ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ : กลอนแปด



ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ : กลอนแปด
 
    ตระเตรียมสถานที่ ต้อนรับปีใหม่................แข็งขันกันใหญ่ ไปทั่วแหล่งหล้า
ของขวัญของไขว่ จับจ่ายไปมา.......................เสมือนหนึ่งว่า วิถีชีวัน

    รถราหลั่งไหล ไปเต็มถนน..........................นำพาผู้คน สาละวนสู่ฝัน
ขอให้เดินทาง ปลอดภัยใดพัน.........................สนุกสุขสันติ์ กันทุกดวงแด

    ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่..........................(ฉัน)จะนอนหลับใหล ไม่ตามกระแส
สุขภาพสำคัญ ต่อชีวันแล................................ถึงจะเพียงแค่ ชั่ววันชั่วคืน

    บรรดาหนุ่มสาว ชอบก้าวตามฝรั่ง..................ปาร์ตี้ประดัง คลุ้มคลั่งครึกครื้น
(ส่วน)คนแก่คนเฒ่า เขานั้นยันยืน......................ฉลองคลองชื่น เฉกเอกลักษณ์ไทย

    สวดมนต์ข้ามปี (ทำ)พิธีไสยศาสตร์................ต่อชะตาชีวาตม์ ประหลาดเหลือไฉน
สะเดาะเคราะห์กรรม ป้องกันบรรลัย....................ผู้คนสนใจ ไหลหลั่งร่วมงาน

    จะเลียนแบบฝรั่ง หรือเอาอย่างไทย................เสียงดังจังไร ช่างไร้แก่นสาร
ดึกๆดื่นๆ ขืนใจชาวบ้าน...................................บาปก่อทรมาน นอนหลับไม่ลง

    มัวเมาข้ามปี นี่หรือความสุข?.........................สังขารดาลทุกข์ ขลุกตามหลามหลง
คลายความซ้ำซาก ความอยากยังคง...................จำเพาะเจาะจง ตรงข้ามคืนวัน

    อดหลับอดนอน รอนแรงปีใหม่.......................จะช่วยทำให้ ชีพวัยหฤหรรษ์?
หรือมีแต่พา คนอายุสั้น?...................................ลองครวญใคร่กัน ก่อนดันทุรังฯ

๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ความรักและของฝาก : กลอนเปล่า



ความรักและของฝาก : กลอนเปล่า
 
    การคิดถึงใครในบางคน
เป็นเพราะกมลสนใจของฝาก(ที่จะได้รับ)
การแสดงออกซึ่งความดีใจอันมายมาก
เนื่องจากอยากเห็นสิ่งของ(ฝาก)ที่ปองหมาย(ไม่ใช่คน)

    ของฝากอาจจะทำให้ใครคิดถึง(เรา)
"ชนะใจ"อย่าเพิ่งใคร่คำนึง
"สิ่งของ"ดอกหนาพาซาบซึ้ง
มิใช่พึงพอใจในตัวบุคคล

    "ของฝากแทนความหมายของความรัก"
ตรรกะที่จะพบได้ หากใครใคร่สน-
ใจคิด พินิจลึกซึ้งถึงเงื่อนกล
ที่ดูไปก็ไม่ต่าง"ฉล"
ของคนเห็นแก่ได้ ใคร่แต่ตน
ของคนล้นมารยา

    ส่วนหนึ่งก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ
ที่ต้องหัดเรียนรู้สู้เสาะหา
เมื่อต้องไปสร้างสัมพันธ์กับใคร แม้เขาไม่โลภา(โลภ)
เพื่อแทนนิยามความหมายว่า
"คิดถึงทุกเวลาและวินาที"

    ของฝากอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือสกปรก
เพื่อโกหกว่าตัวข้านี้
ซื่อตรง จงรัก และภักดี
แต่แท้ที่จริงอาจนึกชิงชัง

    ความรักจักมิอาจวัดได้ด้วยของฝาก
พฤติกรรมต่างหาก ที่จักไขความกระจ่าง
ความเสมอต้นเสมอปลายไม่จืดจาง
เวลาการณ์จะสรรค์สร้าง
สัจจาให้รู้ว่าใครบ้าง ที่ควรไว้เนื้อเชื่อใจฯ

๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ขอพรปีใหม่ : กลอนปีใหม่

ภาพจาก//https://www.pinterest.com/pin/511440101413789606/


ขอพรปีใหม่ : กลอนปีใหม่
 
    เวลาการณ์ ผ่านไกร ไร้สิ้นสุด.............ปราศจากจุด หยุดนิ่ง ประวิงเห็น
ปฏิทิน ก็แค่ แปรประเด็น.........................ปรากฏเป็น แผนผัง วางกิจกรรม

