ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563

มีอะไรใหม่? : กลอนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่





มีอะไรใหม่? : กลอนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่


    แมวไม่มี วันปีใหม่..............................หมาฝันใฝ่ ใคร่อาหาร

คนถวิล จินตนาการ............................วิจิตรพิสดาร วารใหม่ปี

 

    ขอพรกัน วันปีใหม่..............................ความทุกข์ไร้ ใคร่สุขี

จากพ่อแม่ ผู้ใหญ่ที่............................สัมพันธ์มี ไมตรีดล

 

    ความจริง"มี อะไรใหม่?".....................ดวงหทัย ในโลกท้น

กิเลสตัณหา ล้อมสากล.......................เปี่ยมอกุศล ต้นทางกรรม

 

    มิเชื่อบาป-บุญ-คุณ-โทษ......................มุ่งผลประโยชน์ เช้าจรดค่ำ

เบียดเบียนกัน หมั่นกระทำ...................สำคัญเห็น เป็นกำไร

 

    เห็นแก่ตน ล้นหัวคิด............................คำนึงนิจ เอาแต่ได้

ความปราณี มีน้ำใจ.............................หายากไร้ ให้กันดารฯลฯ

 

    อะไรหรือ คือเหตุผล?..........................ปีใหม่ดล ล้นสุขศานติ์

กราบไหว้พระ (ถวาย)สังฆทาน?.............รับพรผ่าน ตู้ลำโพง?

 

    อะไรใหม่ ในหัวคิด?............................คติชีวิต วิจิตรโล่ง(ว่างเปล่า)

การทุจริต คิดกลโกง..............................ฤาอาจโยง ยอดธงชัย?


    ผู้ปรารถนา พรประสงค์...................ต้องประจง สิ้นหลงใหล

ขจัดความชั่ว พ้นหัวใจ.......................(ก่อกรรม)สุจริตไซร้ จึงได้(พรที่ดี)เอยฯ

 

๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓

ความจริงอิงธรรมชาติปัจจัย : กาพย์ฉบัง๑๖


ความจริงอิงธรรมชาติปัจจัย : กาพย์ฉบัง๑๖

 

สิ่งที่ "มี-เป็น" เช่นไร.....................ต่างต้องอาศัย

"ธรรมชาติปัจจัย"ให้ผล

 

    หาได้ขึ้นอยู่กับกมล.....................ต้องการดาลดล

ดิ้นรนจนทุกขเวทนา

 

    (ความต้องการ)สิ่งใดไม่(สอด)คล้องสัจจา.....................ธรรมชาติอรรถา

ย่อมนำปัญหามาให้(คนนั้น)

 

ดวงจิต(ที่)ผิดหวัง(สิ่งที่)ตั้งใจ.....................(หาก)สั่นคลอนอ่อนไหว

จักหนีไม่พ้นท้นทรมาน

 

(ดังนั้น)เมื่อใดที่สถานการณ์......................มิสอดประสาน

กับมานประสงค์จงรู้ไว้

 

ว่าผิด"ธรรมชาติปัจจัย"......................(ควร)ปล่อยวางมันไป

ยังไง(ๆ)ก็ไม่(มีวัน)เป็นจริง

 

ชะตากรรมนำสุข-ทุกข์สิ่ง.....................เป็น"ธรรมชาติ(ปัจจัย)"ยิ่ง

วิ่ง-หนีอย่างไรก็ไม่พ้น

 

เวรกรรมย่อมตามติดชน......................ทุกผู้ทุกคน

(คือ)เหตุผลปัจจัย(ของการ)"ได้-เป็น-มี"

 

    (เมื่อ)เข้าใจในธรรมชาติวิถี......................ย่อมสงบฤดี

กับทุกสิ่งที่ต้องประเชิญ

 

กฎแห่งเวรกรรมดำเนิน......................ไม่ขาดไม่เขิน(ตลอดเวลา)

อย่าเลินเล่อเผอเลอเอยฯ

 

๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2563

สุญญตาอารมณ์ : กลอนคติธรรม


สุญญตาอารมณ์ : กลอนคติธรรม


    คืนวัน คลานเยื้อง อย่างเชื่องช้า........................เมื่อครา หฤทัย ไห้โศกเศร้า

