ไม่มีใครยากจนเพราะอดทนทำดี : กลอนคติสอนใจ

ไม่มีใครยากจนเพราะอดทนทำดี : กลอนคติสอนใจ

๏    (คนที่)ประจำ ทำดี...........................จะไม่ มีความ ยากจน

เป็นเหตุ เป็นผล...............................สัจกล เงื่อนไข ไร้กังขา

ผู้ที่ ปฏิบัติ......................................ความดี ปฏิพัทธ์ ศรัทธา

ทุ่มเท เวลา.....................................(ตลอด)ชีวา จะได้ (รับผลดี)ตอบแทน

๏    คนมี ศีลสัตย์...................................ย่อมตัด ขาดทราม กรรมชั่ว

ไม่เห็น แก่ตัว...................................(ไม่)โง่เขลา เมามัว ทั่วแหน

เมื่อมิ ประมาท..................................ชีวาตม์ (ย่อม)ปราศเข็ญ ลำเค็ญแคลน

ปลอดภัย ไร้แกน...............................มั่นแม่น แสนสุข สบาย(แกน=ขัดสน)

๏    โอบอ้อม อารี...................................แลมี นิสัย มัธยัสถ์

เงินตรา ประหยัด...............................ย่อมไม่ ขัดสน ต้นทุนหาย

มิ(ใช้)จ่าย เกินตัว..............................บ่ต้องกลัว ว่าจะ อดตาย

ทำ(งาน)ดี มิดูดาย.............................เงินทอง มากมาย ไหลมา

๏    อบายมุข ทุกอย่าง.............................ลี้ห่าง ทางใคร ทางมัน

เหล้า-ยา(เสพย์ติด) การพนัน...............มิข้อง เกี่ยวพัน->สุขหรรษา

ไม่เที่ยว กลางคืน..............................ชื่นชม คบชน ชั่วช้าฯลฯ

(แค่)ทำดี เช่นที่ว่า.............................ไม่ต้อง กลัวว่า จะยากจนฯ

๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒

คนดีมีแต่จะร่ำรวย(ขึ้น) : กลอนคติสอนใจ

คนดีมีแต่จะร่ำรวย(ขึ้น) : กลอนคติสอนใจ

๏    ...........................................ความดี สิพาคน

ประพฤติ ปฏิบัติตน....................ตามลู่ กุศล (ละ)ธรรม

๏    ...........................................คนดี สิรวยร่ำ

เพราะสัมมา กิจกรรม..................น้อมนำ ความดี คืนสนอง

๏    ............................................หากถวิล ทรัพย์สินเงินทอง

จงทำ ดีให้คล่อง.......................ถูกต้อง ตามหลัก พุทธศาสนา

 

๏    ............................................อบรม สติปัญญา

ความรู้ สู้อุตส่าห์........................แสวงหา อย่าเลิก เพิกเฉย

๏    ............................................เพียรพัฒนา มิละเลย

อดทน จนคุ้นเคย.......................อย่าเย้ย เงินน้อย ทยอยหา

๏    ............................................อบายมุข ทุกข์มรรคา

ละเว้น เป็นดีกว่า........................หนทาง หายนะ ยากเข็ญ

๏    ............................................อย่ารีบร้อน ผ่อนใจเย็น

ซื่อสัตย์ ปฏิบัติเจน......................ไม่เป็น คนคุด ทุจริต

๏    ............................................อนาคต หมดจดคิด

ความดี ย่อมประสิทธิ์...................ชีวิต รวยร่ำ สำเร็จเอยฯ

๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒

ชีวิตต้องสู้ : กาพย์ฉบัง๑๖

ชีวิตต้องสู้ : กาพย์ฉบัง๑๖

๏    (มี)ชีวีต้องมีปัญหา......................เป็นเรื่องธรรมดา

อย่าไปดิ้นรนเดือดร้อน

๏    ความทุกข์ทั้งหลายไม่อาทร...................มาดมั่นผันผ่อน

ย่อหย่อนหัวใจไร้เคืองเข็ญ

๏    มองดูปัญหาตรงประเด็น....................พิเคราะห์เสาะเฟ้น

เยือกเย็นเป็นอยู่มุมานะ

๏    ฤดีพิสุทธิ์อุตสาหะ.....................มิทอดธุระ

วิริยะแน่วแน่แก้ไข(ปัญหา)