    แต่กมล คนไซร้ ใคร่เบือนเบื่อ...............รักสนุก สุขเหลือ เล่นเพรื่อพร่ำ
ชอบเฉลิม ฉลอง สนองนำ........................วัฒนธรรม ประเพณี ปีใหม่งาน

    ได้รับพร ปีใหม่ ได้ความสุข..................ลืมเรื่องทุกข์ ลุกผล กังวลผลาญ
ได้จับจ่าย เที่ยวท่อง พ้องเบิกบาน.............สร้างมาตรฐาน ส่งท้าย ณ ปลายปี

    ขอพรส่ำ อำนาจ สิ่งศักดิ์สิทธิ์................เทพยดา คณาฤทธิ์ ทั่วทิศศรี
คุณพระพุทธ พระธรรม คุณความดี..............โปรดบันดาล สุขี พลีแผ่ชน

    ได้สมหวัง ตั้งใจ ในสุจริต......................ใช้ชีวิต ชิตวาร ชาญกุศล
ได้เข้าใจ คุณค่า ความเป็นคน....................ใช้ชีวา พาตน พ้นต่ำทราม

    เห็นช่องทาง สร้างสรรค์ งานอาชีพ..........ไม่ต้องรีบ เร่งล่า เงินตราหลาม
สิ่งพิสุทธิ์ อุตส่าห์ พยายาม........................สำเร็จตาม ความหวัง ที่ตั้งใจ

    รู้รักษา สุขภา วะกาย-จิต.......................รู้ลิขิต ชีวิตสู่ วุฒิใส
รู้ผิดชอบ ครอบครัว มิพัวภัย.......................รู้จักให้ เผื่อแผ่ แก่สังคม

    สารพัน ปัญหา ให้ปรากฏ.......................ทางแก้ไข ได้หมด สิ้นขื่นขม
ความขัดแย้ง แคลงใจ ในอารมณ์.................ทุกข์ระทม ห่มไห้ ได้บรรเทา

    ความเห็นแต่ แก่ตน คนตระหนี่................จงคลายคลี่ มีกมล พ้นมารเขลา
เกิดเมตตา ปราณี ปรีติเนา..........................เพื่อโลกเรา น่าอยู่ อุดมเอยฯ

๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ครองคู่อยู่(ไม่)ยืน : กาพย์สุรางคนางค์๒๘



ครองคู่อยู่(ไม่)ยืน : กาพย์สุรางคนางค์๒๘
 
    ...............................ล่วงสู่ ฤดูหนาว
ประดา หนุ่มสาว...............ต่างเฝ้า ใฝ่ฝัน
ใคร่มี คู่ครอง...................สนอง นึกนันท์
ชำเลือง เลือกสรร.............(ที่)รูปร่าง หน้าตา(เป็นส่วนใหญ่)

    .................................(ถูก)ปลูกฝัง มั่งมี
ประเสริฐ เลิศศรี................ปรีดิ์แปลง แสวงหา
หมั่นเอา ใจตน..................เหตุผล มินำพา
ถวิล ปริญญา....................มากกว่า คุณธรรม

    .................................สนอง ตัณหา
มิใช่ จรรยา.......................กามา รมณ์ล้ำ
สัญชาต (ตะ)ญาณ.............บงการ บานกรรม
มิใช่ ศีลธรรม.....................จุนค้ำ จำนน

    ..................................(เอา)ตนเป็น ที่ตั้ง
ความคด บดบัง..................ลำพัง หวังผล
ไม่ช้า ไม่นาน.....................มืดมาน ดาลดล
ความเห็น แก่ตน.................โค่นคว่ำ สัมพันธ์

    ...................................แม้นมาด ปรารถนา
ครองคู่ ชูตา........................ชูหน้า สุขสันติ์
อบรม ฤดี............................ให้มี ศีลธรรม์
ก่อนมาด มุ่งมั่น....................สรรสู่ คู่ครอง

    ....................................เลือกคน ที่(ความ)ดี
หากแม้น ไม่มี......................อย่าพลี พาลข้อง
รอได้ ไม่เร่ง.........................บ่เกรง ครรลอง
ถ้าหาก จักต้อง.....................โดดเดี่ยว เดียวดายฯ

๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ทุกๆปัญหามีทางออก? : กาพย์ฉบัง๑๖



ทุกๆปัญหามีทางออก? : กาพย์ฉบัง๑๖
 
    "ทุกๆปัญหามีทางออก"..................ไม่รู้ใครบอก?
เหมือนหลอกหัวใจให้มีหวัง

    ปัญหานานาย่อมประดัง................ตราบชีวียัง
หยุดดันทุรังหวัง(ปัญหา)หมดไป

    หลายคนหลาย(ความ)คิดจิตใจ................ต้องการแก้ไข
เปลี่ยนแปลงสิ่งไม่พึงประสงค์

