ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

วิถีของความมีศีลธรรม : โคลงสี่สุภาพ




วิถีของความมีศีลธรรม : โคลงสี่สุภาพ

๑. จะไม่ยอมย่อท้อ................................ชีวิน
ถึงทำมาหากิน..................................ข้ดข้อง
หยาดเหงื่อไคลไหลริน.......................อาบหยด
มิยอมคดทรามส้อง............................แม้อาจ อดตายฯ

๒. กายกรรมระวังไว้...............................มิประมาท
ทรงศีลสัตย์ไม่หวาด..........................ไม่พลั้ง
จริยางามสะอาด................................หมดจด
ปราศจากโทษฉุดรั้ง...........................ทุกข์ร้อนลำเค็ญฯ

๓. ตามความเป็นจริงเจื้อย.......................เจรจา
มิประสงค์มุสา...................................ใส่ไคล้
ด่าทอกันไปมา..................................ปฏิเสธ
มีเหตุมีผล;ไร้....................................ถ้อยคำนินทาฯ

๔. ถึงสถานการณ์บีบคั้น..........................แค่ไหน
มิละโมบของใคร................................คดข้อ
ความพยาบาทผลักไส.........................จากจิต
มิจฉาทิฐิ-ฉ้อ.....................................ตั้งมั่นเปลี่ยนแปลงฯ

๕. แสวงหาซึ่งความรู้..............................สัจธรรม
ขจัดทัศนะมืดดำ.................................ดับพ้น
เพชร-มณี-เงิน-ทองคำ.........................ประสบ
ยังหลบหลีกเพื่อค้น.............................คว้าพุทธิปัญญาฯ

๖. ปรารถนากุศลสร้าง..............................สุจริต
ละอาย-กลัวความผิด............................ชั่วช้า
เวรกรรมย่อมตามติด.............................การณ์ก่อ
ต่อชะตาภายภาคหน้า...........................ตระหนักรู้สำนึกฯ

๗. ไม่เอาความรู้สึก.................................อารมณ์
เป็นวิถีนิยม.........................................นำหน้า
ระวังความโง่งม....................................หลอกจิต
คิดเป็น"ตน"กาจกล้า.............................ตามต้อยต่ำตรมฯ

๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ทำไมต้องเอาพุทธศาสนาบังหน้า? : กลอนคติเตือนใจ




ทำไมต้องเอาพุทธศาสนาบังหน้า? : กลอนคติเตือนใจ


    .........................................................นับแต่ครั้ง พุทธกาล นานสมัย
นักบวชหลาก ลัทธิ มีทั่วไป........................ทำอะไร ในสิ่ง ที่(ตน)ศรัทธา

    สร้างวิถี ปฏิบัติ วัตรแตกต่าง.....................เปิดแนวทาง ธรรมวินัย ให้ศึกษา
ตั้งแต่เกิด จนตาย ใช้ชีวา...........................กษัตรา ประชาชน เลือกสนใจ

    ส่วนประเทศ สยาม ตามที่รู้.......................ชนชื่นชู บูชา บ้าคุณไสย
แทรกอยู่ตาม ประเพณี วิถีไทย....................แต่ทำไม บอกว่า (เป็น)ศาสนาพุทธ?

    เข้ามาบวช สวดมนต์ พ่นคาถา...................บ้างบอกว่า ผ้าเหลือง เฟื่องบริสุทธิ์
แลมากมี ชี้ว่าตน พ้นมนุษย์........................เป็นประดุจ ผู้วิเศษ เวทอาคม

    รับเจิมรถ บ้านช่อง ห้องพาณิชย์.................เสกสัมฤทธิ์ อิทธิให้ ได้สิ่งสม
สะเดาะเคราะห์ ต่อชะตาฯลฯ ประชานิยม.......ตามคติ อภิรมย์ ความงมงาย

    (แต่)ธรรมวินัย ของพุทธ (ธะ)ศาสดา...........มิสนใจ ใฝ่หา มรรคาหาย
ลาภ-ยศ-สัก การะ ตะเกียกตะกาย................มุ่งขวนขวาย โลกียธรรม ความมั่งมี

    แม้แต่พระ ก็เป็นพุทธ เพียงเปลือกนอก........เหมือนกลิ้งกลอก หลอกลวง ทรวงบัดสี
เหตุไฉน ไม่ครองตน บนวิธี.........................ตรงตามที่ ปฏิบัติ ศรัทธาจริง?