๏    ทำอะไรได้ก็ทำไป.....................หากสุดวิสัย

อย่าใคร่เสียสัตย์บัดสี

๏    เลือกทำแต่สิ่งที่ดี....................แม้ไม่ได้ดี

ทันทีที่ทำก็ตามแต่

๏    ไม่ใช่ต้องไปยอมแพ้....................บางครั้งก็แค่

แก้ไขไปตามสถานการณ์(เฉพาะหน้า)

๏    แก้ทีละเปลาะเสาะขาน...................สุจริตคิดอ่าน

ปัญญาอาศัยไม่งุนงง

๏    สุดแท้แก้ไม่ได้-ให้ปลง...................อย่าไปใหลหลง

มั่นคงความคิดจิตใจ

๏    (จง)อย่าท้อ-ต่อสู้ต่อไป....................เพราะชีวาไซร้

ใครไม่(ต่อ)สู้-อยู่ไม่รอดเอยฯ

๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒

มีเวทมนตร์ หรือจะสู้ คนมีฝีมือ : กลอนคติสอนใจ

มีเวทมนตร์ หรือจะสู้ คนมีฝีมือ : กลอนคติสอนใจ

๏    ผู้ที่ มีความ เชี่ยวชาญ.....................................กิจการ งานย่อม อุดม

(ผู้)มีสติ ปัญญา สะสม.......................................ไม่ต้อง ระดม (เครื่องราง)ของขลัง

๏    ผู้มี ทักษะ ความสามารถ..................................เฉลียวฉลาด ประสาทธ์ พลัง

ไม่ต้อง ยากยุ่ง มุ่งหวัง........................................เกจิดัง วิชา อาคม

๏    หากมี นิสัย ไม่ประมาท....................................ไสยศาสตร์ ปราศค่า คุณาสม

(คน)หัวไว ไร้ความ โง่งม....................................รื่นรมย์ ปฏิเสธ เวทมนตร์

๏    ความมี ฝีมือ คือข้อใหญ่...................................ปัจจัย ภายนอก แค่ดอกผล

ความมี วินัย ในใจตน.........................................ทำคน พ้นทุกข์ ข้ามเวทนา

๏    พระเครื่อง เมืองไหน ก็ไม่ช่วย............................ให้รวย ด้วยพนัน หรรษา

คนขยัน ขันแข็ง แกร่งอุรา....................................มิต้อง พึ่งพา คาถาอะไร(ให้โชคดี)

๏    ประหวัด ศรัทธา สุภาษิต....................................สิ่งศักดิ์ สิทธิ์ผอง มิข้องไข

เกื้อหนุน คุณธรรม ประจำใจ.................................สวัสดี มิไร้ ได้มงคล

๏    ทำดี มิต้อง โกหก.............................................ป้องปก โชคชัย ในทุกหน

ไหวพริบ ปฏิภาณ อันพิมล...................................เอื้อชนะ เล่ห์ฉล กลอุบาย

๏    ทำดี ได้ดี ปฏิเสธ..............................................ในหมู่ ผู้เจต เลศร้าย

ดำเนิน ชีวี ดั่งนิยาย............................................ขวนขวาย มารยา พยายามฯ

๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒

เฝ้าอธิษฐาน : กลอนปัญหาอาชญากรรม

เฝ้าอธิษฐาน : กลอนปัญหาอาชญากรรม

๏    คุกล้น คนเลวหลาก.................................................ผลิตผลจาก ความโฉดชั่ว

โง่เขลา หลงเมามัว..................................................ไม่นึกกลัว กฎแห่งกรรม

๏    (ประกอบกับ)หลักสิทธิ มนุษยชน(โง่ๆ)........................ให้ท้ายคน(ชั่ว) จนล่วงล้ำ

(ทำลาย)วิถี ยุติธรรม.................................................ยกย่องคำ "ความเป็นคน"(ปานสิ่งวิเศษ)

๏    ผลลัพธ์ ย้อนกลับมา.................................................คนชั่วช้า กล้าโฉดฉล

ยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้นจน........................................................ท้นสังคม สม อวิชา

๏    (ยิ่งมีโครงการ)ปล่อยได้ ไม่ต้องค้ำ(ประกัน)...................ยิ่งตอกย้ำ ความมิจฉา

ขาดสติ อยากได้หน้า................................................ของประดา กะลาชน

๏    มีใคร ไม่คิดหนี?.......................................................(ขนาด)ค้ำประกันมี ยังล่องหน

อ้างด้วย ช่วยคนจน...................................................(แต่ไม่คิดว่า)ช่วยโฉดชน พ้นตะราง

๏    (แนวคิดลดโทษ-ให้อภัย)ให้โอ กาสกลับตัว....................ลืมความชั่ว ที่(คนชั่ว)เคยสร้าง

(เท่ากับ)ความผิด ถูกปลิดล้าง.....................................บรรทัดฐานสร้าง ทางบรรลัย

๏    ทำให้(ทุกวันนี้) คนไม่กลัว..........................................ทำความชั่ว กันยกใหญ่

(พอ)คุกล้น (รีบ)ปล่อยคน(ชั่วออก)ไป...........................สังคมไซร้ (จึง)พรั่งภัยพาล

๏    (ถึงกลียุค)ตัวใคร ตัวมันแล้ว........................................ให้คลาดแคล้ว เหล่าลูกหลาน

อย่าได้ ตายก่อนกาล.................................................เฝ้าอธิษฐาน ทุกวันคืนฯ

๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒

หนี้ครัวเรือนไทยจ่อแซงGDP : กาพย์ฉบัง๑๖

หนี้ครัวเรือนไทยจ่อแซงGDP : กาพย์ฉบัง๑๖

๏    (พวกหนึ่ง)คนที่มีความสามารถ....................เฉลียวฉลาด

เก่งฉกาจการหาทรัพย์สิน

๏    รู้ช่องทางทำมาหากิน....................มัธยัสถ์ตัดสิน(ใจ)

ชีวิน(จึง)ร่ำรวยล้นเหลือ

๏    เลี้ยงตนตลอดจนจุนเจือ..................ลูกหลานว่านเครือ

เอื้อเฟื้อให้แก่สังคม

๏    (อีกพวก)สติปัญญาโง่งม..................เกียจคร้านงานระดม

นิยมจับจ่ายใช้สอย(เกินตัว)

๏    ไม่ยอมเก็บเล็กผสมน้อย...................(ชอบ)เล่นพนันกันบ่อย

หวังรอคอยรัฐ(บาลช่วย)-วาสนา

๏    กู้หนี้ยืมสินถวิลอุรา....................บ่เจียมอัตตา

(มักจะ)เพ้อฝันมารยาสาไถย

๏    หนี้จึงท่วมหัวทั่วไป...................(จน)หมดปัญญาใช้(หนี้)

โรคภัยไข้เจ็บซ้ำเสริม

๏    คนพวกใดมากจักเติม.................ผลลัพธ์ขยับเพิ่ม

เสริมเศรษฐกิจชาติอุบัติผล

๏    ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชน(GDP)..................แลหนี้สินท้น

แยบยลคนตรึกศึกษา

๏    เข้าใจคุณภาพของประชา....................มองเห็นปัญหา

อนาคตข้างหน้าปรากฏเอยฯ

๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒

รณรงค์เลิกเกณฑ์ทหาร : กลอนสังคม

รณรงค์เลิกเกณฑ์ทหาร : กลอนสังคม

๏    ทหารเกณฑ์ เป็นทำไม?..........................................เพื่อรับใช้ นายทหาร?

