ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ต่างกรรมต่างวาระ : กาพย์ยานี๑๑



ต่างกรรมต่างวาระ : กาพย์ยานี๑๑

    บุษบา ชราวัย..................................แม้ยังได้ ดอกใสสี

(แต่)ต้น-ใบ ดูไม่ดี...........................มีอาการ สังขารโทรม


    ดอกให้ พอได้เห็น...........................มิจำเป็น ต้องหักโหม

คงภาระ เพื่อชโลม...........................โหมพลัง ย่างชีวิน


    เลยล่วง ห้วงเวลา............................ทุ่มเทหา สะสม(ทรัพย์)สิน

(เพราะอีก)ไม่ช้า กายาภินท์...............(ถูก)ดินกลบร่าง ว่างตัวตน

 

    (ควร)ละกาม (มะ)ฉันทะ....................อุตสาหะ แสวงหน

เลิกรา เรื่องสัปดน.............................กุศลทาง สว่างทำ


    ลุล่วง ช่วงสุดท้าย............................เพื่อคลี่คลาย อบายถลำ

ยั้งผุด หยุดบาปกรรม.........................(เพื่อ)นำไปเกิด ประเสริฐภพ


    เงินตรา ต้องหาไว้............................(ตั้งแต่)ฉกรรจ์วัย ใคร่คิดขบ(ฉกรรจ์=แข็งแรง, สมบูรณ์)

เก็บออม ถนอมงบ-............................ประมาณไว้(เผื่อ) ใช้วัยชรา

 

    อย่าใช้(จ่าย) ไร้สาระ(ฟุ่มเฟือย)..........บุญทาน พ ยายามหา

(หาก)เริ่มสร้าง(บุญ) อย่างเชื่องช้า.......(ย่อม)ได้ผลช้า สนองคืน


    ทรัพย์(ที่)เหลือ เมื่อตายจาก...............มิต่างซาก(ไร้ค่า) (ตกเป็น)ของคนอื่น

(ควร)ทยอยทำ บุญนำชื่น....................รื่นชีวิต ประสิทธิ์เทอญฯ


๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๕

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2565

วันพระละไง? : กลอนจรรโลงใจ


วันพระละไง? : กลอนจรรโลงใจ

    วันพระ ละไง?..................................ฝนตก ยกใหญ่ ในรุ่งสาง

ตลาดเช้า เบาบาง...........................ลูกค้า ละห่าง สายตา


    อาหาร เหลือหลาย...........................กระวน กระวาย ใจแม่ค้า

เบื่อฝน ล้นละอา..............................(คน)ไม่มา หาซื้อ(อาหาร) ทำบุญ


    ไม่เพียง วันพระ................................พุทธ(ะ) ศาสนิกชน วนหนุน

(มอบความ)เมตตา การุญ.................เจือจุน สรรพสัตว์ ทัศไนย

 

    ไม่เพียง แค่พระ................................ที่จะ เป็นเนื้อ นาบุญให้

บุญสร้าง ทางไสว............................มีให้ ได้เลือก หลายทาง


    ทุกแหล่ง แห่งหน..............................สถล สถาน บันดาลสร้าง

บุญได้ ไม่เจือจาง............................ทุกอย่าง หวังสม(สมหวัง) ชมหทัย


    ขอแค่ แลเห็น...................................หลักการ อันเป็น วิสัย

(คือ)อย่าเบียด เบียนใคร...................ช่วย(คนอื่น)ให้ ได้รับ ผลดี

 

    (ขัด)เกลาใจ ให้บริสุทธิ์......................พ้นหลุด ทุจริต ผิดวิถี

กระทำ แต่กรรมดี.............................อย่าริ บาปกรรม บำเพ็ญ


    ทำดี (ย่อม)ได้ดี.................................วิถี ชี้นำ ความเห็น

จำไว้ ใช้เป็น....................................เช่นเข็มทิศ ชีวิตก้าว ยาวไกลฯ


๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๕

วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2565

สร้างชาติให้คนชั่ว : กาพย์ยานี๑๑





สร้างชาติให้คนชั่ว : กาพย์ยานี๑๑

    สร้างชาติ ให้คนชั่ว..................................เห็นแก่ตัว หัวใจฉล

สิ้นสุด (ความเป็น)มนุษยชน....................หลากอกุศล ล้นสามานย์


    ไร้(สำนึก)ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี..........................ความอัปรีย์ เป็นแก่นสาร

เก่งกล้า โกง-อันธพาล............................โง่ดักดาน มีอันตราย(ต่อผู้อื่น)


    เริ่มจาก เลือกนักการเมือง........................ที่ฟุ้งเฟื่อง (ความ)โลภระหาย

หยาบช้า บ้าน้ำลาย.................................(ให้มา)ออกกฎหมาย ไร้ศีลธรรม

 

    (เช่น)เสพกัญ ชาเสรี................................อบายมุขมี หลากหลายล้ำ

มอมเมา ให้(ประชาชน)เขลาทำ................ช่ำชอง(ความ)ชั่ว มั่วราคี


    วางเงื่อนไข ให้สมณะ..............................ทิ้งตบะ หาโลกวิถี

ลาภ(เงิน)ยศ ศักดิ์(ตำแหน่งฯลฯ)ภักดี.......กิเลสตัณหา มิละวาง


    สอนคน(อื่น) ให้เสียสละ...........................ส่วนตัวพระ ทำอีกอย่าง

บวชมา หาลู่ทาง.....................................สร้างฐานะ ก่อนลาไกล(เรียนจบ-รวยแล้วสึก)

 

    หลักสูตร การศึกษา.................................มุ่งปริญญา มรรคาใหญ่(เป้าหมาย)

