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2561

ความอยุติธรรม=อาชญากรรม : กลอนคติเตือนใจ





ความอยุติธรรม=อาชญากรรม : กลอนคติเตือนใจ


    คนดี มากมาย..................................ต้องตาย โดยไม่ ได้ทำผิด
สูญเสีย ชีวิต......................................เพราะคน วิปริต จิตสาไถย
คนดี วายวาง.....................................คนชั่ว แตกต่าง ออกไป
มีลม หายใจ......................................เพื่อใช้ ก่อกรรม ทำเวร

    (หลัก)สิทธิ์มนุษ (ษะ)ยชน.................อันคน คิดขึ้น มาอ้าง
คือการ เข้าข้าง..................................ถือหาง คนผิด ผลิตเข็ญ
สิ้นสุด (ความ)ยุติธรรม.........................สร้างความ ลำบาก ยากเย็น
ให้สัง คมเป็น.....................................เฉกเช่น สังคัง วังวน

    ทำผิด เล็กน้อย.................................สมควร (รับ)โทษน้อย ไปด้วย
แต่ไม่ ใช่ช่วย.....................................อำนวย คนโหด โฉดฉล
กฎหมาย ให้ประหาร.............................กลับลด โทษทาน พาลชน
ไม่สม เหตุ-ผล....................................ที่ดล คนอื่น มรณา

    ความ อ ยุติธรรม................................คืออาช (ชะ)ญากรรม อย่างหนึ่ง
คนไม่ คำนึง........................................คิดถึง ผลพัน ปัญหา
ปล่อยคน ฉลชั่ว...................................เป็นอิ สระทั่ว พารา
ทำความ ชั่วช้า....................................(ย่อม)เป็นคน ชั่วช้า เช่นกัน

    (วันนี้)มีชี วิตรอด................................แต่ความ ปลอดภัย ไม่ค่อยมี
คือสัง คมที่.........................................ทวี ความวิโยค โศกศัลย์
ไม่รู้ เมื่อไหร่.......................................ถึงคราว เราไร้ ชีวัน
วินาศ หวาดหวั่น..................................สิ้นสันติ์ หรรษา ระอาเอยฯ

๒๔ มีนาคม ๒๕๖๑

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2561

เอาการเอางาน : กาพย์สุรางคนางค์๒๘




เอาการเอางาน : กาพย์สุรางคนางค์๒๘


    .............................................กลางคืน กลางวัน
หมุนเวียน เปลี่ยนผัน.....................ทุกวัน มั่นคง
ไม่เคย ย่อท้อ..............................ต่อภาระ ทะนง
วันคืน ยืนยง................................ทรงสัตย์ วัตรระบือ

    .............................................เอาการ เอางาน
เป็นมาตร (ตระ)ฐาน......................ลูกหลาน ควร(ยึด)ถือ
ศีลธรรม จำนง.............................ดำรง ตรงซื่อ
ตรองตรึก ฝึกปรือ.........................(จะได้)ชื่อว่า คนดี

    ..............................................เอาจริง เอาจัง
บ่อเกิด พลัง................................สรรค์สร้าง หน้าที่
ไม่ทำ เป็นเล่น.............................ละเว้น ราคี
มักง่าย ไม่ดี................................มีโทษ โจษจัน

    ..............................................ภาระ หน้าที่
ควรทุ่ม ฤดี..................................มีความ ขยัน
งานไม่ คั่งค้าง..............................ตั้งใจ บากบั่น
อุตส่าห์ ฝ่าฟัน..............................จรรยา อาทร

    ...............................................งอมือ งอเท้า
คือความ โง่เขลา...........................เอาแต่ ทอดถอน(ใจ)
เกียจคร้าน งานทำ.........................นำชีวัน สั่นคลอน
ตกต่ำ ซ้ำซ้อน..............................เดือดร้อน ลำบน(ลำบน=ลำบาก)