    "ความอยาก"หากยังดำรง................เกิด"กระสัน"มั่นคง
ย่อมส่งเสริมให้ขยายปัญหา

    ขีดจำกัดด้านปัญญา................ธรรมชาติสัจจา
โลกาจักรวาลกันดารเข็ญฯลฯ

    ทำให้ไม่อาจจริงเป็น...............ที่เราจะเห็น
ทางเร้นปัญหาเสมอไป

    สัจธรรมความสุดวิสัย.............จักต้องทำใจ
ให้บางปัญหาชนะเรา

    อุราอย่ามัวหมองเศร้า...............วิโยคโศกเคล้า
เคืองเร่าทุรนทุราย

    หนทางยังมีมากมาย...............รอคนขวนขวาย
กรีดกรายให้งามจำเริญ

    ตริตรอง...อย่ามองผิวเผิน................กิจกรรมดำเนิน
เพลิดเพลินกุศลดลสุขเอยฯ

๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

รถแต่ง : กลอนเจ็ด



รถแต่ง : กลอนเจ็ด
 
    จอดรถ ติดเครื่อง(ทิ้งไว้) เรื่องปกติ............ต่างมิ ตระหนก โลกร้อนผล
ตะบัน ขันแข่ง แต่งเครื่องยนต์........................เพื่อตน โดดเด่น เห็นภูมิใจ

    สะสม รถรา เสริมบารมี..............................เดี๋ยวนี้ นิยม ชมบิ๊กไบค์
คะนอง สองล้อ มอเตอร์ไซค์..........................ทำให้ หลายคน รนมรณา

    กลางค่ำ กลางคืน กลางดื่นดึก....................คักคึก ประลอง ปองบิ่นบ้า
สาธารณะ ถนน ขนพวกมา..............................แข่งรถ ซดสุรา=อาชาไนย?

    ท่อ(ไอเสีย)จาก โรงงาน มันไม่แจ่ม..............แหกกฎ(หมาย) รถแซม เสียงแหลมใส
เขม่า โขมง ควันส่งไกล..................................กลิ่นเหม็น เห็นไหม สะใจดี

    เครื่องเสียง เพียงฟัง ยังไม่เสนาะ..................ต้องเสาะ สัปดน ล้นบัดสี
เครื่องใหม่ ไฟแรง แปลงดนตรี.........................(สร้าง)มลพิษ เปิดที วินาศกรรณ

    ไม่ใช่ ไม่ผ่าน การศึกษา..............................แต่ว่า ชอบใช้(ชีวิต) ตามใจฉัน
ใครเดือด ร้อนดั่ง ช่างหัวมัน.............................ขอเพียง แค่ฉัน เมามันพอ

    มีเงิน ไม่ใช่ ให้เป็นประโยชน์........................ก่อโทษ กำแหง แสวงหนอ
โลกสิ้น สงบ เพราะ(คน)ไม่(รู้จัก)พอ..................บ้าบอ วิปริต ผิดวินัย

    ลุ่มหลง เทคโน โลยี;แต่..............................ดวงแด ปรารถนา ป่วนสาไถย
เกิดมา มิหนุน คุณอันใด...................................นอกจาก สร้างภัย ให้โลกาฯ

๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ปัญหาหัวใจ : กลอนหก



ปัญหาหัวใจ : กลอนหก
 
    มีสิ่งใด ทำให้คน...................ดวงกมล แปรเปลี่ยนผัน ?
จากอดีต จิตปัจจุบัน....................จนจวบวัน อนาคต

    คำยืนยัน มั่นสัญญา.................ถูกพัฒนา เป็นโป้ปด
ความจริงใจ กลายทรยศ...............รักเหือดหด หมดอาลัย

    เพราะไม่มี ศีลธรรม.................จิตใฝ่ต่ำ (จด)จำสาไถย
คิดเบียดเบียน ใครต่อใคร.............ตามความใคร่ ที่ป่ายปอง

    ความเห็นแก่ ก็แต่ตน...............กระสันสน เป็นเจ้าของ
อยากจะได้ หมายจะครอง.............ตอบสนอง สัญชาตญาณ

    พบแล้วภักดิ์ รักแล้วเลิก............อย่างบานเบิก สนุกสนาน
มากมารยา สมาทาน.....................เป็นหลักการ อันเลิศเลอ

    คนจะเบื่อ จะเลิกร้าง.................ร้อยข้ออ้าง สร้างได้เสมอ
อดีตกาล ฉันรักเธอ.......................ปัจจุบันเผลอ ลืมรักกันฯลฯ

    รสรักใหม่ ให้คึกคัก...................มิห้ามหัก อุราหรรษ์
รสรักเก่า หมดเมามัน.....................จึงรอนรัน บั่นเยื่อใย

    ฤทธิ์ราคะ ทำตาบอด.................และสืบทอด ความหลงใหล
โลกย์บันดาล ปัญหา(หัว)ใจ............หรือผู้ใด ทำให้เอย?

๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ควรแก่ความเป็นคน : กาพย์ยานี๑๑

ภาพจาก//https://www.pinterest.com/pin/511440101413737073/


ควรแก่ความเป็นคน : กาพย์ยานี๑๑
 
    แสงทอง ที่ส่องภพ....................ตกกระทบ กระแสสินธุ์
ริ้วคลื่น ระรื่นทิน-............................(นะ)กรรับ (สะท้อน)กลับประภา(ทินกร=พระอาทิตย์)

    สุทโธ อรุโณทัย.........................เริ่มวันใหม่ ไร้ปัญหา
เมฆี แม้มีคลา................................กระจายคล่ำ ครืนอัมพร

    เริ่มต้น เป็นคนดี.........................ด้วยการมี ศีลธรรมก่อน
ไม่เบียน เบียด เพียรถอน.................ทำ(ความ)เดือดร้อน แก่ใครเขา

    ฤดี ที่มั่นคง...............................เจตจำนง เสริมส่งเนา
รุดหน้า ละหมองเศร้า......................มิมัวเมา เกลากิจกรรม

    อวิชชา คอยขจัด........................ปัญญาจรัส ประเสริฐล้ำ
สนับสนุน คุณธรรม..........................แผ่เพริศพร่ำ เกิดอำไพ

    กมลวาง บนทาง(แห่งความ)ดี........ดำรงชีวี อยู่ที่ไหน
ปราศเภท ประเวศภัย........................ไม่กรุ่นสร้าง แก่สังคม

    ทำนุ กุศลเนื่อง...........................คุณาเรื้อง ประเทืองสม
ความดี ทวีอุดม...............................วิกรมกล้า ชีวาการณ์

    ที่สุด มนุษย์ชาติ..........................ไพบูลย์สาธย์ สถิตศานติ์(สาธยะ=ควรทำให้สำเร็จ)
เกิดมา มิสามานย์.............................สำคัญแท้ ควรแด่(ความเป็น)คนฯ

๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ชีวันอันสมหวัง? : กลอนเปล่า

ภาพจาก//https://www.pinterest.com/pin/511440101413533207/


ชีวันอันสมหวัง? : กลอนเปล่า
 
    มีเงิน...
เพลิดเพลินกับการกิน..เที่ยว..จับจ่าย..ทำตามที่ใจปรารถนาฯลฯ
เป็นเป้าหมายชีวา ที่พากันนิยม
ของคนทุกสังคมทุกยุคสมัย

    ชีวิตคือ...
อุบัติการณ์ถือกำเนิด
เติบโต..แก่ และสิ้นสุดที่การหมดลมหายใจ
ที่ใครต่อใครก็รู้
คู่ประวัติศาสตร์แห่งชาติชน

    มุมมองที่จดจ้องมาจากจิตใจ
ออกไปสู่โลกกว้างอันห่างหน
มีศูนย์กลางอยู่ที่"ตน"
อัดล้นด้วยรักและภักดี

    ความสุขสมหวัง
คือรางวัลมั่นหมายพิไลศรี
พยายามทำความคว้าไขว่
แลกกับอายุขัยของชีวี
เก่าผ่านไป ใหม่แสวงหา...เฉกหน้าที่
ดูมิต่างจากชีวิตสัตว์ดาษสายพันธุ์

    สนใจแค่หาความสุข
เพียรลืมทุกขา...จวบจนชีวาอาสัญ
สิ่งใดสะท้อนคุณค่า?
แสดงซึ่งความน่าอัศจรรย์?
อยู่หรือตาย...เกิดหรือไม่ ก็เท่านั้น
ชีวัน...อันไร้สาระ

    มีอะไรให้ทำเพียงเท่านั้นหรือ?
นิยามความหมายชีวิตเบ็ดเสร็จคือ...เศษสวะ?
เกิดมาเพื่อสร้างภาระ?
ก่อหายนะแก่โลกและสังคม?

๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สำคัญผิด : กลอนแปด

ภาพจาก//https://www.pinterest.com/pin/511440101413712015/


สำคัญผิด : กลอนแปด
 
    คนรุ่นใหม่ (มัก)ให้ความ สำคัญผิด...............ลุ่มหลงจิต คิดยก ย่องสรรเสริญ
สิ่งที่นำ ความสุข สนุกเพลิน.............................มิประเมิน คุณค่า สาระธรรม

    รักพากเพียร เรียนเล่น เว้นหนังสือ.................ไม่ยึดถือ จรรยา มาจุนค้ำ
อะไรที่ ฤดีอยาก ก็จักทำ..................................มิเชื่อคำ ส่ำสอน บิดรมารดา

    เด็กวัยรุ่น วุ่นวาย ใคร่มีคู่..............................ใจไม่สู้ กวดขัน การศึกษา
เรียนเล่นล้อ พอ(แค่)จบ ปริญญา.......................ส่วนปัญญา สามารถ อนาถจริง

    คนหนุ่มสาว เหล้ายา เปรมประมาท.................มิหวั่นหวาด (เพศ)สัมพันธ์ สามานย์สิง
อยู่ก่อนแต่ง แย่งผัวฯลฯ หัวคิดลิง.......................เบื่อก็ทิ้ง เลิกรา หาใหม่มอง

    ผู้ใหญ่เล่า เมามัน การทุจริต..........................ใช้ชีวิต ฟุ้งเฟ้อ เห่อซื้อของ
คนทำผิด ศีลธรรม์ สืบครรลอง............................มากจนคล่อง คิดคลั่ง สร้างโรงแรม(รีสอร์ท)

    การที่ใจ ให้ความ สำคัญผิด...........................ผลชีวิต คับข้อง คือของแถม
มีปัญหา สาหัส พิบัติแซม..................................โศกเศร้าแกม กังวล ท้นทรมาน

    จงให้ความ สำคัญ จรรยาเถิด.........................จะบังเกิด เพริศสุข สนุกศานติ์
เอาใจใส่ หน้าที่ ศีล-อาจาร................................สมาทาน ไม่สถุล มีคุณธรรม

    (สิ่ง)ไร้สาระ อย่าไป ใคร่ประสิทธิ์....................คงชีวิต คิดไกล หมายเลิศล้ำ
อยู่ให้คน เห็นค่า คุณาธรรม................................ตายให้สลด จดจำ ความดีเทอญฯ

๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ความอิจฉา : กาพย์สุรางคนางค์๒๘

ภาพจาก//https://www.pinterest.com/pin/511440101413699368/


ความอิจฉา : กาพย์สุรางคนางค์๒๘
 
    ...............................ดอกไม้ ต่างมี
รูปกลีบ-กลิ่น-สี.................ที่เป็น เอกลักษณ์
ยิ่งหลาย สายพันธุ์.............(ยิ่ง)ต่างกัน ตระหนัก
ธรรมชาติ ฉกาจนัก............อัคระ ศิลปิน(ฉกาจ=เก่งกาจ)

    .................................มิเคย แข่งขาน
ต่างเบ่ง ต่างบาน..............สะคราญ ถวิล
ประดับ โลกา...................เสริมค่า แผ่นดิน
โสภี ชีวิน........................ทุกถิ่น เนืองนอง

    .................................อย่าอิจ ฉาใคร
หากเรา เข้าใจ...................ใน"กฎ กรรมสนอง"
ทุกสิ่ง จริงเป็น...................มิเร้น ครรลอง
ผลกรรม ตามก้อง...............ถูกต้อง ถ่องธรรม

    ..................................ใครอิจ ฉาเรา
ปล่อยวาง ช่างเขา..............โฉดช้า ถลำ
คนน่า สงสาร.....................ต้องพาน พบกรรม
อกุศล มนต่ำ......................ระยำ ชีวี

    ...................................อย่าอิจ ฉากัน
บุญใคร บุญมัน....................มั่นใน วิถี
ทำบุญ ตุนไว้......................ทำให้ ได้ดี
ตักเตือน ฤดี.......................จงมี วิริยา

    ...................................อบรม พรหมวิหาร
ศรัทธา สมาทาน..................ประหาร อิจฉา
แข็งขัน บรรจุ.......................วสุ มุทิตา(วสุ=ทรัพย์)
หล่อลี้ยง อุรา......................สัมมา สถาพรฯ

๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ศีลธรรมสำนึก : กลอนคติสอนใจ

ภาพจาก//https://www.pinterest.com/pin/511440101413687575/


ศีลธรรมสำนึก : กลอนคติสอนใจ
 
    ศีลธรรม สำนึก....................ต้องตรึก ตรองไตร่ ได้(ด้วยตัว)เอง
หาใช่ (ถูก)ข่มเหง.....................หวาดเกรง กำลัง บังคับ
สติ ตักเตือน.............................ฤดี มิเฟือน เบือนดับ
หลักธรรม กำชับ........................กำกับ ความคิด จิตจล

