ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แด่..ดวงวิญญาณ : กาพย์ยานี ๑๑



แด่..ดวงวิญญาณ : กาพย์ยานี ๑๑

      เหล่าปวง ดวงวิญญาณ..............คือพลังงาน ดาลชีวิน
เกิด-เป็น-ได้เห็น-ยิน........................อยาก-อยู่-กิน ฯลฯ จวบสิ้นใจ

      วิบาก หลายหลากพรำ...............สนองกรรม เคยทำไว้
สุข-ทุกข์ ผูกพันไป..........................ไม่สูญสาบ ตราบชะตา

      ตัว " ตน " ผจญตรึก..................ความรู้สึก ผนึกหนา
ตั้งแต่ เกิด-แก่มา............................." อนัตตา " ยากอธิบาย

      ต้องให้ กลายเป็นซาก.................วิญญาณพราก จรจากหาย
ต้องรอ จนต่อ " ตาย ".......................จึงเข้าใจ ในทันที

      ว่าสิ่ง ที่จริงจัง............................แสวงสมสั่ง หวังสุขี
ยศ-ฐาน์ ฯลฯ ประดามี........................แค่วิถี ที่ผ่านไป

      ว่าสิ่ง ที่หวงแหน.........................เป็นสารแก่น " กาย " แร้นขัย
เสมอค่า " มายา " ไคล.......................แค่หลงใหล ให้สำคัญ

      เหลือเพียง เรียงบาป-บุญ...............ตามเกื้อหนุน ทุนสร้างสรรค์
ชาติใหม่ ให้ประจัญ.............................วิบากผล ตนก่อทำ

      คิดได้ อย่าใหลหลง.......................พะวักพะวง ทำคงขำ
ฝักใฝ่ ในศีลธรรม.................................ก่อกุศล พิมลเทอญ ฯ

๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕

วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เดินตามรอย...? : กลอนคติสอนใจ


                                                                       Google

เดินตามรอย...? : กลอนคติสอนใจ


      พัฒนาการ เผ่าพันธุ์มนุษย์..............ตั้งแต่จุติ ผุดเชื้อสาย
ล้วนเกิดแก่ แลเจ็บตาย........................ตะเกียดตะกาย หลายแสนปี

      สำนึกตัว ชั่วชีวิต...........................ทำ-พูด-คิด ทิศวิถี
ประสบการณ์ นานมากมี........................ชอบ-ชั่ว-ดี มีผลใด ?

      ถ่ายทอดสู่ ให้รู้เห็น........................เหตุ-ผลเด่น เช่นไฉน ?
กรรมใดเหตุ ผลเภทภัย ?......................กรรมใดให้ ได้ผลดี ?

      คนรุ่นหลัง ยังเดินย่ำ.......................มิหนำซ้ำ ทรามบัดสี
ตามรอยเท้า โฉดเขลามี........................เพิ่มทวี ทุกวี่วัน

      ครรลองดี มีน้อยนิด........................คนใคร่คิด พินิจฉันท์
เดินตามปราชญ์ ฉลาดปัน......................มีสุขนันท์ บันเทิงใน

      ไม่รักดี ชีวีด้น................................น่าฉงน คนไฉน ?
ยังทำชั่ว ไม่กลัวภัย...............................ทำตนให้ เป็นไพรี

      อบายมุข ยิ่งชุกชุม...........................คนกลุ้มรุม สุมบัดสี
ทุจริต วิปริตมี.......................................เกิดคดี ทวีอาชญา

      คนรุ่นใหม่ ไกลศีลสัตย์.....................สารพัด หัดชั่วช้า
ชีวิตล่ม จมต่อตา...................................ไร้อนา คตหมดกัน

      ลองมองดู เรียนรู้เถิด........................ตั้งแต่เกิด-แก่-อาสัญ
ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น............................จงกวดขัน จรรยาเอย ฯ

๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕

วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ภาพขำขำ ๓๗

ภาพขำขำ ๓๗




ท่านสมาชิกสภาฯครับ

จากภาพที่ผมได้นำเสนอนี้

ท่านจะเห็นถึงความจำเป็น

ที่ทางมหา'ลัยฯ จะต้องจัดสรรงบประมาณ

มาซื้อกล้องวงจรปิด

เพื่อติดตามพฤติกรรมการสอบของบรรดาปัญญาชน

นะครับ...