    ................................................ผู้เอา ใจใส่
งานเป็น นิสัย.................................ไม่ละเลย เผยผล
ชีวา สถาพร...................................สุนทร พิมล
สำราญ ดาลดล..............................จวบจน วางวายฯ

๒๓ มีนาคม ๒๕๖๑

วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2561

ปัญหาใหญ่(มาก) : กลอนปัญหาสังคม






ปัญหาใหญ่(มาก) : กลอนปัญหาสังคม


    ปัญหาใหญ่(มาก) ในชาตินี้.................................ทำให้มี ความทุกข์เข็ญ
สถานที่(ตั้ง) มิใช่ประเด็น......................................ทรัพยา(กร)เช่น สมบูรณ์ดี

    เป็นศูนย์กลาง คมนาคม.....................................อาหารอุดม ทุกพื้นที่
ธรรมชาติภัย ไม่ค่อยมี..........................................เอื้อสุขี ชีวีคน

    (แต่ชาติกลับ)ไม่เคยคล้อย (ความ)ด้อยพัฒนา........ระดมปัญญา มาคิดค้น
แผนพัฒนาฯ สาละวน...........................................ล่วงผ่านพ้น หกสิบปี

    หลากหลายสิ่ง ยิ่งเสื่อมถ่อย................................มากไม่น้อย พร้อยบัดสี
อุปสรรครุม สุมทวี...............................................เลือกวิธี ปฎิรูปมัน

    กาลผ่านไป ไม่ต่างเก่า.......................................หลายปีเข้า ก็เท่านั้น
คนสงสัย ทำไมกัน?.............................................จึงติด-ตัน การพัฒนา

    ใคร่ครวญดู ไม่รู้(จริง)หรือ?.................................."คนไม่ซื่อ(สัตย์)" คือปัญหา
คอยทุจริต คิดมารยา............................................เป็นธารณะ วัฒนธรรม(ธารณะ=สาธารณะ)

    ทุกองค์กร ซ่อนโกงกิน........................................เป็นอาจิณ ชินซากซ้ำ
(แม้แต่)กระบวนการ ยุติธรรม..................................ก็ด่างดำ ธรรมาภิบาล

    ปัญหาใหญ่(มาก) แก้ได้ยาก.................................(มีคน)คดโกงมาก ปักหลักฐาน
สร้างปัญหา เพิ่มทะยาน.........................................ประจักษ์ประจาน สันดานเอยฯ

๒๒ มีนาคม ๒๕๖๑

วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2561

เป็นอะไร-เป็นอย่างไร : กาพย์ยานี๑๑




เป็นอะไร-เป็นอย่างไร : กาพย์ยานี๑๑


    ผู้ใหญ่ มักไถ่ถาม...................................เด็กถึงความ รัก-สนใจ
"โตขึ้น อยากเป็นอะไร?"...........................(แนะนำ)ให้ตั้งใจ เรียนหนังสือ

    (เด็ก)บางคน อยากเป็นครู........................เพราะมีผู้ พนมมือ
ไหว้ครู ผู้ได้ชื่อ(ว่า)..................................ให้วิชา อนาคต

    (เด็ก)บางคน สนใจ(อยากเป็น)หมอ...........ต่อสู้โรคา มิละลด
ช่วยคน พ้นทุกข์ปลด................................สุขภาพสด ชื่นแจ่มใส

    (อยากมี)สถานะ ที่มั่นคง..........................ทรัพย์ประสงค์ จำนงใจ
(ทำงานที่)สังคม นิยมให้...........................ใคร่นับถือ คือแก่นสาร

    เด็กต่าง หวังปรารถนา.............................ความก้าวหน้า อาชีพงาน
ไร้ทุกข์ สุขสำราญ....................................มีบำนาญ บันเทิงเสถียร

    คิดบ้าง "เป็นอย่างไร?"............................คำถามใหม่ ให้พากเพียร
งานทำ กรรมวิเชียร...................................เจียรชีวี มิหวั่นไหว

    จรรยา บ่ละวาง.......................................เป็นตัวอย่าง บ้างผู้ใหญ่
อย่ามัว ชั่วหทัย........................................ทรามสาไถย ไพร่สถุล