ยืนเฝ้ายาม อยู่ตามบ้าน(นาย)...................................คอยบริการ ปาน"ไพร่"พล

๏    "รบกับหญ้า ฆ่ากับมด".........................................เป็นความอัปยศ อย่างเหลือล้น

ชายชาติทหาร-ความเป็นคน......................................ศักดิ์ศรีวิมล โดนทำลาย

๏    (พ่อแม่)ทุ่มเทเลี้ยง โตเพียงนี้...................................เวลา(ถูกเกณฑ์)สองปี ที่สูญหาย

อย่างไร้ค่า น่าเสียดาย.............................................บ้างล้มตาย ไปตลอดกาล(ตายปีละหลายคน)

๏    ประเทศชาติ โอกาสเสีย...........................................แรงงานเกลี่ย ไปเป็นทหาร

ผลผลิตไร้ ไม่สร้างงาน............................................เงินงบประมาณ ผลาญเล่นไป

๏    เรียน ร.ด. ก็พอกัน..................................................(เป็น)ช่องทางผัน เลี่ยง(เกณฑ์)ทหารได้

เรียนเล่นๆ มิเป็นไร.................................................(สร้าง)สีสันไซร้ ในชีวา

๏    หรือไม่อยาก ฉลากจับ(ใบดำใบแดง)..........................จ่าย(เงิน)เหมือนกับ การขายค้า

คัดชื่อ(ออก)ให้ ไม่ต้องมา........................................เรื่องธรรมดา ปรากฏมี

๏    (ชายแทบทุกคน)จึงไม่อยาก จักเกณฑ์ทหาร................ประโยชน์ลาญ-ไร้ศักดิ์ศรี

เสียโอกาส พัฒนาชีวี..............................................เพื่อวิถี ไม่มีสาระ

๏    (ขณะนี้)ชาติไม่มี วิกฤติสงคราม(แต่ขาดแรงงาน)...........ต้องการความ อุตสาหะ

ให้ประชาชน สร้างอาชีวะ.........................................จงเลิกละ เกณฑ์ทหารเทอญฯ

๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒

*ธรรมเนียมปฏิบัติที่ให้พลทหารเข้าไปรับใช้นายทหารผู้บังคับบัญชาตามบ้าน ในมุมมองของนักวิชาการอิสระอย่าง 

นิธิ เอียวศรีวงศ์ มองว่า เป็นเรื่องของระบบไพร่ที่ยังตกค้างอยู่ในสังคมไทย

*ไปดูตารางชีวิตของทหารรับใช้รายหนึ่ง เริ่มตั้งแต่ตื่นตีห้าครึ่ง เช็ดรถที่มีทั้งหมด 5 คันในบ้าน ทั้งรถผู้การ ภรรยา ลูกๆหลานๆ จากนั้นกวาดขยะกวาดใบไม้ ถ้าคุณนายตะโกนเรียกใช้ไปซื้อของจ่ายตลาด ก็ต้องรีบไปรีบกลับ ต่อด้วยซักผ้ากองใหญ่ แต่เครื่องซักผ้าที่มีไม่ได้ถูกอนุญาตให้ใช้ โดยให้เหตุผลว่าซักมือสะอาดกว่า แถมยังได้ออกกำลังกายไปในตัว สายๆหลังจากสมาชิกในบ้านออกไปทำงาน ก็เข้ามาปัดกวาดเช็ดถู ทำความสะอาดภายในบ้าน พักเที่ยงกินข้าวกินปลา งีบเอาแรงสักพัก บ่ายสองก็ตื่นมารีดผ้า รดน้ำต้นไม้ ดูแลความเรียบร้อยรอบบ้าน ตกเย็นภรรยาผู้การกลับมาก็เจอใช้ไปจ่ายตลาดอีกรอบ ล้างจาน กว่าจะถึงเวลาพักผ่อนก็ราวๆสี่ทุ่ม

จาก <https://www.posttoday.com/politic/report/385100>

NEWtalk | วังวนที่ก้าวไม่พ้น... การเมืองไทย | 23 พ.ค.62 | NEW18

มีชีวิตต้องเข้มแข็ง : กลอนคติชีวิต

มีชีวิตต้องเข้มแข็ง : กลอนคติชีวิต

๏    เมื่อเกิดมา บนโลกนี้..................................ดวงฤดี ต้องเข้มแข็ง

อุปสรรค เบา-หนักแปลง.............................เป็นเรี่ยวแรง สู้ชีวา

๏    ไม่ว่า ยากดีมีจน.......................................หนีไม่พ้น ผจญปัญหา

หยุดตระหนก วิตกอุรา................................(ทุกคนต่าง)มีปัญญา ฝ่าฟันไป

๏    แม้ลำบาก ยุ่งยากเข็ญ................................ก็อย่าเป็น เช่นสาไถย

พยายาม(ทำ) เท่าที่ทำได้...........................(ได้)ผลเพียงใด พอใจมัน

๏    (ทุก)ชีวิตอยู่ ชั่วครู่(ชั่ว)คราว........................ดูราว กับเป็นความฝัน