    ศีลธรรม ความดี.....................ยากมี อยู่ใน ใจเจตน์
(ที่)มากมี กิเลส..........................ปฏิเสธ กฎแห่ง กรรมหน
ใจหยาบ กระด้าง........................ยากสร้าง ตั้งมั่น ทานทน
(เพียง)ศรัทธา สาธุชน.................สถิต สถล มนมาน

    เสพสุนทร์ คุณค่า....................ศีลธรรม นำพา ประสงค์
หากยัง งวยงง............................ยากปลง ปรารถนา ประสาน
ประจักษ์ ประโยชน์......................จึงจะ ประโมทย์ โปรดปราน
จะคร่ำ รำคาญ............................แก่ผู้ สามานย์ พาลพี

    ธรรมทัศน์ ศรัทธา....................คือพลัง วังชา ประสิทธิ์
ทรงธรรม อำมฤต.........................อุกฤษฏ์ จิตรา ประภาศรี
ผู้จิต ใจงาม................................จึงสำ คัญใน ความดี
พาลา กาลี..................................ยากมี ดีงาม จำนง

    ต้องการ ปัญญา.......................เพื่อการ บัญชา อุรจิต
ป้องกัน ปันผิด.............................ทางทิศ สาไถย ใหลหลง
คนสัก แต่เชื่อ(ตามเขา).................มักไม่ ต่างเบื้อ เชื้อพงศ์(เบื้อ=สัตว์ปา)
โง่ขัง ยังคง.................................ดำรง หลงผิด ทิศทางฯ

๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ไม่ใช่เวลามาหาสามี : กาพย์ฉบัง๑๖

ภาพจาก//https://www.pinterest.com/pin/511440101413679025/


ไม่ใช่เวลามาหาสามี : กาพย์ฉบัง๑๖
 
    เขียนคิ้วแต่งหน้าทาปาก................เช้าทำตรำตราก
อยากสวยอยากงามตามประสงค์

    รูปลักษณ์เฝ้าพะวักพะวง...............ประสาอนงค์
ผู้หลงราคะพิสมัย

    มิผิดคลองธรรม์อันใด................ถ้าเธอไม่ใช่
อยู่ในวัยเรียนมัธยม

    คนผ่านชีวันนานนม................ได้ฝึกอบรม
ย่อมไม่ชื่นชมรมณีย์

    เห็นเด็กเยาว์วัยสมัยนี้.................ไม่ฝักรักดี
ไม่มีสำนึกใฝ่(การ)ศึกษา

    เลยละสะสมบ่มวิชา.................กลับขับอุรา
แสวงหา(ความ)รักและสามี

    ไม่รูผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี................หลงผิดวิถี
นำพาราคีชีวาขาน

    ขาดสติวิจารณญาณ................ใคร่สมัครดักดาน
เป็นพาลพลัดผิดพิสมัย

    ชอบทำตามอำเภอใจ...............โง่เขลาเนาใน
จิตใจไร้จริยธรรม

    ชีวีมีแต่(จะ)ตกต่ำ...............ทุกข์ถาระกำ
เพราะสำคัญผิดทิศทาง

    (คง)เป็นภรรยาที่ปัญญาบาง................อย่าเอาเยี่ยงอย่าง
สร้างแต่ปัญหานานาเอยฯ

๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ศีลธรรมล้ำเลิศคุณ : กลอนแปด

ภาพจาก//https://www.pinterest.com/pin/511440101413668519/


ศีลธรรมล้ำเลิศคุณ : กลอนแปด
 
    ลมกระโชก โกรกกล้า กลางราตรี...............เสมือนมี อิทธิฤทธิ์ อธิษฐาน
ให้แดนล่วง(เลย) ฤดูหนาว มายาวนาน.............ได้พบพาน กาลเย็น กายเจนเจือ

    ลมกระหน่ำ ท่ามกลาง คืนร้างเร้น................คลื่นความเย็น ค่อยแผ่ มาแต่(ทิศ)เหนือ
ณ ปลายปี สิได้ ไม่คลุมเครือ..........................ฤดูกาล ฟั่นเฝือ เหลือคาดเดา

    ศีลธรรม นำพา วิชชาเพริศ.........................สู่ประเสริฐ เลิศคลี่ ฤดี(ที่ยัง)เขลา
หลุดจากความ เห็นชั่ว หลงมัวเมา....................ฉุดให้เพรา ก้าวพ้น มืดหนทาง

    สิ้นพะวง สงสัย ในชีวิต...............................ตระหนักคิด ใคร่หา ซึ่งแสงสว่าง
แลเด่นชัด สัจธรรม์ อันเลือนราง.......................(ที่ถูก)สังคมสร้าง มายา มาครอบงำ

    รู้จักวาง วิถี ใช้ชีวิต....................................รู้หลีกห่าง ทางผิด ติดตกต่ำ
รู้ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี ด้วยศีลธรรม...........................และดื่มด่ำ สุขี นิรามัย