    ไม่ต้องมา โกนผม ห่มผ้าเหลือง..................ให้สิ้นเปลือง เวลา บังหน้าสิง-
สู่อยู่ใน พุทธศาสน์ เช่นชาติปลิง...................ไม่ถูกต้อง หมองยิ่ง สิ่งเลวทรามฯ

๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

คงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย : กลอนคติเตือนใจ




*มีเรื่องการบริหารจัดการเกี่ยวกับเงินในวัดป่าปฐมชัย ซึ่งเป็นเงินบริจาคให้วัด
ทางพระนิพนธ์ จะให้โอนเข้าบัญชีในชื่อของตัวเองเสมอ แต่จะบอกญาติโยมว่าจะไม่ขอถือเงิน
ซึ่งเคยมีการหลุดปากให้คนวงในฟังว่าเงินที่ไหลเวียนเข้ามาในวัด บางวันสูงถึง 250 ล้านบาท
From <https://mgronline.com/local/detail/9610000019322



คงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย : กลอนคติเตือนใจ


    เงินทอง กองก่าย ล่อใจโจร...................โชกโชน มารยา แสนสาไถย
เห็นคน ศรัทธา วัดวาไท.........................เรี่ยไร ได้(เงิน)นัก เกินมากมี

    ยิ่งอ้าง เป็นวัด(ป่า สาย)ปฏิบัติ................สารพัด (ครูบา)อาจารย์ บุราณวิถี
ไม่รับ เงินทอง มองว่าดี..........................แต่(ความจริง)มี มูลนิธิ(ของวัด) รี่รับแทน

    (ออก)แบบสิ่ง ปลูกสร้าง พรั่งวิจิตร...........ลูกศิษย์ ลูกหา มาแห่แหน
บริจาค อยาก(ไป)สวรรค์ วิมานแมน...........เข้าแผน ทรชน คนใจทราม

    พึ่งพา ผ้าเหลือง (พุทธ)ศาสนา...............ลาภ-ยศ-สักการ์ ฯลฯ ทะลักหลาม
อยู่ดี กินดี มีคนตาม................................กราบไหว้ ให้ความ เชื่อ-บูชา

    ตั้งคน ของกู ดูแลเงิน............................เพลิดเพลิน จับจ่าย ใช้ซื้อหา
ตกแต่ง บัญชี ไร้ที่มา..............................ยักยอก ออกไปหา (บัญชี)ของส่วนตน

    หญิงสาว เข้าที ปรนนิบัติ........................กำหนัด กลัดมัน ตัณหาหน
เมียหลวง เมียน้อย คอยประจญ.................(กระทั่ง)ผู้คน จับได้ ไล่รู้ทัน

    อ้างว่า อาตมา ถูกใส่ร้าย.........................เข้าหา พระ(ผู้)ใหญ่ ไพร่กระสัน
ช่วยเหลือ เกื้อกูล หนุนหลังกัน..................ปราศโทษ ลดทัณฑ์ ผิดอันใด

    ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ข่าวปรากฏ....................จะหมด โฉดช้า ก็หาไม่
ถวายเงิน ล่อโจร คนจัญไร........................ต่อไป ไม่สุดสิ้น ราคินคาวฯ

๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

*การถวายเงินให้พระ-วัด
เป็นการกระทำที่ละเมิด มุ่งทำลายธรรมวินัย และพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า

วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา : กลอนสำนวนสุภาษิต



รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา : กลอนสำนวนสุภาษิต

    เด็กน้อย คอยเล่น เป็นหลัก.....................แม้จัก ต้องกิน อาหาร
ก็ยัง อยากเล่น เป็นประธาน.......................(จน)คนเลี้ยง รำคาญ เสียเวลา

    (หาก)วัยเรียน เพียรไร้ ใจประมาท............ความรู้ ไม่ปรารถ (ถะ)นา
ชอบกิน-เที่ยว-เล่น-เฮฮา..........................แสวงหา คนรัก ฝักใจ