มิควร ยึดมั่นถือมั่น......................................สรรพสิ่งนั้น ล้วน(ต้อง)บรรลัย

๏    มี-เป็นเช่นใด ให้ยินดี..................................อะไรไม่ดี รี่แก้ไข

พัฒนา ความคิดจิตใจ..................................กรรมวจี-กาย ให้โศภิน

๏    เพียรศึกษา หาความรู้..................................เดินตามลู่ กุศลถวิล

เพียรลดละ สรรพราคิน.................................ให้หมดสิ้น จากวิญญาณ

๏    ตนเป็น ที่พึ่งแห่งตน....................................อย่ามัวค้นหา ปาฏิหาริย์

คุณงามความดี บริบาล..................................จะเป็นปราการ ป้องกันตน

๏    เชื่อบาป-บุญ และคุณ-โทษ...........................เกิดประโยชน์ วิโรจน์ล้น

(เชื่อ)กฎแห่งกรรม นำให้คน...........................กลัวบาปผล อกุศลเอยฯ

๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒

Suthichai live : Google VS Huawei คุยกับ วรวิสุทธิ์ ภิญโญยาง 22/05/2562

หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ : กลอนคติเตือนใจ

หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ : กลอนคติเตือนใจ

๏    โลกใบนี้ มีธรรมชาติ ผุดผาดนัก.............................ชวนหลงรัก ฝักฤดี สิเน่หา

เป็นสมบัติ อัศจรรย์ อันโสภา...................................ล้ำเลอค่า น่าถนอม ห้อมล้อมกาย

๏    แต่ทว่า มวลมนุษย์ คือจุดด่าง................................เกิดมาสร้าง (แทบ)ทุกอย่างทำ ความฉิบหาย

ดิ้นรนหา กระเสือกกระสน ทุรนทุราย.........................เร่งวันตาย ให้ชาติชน ท้นทรมาน

๏    สิ่งแวดล้อม ทุกอย่าง พังพินาศ..............................(เมื่อ)มนุษยชาติ ปรารถนา พากันผลาญ

ความดื้อดึง ขึงปุถุชน กระมลมาน.............................ช่างอวิชา ช้านาน นิรันดร

๏    ความสุขหา ใส่ตน (คือจุด)ตั้งต้นคิด........................ตลอดชีวิต มิจฉา อุทาหรณ์

ที่หวังว่า (คน)จะคิดได้ ใคร่อาวรณ์...........................ต้องหลับนอน ฝันถึง จึงสมใจ

๏    ธรรมชาติ พินาศลง คงคืบหน้า...............................เพราะคนบ้า(คลั่ง) หาความสุข สนุกวิสัย

ถูกตักเตือน (ยังทำ)เหมือนคนเมา มิเข้าใจ.................อุบัติภัย คงไม่พ้น ผลพิบุล

๏    "หากรู้ว่า จะเป็น เฉกเช่นนี้"...............................คือนรา พจี ที่เคยคุ้น

หลังเหตุการณ์ พานประสบ พบทารุณ.......................คิดหมกมุ่น วุ่นวาย ใคร่ย้อนคืน(กลับไปแก้ไข)

๏    แต่แม่น้ำ ลำธาร ที่ผ่านไหล...................................เวลาวัน อันใด ไม่อาจฝืน

มิอาจหวน ทวนกลับ (ให้)ปรับเป็นอื่น........................คือสัจธรรม กล้ำกลืน ยั้งยืนยง

๏    จะก่อกรรม์ อันใด ในชีวิต......................................จงครุ่นคิด พิจารณา อย่าใหลหลง

ความสุขุม รอบคอบ นอบจำนง.................................ก่อนตกลง ปลงใจ ทำไปเอยฯ

๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒

ฝากลูกไว้กับใคร? : กลอนคติเตือนใจ

ฝากลูกไว้กับใคร? : กลอนคติเตือนใจ

๏    ฝากลูก ไว้กับใคร?..........................................ณ ยุคสมัย ภัยพิศาล

