ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

อุปการะและกตัญญู : กลอนคติเตือนใจ


อุปการะและกตัญญู : กลอนคติเตือนใจ

    หญิงชรา บ่นว่าบุตร..........................................ยากแสนสุด ขอเงิน(ลูก)ใช้
จ่ายเงิน(ตัว)เอง จึงสมใจ....................................บ่งบอกอะไร ในอุรา?

    มีลูกมา เพื่อหาประโยชน์...................................ตั้งเป็นโจทย์ โคตรปรารถนา
(มีลูกเพื่อ)ใช้แรงงาน ผลักดันชีวา.........................ให้ก้าวหน้า สถาพรฯลฯ

    ความกตัญญู (ใน)อุปการะ.................................กตเวทิตา อุตสาห์สอน
อ้างบุญคุณ หรือ(ลง)ทุนรอน?..............................ที่ต้องถอน (ผล)ย้อนคืนพลัน

    ส่วนบางคน สนใจแค่........................................ขอ(รับการ)เผื่อแผ่ แดใฝ่ฝัน
เอาแต่ได้ ไม่แบ่งปัน(กลับคืน)..............................ความสัมพันธ์ ลาญเยื่อใย

    (กรณีแรก)เหมือนหว่านพืช เพื่อหวังผล................ความคิดคน ล้นสาไถย
(กรณีหลัง)เหมือนเสาะหา อยากจะกำไร.................ของคนใคร่ เห็นแก่ตัว

    การให้ทาน อย่าหาญผล....................................จึงเป็นกุศล พ้นความชั่ว
(การ)รับของใคร ไม่เมามัว...................................ไร้หัวจิต คิดตอบแทน

    อันคนดี มีศีลธรรม............................................เมตตานำ มิหวงแหน
เมื่อให้ทาน มิมั่นแม่น...........................................ต้องตอบแทน ทวงบุญคุณ

    กตัญญู (ต่อผู้)อุปการะ......................................กตเวทิตา ปราชญาหนุน
อกซึมซับ ซึ่งบาปบุญ..........................................คือคุณสมบัติ ของคนดีฯ

๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒

*[๒๔๖๖]
   ผู้ใดในโลกนี้ เป็นผู้สำรวมด้วยกาย วาจาและใจ ไม่ทำบาปกรรมอะไรๆ ไม่พูดพล่อยๆ เพราะเหตุแห่งตน บัณฑิตเรียกคนเช่นนั้นว่ามีศีล.
   ผู้ใดคิดปัญหาอันลึกซึ้งได้ด้วยใจ ไม่ทำกรรมอันหยาบช้าอันหาประโยชน์มิได้ ไม่ละทิ้งทางแห่งประโยชน์อันมาถึงตามกาล บัณฑิตเรียกคนเช่นนั้นว่ามีปัญญา.
   ผู้ใดแล เป็นคนกตัญญูกตเวที มีปัญญา มีกัลยาณมิตร และมีความภักดีมั่นคง ช่วยทำกิจของมิตรผู้ตกยากโดยเต็มใจ บัณฑิตเรียกคนเช่นนั้นว่าสัตบุรุษ.
   ผู้ใดประกอบด้วยคุณธรรมทั้งปวงเหล่านี้ คือเป็นผู้มีศรัทธา อ่อนโยน แจกทานด้วยดี รู้ความประสงค์ ศิริย่อมไม่ละคนเช่นนั้น ผู้สงเคราะห์ มีวาจาอ่อนหวาน สละสลวย.
จาก <http://84000.org/tipitaka/read/?27/2466-2469>



*บุคคลหาได้ยาก 2
       1. บุพการี (ผู้ทำความดีหรือทำประโยชน์ให้แต่ต้นโดยไม่ต้องคอยคิดถึงผลตอบแทน
       2. กตัญญูกตเวที (ผู้รู้อุปการะที่เขาทำแล้วและตอบแทน, ผู้รู้จักคุณค่าแห่งการกระทำดีของผู้อื่น และแสดงออกเพื่อบูชาความดีนั้น 
จาก <http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=29>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น