    งานการ คร้านเกียจ เดียดฉันท์.................คิดขัน แค่เรื่อง เหลวไหล
กลางคืน รื่นเที่ยว เชี่ยวฤทัย......................กายใจ ไล่คร่า ราคี

    อยากสุข สนุก เฉพาะหน้า.......................หาญกล้า ปฏิพัทธ์ บัดสี
ทำตาม อำเภอใจ ; ไม่มี...........................จารี ศีลธรรม กำธร

    ผลงาน พานไร้ ไม่ปรากฏ........................เรื่องร้าย ไม่ลด หมดร้อน
ชีวัน ลุ่มๆ ดอนๆ......................................อนาคต ลดทอน วัฒนา

    แต่ถ้า (ยอม)กล้ำกลืน ฝืนทน...................ตั้งกมล สนใจ ใฝ่(การ)ศึกษา
ทุ่มเท เล่าเรียน เธียรวิชา..........................ตั้งหน้า ตั้งใจ ทำงาน

    วิถี ศีลธรรม กำกับ.................................สดับ คุณธรรม คำขาน
และมี วิจา รณญาณ................................ทัดทาน กายใจ ไม่มัวเมา

    รักดี จิได้ หามจั่ว..................................รักชั่ว หัวคิดทราม หามเสา
พบได้ รายรอบ ตัวเรา..............................คิดเอา เขลา/ฉลาด คัดกรองฯ
(วิจารณญาณ=ปัญญาที่สามารถรู้และให้เหตุผลที่ถูกต้อง)

๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

แรงงานกรรมาชีพ : กาพย์ยานี๑๑




แรงงานกรรมาชีพ : กาพย์ยานี๑๑


    รุ่งสาง สว่างใส................................สุริโยทัย ไต่ระดับ
ขอบฟ้า คณานับ................................งามประทับ ทัศนีย์

    วิหค ยกพวกพ้อง.............................ส่งเสียงซ้อง ทำนองศรี
ปลุกเร้า ป่าวฤดี.................................พงพีตื่น ฟื้นสัญญา(สัญญา=ความจำ)

    รุ่งสาง รังสรรค์สัจ.............................ชีวาวัตร ต้องจัดหา
ปัจจัย ให้กายา..................................สามารถสู้ อยู่ต่อไป

    ทำงาน กรรมาชีพ.............................ต้องเร่งรีบ ช้าไม่ได้
เงินทอง ข้าวของใช้...........................ล้วนอาศัย นายจ้างจุน(เจือ)

    (คนไม่น้อย)งานทำ กำไรหวัง.............(จากการ)เกียจคร้านดั่ง กำลังสถุล
(พูด)ถากถาง อ้างบุญคุณ....................เกื้อหนุนโลก ยกตัวดี

    แต่ใจ ไม่คิดจัด-................................การกิจวัตร พิพัฒน์ศรี
(กลับ)ขวนขวาย รายได้ดี.....................มีกินใช้ ไม่ฝืดเคือง

    (ถ้า)เบื่อหน่าย ขายแรงงาน.................หากต้องการ ความฟุ้งเฟื่อง
อิสระ อธิปเนือง..................................ต้องรู้เรื่อง ตั้งกิจการ(อธิป=ผู้เป็นใหญ่)

    ปัจจัย รายได้สร้าง.............................มีแผนวาง หนทางสาน
หลีกเลี่ยง ความเสี่ยงลาน.....................พานสำเร็จ สมเจตนา

    หากแม้น แคลนปัจจัย.........................แรงงานขาย ให้อุตสาห์
นายจ้าง ลูกจ้างมา-.............................นะพึ่งพา กันและกัน

    อย่าคิด คอยเอาเปรียบ........................ขย้ำเหยียบ ความใฝ่ฝัน
น้อมใจ ใคร่ศีลธรรม์.............................จรรโลงหล้า โสภาเทอญฯ

๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ผู้-หิว-โหย : กลอนเปล่า




ผู้-หิว-โหย : กลอนเปล่า


    โลกกว้าง....
ฟ้ายิ่งกว้าง-ใหญ่
คนบางคนไฉน
ทำตัวยิ่งใหญ่คับฟ้า?