(แต่)หดหู่ บ่รู้อะไร(ไม่มีความรู้).................โดยเฉพาะไม่ เอาการ(เอา)งาน


    กระบวนการ ยุติธรรม................................มืดมนดำ ประดุจถ่าน

ห้ามมี (คำ)วิพากษ์วิจารณ์........................อำนาจศาล เหนือพรรณนาฯ


๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๕

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565

สงครามโลกครั้งที่ ๓ : กลอนคติเตือนใจ




สงครามโลกครั้งที่ ๓ : กลอนคติเตือนใจ

    สงครามโลก ครั้งที่ ๓................................มิใช่ความ คิดเพ้อฝัน

ดูข่าวขลุก ทุกๆวัน...................................ย่อมเท่าทัน สันดานคน


    (สงครามโลก)ครั้งที่ ๔ ครั้งที่ ๕..................สิตามมา เหมือนห่าฝน

ตราบเท่าที่ ฤดีชน...................................ยังโฉดฉล ล้นเลวทราม


    (ต่อจากนี้)การสะสม (อาวุธ)ปรมาณู.............จะพรั่งพรู มิต้องถาม(อย่าสงสัย)

ให้มากขึ้น มากขึ้น,ลาม............................ทั่วโลกตาม ความกังวล(จะถูกรุกราน)

 

    เมื่อใดที่ มีผู้เริ่ม(ใช้อาวุธปรมาณู).................ก็จะเพิ่ม ผู้เสริมผล

(ใช้)ปรมาณู กรูกันดล...............................ดาลโลกล้น พิบัติภัย


    ทั้งดิน-น้ำ ตามอากาศ.................................จะดารดาษ กัมมันตภาพ(รังสี)ไซร้

(คงอยู่)ร้อย-พันปี มิคลาไคล.....................คอยทำให้ ล้มตายกัน


    มิเพียงศัตรู ไม่อยู่รอด.................................(สารพิษ)สิถ่ายทอด (สู่)ตนอาสัญ(ด้วย)

เผ่าพงศา ล้มจาบัล.................................ต่างสูญพันธุ์ สิ้น-อันตราย

 

    แลถึงคราว เราสิ้นสุด..................................เผ่าพันธุ์มนุษย์ ที่สุดท้าย

เกิดมาเพื่อ ผลาญทำลาย.........................สร้าง(ความ)ฉิบหาย ให้โลกา


    คงเหลือรอด แค่แมลงสาบ..........................ทนทานตราบ สิ้นดินฟ้า

เพราะไม่มี สติปัญญา...............................ประดิษฐ์อาวุธมา เข่นฆ่ากันฯ


๓ สิงหาคม ๒๕๖๕

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ปฏิบัติธรรมอย่างไรให้ถูกต้อง : กลอนคติเตือนใจ


ปฏิบัติธรรมอย่างไรให้ถูกต้อง : กลอนคติเตือนใจ


    พระนำผอง(ผู้ปฏิบัติธรรม) ร้องเพลง เสียงเซ็งแซ่...........อ้างกำลัง เผยแพร่ พุทธศาสนา

เพื่อเสริมสร้าง บุญกุศล พ่นวาจา...................................ทั้งที่ศีล(ของพระ) ลืมรักษา หาละอาย


    สร้างขั้นตอน พิธีกรรม(ปฏิบัติ) ตามกิเลส.......................ไร้ซึ่งเศษ เสี้ยว(การฏิบัติ)ธรรม ตามความหมาย

เน้นสวดมนต์ บ่นท่อง ต้องกระจาย-...............................เสียงขยาย ให้ชุมชน ทนรับฟัง(ถูกพระเบียดเบียน)


    ปฏิบัติธรรม อย่างชำนาญ การแสดง..............................เหมือนเสแสร้ง แกล้งทำ ตามสอนสั่ง

ส่วนจิตใจ ไม่เรียนรู้ มุสาดัง..........................................แม้แต่พระ ผู้สอนยัง ด่างพร้อยพี

 

    ปฏิบัติตาม อัตตา โมหจริต(ไม่มีในธรรมวินัย).................เพ้อฝันจัก พรั่ง(ความ)ศักดิ์สิทธิ์ อุกฤษฏ์ศรี

ชำระล้าง อดีตกรรม ความไม่ดี.....................................สร้างบารมี วิเศษ ฤทธิ์เดชกอง


    ความจริงแล (ทำแบบนั้น)ล้วนแต่สร้าง ความโง่เขลา.......หลงมัวเมา อกุศล หนทางสนอง

ตกเป็นเหยื่อ ของเครือข่าย ไสยศาสตร์ปอง...................ที่จับจ้อง มองหาผล ประโยชน์งาม


    ปฏิบัติธรรม ตามหลัก พุทธศาสนา................................ต้องศึกษา พระไตรปิฎก เปิดอกถาม

ถึงความจริง สิ่งถูกต้อง ข้องใจความ.............................มิใช่(ทำ)ตาม คนเขลาไป ไร้ปัญญา(ไม่สงสัย)

 

    เป้าหมายของ ปรัชญา การปฏิบัติ(ธรรม)........................มุ่งกำจัด กิเลส เฉดตัณหา

มิใช่เพื่อ ลาภ-ยศ-(สรรเสริญ)-และสักการ์......................คล้อยความคิด อวิชชา กามคุณ


    ปฏิบัติ(ธรรม)ให้ เป็นกิจวัตร ประจำวัน............................ประจำปี-เดือนปัน ชีวันหนุน

เป็นวิถี ชีวิต จิตเจือจุน.................................................เลิกวายวุ่น ค่านิยม โสมมทรามฯ


๑ สิงหาคม ๒๕๖๕