อารายคร้าบบบบ

เจ้านาย...

พ้ม นะ ก้มหน้าก้มตาทำงาน อย่างทุ่มเท

ไม่ได้แอบงีบ หลับกลางวันเลยนะคร้าบบบบ

สาบานด้ายยยย...

แหะ แหะ แหะ







เดี๊ยนมีโครงการ...

จะเข้าสู่ประตูวิวาห์เร็วๆนี้ ค่ะ

เพื่อความสมบูรณ์แบบ

เลยมาเข้าครอส อบรมการเป็นแม่บ้านสักหน่อย

พอให้มีเสน่ห์ปลายจวัก กับเค้าด้วย

คิ คิ คิ








  ทำตัวให้น่ารักไว้นะลูก

พยายามผูกหัวใจคนให้ได้

ที่เหลือแม่จะจัดการอย่างไว

ชนิดที่ไม่ให้ใครรู้ตัว...

อิ อิ อิ

ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ





เฮ้ด บัต (Headbutt)....อัดซะเลย

เจ้าแมวเอ๋ย เคยผยอง

กระต่าย ไม่เป็นรอง

มาจองหอง ต้องเจ็บตัว...ฯ










โอ้..แม่เจ้า สาวสะพร่าง เรือนร่างใหญ่

ทำไฉน จึงได้เปี่ยม เสน่หา

เป็นที่หมาย ใคร่ปอง ของนก-กา

โปรดบอกข้า แม่หน้ามน บุญล้นเอย ฯ





ครอบครัว คือตัวจักร : กลอนคติเตือนใจ

                                                                homesecurity.inmyarea.com

ครอบครัว คือตัวจักร : กลอนคติเตือนใจ


      คน " เมตตา กรุณา " นั้นหายาก                 " มุทิตา " ยิ่งลำบาก ยลยากหา
มีมากเห็น เป็นปกติ ธรรมดา                                " อุเบกขา " ว่าปล่อยวาง " ช่างหัวมัน "

      แม้แต่ใน ครอบครัว ยังมัวหม่น                     เห็นแก่ตน จนไส ไร้สุขสันติ์
มักเอารัด เอาเปรียบ เหยียบย่ำกัน                          เป็นสามัญ ลักษณะ ประสบมี

      สถาบัน ครอบครัว คือตัวจักร                       สานสู่ภักดิ์ รักชาติ องอาจศรี
เผื่อแผ่แก่ สาธารณ์ สราญดี                                หรืออัปรีย์ เอาแต่ได้ ใฝ่แต่ตน

      " เมตตา " เนา หวังเขาให้ ได้เป็นสุข            " กรุณา "หมาย ให้ทุกข์ พันผูกพ้น
" มุทิตา " เห็นเขาดี ปีติดล                                 " อุเบกขา " สามารถพ้น จำนนใจ

      ควรปลูกฝัง สร้างใฝ่ ให้ฟุ้งเฟื่อง                   ธรรมรุ่งเรือง เปลื้องคด หมดทรามไข
แก่ครอบครัว ตัวตน จนแผ่ไป                               สังคมให้ ไกลโลก โภคภาคย์เอย ฯ

๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕

วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ฟ้ายัง ถูกบังได้ : กาพย์ยานี ๑๑



ฟ้ายัง ถูกบังได้ : กาพย์ยานี ๑๑

      คืนค่ำ ยามเดือนหงาย.............เดินเดียวดาย ในไพรสณฑ์
ริมชลา กระแสชล.........................แสนสงบ สบสบาย

      เดือนเย็น วันเพ็ญย่าง..............สุกสว่าง พร่างเฉิดฉาย
เมฆา มาเกลื่อนกราย.....................พรางดาวดับ ลับเลือนตา

      ฟ้ากว้าง โดนบังบด..................จนมืดหมด ทศทิศา
ฟ้าแลบ แปลบปลาบตา...................ระคนร้อง กึกก้องไกล