    เกิดบนดิน
กินสิ่งที่พสุธา
มอบให้อย่างไม่หวงว่า
เป็นของของข้า...ผู้เดียว

    โลกหมุนรอบสุริยน
แต่คนตั้งตนเป็นศูนย์กลาง
" โลกมนุษย์ " อุตส่าห์สร้าง
คำอ้าง....ที่ไร้ยางอาย

    เห็นแก่ตัวเป็นที่หนึ่ง
คำนึงขจิตคิดร้าย
โง่เขลาเมามาย
ไม่รู้ซึ้งสัจธรรมความจริง

    แสวงหา....หวงแหน
แม่นมั่นว่า ข้าคือเจ้าของ
กระหยื่มยิ้มย่องลำพอง
จองหองในทรัพย์ ยศ สรรเสริญ

    มีเท่าไร....ไม่เคยพอ
ได้เท่าไรก็....ไม่เคยเต็ม
รู้สึกแค่....ยังขาด
ไม่อาจรู้ถึงความเกิน
ดำเนินเช่นนี้ทุกวี่วัน

    หลงว่า รู้จักชีวิต
คิดว่า เข้าใจสัจธรรม์
ถือตน แบ่งชนชั้น
เย้ยหยันคนอื่น....รื่นทรวง

    คติธรรมประจำใจ
ด้าน-ได้ อาย-อด
มือใครยาว สาวได้สาวเอา
ฉวยโอกาสได้ ให้ตักตวง
ละลาบละล้วงกอบโกย
ฯลฯ

    ท้องอิ่ม....
แต่ใจไม่เคยอิ่ม
อดอยาก-หิวโหย
อายุสั้น
สังขารร่วงโรย
โบยบินวิญญาณ....ปานธุลีฯ

๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

วันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

อิ่มใจใช้ชีวิต : กาพย์ยานี๑๑




อิ่มใจใช้ชีวิต : กาพย์ยานี๑๑

    ทำดี มีผลได้.........................หนุนดลให้ ใจผ่องศรี
พูดดี ความคิดดี........................เสริมสิริ และปัญญา

    ลดความ เห็นแก่ตน.................หมั่นฝึกฝน ทนอุตส่าห์
ใจดี มีเมตตา............................จะพบว่า สุข-ร่มเย็น

    โทสะ ละลดไป.......................ทำสิ่งใด ไร้ร้อนเข็ญ
มีสติ (ความ)ระลึก(ได้) ; เป็น......เครื่องคุ้มครอง ป้องปราการ

    ไม่ชัง คนโฉดชั่ว.....................ไม่เกรงกลัว ผู้จ้องผลาญ
ไม่ประมาท อาชญาพาล.............ไม่ต้องการ ใกล้คลุกคลี

    ไม่สมัคร เล่นพรรคพวก.............ไม่สะดวก ทำบัดสี
ต้อง(การ)ทำ แต่ความดี..............มีศีลธรรม ประจำใจ

    เขารวย มิริษยา........................เขาก้าวหน้า กล้าหนุนให้
(ใคร)ได้ดี ร่วมดีใจ.....................ไม่สมเพช (เมื่อใคร)เทวษภินท์

    ไม่แข่ง (ขัน)ความอุดม..............ไม่สั่งสม ซึ่งทรัพย์สิน
ทำมา หมั่นหากิน.......................ไม่ดิ้นรน จนเดือดดาล

    มีเหลือ ขอเผื่อแผ่.....................ไม่เชือนแช แดกระสานติ์(กระสานติ์=สงบ)
มีหลาย ก็ให้ทาน........................เสมือนสาธารณ์ เสมอตน

    เข้าใจ ในสัจจะ.........................สมถะ อุระท้น
สุขี นิรมล..................................ความจนยาก ไคลจากจร

    สุจริต ทรงจิตใจ........................สะอาดใส ไม่ทุกข์ร้อน
สมบูรณ์ ความสุนทร....................กาย-ใจอิ่ม ปริ่มเปรมเอยฯ

๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

จระเข้ขวางคลอง : กลอนสะท้อนปัญหาสังคม




จระเข้ขวางคลอง : กลอนสะท้อนปัญหาสังคม


    ตัวการ(ใหญ่) ปัญหา สังคม....................อุดม ทุกด้าน นานสมัย
แก้แล้ว แก้เล่า เท่าไร..............................ก็แก้ ไม่ได้ สักที