ความคับแค้น ลำเค็ญ ตามเช่นเงา......................ค่ำเช้า หนีเท่าไร ไม่พ้นทรวง

 

    (เมื่อ)ระทดท้อ ห่อเหี่ยว เปลี่ยวเอกา..................ใครจะมา พาให้ ได้พ้นล่วง

เหือดแห้ง แรงพลัง สิ้นทั้งปวง...........................ชีพพลัน ปานพ่วง บ่วงอเวจี

 

    คืนวัน ผ่านไว ในความสุข.................................ความสนุก ปลุกให้ ใจสุขี

เป็นเสมือน เงื่อนไข ใช้ชีวี.................................ที่ทำให้ ใคร่มี ภพ(เกิดใหม่)นิรันดร์

 

    ความสุข ผูกพัน กรรมบันดล.............................เหตุผล รนดิ้น ชีวินสรรค์

กามคุณ หนุนเนื่อง เฟื่องรางวัล..........................ต่างแข็งขัน ตัณหา อุระเจน

 

    ความรู้สึก ท้นทุกข์ และสุขี..............................คือวิถี ธรรมชาติ ชีวาตม์เห็น

ของทุกผู้ ทุกนาม ตามกรรมเวร..........................เกิด(การ)มี-เป็น เช่นบังเอิญ ประเชิญไป

 

    ถ้าซาบซึ้ง ถึงสัจจะ ธรรมชาติ...........................ย่อมขยาด ขาดประสงค์ สิ้นหลงใหล

มิยึดมั่น ถือมั่น สิ่งอันใด....................................(ที่)สารพัด ปัจจัย ดลให้เป็น

 

    ความสงบ ระงับ (จะ)ดับตัณหา.........................(ความ)ปรารถนา อันตรธาน สังขาร*เร้น

ความเร่าร้อน ผ่อนคลาย กลายเยือกเย็น..............ดั่งเดือนเพ็ญ เด่นดวง ล่วงรัชนี


    (เมื่อ)หมดสิ่งรัก มักใคร่ ในพิภพ.......................ย่อมประสบ สงบศานติ์ สำราญศรี

ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข รุกฤดี....................................สู่วิถี สุญญตา อารมณ์เอยฯ

 

๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๓

 

*สังขาร ในที่นี้หมายถึง การปรุงแต่งของจิตใจ ไม่ใช่กายสังขาร

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ความเหลื่อมล้ำและความฝันใฝ่ : กลอนคติชีวิต





ความเหลื่อมล้ำและความฝันใฝ่ : กลอนคติชีวิต

 

    เมืองไทย ในวันที่ ยังมีเด็ก..............................ตัวเล็ก(อ่อนแอ) แต่ใฝ่ฝัน (ต้องการ)เสื้อกันหนาว

(ขณะที่)รัฐมนตรี สิเน่หา ไขว่คว้าดาว..................หวังก้าว เข้าเทียบ (ชาติที่)เหยียบดวงจันทร์

 

    คนรวย ป่วยไข้ เพราะไปเที่ยว.........................แลเหลียว สุขยิ่ง (จาก)สิ่งหฤหรรษ์

คนจน ล้นทุกข์ คลุกชีวัน..................................ใฝ่ฝัน (แค่)การกินอิ่ม พริ้มอุรา

 

    คนอยากได้ อยากดี ทั่วพิภพ...........................อยากประสบ ความสนุก สุขถ้วนหน้า

สักกี่คน พินิจ พิจารณา.....................................เด็กยากจน ยลหา เมตตาใจ?

 

    ร่างกาย ผ่ายผอม ชุด(เสื้อผ้า)ซอมซ่อ...............(สามารถ)ต้านต่อ ความหนาว ถึงคราวไหน?