      ลมพัด สะบัดพฤกษ์..................คะนองคึก อึกทึกไข
ก่อนครา เมฆาไคล..........................ไร้หยาดฝน ยลราตรี

      ฟ้ายัง ถูกบังได้.........................โดยที่ไม่ คลายสุกสี
ไม่ต่าง ดั่งชีวี..................................มีปัญหา มาประดัง

      อย่าให้ ใจหมองหม่น..................ทุกข์ระทน จนสิ้นหวัง
อย่าท้อ ต่อพลัง...............................กรรมวิบาก กรายกรากกรม

      อดทน กุศลจิต...........................สร้างสรรค์คิด พินิจคม
โลกา อย่าปรารมภ์.............................ปัญหารก ปกติเป็น

      รู้ทำ แต่ความดี............................การใดที่ มีผลเข็ญ
หลีกเลี่ยง เพียงดั่งเพ็ญ.......................เร้นเมฆา กระจ่างเอย ฯ

๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๕

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เดือนเสี้ยวเรียวสวย : สาลินีฉันท์ ๑๑



เดือนเสี้ยวเรียวสวย : สาลินีฉันท์ ๑๑

      เมฆหม่น เพิ่งพ้นผ่าน...............พิรุณราน ริพาลหนี
ข้างขึ้น รื่นฤดี...............................นภามี ศศิธร

      แม้เรียว เพียงเสี้ยวเศษ............พระจันทร์เดช มิเศษสร
แจ่มฟ้า งามสาทร.........................อมรมิ่ง พริ้งพราว

      พฤกษา หลังฟ้าฝน.................ระรื่นชล พิมลฉาว
หยดน้ำ ย่ำเกรียวกราว....................เพราะพริ้วลม ชโลมชาย

      เงาไม้ ค้ำไขว่ฟ้า.....................ประหนึ่งว่า จะมุ่งหมาย
คว้าดาว ที่พราวพราย.....................สะพรั่งสรรพ ประดับดง

      คนดี แม้มีน้อย........................สมัยร้อย ฤทัยหลง
คนชั่ว เชิดตัวตรง...........................เถลิงร่า สถาวร

      สาธารณ์ มากมารยา..................ทุจริตกล้า มิอาทร
จรรยา ระย่อหย่อน...........................กุศลธรรม มิสัมมา

      คนดี มีความชอบ.......................สะคราญครอบ ณ รอบหล้า
(คน)ดีน้อย มิพร้อย;พา....................สกลโลก วิโยคภัย

      ดั่งเดือน เรียวเลือนเห็น...............ละเสี้ยวเป็น ลุเพ็ญใส
ส่องฟ้า ราตรีไตร..............................สว่างซ่าน สราญเอย ฯ

๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

กินน้ำใต้ศอก : กลอนสำนวนคำพังเพย(กลอนแปด)



กินน้ำใต้ศอก : กลอนสำนวนคำพังเพย(กลอนแปด)

      คน" กินน้ำ ใต้ศอก " แสนชอกช้ำ               อก ระกำ ต่ำต้อย ด้อยหลักฐาน
ทุกคืนค่ำ กล้ำกลืน ฝืนทรมาน                            นึกสงสาร ตัวเอง เพ่งน้ำตา

      อึดอัดใจ ระเหี่ย เป็นเบี้ยล่าง                      ถูกทิ้งขว้าง อย่างของ พร่องคุณค่า
แล้วแต่เขา จะคิด จิตเมตตา                               อนาถา อนาทร กัดกร่อนใจ

      คล้ายถูกส่ง ลงทัณฑ์ อันป่าเถื่อน                เปรียบเสมือน เลือนราง คว้างเคว้งไขว่
ดั่งเรือน้อย ลอยฝ่า ชลาลัย                                โดยที่ไร้ หางเสือ เรื้อทิศทาง

      เพราะจิตใจ ใคร่ครวญ ไม่ถ้วนถี่                  มักง่ายมี นิสัย ไม่สะสาง
ด้อยพัฒนา ความสามารถ ไม่วาดวาง                    คิดพึ่งพราง บางคน จนลืมไป