วัด-โรงเรียน ที่เปลี่ยนผ่าน..................................แม้อยู่บ้าน ยังลาญรอน

๏    ยุคที่ เมินศีลธรรม...........................................ความใฝ่ต่ำ ลามสลอน

มิใช่(ผู้ใหญ่) ไม่สั่งสอน.....................................แต่(มากมายที่)สั่งสอน สิ่งเลวทราม

๏    เมื่อคน มุ่ง(แค่)ผลประโยชน์.............................ความฉลโฉด ถูกมองข้าม(ยอมรับกัน)

อุตสาหะ พยายาม............................................แสวงหาความ สุขส่วนตน(ด้วยวิธีชั่วๆก็ได้)

๏    ถูก-ผิด ไม่คิดครุ่น...........................................หมกมุ่นกาม ทรามอกุศล

ยอมรับ กับความเป็นคน.....................................ชีวีพิกล มนพิการ

๏    แทนที่ สิหลีกเร้น............................................กลับใฝ่เฟ้น เดนชั่วหาญ

แทนที่ สิประจาน..............................................กลับสามานย์ หนุนพาลปอง

๏    อ้างความ เป็นธรรมชาติ(ของคน).......................ว่าไม่อาจ ตัดขาดข้อง

(อ้าง)มนุษยธรรม(ผิดๆ) หลักลำพอง....................พา(กัน)ยกย่อง ผ่องอำไพ

๏    (เชื่อว่า)อำนาจ สัญชาตญาณ............................มิใช่การ ต้องแก้ไข

ทำตาม อำเภอใจ..............................................บ่ต้องอาย ใครก็ทำ

๏    ยินดี ในค่านิยม...............................................ของสังคม โสมมต่ำ

ศรัทธา วาทะกรรม.............................................ที่ดำมืด ยึดครองจินต์ฯ

๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒

[การเมือง 62] นักกฎหมายไขปม "ธนาธร" ปล่อยกู้อนาคตใหม่ 110 ล้าน | NationTV22

อุปการะและกตัญญู : กลอนคติเตือนใจ

อุปการะและกตัญญู : กลอนคติเตือนใจ

๏    หญิงชรา บ่นว่าบุตร..........................................ยากแสนสุด ขอเงิน(ลูก)ใช้

จ่ายเงิน(ตัว)เอง จึงสมใจ....................................บ่งบอกอะไร ในอุรา?

๏    มีลูกมา เพื่อหาประโยชน์...................................ตั้งเป็นโจทย์ โคตรปรารถนา

(มีลูกเพื่อ)ใช้แรงงาน ผลักดันชีวา.........................ให้ก้าวหน้า สถาพรฯลฯ

๏    ความกตัญญู (ใน)อุปการะ.................................กตเวทิตา อุตสาห์สอน

อ้างบุญคุณ หรือ(ลง)ทุนรอน?..............................ที่ต้องถอน (ผล)ย้อนคืนพลัน

๏    ส่วนบางคน สนใจแค่........................................ขอ(รับการ)เผื่อแผ่ แดใฝ่ฝัน

เอาแต่ได้ ไม่แบ่งปัน(กลับคืน)..............................ความสัมพันธ์ ลาญเยื่อใย

๏    (กรณีแรก)เหมือนหว่านพืช เพื่อหวังผล................ความคิดคน ล้นสาไถย

(กรณีหลัง)เหมือนเสาะหา อยากจะกำไร.................ของคนใคร่ เห็นแก่ตัว

๏    การให้ทาน อย่าหาญผล....................................จึงเป็นกุศล พ้นความชั่ว

(การ)รับของใคร ไม่เมามัว...................................ไร้หัวจิต คิดตอบแทน

๏    อันคนดี มีศีลธรรม............................................เมตตานำ มิหวงแหน

เมื่อให้ทาน มิมั่นแม่น...........................................ต้องตอบแทน ทวงบุญคุณ

๏    กตัญญู (ต่อผู้)อุปการะ......................................กตเวทิตา ปราชญาหนุน

อกซึมซับ ซึ่งบาปบุญ..........................................คือคุณสมบัติ ของคนดีฯ

๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒

*[๒๔๖๖]

   ผู้ใดในโลกนี้ เป็นผู้สำรวมด้วยกาย วาจาและใจ ไม่ทำบาปกรรมอะไรๆ ไม่พูดพล่อยๆ เพราะเหตุแห่งตน บัณฑิตเรียกคนเช่นนั้นว่ามีศีล.