วันหนึ่ง หากแม้ พ่ายแพ้ไข้................................คงไป (สู่)สุคติ ชั่วนิรันดร์

 

    ใช่เพียง ชีพด้อย แสนต้อยต่ำ...........................หากยัง เหลื่อมล้ำ แม้(แต่)ความฝัน(ใฝ่)

(หวังแค่)อยู่รอด ปลอดภัย ไปวันๆ.......................เนิ่นนาน กว่านั้น เกินปัญญา

 

    ทรัพย์ที่ บริจาค อย่างมากมาย..........................สร้างวัด ศาสน์สยาย ไปทั่วหล้า

วิจิตร คิดสรรพ ประดับประดา.............................(สิ่ง)ไร้สาระ ประสงค์ หลงเป็นบุญ

 

    งบประมาณ ราชการจ่าย ละลายน้ำ....................พิธี(การ)ทำ พร่ำเพรื่อ พร้อมเกื้อหนุน

ภาษี ประชาชน ป่น(ปี้)เป็นจุล............................เพื่อลงทุน กูลกิจ ปราศทิศทาง


    หาก(แบ่ง)ได้ ให้เด็ก ย่อมเสกสรรค์....................อนาคต ชีวัน พลันเปิดกว้าง

คุณภาพ (ของเด็ก)สดใส ไม่เคว้งคว้าง................ช่วยสร้าง ชาติไทย ไพบูลย์เอยฯ

 

๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๓

วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ฤาการทำดี มิใช่เรื่องปกติธรรมดา? เรื่องสั้น

               
                        

ฤาการทำดี มิใช่เรื่องปกติธรรมดา?  เรื่องสั้น


    สุริยัน….ใกล้กาลอัศดงลงแล้ว

       พ่อค้าหนุ่มใหญ่ใคร่ครวญถึงคำพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่เตือนว่ามวลอากาศเย็นจากประเทศจีนเริมแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้อุณหภูมิลดลง 3-4 องศา อากาศจะหนาว

       จึงเริ่มเก็บสินค้าเข้าร้านเพราะยังมีงานประจำ คือการต้องไปให้อาหารหมาแมวที่วัดใกล้บ้าน

    การเก็บของดำเนินผ่านไปได้ครึ่งทาง พลันก็เหลือบเห็นหญิงสาวร่างเล็กกำลังเดินมาทางนี้ พร้อมด้วยมือที่ถือพวงกุญแจเล็กๆหลากสีสันสวยงาม หิ้้วไว้เต็มมือทั้ง 2 ข้าง

    "เธอคงเป็นแม่ค้าขายพวงกุญแจ" พ่อค้าฯคิด ตามประสบการณ์ที่มีแม่ค้าหลากหลายอายุ เคยผ่านมาขอให้ช่วยซื้อพวงกุญแจราคา 10-20 บาท

    เมื่อหญิงสาวเดินมาถึงหน้าบ้าน ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากชวนซื้อพวงกุญแจ พ่อค้าก็บอกเธอว่า "รอก่อนนะ" แล้วรีบเดินเข้าไปในร้าน หยิบหน้ากากอนามัย 1 อัน ถือติดมือออกมามอบให้

    หญิงสาวยื่นมือข้างหนึ่งมารับ พรางมองพ่อค้าฯด้วยใบหน้าสงสัยปนไม่ไว้วางใจ

    พ่อค้าบอกไปว่า "ให้ไง นี่ของใหม่นะ ร้านขายยาขายอันละ 5 บาท ร้านขายของชำขายอันละ 10 บาท"

    สีหน้าของหญิงสาวดูจะคลายกังวลลง แต่ก็ยังถามกลับด้วยความสงสัยว่า "ให้ทำไม?"

    พ่อค้าแปลกใจในคำถามเล็กน้อย มองหน้าหญิงสาวระหว่างคิดในใจว่า "เธอมาจากสังคมไหน? ไม่เคยรู้จักการให้ทานหรือ?"

    ก่อนจะตอบว่า "ก็เป็นการให้ทานไง เป็นการทำบุญแบบหนึ่ง อยู่ที่บ้านก็ทำได้ ไม่ต้องตื่นแต่เช้าไปใส่บาตรพระ ไม่ต้องถ่อสังขารเข้าวัดเพื่อทำบุญ"

    "เมื่อเราพอจะมีบ้างแล้ว ก็แบ่งปันให้กับคนอื่นบ้าง ตามทัศนะที่ว่า การให้เป็นจุดเริ่มต้นของการได้ คนเราจะต้องเคยเสียสละมาก่อน จึงจะเป็นคนที่มีได้" พูดพรางมองดูหน้าว่าเธอเข้าใจหรือเปล่า?