    เพราะว่า (มี)จระเข้ ขวางคลอง................เนืองนอง ปองปราด บัดสี
อาศัย อำนาจ หน้าที่................................กระทำ ย่ำยี ผิดวินัย

    รับเงิน ใต้โต๊ะ ผลประโยชน์.....................ฉลโฉด (ก่อ)อาชญา สาไถย
ตั้งแต่ ต้นน้ำ ลามไป................................ถึงใน ปลายน้ำ ต่ำตม

    เงินเดือน ก็รับ กับรัฐ..............................(ยัง)ไร้ซื่่อ ทื่อสัตย์ อุบาทว์สม
ทำงาน มาน มโน โง่งม............................นิยม เช้าชาม เย็นชาม

    ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี มิตระหนัก........................ถือหลัก (ทำ)ตามใจ ใคร่ห่าม
พาโล โมหะจิต คิดทราม...........................ล้นความ ราคิน จินดา

    หน้าที่ มิทำ ให้ถูก(ต้อง)..........................ชอบผูก พิสดาร ปัญหา
ทำตัว เยี่ยงโจร ปล้นประชา........................ทรัพยา แผ่นดิน กินโกง

    ยกตน ชนชั้น บรรดาศักดิ์.........................ประจักษ์ กักขฬะ ดาโด่ง
รับส่วย อึกทึก ลึกโยง...............................เปิดโปง ทำเป็น ขบวนการ

    ไม่ใช่ เชื้อชาติ ศาสนา.............................หรือ(ขาด)การ ศึกษา มาตรฐาน
เปลี่ยนใคร ได้เป็น รัฐบาล..........................ก็พาล กันหมด คดแผ่นดินฯ

๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

*คดี “ป้าทุบรถ” ฟ้อง กทม.
ยืดเยื้อคาศาลปกครอง 8 ปี แค่รอจะสรุปสำนวน!
From <https://mgronline.com/politics/detail/9610000017407>


*ธวัชชัย ไทยเขียว รอง ปลัดยธ.โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว 
ระบุ เจ้าหน้าที่รัฐต้องบังคับใช้กฎหมายเป็นบรรทัดฐาน 
หลังเกิดเหตุป้าทุบรถจอดขวางทางออก แก้ปัญหาด้วยตัวเอง

From <https://mgronline.com/crime/detail/9610000017786

*ผบก.ส.1 เซ็นเด้ง “หมวดมานัส” จากพิษแจกอั่งเปา
ขาดราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร
หลังเดินทางไปต่างประเทศ 96 ครั้ง...
“ศรีวราห์” ระบุ “หมวดมานัส” พัวพันธุรกิจสีเทากว่า 10 ปี
ละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่หนีไปต่างประเทศ
ตั้งคณะกรรมการสอบให้ทราบผลภายใน 30 วัน โทษสูงสุดถึงไล่อออก
From <https://www.thairath.co.th/content/1208587>

*ต่อตระ กูล ยมนาค ประธานอนุกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่ง ชาติด้านการป้องกันการทุจริตใน คตช.

ทำหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ เรียกร้องให้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อเรียกศรัทธาการแก้ปัญหาทุจริตกลับคืนมา
จากกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม
มีนาฬิกาและ แหวนเพชรราคาแพงไว้ในครอบครอง
แต่กลับไม่แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.กลาโหม
From <https://www.facebook.com/act.anticorruptionThailand/posts/940211826143565>

รักชาติจนน้ำลายไหล : กาพย์ยานี๑๑




รักชาติจนน้ำลายไหล : กาพย์ยานี๑๑


    ชัยชนะ ของชาติไทย..........................หามิใช่ (ของ)ใครคนหนึ่ง
เมื่อ(โครงการ)โรง ไฟฟ้าซึ่ง...................พึ่งถ่านหิน ต้องสะดุด

    อิดหนา จะว่าไป.................................ประหลาดใจ ในมนุษย์
เหตุไฉน ใจจึงคุด.................................มิหยุดยั้ง สร้างสามานย์