   ผู้ใดคิดปัญหาอันลึกซึ้งได้ด้วยใจ ไม่ทำกรรมอันหยาบช้าอันหาประโยชน์มิได้ ไม่ละทิ้งทางแห่งประโยชน์อันมาถึงตามกาล บัณฑิตเรียกคนเช่นนั้นว่ามีปัญญา.

   ผู้ใดแล เป็นคนกตัญญูกตเวที มีปัญญา มีกัลยาณมิตร และมีความภักดีมั่นคง ช่วยทำกิจของมิตรผู้ตกยากโดยเต็มใจ บัณฑิตเรียกคนเช่นนั้นว่าสัตบุรุษ.

   ผู้ใดประกอบด้วยคุณธรรมทั้งปวงเหล่านี้ คือเป็นผู้มีศรัทธา อ่อนโยน แจกทานด้วยดี รู้ความประสงค์ ศิริย่อมไม่ละคนเช่นนั้น ผู้สงเคราะห์ มีวาจาอ่อนหวาน สละสลวย.

จาก <http://84000.org/tipitaka/read/?27/2466-2469>

*บุคคลหาได้ยาก 2

       1. บุพการี (ผู้ทำความดีหรือทำประโยชน์ให้แต่ต้นโดยไม่ต้องคอยคิดถึงผลตอบแทน

       2. กตัญญูกตเวที (ผู้รู้อุปการะที่เขาทำแล้วและตอบแทน, ผู้รู้จักคุณค่าแห่งการกระทำดีของผู้อื่น และแสดงออกเพื่อบูชาความดีนั้น 

จาก <http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=29>

ธรรมชาติชีวี เป็นสิ่ง(สำคัญ)ที่ต้องศึกษา : กลอนคติเตือนใจ

ธรรมชาติชีวี เป็นสิ่ง(สำคัญ)ที่ต้องศึกษา : กลอนคติเตือนใจ

๏    ธรรมชาติ ของชีวี....................................เป็นสิ่งที่ ต้องศึกษา

พินิจ พิจารณา.........................................ให้ประจักษ์ แจ้งเข้าใจ

๏    (ทำ)ตามใจ ปรารถนา..............................ครองชีวา หาควรไม่

บ่รู้ บ่เข้าใจ(ชีวิต).....................................ย่อมทำให้ หลงใหลมี

๏    พ่อแม่ ผู้แก่เฒ่า.....................................ต้องสอนเยาว์(ชน) เข้าใจวิถี

รู้ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี.......................................รู้วิธี ดำเนินชีวา

๏    ปล่อยให้ เด็กไม่รู้(ธรรมชาติชีวิต)..............ต้องลอง(ผิดลองถูก)ดู (เป็นหนทาง)สู่ปัญหา

เสียคน เสียเวลา.......................................เสียน้ำตา อนาคตฯลฯ

๏    ธรรมชาติ ของชีวี...................................ความรู้มี มิรู้หมด

(จง)ศึกษา อย่าละลด.................................สรุปบทเรียน เพียรประพฤติ

๏    โลกมี ดีและชั่ว......................................(จง)รู้ให้ทั่ว หัวใจอึด

ศีลธรรม จำนงยึด......................................เป็นปึกแผ่น มุ่งแก่นสาร

๏    (การ)ไม่ออก นอกลู่(นอก)ทาง..................ถึงจะสร้าง ความรำคาญ(ที่ไม่ได้ทำตามใจ)

(ผล)สุดท้าย ให้สำราญ..............................เป็นสุขศานติ์ สนองตน

๏    ล้มแล้ว ลุกขึ้นใหม่.................................(อาจ)ทำไม่ได้ ในทุกหน(เสมอไป)

 ไม่น้อย พลอยเสียคน................................ไปตราบจน วันตายเอยฯ

๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