       หญิงสาวพูดว่า"ไม่เคยเห็นใครทำแบบนี้"

    พ่อค้าฯค่อยๆอธิบายให้ฟังว่า "คนธรรมดาทั่วไปมักจะเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ อยากได้อย่างไม่เคยพอ ได้ทำไรก็ไม่พอ ไม่คิดที่จะแบ่งปัน ไม่คิดถึงคนอื่น คิดถึงแต่ตัวเอง"

       "ส่วนคนที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่คนอื่น เห็นอกเห็นใจคนอื่นนั้นมีน้อย ลุงทำแบบนี้เป็นประจำ มอบของแถมให้ลูกค้าบ้าง แม่ค้ามาขายของเมื่อไม่ซื้อก็ให้ของเขาไปใช้บ้าง ตอนนี้โรคโควิด19 ระบาดทั่วโลก คนบางคนมีฐานะยากจนเกินกว่าจะซื้อหน้ากากอนามัยใช้ แค่เงินใช้จ่ายประจำวันก็แทบไม่พอ เราพอจะมี(เงิน)บ้างก็ซื้อหน้ากากอนามัยมาแจกๆเขาไป พอให้เขาได้ใช้แก้ขัด"

    หญิงสาวยกมือไหว้พร้อมกล่าวคำว่า "ขอบคุณ" ก่อนจะเดินจากไปเพื่อหาลูกค้าซื้อพวงกุญแจ

       พ่อค้ามองตามหลังด้วยความอยากรู้ว่าเธอจะขายได้หรือไม่? เห็นเธอเดินไปถามคนนั้นคนนี้ เขาไม่ซื้อเธอก็เดินต่อไปถามคนใหม่ ซึ่งก็ไม่เห็นมีใครซื้อเลย เป็นภาพปกติที่พ่อค้าฯเคยเห็นมาก่อนจนคาดเดาสถานการณ์ได้

    "เก็บของต่อดีกว่า" พ่อค้าฯคิดพร้อมลงมือทำฯ

 

๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๓

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ชีวีที่น่าอิจฉา : กลอนคติสอนใจ

                                       

ชีวีที่น่าอิจฉา : กลอนคติสอนใจ

 

    มากมาย หลายคน ที่ยลพิศ.................................มองชีวิต คนอื่น น่าอิจฉา

ส่วนชีวิต ของตน ช่างอนธการ์..........................มีปัญหา สารพัด แค้นขัดใจ(อนธการ=ความมืดมน)

 

    แสดงว่า ยังไม่ มองให้ทั่ว...................................เมามัว คนที่ ดีกว่า(ตน)ไหม?

ทั้งๆที่ พิภพ ประสบไป....................................(เต็มไปด้วย)ผู้ยากไร้ ท้นทุกข(ะ) ทรมาน

 

    มากมี คนที่คอย น้อยใจนึก.................................รู้สึก(ตน) มีชีวา น่าสงสาร

โลกไฉน ไม่ยุติธรรม แสนรำคาญ......................ฟ้า(ดิน)พิกล พิการ โทษมันไป

 

    ใครที่ช่าง สังเกต ด้วยเหตุผล..............................สิ่งที่ตน ประจญอยู่ รู้บ้างไหม?

เราทำ ตัวเอง อย่าเพ่ง(โทษ)ใคร.......................เลิกเหลวไหล หมายว่า ฟ้า(ดิน)บันดาล

 

    เมื่อกระทำ ตามใจ(ตน) ไม่ยั้งคิด..........................ชีวิต พิษสง คงเผาผลาญ

ผู้ปราศ ประสิทธิ์ วิจารณญาณ...........................ย่อมทุกข์ ทรมาน เพราะพาลมน

 

    กฎเกณฑ์ เวรกรรม คือคำตอบ.............................เขตขอบ กรอบนำ อำนวยผล

คืนสนอง คล้องคำ "(เวรกรรม)ตามประจญ".........ขึ้นอยู่ กับ"ตน" ดลเป็นไป(ไม่ใช่ฟ้าดินฯลฯ)

 

    ทิฏฐิ=ทัศนะ เป็นประถม....................................ค่านิยม บ่มเพาะ ก่อนิสัย

พฤติกรรม จำเจน เวรกรรมไกร..........................ที่ทำให้ ได้พบ ประสบการณ์

 

    ความสุข ทุกขา ที่กระทบ..................................คล้อยตาม คำรบ ภพสังสาร

สัมฤทธิ์ ตามกิจกรรม์ มิอันตรธาน......................เยี่ยงความ ต้องการ ของพาลชน

 

