ทำดีไม่มีวันหยุด : กลอนจรรโลงใจ

ทำดีไม่มีวันหยุด : กลอนจรรโลงใจ

๏    ชีวี ไม่มี วันหยุด...........................................ตั้งแต่ เกิดผุด อุตสาห์

อยากกิน ทุกวัน พรรณนา..............................ปรารถนา อากาศ หายใจฯลฯ

๏    คะนึง ถึงกาล(ชีวิต) พานหยุด.........................คือจุด ปุจฉา จะไปไหน?

เวรกรรม นำพา เผชิญภัย...............................(อยาก)แก้ไข ก็ไม่ ทันการณ์

๏       เมื่อชี วียัง คงอยู่..........................................จงรู้ คู่จิต คิดอ่าน

เว้นบาป หยาบช้า สามานย์............................อาจหาญ ดีใคร่ ไตร่ตรอง

๏    ทำดี ไม่มี วันหยุด.........................................ประดุจ แสงอา ทิตย์ส่อง

อุรา ประเทือง เรืองรอง.................................ขจัด (ความ)ขัดข้อง ถ่องจินต์

๏    มีสติ สัมป(ะ) ชัญญะ.....................................เชิดชู เช่นธุระ ประเสริฐสิน

เสมอ ครรลอง ของชีวิน................................ต้องกิน ต้องการ หายใจฯลฯ

๏    แม้มี อุปสรรค ขวากหนาม...............................(จง)พยายาม วิริยะ อย่าอ่อนไหว

ละ(เว้น)ทราม-ทำดี มิใช่...............................(พฤติกรรมที่)เปลี่ยนได้ ตามสถา นการณ์(เยี่ยงคนหลักลอย)

๏    ลอง(ทำ)ดู แล้วจะ รู้ว่า...................................การกระทำ สัมมา(ปฏิบัติ) ต้องกล้าหาญ

มีสติ ปัญญา ปฏิภาณ ..................................สำราญ หมั่นทำ กรรมดี

๏    ทำงาน ต้องการ วันหยุด.................................(อ้าง)สิทธิ มนุษย์ ผุดชี้

(แต่)อย่าอยาก หยุดทำ ความดี......................(เพราะ)ไม่มี ประโยชน์ มากโทษเอยฯ

๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๒

จงเลือกคบคน : กลอนคติสอนใจ

จงเลือกคบคน : กลอนคติสอนใจ

๏    การคบคน ไม่เลือก ย่อมเกลือกกลิ้ง.................................เข้ากับสิ่ง โสโครก เศร้าโศกหลาย

ใช่แค่สัตว์ เป็นศัตรู(ของคน) อย่าดูดาย......................คนมากมาย ร้ายกว่าสัตว์ ควรทัศนา

๏    ริอ่านคบ คนใด (ผู้)ไร้หัวคิด...........................................(เท่ากับ)ทั้งชีวิต วิกฤตสร้าง ย่างทุกขา

คนไม่มี หัวคิด ก่อกิจจา..........................................เอาปัญหา มาให้ ไม่ขาดเลย

๏       ทวยมนุษย์ ทุจริต ปราศ(ความเป็น)มิตรแท้........................คนเห็นแต่ แก่ตน ฉลฉ้อ(หน้าตา)เฉย

คอยเอารัด เอาเปรียบ เหยียบย่ำเคย(ตัว)....................ใครชิดเชย ชื่่นชอบ (จะมี)ชีพบอบบาง

๏    คบคนที่ ฤดีเฉ ชอบเสแสร้ง............................................ความซื่อสัตย์ เหี่ยวแห้ง (ย่อม)มิแตกต่าง

นำชีวา เข้าเผชิญ เดินผิดทาง...................................(ฐานะ)สั่นสะเทือน เลือนราง โศกสร้างมี

๏    หากเชื่อใจ ในชน (เพียงแค่)แรกยลพบ.............................เสี่ยงประสบ โชคชะตา น่าบัดสี

อย่าเผลอลอง มองโลก เพียงแง่ดี.............................สิถูกกระทำ ย่ำยี ทุกข์ชีวา

๏    ใครก่อกรรม (โดย)มิคำนึง ถึงผลลัพธ์...............................ย่อมพบกับ สรรพโศก ทุกข์-โรคฯลฯหนา

ผู้ประมาท ขาดปฏิญาณ และปัญญา...........................มิควรค่า สมาคม เพราะ(จะมีเรื่องตรอม)ตรมเต็ม(ไปหมด)