    ศีลงดงาม กำกับ สรรพกิจ..........................จึงสุจริต อิฏฐา มิสาไถย
มิใช่ข้อ บังคับ อัปราชัย..................................จงตรองไตร่ ให้ตรง อลงกรณ์

    ธรรมสำแดง แสงทอง ส่องสัจจะ..................อันมรรคะ โลกีย์ ไม่มีสอน
เป็นสัจจริง ยิ่งใหญ่ ไม่สั่นคลอน.......................ยังเกิดก่อ บวร พรโภคี

    ศีลธรรม ล้ำค่า มหาสมบัติ...........................จงฝึกหัด ให้คล่อง ครรลองศรี
จะอยู่เย็น เป็นสุข ทุกนาที...............................ลักษณะดี มีสง่า น่าคบเอยฯ

๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ศีลธรรมทำให้ชีวิตง่ายขึ้น : กลอนฉันทลักษณ์อิสระ

ภาพจาก//https://www.pinterest.com/pin/511440101413657644/


ศีลธรรมทำให้ชีวิตง่ายขึ้น : กลอนฉันทลักษณ์อิสระ
 
    อย่างนี้สิเรียกว่าหนาว
ตื่นเช้าไม่อยากออกจากผ้าห่ม
ผิวผากแห้งเพราะแรงลม
ที่พัดโหมกระหน่ำมา

    ต้องเพียรหมั่นออกกำลัง(กาย)
เพื่อสร้างพลังวังชา
เย็นหนาวกรากมิหนักหนา
เมื่อกายา กล้าแกร่งไกร

    ถ้าขาดความรู้ความสามารถ
การดำรงชีวาตม์ย่อมหวาดไหว
ยิ่งชอบทำตามอำเภอใจ
ปัญหายิ่งไหลมาก่ายกอง

    ทักษะการตัดสินใจ
ช่วยให้(ชีวิต)ดำเนินไปได้แคล่วคล่อง
(การตัดสินใจ)ความผิดพลาดอนาถนอง
คืนความขัดข้องทุกข์ยากลำบากมี

    หลักศีลธรรมถูกทดสอบมายาวนาน
โดยปราชญ์ผู้ชาญฉลาดมนัสศรี
ผ่านการทดสอบ ว่าปลอดภัย-ง่าย มาหลายพันปี
ขัดเกราจนเป็นวิถีชีวีที่ดีงาม

    แต่มักถูกคนสมัยใหม่
ผู้มีจิตใจแข็งกระด้างตั้งข้อเหยียดหยาม
ขัดจิตขัดใจที่ไม่ได้กระทำทราม
จึงเมินมองข้าม(ศีลธรรม)เพื่อทำตามอำเภอใจ

    สัญชาตญาณบันดาลจิต
ให้ครุ่นให้คิดไม่ผิดจากสัตว์วิสัย
ก่อเกิดทุกขเวทนาและเภทภัย
เพราะไม่คำนึงถึงวิถีศีลธรรม

    หากต้องการมีชีวีที่เป็นสุขง่ายๆ
จงขจัดความสาไถยฝักใฝ่ต่ำ
เลือกเดินบนวิถีที่ดี-งาม
เลือกหลักศีลธรรมนำชีวิตเทอญฯ

๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ครอบครัวจึงเป็นสุข : กลอนหก

ภาพจาก//https://www.pinterest.com/pin/511440101413631177/


ครอบครัวจึงเป็นสุข : กลอนหก
 
    หญิงชรา ผ่านมาเล่า......................ลูก(สาว)โง่เง่า เอาผัวผิด
สุราร่ำ บำเพ็ญนิจ...............................ไม่รับผิด ชอบครอบครัว

    (จึง)ให้ความเห็น เป็นแรงใจ.............สำทับไป ใครดี-ชั่ว
ต้องสอนลูก ให้รู้ตัว.............................เลือกพันพัว มิพัวพาล

    หญิงชรา ครวญว่าตน.......................ยากลำบน เลี้ยงดูหลาน
ลูกสาวเขย ไม่เอาการ..........................มิแบ่งภาร ค่าเลี้ยงดู

    คือปัญหา ของยุคสมัย......................คนรุ่นใหม่ ใคร่ลบหลู่
ละเมิดจรรยา จาระชู.............................ใจเจ้าชู้ มิรู้คลาย

    เลี้ยงลูกเท่า ไม่เอาถ่าน.....................นิสัยพาล สันดานผาย
(เด็กหญิง)ไม่ซ้ำหน้า หาสู่ชาย...............อย่างมิอาย มากมายมี