    ก็รู้ อยู่แก่ใจ.......................................โลกต้านภัย (โรง)ไฟฟ้าถ่าน(หิน)
มลพิษ แพร่สาธารณ์.............................บันดาลเภท สังเวชพี

    ก็ยัง ดันทุรัง.......................................ไม่ยอมฟัง เหตุผลชี้้
หรือผล ประโยชน์พี?.............................มากมีให้ (จึง)ไม่นำพา

    ผลเสีย (ต่อ)สิ่งแวดล้อม.......................ใครจะยอม รับปัญหา
เพิ่มแผ่ แก่โลกา...................................ทำชีวา ทุรพล

    ต้องให้ มาประท้วง...............................จึงยอมล่วง สัญญาหน
(วิธี)พูดจา ภาษาคน..............................บ่สนจิต คิดใส่ใจ

    บ้านป่า พาราเถื่อน...............................ทำแปดเปื้อน ประเทศให้
ทุกข์ยาก ลำบากไป...............................ภยันตรายผูก ลูกหลานพลอย

    เพราะคน เห็นแก่ตัว..............................นั่งสุมหัว น้ำลายห้อย
บริหาร บ้านเมืองคอย.............................จ้องทุจริต กิจโกงกิน

    รักชาติ จนราษฎร์ชัก.............................แจ้งประจักษ์ ยักยอกสิน
(อ้างว่ามา)ปราบโกง กลับส่งกลิ่น..............ลิ้นหลายแฉก แหกตาชนฯ

๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

*รมว.พลังงาน ลงนามร่วมเครือข่ายค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่-เทพา
ถอนอีเอชไอเอ สั่งทำรายงานการประเมินผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ ใหม่ภายใน9เดือน มีผลภายใน3วัน 
ม็อบพอใจยุติการชุมนุม....
From <https://www.posttoday.com/social/general/540963>

*ไม่มี “ถ่านหินสะอาด” อยู่จริงบนโลกนี้ ไม่มีโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใดที่สะอาดอย่างแท้จริง 
โรงไฟฟ้าถ่านหินแต่ละโรงนั้นต่างปล่อยสารพิษอันตรายหลากหลายชนิดออกมา 
ทำให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน แหล่งน้ำ และมลพิษทางอากาศ 
รวมถึงก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วย และซ้ำร้ายอาจถึงชีวิต
From <http://www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/blog/52033/>

วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ลดแรงกิเลสตัณหา : กลอนแปด




ลดแรงกิเลสตัณหา : กลอนแปด


    ช่วงเปลี่ยนผ่าน ฤดู ลมพรูพรั่ง.......................พัดกระทั่ง รุ่งสาง (ถึง)ย่างยอแสง
หนุนเนื่องมา ไม่หมด ลดเรี่ยวแรง.....................ช่างขันแข็ง แปลงเปลี่ยน เวียนทัศนีย์

   อากาศร้อน ผ่อนคลาย (เมื่อ)สายลมคลั่ง..........ข้าวของล้ม หักพัง รื้้อสังกะสี
ความแรงของ สายลม โหมปัถวี........................ยังไม่มี แรงเทียบ เปรียบหทัย

    สัญชาตญาณ นั้นแรง เหนือแรง(ทั้ง)หมด.........บังเกิดกฎ ดึง-ดัน ชีวันไส
เพื่อบรรลุ ธรรมชาติ เป้าปัจจัย..........................ที่สร้างให้ โลกเป็น เช่นปัจจุบัน

    แรงกิเลส ตัณหา สุดกล้าแกร่ง........................ยิ้่งกว่าแรง สติ  ปัญญาสรรค์
มึนเมามัว ตัวอย่าง ช้างตกมัน...........................เมื่อกระสัน พันธุ์สืบ รุกคืบครอง

    คนอาจเป็น ได้แค่ แดสัตว์ป่า..........................หากแม้นว่า สัญชาตญาณ หาญผยอง
จึงต้องมี กฎหมาย มากก่ายกอง........................มาควบคุม กุมกอง กิเลสกล

    มีคุกคุม ขังคน กระมลสัตว์.............................เพื่อฝึกหัด ดัดใจ นิสัยฉล
หาก(ใคร)โหดเหี้ยม อำมหิต ผิดผู้คน.................ก็ต้องผล ประหัต ประหารไป