๏    (คน)มิใส่ใจ ในชั่ว-ดี ย่อม(ความ)ดีปราศ...........................มักอุกอาจ ก่ออาชญา อย่างเกษม

(คน)ไม่เอาการ เอางาน พาลอิ่มเอม...........................อย่าปองเปรม คบเป็นมิตร คิดให้ดี

๏    การรู้จัก เลือกคบคน=ผลประโยชน์..................................ช่วยชีวา ปราโมทย์ โชติศักดิ์ศรี

หลักสัมมา(ปฏิบัติ) เสมือนบุญ หนุนชีวี.......................ให้สุขี สิริสวัสดิ พัฒนาฯ

๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๒

*

ถ้าบุคคลพึงได้สหายมีปัญญา เที่ยวไปด้วยกัน เป็นนักปราชญ์ คอยช่วยเหลือกัน เขาครอบงำอันตรายทั้งปวงเสียได้ จงพอใจ-มีสติเที่ยวไปกับสหายนั้น

ถ้าไม่ได้สหายมีปัญญา เที่ยวไปด้วยกัน เป็นนักปราชญ์คอยช่วยเหลือกัน จงเที่ยวไปคนเดียว ดุจพระราชาทรงสละแว่นแคว้น คือราชอาณาจักร และดุจช้างมาตังคะ ละฝูงเที่ยวไปในป่า ฉะนั้น

การเที่ยวไปคนเดียวดีกว่า เพราะคุณเครื่องเป็นสหายไม่มีในคนพาล จงเที่ยวไปคนเดียว และไม่พึงทำบาป ดุจช้างมาตังคะ มีความขวนขวายน้อย เที่ยวไปในป่าแต่ลำพัง ฉะนั้น.

จาก <http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=5&A=6360&Z=6392&pagebreak=0>

อย่าทำให้ไม่อยากไหว้พระ-ครู : กลอนคติเตือนใจ

อย่าทำให้ไม่อยากไหว้พระ-ครู : กลอนคติเตือนใจ

๏    วัฒนธรรม โบราณ นานมา..............................................ชาวไทย บูชา พระ-อาจารย์(ครู)

เพราะเป็นผู้ มีคุณู ปการ..........................................สอนเขียนอ่าน ลานหลาม คุณความรู้ฯลฯ

๏    ถึงขนาด กำหนด กฎวิถี.................................................ประเพณี ที่ยกย่อง ต้อง" ไหว้ครู "

เคารพ กราบกราน ปานเป็นผู้....................................ล่วงสู่ วิเศษ เวทสถาน

๏       บัดนี้ ที่กาล โลกผันแปร.............................................(ไทยยังคง)สืบ(สาน)ความ งามแล แต่โบราณ

 ส่วนที่ วิปลาส มาตรฐาน.........................................คือพระ อาจารย์(ครู) พาลเปลี่ยนไป

๏    (ตามที่มีข่าวบ่อยๆ)ประพฤติ เลวทราม ต่ำชั่วช้า..................ทำลายความ ศรัทธา แทบหาไม่

บ่มเพาะ ความบ่ น่าไว้ใจ.........................................เป็นภัย ไม่ใช่ ผู้ให้คุณ

๏    มิเพียง ไร้ปัญญา (และ)ความประเสริฐ..............................ยังประเจิด ประเจ้อ เซ่อ-ทราม-สถุล

อ้าปาก ก็อ้าง มีบุญ-คุณ..........................................(เที่ยว)หมกมุ่น ครุ่นคิด ผิดหนทาง

๏    พอใคร ไม่ไหว้ ไม่เคารพ................................................ก็ขบ เคี้ยวฟัน ปานผีสาง

ใส่ร้าย ป้ายสี มิแตกต่าง...........................................โดยอ้าง ว่าเป็น การ(อบรม)สั่งสอน

๏    หากปราศ คุณธรรม และความดี........................................ประเพณี โบราณ ย่อมสั่นคลอน

กรรมบาป หยาบช้า สิสะท้อน.....................................คืนย้อน ร้อนเดือด มิเหือดหาย

๏    คุณธรรม ความเป็น เช่น พระ-ครู.......................................จงรู้ รักษา อย่าดูดาย

(การ)สื่อสาร วันนี้ มีแพร่หลาย...................................ดี-ร้าย ขยายแชร์ แฉต่อเอยฯ

๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๒

หวังบุญแบบโง่ๆ : กลอนคติเตือนใจ

หวังบุญแบบโง่ๆ : กลอนคติเตือนใจ

๏    คนไม่น้อย คอยคิดว่า.................................................มอบเงินตรา ให้พระ-วัด

เป็นหลัก"ทาน" ปฏิบัติ.............................................กำจัดกิเลส และตัณหา

๏    ใส่ชุดขาว พราวสะอาด...............................................เพื่อประกาศ เชิดอัตตา

(เป็นผู้)มีศีล(ละ) ธรรม์จรรยา.....................................ชวนศรัทธา น่าเชื่อถือ

๏       นั่งหลับตา และสวดมนต์...........................................ท่องธรรมบ่น จนคล่องปรื๋อ

 วิสุทธิ วิเศษชื่อ......................................................คือ"ทำสมาธิ-วิปัสสนา"

๏    (เชื่อว่า)จะได้บุญ หนุนศักดิ์สิทธิ์....................................ทรงอิทธิฤทธิ์ แก้ปัญหา

ทุกสิ่งศรี ในชีวา......................................................สมปรารถนา โดยง่ายดาย

๏    ทั้ง(เป็นคน)ลวงหลอก และโดนหลอก............................ความกลับกลอก ย้อนยอกหลาย

เวียนวนอยู่ มิรู้วาย....................................................เพาะ(ความ)งมงาย ในโลกมี

๏    หาก"ทาน-ศีล-ภาวนา".............................................ด้วยตัณหา-เกลสวิถี

นอกจากไร้ ไม่ได้ดี...................................................(เผลอๆ)ยิ่งทวี วิกฤตการณ์

๏    (เมื่อ)มีปัญหา อย่านั่งทับ.............................................จงคิดขยับ กำกับขาน

(ใช้)สติปัญญา วิชาการ.............................................มิใช่(ทุ่มเทให้)ทาน-ศีล-ภาวนา

๏    กว่าผลบุญ(ใหม่) สิหนุนนำ...........................................อาจล่วงล้ำ ถึงชาติหน้า

(ขณะนี้)เวรกรรมเก่า โถมเข้ามา..................................(ตั้งใจ)แก้ปัญหา เสียก่อนเทอญฯ

๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๒

CanonRockJerry C (1 hour)

คำอธิบาย

นานแล้วที่ดูคลิป-ฟังเพลง CanonRock ของ Jerry C ใน Youtube
เห็นมีแต่เล่น 1 ครั้งจบ

ต่อมาเกิดความคิด
อยากแปลงคลิป ใน Youtube เป็น MP3 เพื่อใช้เป็นเสียงริงโทนเรียกเข้า ในสมาร์ทโฟนส่วนตัว จึงใช้แอพที่มีมากมายใน Google ทำ เสร็จแล้วใช้แอพอื่นเชื่อมไฟล์ MP3 เพลงนี้จำนวน 12 ไฟล์ ก่อนจะได้ไฟล์ MP3 ยาว 1 ชั่วโมง
แล้วก็นึกได้ว่า
อาจมีใครที่มีความต้องการฟังเพลง CanonRock ของ Jerry C ยาวๆแบบเรา แต่หาคลิปยาว 1 ชั่วโมงไม่ได้เหมือนเรา จึงตัดสินใจใช้แอพที่หาใน Google แปลง MP3 เป็น MP4 ภาพประกอบก็พึ่งพา Google เช่นเคย
ขอขอบคุณทุกคน
ที่มีส่วนทำให้คลิปวิดีโอนี้เป็นรูปเป็นร่างได้ในที่สุด ใช้เวลาทำเองไม่ถึง 1 ชั่วโมง(ทำครั้งแรก) ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมและแชร์ด้วย

สถานที่ปฏิบัติธรรม : กาพย์ยานี๑๑

สถานที่ปฏิบัติธรรม : กาพย์ยานี๑๑

๏    ทุกที่ ทุกเวลา........................................หากตั้งหน้า ตั้งตาจำ

(ว่า)กำลัง ปฏิบัติธรรม..........................กำจัดกิเลส และตัณหา

๏    ไม่ว่า จะที่บ้าน.......................................ที่ทำงานฯลฯ หมั่นภาวนา*

อบรม กาย-วาจา-................................ใจให้สะอาด อยู่เสมอ

๏       ถึงแม้น (อยู่)แดนเถื่อนป่า.........................(ก็)เสมอวัดวา สัจจาเจอ