      ต้องคิดอ่าน กาลไกล อาศัยตน                   ต้องอดทน ผลงาน สานสร้างใส
ต้องตั้งจิต สุจริต เป็นนิจนัย                                ต้องตั้งใจ ใคร่ดี มีศีลธรรม

      อย่ามักง่าย ไร้ค่า อาศัยเขา                       ลดค่าเรา เศร้าหมอง ตรองจิตขำ
คนซื่อตรง ทรงสุจริต ไม่คิดจำ-                           นน" กินน้ำ ใต้ศอก " ยอก อกเอย ฯ

๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕

วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แบ่งชั้นวรรณะ วิถี อวิชชา : กลอนคติเตือนใจ

                                                                              Google

แบ่งชั้นวรรณะ วิถี อวิชชา : กลอนคติเตือนใจ

      เอื้องดอยเกาะ ละเมาะไม้.................ยอดสูงใหญ่ ในสิงขร
แย้มดอกงาม ยามแดดรอน.....................กลีบไหวอ่อน ตอนลมชาย

      คนยก ว่า เป็นราชินี..........................แห่งมาลี มีมวลหลาย
เดียดดอกหญ้า สามานย์ดาย....................ต้อยต่ำคล้าย ไร้ค่าทราม

      ดอกหญ้าดู มิใยดี............................ต่อท่าที ที่เหยียดหยาม
ดอกกล้วยไม้ ไม่หลงลาม........................ตามมารยา โมหะวิธี

      ทรัพย์-ยศถา-บรรดาศักดิ์...................คนแยงลักษณ์ แยกศักดิ์ศรี
จิตผยอง คลองโลกีย์..............................ฤดีตาม ลามตัณหา

      กาม-ภาวะ-วิภาวะ.............................คือจรณะ อวิชชา
จิตใจปลง หลงอัตตา...............................ปรารถนา ประสาคน

      สร้างชนชั้น สรรค์วรรณะ.....................จินตนา สามานย์สนธิ์
เหยียดหยามเขา ไม่เท่าตน........................ยกตัวพ้น คนธรรมดา

      แบ่งชนชั้น ฉันสูงส่ง............................แยกดำรง เผ่าพงศา
เดียดเขาต่ำ ทรามไร้ค่า.............................ประหนึ่งว่า ฟ้ากับดิน

      ไม่รู้ตัว โฉดชั่วติด...............................เมามัวคิด มิจฉาถวิล
หัวใจหยาบ บาปมลทิน...............................ทรามชีวิน ต่ำอินทรีย์

      ค่านิยม คนสมยอม...............................ก้มหัวน้อม ค้อมบัดสี
จะยังอยู่ คู่โลกีย์.........................................ยงวิถี อวิชชา ฯ

๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ 

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ดินเฟื้อ ฟ้าเผื่อแผ่ : กาพย์ยานี ๑๑


                                           
ดินเฟื้อ ฟ้าเผื่อแผ่ : กาพย์ยานี ๑๑


      แค่เพียง เพิ่งเที่ยงวัน...............สุริยัน พลันลับหาย
เมฆฝน มืดมนกราย........................กรีฑากลบ นภดล

      แรงลม รี่โถมพัด......................ทึ้งยอดสัต ตบรรณหล่น
หูกวาง ใบคว้างจล..........................หลุดจากต้น พ้นไปไกล

      ฟ้าแลบ แสงแปลบปลาบ............ฟ้าร้องสาป สะเทือนไหว
ฝนเท เฉเฉียงไป.............................ตามแรงลม จู่โจมดิน

      พายุ ฤดูร้อน.............................พัดคลายผ่อน ร้อนผ่าวสิ้น
ไอฝน ไร้มลทิน................................นำพาหนาว เข้าแทรกทรวง

      ฝนริน จนสิ้นแรง.........................ไม่แอบแฝง แสร้งแหนหวง
ดินชุ่ม อุ้มน้ำ ; ช่วง.............................ชิงจากฟ้า ก็หาไม่

      ดินเพี้ยง เลี้ยงพนา.......................สัตว์สิงสา เนื่องอาศัย
น้ำเลย ละเหยใบ................................สู่ฟ้าจบ ครบวงจร