    การรู้จัก ควบคุม กุมกรองจิต...........................รู้สึกผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี มิสาไถย
ลดผ่อนแรง กิเลส เจตพิไล..............................ทำอะไร ไม่พึ่งพา ตัณหาเพียร

    ชีวิตจะ สงบ พบสันติ....................................สุจริตกรรม ดำริ รุจิเศียร(รุจิ=รุ่งเรือง,สว่าง)
ประสบความ สำราญ มานวิเชียร........................แม้แปลงเปลี่ยน ฤดู อยู่ร่มเย็นฯ

๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

บางคนจึงสุุข บางคนจึงทุกข์ : กลอนคติชีวิต



บางคนจึงสุุข บางคนจึงทุกข์ : กลอนคติชีวิต


    ร้อนแรก แหวกทิวา มารอ.......................รัตกาล สานต่อ เย็นหนาว(รัตกาล=กลางคืน)
กลางคืน เริ่มสั้น (กลาง)วันยาว..................เตือนชาว โลกว่า (จะ)เปลี่ยนฤดู

   สัญญาณ วารหวน รวนระคน.....................เมฆฝน หม่นฟ้า มาสู่
แมลงยุง ฝูงใหญ่ กรายกรู.........................พันตู ผู้คน ทันทรมาน

    ธรรมชาติ กลาดเกลื่อน เงื่อนไข...............ทำให้ ยืนยง (วัฏ)สงสาร
จรด ขอบฟ้า จักรวาล...............................จิรกาล ดาลดล กลไก(จิรกาล=เวลาช้านาน)

    ชีวิต คิดหา ความสุข..............................บางครั้ง ยังทุกข์ มาให้
แส่สุข ทุกครั้ง ระวังภัย.............................หากใจ ไม่ยึด(ถือ)ชั่ว-ดี

    กิเลส ตัณหา ปรากฏ..............................บังบด ปัญญา ประภาศรี
ยิ่งใช้ ยิ่งชิน อินทรีย์.................................เป็นที่ ปฏิพัทธ์ อัตตา(ปฏิพัทธ์=ผูกพัน)

    สรุป(ว่า) อุปธิ กิเลส...............................(เป็น)สาเหตุ สารพัน ปัญหา
(ความ)ลำบาก ลำบน ล้นมนา....................(คน)วิปริต คิดว่า สนุกมี

    สร้างบาป สร้างกรรม ทำชั่ว......................รู้ตัว แต่ไม่ หน่ายหนี
ยิ่งเหิม เพิ่มเภท เทวษกลี..........................ทวี ชีวา ทุรดล

    ส่วนผู้ รู้จัก ผลักไส.................................จะไม่ ทำความ โฉดฉล
จึงมี ชีวะ นิรมล.......................................สุขล้น บนโลก ใบเดียวกันฯ(นิรมล=ไม่มีมลทิน)

๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

อย่าทำตามเขา : กลอนคติเตือนใจ



อย่าทำตามเขา : กลอนคติเตือนใจ

    อย่าทำ ตามเขา.......................(เพียง)เพราะเรา (อยาก)เอาใจ ไม่อยากขัด(ใจ)
วิธี ปฏิบัติ.................................ต้องซื่อ ถือสัตย์ (เป็น)บรรทัดฐาน
อย่ายึด (ตัว)บุคคล.....................ฝึกฝน ปัญญา สมาทาน
พิเคราะห์ พิจารณ์.......................เพื่อการ รู้แจ้ง เห็นจริง

    โลกีย์ ค่านิยม..........................สังคม สมสั่ง หลั่งไหล
(ทำ)ตามอำ เภอใจ.....................มิใช่ (ความ)ถูกต้อง ครรลองสิ่ง
"ใครๆ ก็ทำ"..............................คือคำ นิยม ชมอ้างอิง
(จึงพากัน)ระงม จมดิ่ง.................(โดยเฉพาะ)ยิ่งใน สังคม ปัจจุบัน