โลภ-ร้าย- หลงอย่าเผลอ.......................สม่ำเสมอ ในสิกขา

๏    สำคัญ คือการคิด....................................ตั้งมั่นจิต พิจารณา

ตัดกิเลส และตัณหา.............................อกุศล มลทินทั้งหลาย

๏    ไม่บวช ก็เหมือนบวช...............................ไม่บ่นสวด สาธยาย

หยุดสนิท คิดโลภ-ร้าย-.........................หลง สิสบาย พิไลล้ำ

๏    จิตใจ ที่ใส-ศานติ์....................................เป็นสถาน ปฏิบัติธรรม

สว่างไสว ไร้มืดดำ................................ดำรงปัก เป็นหลักฐาน

๏    จงสละ ค่านิยม.......................................ของสังคม สมสามานย์

(ที่)เหลวไหล ไร้แก่นสาร.......................พัวพันกิเลส ก่อตัณหา

๏    รู้สึก สำนึกนัก.........................................(ว่า)อยู่(ต่อ)พระพักตร์ พระศาสดา

ตั้งใจ ให้แกร่งกล้า................................ทุกเวลา ปฏิบัติเทอญฯ

๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๒

*ภาวนา แปลว่า การฝึกอบรมจิตใจ ไม่ใช่ อธิฐานอ้อนวอน-ขออะไรต่อมิอะไรจากสิ่่งศักดิ์สิทธิ์

การแสวงหา : กาพย์ยานี๑๑

การแสวงหา : กาพย์ยานี๑๑

๏    หลายปี ที่อุปการ........................................ให้อาหาร แมวจรจัด

(จ่ายเงินค่า)ฉีดยา สารพัด..........................ช่วยบำบัด สัตว์วิสัย

๏    ไม่ว่า จะแมวน้อย........................................ดูแลต้อย แต่เกิดใหม่

จนสู่ แมวผู้ใหญ่........................................ทุกเพศวัย ได้ศึกษา

๏       ธรรมชาติ แห่งสังขาร...................................อุบัติการณ์ ลานโลกา

เกิด-แก่ แลพยาธิ์......................................มรณา หาหลีกพ้น

๏    ชีวี ที่สูญสรรพ............................................(สร้างความ)โศกเศร้ากลับ แก่กระมล

(แม้)อุตสาหะ-อดทน(รักษา)........................ก็ไร้ผล กลแก้ไข

๏    (สรรพสิ่ง)เกิดมา เพื่อประสบ.........................สัมพันธ์พบ เพื่อจากไป

บีบคั้น มานหทัย........................................ให้สะอื้น ตรอมขื่นขม

๏    คะนึง ถึงพุทธธรรม......................................รับน้อมนำ กรรมปรารมภ์

พิเคราะห์ อย่างเหมาะสม.............................วิกรมเหตุ วิเศษผล

๏    การจะ แสวงหา...........................................ควรพิจารณา สัจจาดล

จิตสว่าง อย่างแยบยล.................................พ้นกิเลส และตัณหา

๏    สิ่งที่ มีเกิด-แก่............................................สุดท้ายแท้ แล(ย่อม)มรณา

ละเฟ้น เว้นปรารถนา...................................จะประสบ สุขสงบเอยฯ

๑ ธันวาคม ๒๕๖๒

*

ปริเยสนา 2 (การแสวงหา)

       1. อนริยปริเยสนา (แสวงหาอย่างไม่ประเสริฐ) คือ ตนเองเป็นผู้มีชาติ ชรา พยาธิ มรณะ โสกะ และสังกิเลสเป็นธรรมดา 
ก็ยังใฝ่แสวงหาแต่สิ่งอันมีชาติ ชรา พยาธิ มรณะ โสกะ และสังกิเลสเป็นธรรมดา

       2. อริยปริเยสนา (แสวงหาอย่างประเสริฐ) คือ ตนเป็นผู้มีชาติ ชรา พยาธิ มรณะ โสกะ และสังกิเลสเป็นธรรมดา 
แต่รู้จักโทษข้อบกพร่องของสิ่งที่มีสภาพเช่นนั้นแล้ว ใฝ่แสวงธรรมอันเกษม คือ นิพพาน 

จาก <http://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=%A1%D2%C3%E1%CA%C7%A7%CB%D2&detail=on>