    เอาเปรียบ สังคมอย่าง..............................หยาบกระด้าง (ยังกล้า)อ้างบุญคุณ
วิถี ที่เคยคุ้น............................................หนุนความถ่อย ด้อยพัฒนาฯ

๒๑ มีนาคม ๒๕๖๑

วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2561

พูดจาภาษาคน : กลอนธรรมชาติของคน





พูดจาภาษาคน : กลอนธรรมชาติของคน


    คำพูด ของคน (มัก)ปนเป..........................ร้อยเล่ห์ เจตนา ปราศรัย
เคล้าคละ อารมณ์ ปมฤทัย..........................เผยจิต ผิดใจ/ไมตรี

    (คำ)พูดจา แสดง ความเห็น........................(อาจ)แฝงเร้น (ความ)รังเกียจ เสียดสี
เบียดเบียน (ด้วย)โทสะ พาที.......................พบมี สะพรั่ง สังคม(โทสะ=ความคิดประทุษร้าย)

    (เมื่อ)คนเรา เฝ้าคิด ริษยา..........................(จะ)พูดจา ปรากฏ โฉดสม
ใส่ร้าย ป้ายสี นิยม.....................................โง่งม จมบาป หยาบกรรม

    (คำ)พูดเท็จ เพ็ดทูล ครุ่นคิด.......................ทุจริต จิตใคร่ ใฝ่ต่ำ
(หวัง)ประสิทธิ์ มิจฉา กระทำ.........................ระยำ สำแดง แจ้งจินต์

    ประภาษ สัตย์ศรี มีน้อย..............................(แต่)หลอกลวง พ่วงพร้อย ไม่สิ้น(ประภาษ=พูด)
เกิดมี ชีวาตม์ บนปัถพิน...............................ได้ยิน ชินชา วาทะชน

    ด่าทอ ต่อกัน ลาญประโยชน์........................มีแต่ แส่โทษ โจทก์ท้น
สงบนิ่ง สิ่งพา กระมล...................................หลุดพ้น ทุกข์เทวษ เภทภัย

    พบผู้ พูดดี มีคุณ(ประโยชน์)........................ควรหนุน สุนทรา ปราศรัย
(ใคร)พูดชั่ว พัวพัน จัญไร.............................อย่าไป ใยดี นิยม

    ชนชอบ ฟังคำ(พูด) เอาใจ...........................คำสัตย์ บาดฤทัย หน่ายขม
(เป็นสิ่ง)ปรกติ นิสัย ในสังคม.........................รื่นรมย์ เลียแข้ง เลียขาเอยฯ

๒๐ มีนาคม ๒๕๖๑

*โทสะ หมายถึง ความคิดประทุษร้าย(ไม่ใช่ความโกรธ อย่างที่ชอบแปลกันผิดๆ , โกธะ หมายถึง ความโกรธ)

อกุศลมูล๓
(รากเหง้าของอกุศล, ต้นตอของความชั่ว — unwholesome roots; roots of bad actions)
       1. โลภะ (ความอยากได้ — greed)
       2. โทสะ (ความคิดประทุษร้าย — hatred)
       3. โมหะ (ความหลง — delusion)
From <http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A8%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5_3&detail=on>

วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561

รักดี : กาพย์สุรางคนางค์๒๘




รักดี : กาพย์สุรางคนางค์๒๘


    ................................................ดอกไม้ ใบหญ้า
ตั้งหน้า ตั้งตา................................พัฒนา เติบใหญ่
มุ่งหา (แสง)อาทิตย์.......................มั่นจิต มั่นใจ
ทุกวัน คืนไม่.................................ไหวหวั่น สั่นคลอน

    .................................................คนมี ความคิด
เคียงคู่ ชีวิต...................................อิสระ มิละถอน
สร้างความ ปรารถนา........................แม้เวลา กิน-นอน
อุรา อาวรณ์...................................สะท้อน ค่านิยม