    หากเรา เข้าใจ ในสัจจะ....................................คารวะ หลักธรรม เชื่อกรรมผล

จงละเว้น ความชั่ว เตือนตัวตน..........................(จึง)จะเป็นคน น่าอิจฉา ชีวะเอยฯฯ

 

๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๓


วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2563

อย่าหลง"สิทธิ์-อิสระ" : กลอนคติเตือนใจ

อย่าหลง"สิทธิ์-อิสระ" : กลอนคติเตือนใจ

 

    กายา ธรรมชาติ ยัง(ต้อง)หัดให้.................ลูกหลาน เยาว์วัย ใคร่ปกปิด

(ความเป็น)พ่อแม่ แลงาม ด้วยความคิด........ดำเนิน ชีวิต วิจิตรทาง

 

    ถ่ายทอด "คุณธรรม ความผิด-ถูก"..............สอนลูก เข้าใจ ให้กระจ่าง

"สิทธิ อิสระ" อย่ามาอ้าง...........................ถ้าสร้าง ปัญหา อันตราย

 

    การมี อิสระ ทางความคิด..........................ควรปิด มิดชิด (หาก)ผิดกฎหมาย

(เช่น)ติฉิน นินทา ว่า-ใส่ร้าย(คนอื่น)............ตามสบาย มิใช่"สิทธิ์ อิสระ"

 

    ผู้มี ศีลธรรม นำทาง.................................(ย่อม)เลือกเฟ้น-เว้นว่าง สร้างกรรมะ

ราคะ โทสะ โมหะ....................................คือมรรคะ อกุศล มลทิน

 

    อกุศล ดลให้ ไปก่อเวร.............................ผลกรรม ลำเค็ญ เห็นไม่สิ้น(ทั่วโลก)

จงกลัว ความชั่วช้า อย่าชาชิน....................(มิฉะนั้น)ชีวิน จะรินรด หยดน้ำตา

 

    (จง)รักษา หทัย ให้สุจริต.........................งดงาม ความคิด เปลื้องมิจฉา

มโน สุจริต พิจารณา.................................สัมมา ทิฏฐิ (คือ)นิมิตรชัย

 

    จงมี อิสระ ถ้าถูกต้อง...............................(ความ)บกพร่อง ถ่องแท้ เพียรแก้ไข

อย่าลาม ทำตาม อำเภอใจ.........................ขืนมี อิสระไป ไม่เป็นการ

 

    (จง)ให้ความ สำคัญ สรรค์กุศล..................รักษา กระมล ล้นกล้าหาญ

ศีลธรรม สัมมา สมาทาน............................อย่าพาล (มัว)อ้าง"สิทธิ์ อิสระ"เลยฯ

  

๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๓

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

(ล่าสุด) ดราม่าการเงิน | เศรษฐกิจภายนอกแจ่มใส ภายในน่าห่วง ปัญหาหนี้สินย...

อังกฤษเตรียมเผชิญ ‘ภาวะเศรษฐกิจถดถอย’ สาหัสสุดในรอบกว่า 300 ปี



อังกฤษเตรียมเผชิญ ‘ภาวะเศรษฐกิจถดถอย’ 

สาหัสสุดในรอบกว่า 300 ปี

วันที่ 27 พ.ย. 2563 เวลา 09:03 น.

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า 

หริศรี สุนาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร คาดการณ์ว่า

เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรจะหดตัวร้อยละ 11.3 ในปี 2020 

ถือเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบกว่า 300 ปี 

อันมีสาเหตุมาจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)


สุนาก กล่าวต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหราชอาณาจักรว่า 

สำนักงบประมาณ (OBR) คาดว่า

เศรษฐกิจจะไม่สามารถฟื้นตัวสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดได้จนถึงสิ้นปี 2022

รัฐมนตรีคาดว่าการระบาดใหญ่จะส่งผลกระทบ “อย่างยาวนาน” 

พร้อมอ้างอิงสถิติจากสำนักฯ ซึ่งคาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะสูงแตะร้อยละ 7.5 

หรือมีคนตกงาน 2.6 ล้านคนในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2021

“ภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น” สุนาก กล่าวเตือน.....

อ่านตอได้ที่ https://www.posttoday.com/world/638968#