    (เช่น)เด็กริ มีแฟน.....................หวงแหน เป็นบ้า เป็นหลัง
เพลงของ ใครดัง........................ก็ฟัง ตามไป ให้ขบขัน(ทั้งๆที่ไม่เพราะ)
ภาษา หยาบคาย........................มากมาย พูดจา เหมือนด่ากัน
มีเพศ สัมพันธ์............................บอกนั่้น (เป็นเรื่อง)ปกติ ธรรมดา

    สาวหนุ่ม สุมหัว........................เมามัว เปลี่ยนแฟน แม้นอุจาด
ติดพนัน กันทั้ง(ประเทศ)ชาติ........ประสาท ไหว้ตอ ตะเคียนหา
(ข้า)ราชการ (นัก)การเมือง...........ฟุ้งเฟื่อง ทุจริต ผิดอาญา
โกงกิน ชินชา............................ปานว่า เป็นวัฒ (ฒะ)นธรรมฯลฯ

    ตัวอย่าง บางตอน.....................สะท้อน สังคม โง่งมจิต
ชอบทำ ความผิด........................โดยคิด ชอบเห็น เช่นเลิศล้ำ
ถ้า(เรา)คล้อย ตามไป..................ย่อมจะ (เป็นคน)สาไถย ร้ายระยำ
จึงจง จดจำ................................อย่าทำ อะไร (เพราะอยากทำ)ตามใครเลยฯ

๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

*นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ
กล่าวถึงกรณีที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 
รายงานสถานการณ์คอร์รัปชันของประเทศไทย ที่จะมีความรุนแรงมากขึ้นในปี 2561 ว่า 
ประเทศไทยมีโจทย์ที่ต้องแก้ในเรื่องนี้
ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการแก้ไขระบบที่จะลดการคอร์รัปชันอย่างจริงจั
From <https://www.thairath.co.th/content/1206392>
 
*สอบ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง โกงเงินคนจน
https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A+%E0%B8%9C%E0%B8%AD.%E0%B8%A8%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87+%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%99&oq=%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A+%E0%B8%9C%E0%B8%AD.%E0%B8%A8%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87+%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%99&aqs=chrome..69i57.2164j0j8&sourceid=chrome&ie=UTF-8

วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Suthichai Live: ใต้โต๊ะพุ่ง 2แสนล้าน!

กวางป่ากับเถาองุ่น : กาพย์ยานี๑๑(กลอนนิทานสุภาษิต)





กวางป่ากับเถาองุ่น : กาพย์ยานี๑๑(กลอนนิทานสุภาษิต)


    กวางป่า ถูก(พราน)ล่าไล่....................หนีเข้าไป ในเครือเถา(องุ่น)
หลบนอน ซ่อนกายเนา.........................พรานเฝ้าหา มิประจญ

    กวางอุ่น จิตอุ่นใจ..............................เล็มกิน(องุ่น)ไป อย่างไม่สน
กินดะ กระทั่งดล..................................หมดเกลี้ยงโกร๋น จนเห็นตัว

    พรานไพร ไม่รอช้า.............................สำเร็จฆ่า กวางกล้าชั่่ว
นิทาน เปรียบพันพัว..............................อย่ามัวเมา เขลาเนรคุณ

    ผู้ใด้ ให้(การ)พึ่งพา............................คอยเมตตา ชีวาหนุน
อารี มีการุญ........................................(จง)รู้บุญคุณ กตัญญุตา

    คนเรา เข้าอาศัย.................................โลกใบใหญ่ ให้รักษา
(สิ่ง)แวดล้อม ค้อมอุรา..........................อย่าทำลาย เสียหายมี

    (สิ่งแวดล้อม)โลกหรือ ก็คือบ้าน.............คุ้มสังขาร บันดาลศรี
กิน-ใช้ฯลฯ ในชีวี..................................เสพสุขี ทุกวี่วัน

    (ทำลาย)ล้างโลก แล้วโยกย้าย..............อย่ามุ่งหมาย หรือใฝ่ฝัน
โลกที่ เหมือน(โลก)เรานั้น......................ทั่วจักรวาล มิพานกราย

    โลกรักษ์ พิทักษา................................จงอุตส่าห์ ก่อนจะสาย
ทุ่มเท ทั้งใจกาย...................................ใช้ชีวาตม์ มัธยัสถ์เทอญฯ

๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