    .................................................รักดี นิยาม
(คือการ)นิยม (ความ)ดีงาม...............ความถูก(ต้อง) เหมาะสม
ทำแต่ ความดี................................มีสัมมา ปรารมภ์(สัมมา=ดี)
มุ่งดี วิกรม.....................................อุดม อุรา(วิกรม=ก้าวล่วงไปด้วยความกล้าหาญ)

    .................................................ผลแห่ง ความดี
จะสนุก สุขี....................................ไม่มี ปัญหา
ชีพล้ำ ดำเนิน................................เจริญ ก้าวหน้า
สมบูรณ์ คุณค่า...............................ประสบ โชคดี

    .................................................(แม้ใน)สถานการณ์ วิกฤติ
(ความ)รักดี นิรมิต..........................ชีวิต วิจิตรศรี
บรรเทา (ความ)เดือดร้อน.................ลดทอน ทุกข์มี
ทยอย ถ้อยที.................................คลี่คลาย สลายพลัน

    .................................................เมื่อได้ โอกาส
(คน)รักดี มิคลาด...........................พิลาส สร้างสรรค์(พิลาส=เยื้องกราย)
รุ่งเรือง สวัสดิ์.................................โสมนัส อัศจรรย์
สุขี ชีวัน........................................บันเทิง เริงฤทัย

    .................................................รู้จัก รักดี
(เป็น)ทิศทาง สว่างศรี......................ชีวี สุกไสว
คิดดี พูดดี.....................................ทำดี (จะ)มีชัย
อยู่รอด ปลอดภัย............................ไร้ทุกข์ กังวลฯ

๑๙ มีนาคม ๒๕๖๑

วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2561

วัดวาตลาด : กลอนคติเตือนใจ




วัดวาตลาด : กลอนคติเตือนใจ


    วัดวา อาราม ตาม(ธรรม)วินัย..................(เป็นสถาน)ที่พระ อาศัย ใช้ศึกษา
พระธรรม คำสอน ของศาสดา....................รอนลาญ ตัณหา ละมลทิน

    (มีสภาพ)สงบ วิเวก เฉกป่าชัฏ.................สงัด เสียงดัง แทบทั้งสิ้น
ไร้คน พลุกพล่าน ฟุ้งซ่านจินต์...................(เหมาะสำหรับ)ฝึกศีล อภิญญา อาชาไนย

    อริยะ สัจสี่ วิถีหลัก.................................ฟูมฟัก ดวงฤดี นิรัติศัย(นิรัติศัย=ประเสริฐ)
มุ่งผล นิพพาน มั่นคงใจ............................(เป็น)เป้าหมาย ในการ เข้าบรรพชา

    ไม่ใช่ สถานที่ (ประกอบ)พิธีกรรม..............รับทำ ไสยศาสตร์ เสกคาถา
เสริมดวง สะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา...............รักษา โรคภัย ใบ้หวยเบอร์

    และไม่ ใช่สถาน ที่ท่องเที่ยว....................ข้องเกี่ยว ราชการ งานล้นเอ่อ
หนุ่มสาว ปฏิพัทธ์ นัดพบเจอ......................บำเรอ กิเลส เจตทรชน

    ไม่ใช่ ให้มา อธิษฐาน.............................บนบาน ศาลกล่าว มอมเมาผล
รับผู้ เกียจคร้าน อันธพาลคน......................ชุบตน พ้นชั่ว มั่วราคี

    สำคัญ นั้นอย่า อาศัยวัด..........................ขายค้า สารพัด=สิ่งบัดสี
กลิ้งกลอก หลอกลวง ทรวงอัปรีย์................มโหรี โลกียวิสัย ให้บริการ

    เอาวัดวา อาราม ทำตลาด.......................เสียสติ วิปลาส ศาสนสถาน
พระทำ ธุรกิจ จิตประจาน..........................สามานย์ เฉโก โมฆะเอยฯ

๑๘ มีนาคม ๒๕๖๑