    สิเน่หา กามราคะ..............................ทิ้งภาระ และหน้าที่
ท้องก่อนแต่ง (ทำ)แท้งทวี.....................สร้างบัดสี กาลีลาน

    สิ่งแวดล้อม=สิ่งมอมเมา....................รอบตัวเรา มหาศาล
ผู้ปกครอง ต้องอย่าคร้าน........................เตือนลูกหลาน (เท่า)ทันโลกีย์

    (ทำ)เป็นตัวอย่าง อย่า(ดีแต่)สั่งสอน.....ใจอาทร ธรรมาศีล์
รู้ผิด-ชอบ กรอบชั่ว-ดี............................ครอบครัว(จึงจะ)มี นิรามัยฯ(นิรามัย=สุข,สบาย)

๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ดี/ชั่วเผยตัวตน : กาพย์ยานี๑๑

ภาพจาก//https://www.pinterest.com/pin/511440101413631162/


ดี/ชั่วเผยตัวตน : กาพย์ยานี๑๑
 
    ความชั่ว คนชั่วทำ.......................เป็นประจำ ประจานฉล
คิดแต่ เห็นแก่ตน..............................เอาเปรียบคน อื่นเรื่อยไป

    ความดี คนดีทำ............................ประพฤติกรรม ตามนิสัย
บอกกล่าว ก็เข้าใจ............................ไมตรีจิต มิตรครรลอง

    ผลมี ดีและชั่ว..............................จะติดตัว ตามเจ้าของ
เสมือนกับ ทรัพย์เงินทอง....................กองสมบัติ สืบอัตตา

    ชั่ว/ดี ที่สะสม...............................ทยอยบ่ม เป็นวาสนา
คอยสนอง คลองชะตา.......................อย่างช้าๆ ทว่าแน่นอน

    ทำแล้ว มิแคล้วคลาด.....................มิสามารถ อาจถ่ายถอน
ชั่ว/ดี มิตัดรอน..................................ต่างย้อนตาม กรรมายล

    กระทำ กรรมอันใด.........................นึกครวญใคร่ ในเหตุ-ผล
ดวงแด (ของ)แต่ละคน.......................คือต้นเหตุ แห่งเจตนา

    ใครทำ กรรมดี/ชั่ว..........................จึงเผยตัว พัวพันหน้า
ชั่วฉล กระมลตรา...............................หรือโสภา มนาพี

    ผู้ใด ไม่แยกแยะ............................คนดีแท้ และบัดสี
ร่วมสุข ร่วมคลุกคลี.............................ย่อมมีโทษ จำจดเทอญฯ

๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๘

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ปล่อยเป็นเวรกรรม : กลอนเจ็ด

ภาพจาก//https://www.pinterest.com/pin/511440101413615272/


ปล่อยเป็นเวรกรรม : กลอนเจ็ด
 
    รูปร่าง หน้าตา จะปรากฏ......................ไปจน คนหมด อายุขัย
สติ ปัญญา ประจำใจ..............................จวบไร้ ชีวิต พิจารณา

    เวรกรรม ตามไส ให้ประสบ..................พานพบ อำนาจ วาสนา
ทุกข์โศก โรคภัย ไร้ที่มา.........................ที่ชี้ ชัดว่า (เป็น)บุรพกรรม

    จึงสร้าง (ความ)คลางแคลง บ่แจ้งจิต.....ชีวิต ปริศนา ประดาส่ำ
ปะเหมาะ เพราะเท่า เราเคยทำ?................เฉกคำ คมก่อน ย้อนแยบยล

    เวรกรรม ตามติด ชีวิตไป......................เนิ่นนาน เท่าใด? ยากทายหน
วิถี ชีวา แต่ละคน....................................สับสน ซับซ้อน แสนอ่อนทรวง

    ตั้งอก ตั้งใจ ใช้ชีวิต.............................มิคิด ท้อแท้ และคอยห่วง
ฟูมเฝ้า คำนึง เพียงพึ่งดวง........................ลุล่วง รับเป็น เวรปัจจัย

    สั้นบ้าง นานบ้าง ทุกย่างก้าว.................น้อมน้าว กุศล กระมลใส่
มิคิด มิจฉา มารยาไช...............................ปล่อยใจ ไปจาก หลักศีลธรรม

    คิดดี ทำดี วิถีสว่าง..............................เสริมสร้าง ประสิทธิ์ จิตเลิศล้ำ
จรรโลง ฤดี ธีระจำ...................................มิตก วกต่ำ เวียนคำนึง

    หนทาง ข้างหน้า จิกระจ่าง....................เหินห่าง หมางมัว ชั่วช้าถึง
ชีวา สะอาด สัตตราตรึง............................ตราบซึ่ง เสร็จสิ้น สุดวิญาณฯ(สัต=ดี,งาม)

๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๘