      ดินเฟื้อ ฟ้าเผื่อแผ่.........................ยลรู้แน่ แลดูย้อน
แบ่งปัน สุนทานธร...............................ไม่เบียนเบียด เกลียดชังกัน

      ฟ้าอยู่ คู่แผ่นดิน.............................ทุกชีวิน ทั้งสิ้นสรร
ล้วนอยู่ คู่พงศ์พันธุ์................................ควรเมตตา เอื้ออารี

      อย่าเอา รัดเอาเปรียบ.......................อย่าหยันเหยียบ เทียบกดขี่
อย่าเห็น แก่ตนดี....................................อย่าย่ำยี ชีวีเลย ฯ

๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕

วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ภาพขำขำ ๓๖



ภาพขำขำ ๓๖




  ฮึ้ม....ทำอย่างนี้ ใช้ได้ที่ไหน

กินเข้าไป ค่อยให้ปัน มันแสลง

หน้าตาดี แต่ขี้เหนียว เขี้ยวอย่างแรง

ขอสาปแช่ง แมงกินฟัน เร็ววันเทอญ ฯ


ถ้าหวังจะให้ถอนคำสาป

ต้องเอามาแก้  10 หวีใหญ่ๆเลย

ฮึ ! งอลล์




ของสวยๆ ช่วยบ่ได้

ไม่ว่าใคร ก็ใคร่เหลียว

อย่ามาล้อ " ชีกอ " เชียว

เดี๋ยวเข้าใจ ผิดไปเอย ฯ

ความจริง เค้า บอ-รี-สูด....

อิ อิ อิ




ข่าวด่วน !

ประกาศ

ขณะนี้ ได้เกิดคดีฆ่า-ข่มขืน ต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สเก๊ตช์ ภาพคนร้าย

และนำออกเผยแพร่แล้ว

ประชาชนท่านใด พบเห็นชายผู้นี้

หรือรู้เบาะแส

โปรดแจ้ง 19191



ฮาโหล...

คุณหมอเหรอครับ ?

ไม่มีอะไรมากหรอกครับ

แค่ผมอยากถามว่า  ยาที่คุณหมอสั่งให้ผมทาน

มีผลข้างเคียงต่อการมองเห็นหรือเปล่าครับ ?

อย่างเช่นว่า....

เห็นม้าลาย  เดินอยู่บนทางม้าลาย...

                                                                    อะไรทำนองนี้...อ่ะครับ....




          


ในวันที่เราต้องไกลห่าง ในวันที่เธอนั้นอ้างว้าง

อยากให้รู้ว่ารักไม่เคยห่าง ใจฉันอยู่ข้างๆเธอ

ในวันที่เราต้องไกลกัน ข้างกายของเธอไม่มีฉัน

เธออาจพบใครๆ แล้วไหวหวั่น ขอเธอนั้นอย่าปันหัวใจ

มองได้แต่อย่าชอบ เพราะมันจะทำให้ใจฉันบอบช้ำ

คุยได้แต่อย่านาน อย่าสร้างความผูกพันให้ใจฉันไหวหวั่น

สนิทได้แต่อย่ามาก เดี๋ยวมันจะเกินมากกว่าเป็นเพื่อนกัน

ที่ไม่ได้และขอไว้นั้น คือรักที่ให้ฉันเธออย่าปันให้ใคร

          




แหม....เพื่อนรัก

ชั้นอยากให้นายมาเห็นซักที

นานๆ จะได้ขึ้นมาสูดอากาศบนนี้

วิวที่มีความสวย เต็มไปด้วยสิ่งบันเทิงใจ ฯ

อ้า..........สดชื่นนนนนน






          

..เทียนจุดเวียนพระพุท-ธา

ตัว ข้า บุษบาขออธิษฐาน

...เทียนที่เวียนนมัสการ 

บันดาลให้ หทัยสมปรารถนา

ดลจิตอิเหนา ให้เขามารักข้า

ขอองค์พระปฏิมา เมตตาช่วยคิดอุ้มชู

ขอเทียนที่เวียนวน ดลฤทัยสิงสู่

ให้องค์ระเด่นเอ็นดู อย่าได้รู้คลายคลอน

...อ้า องค์พระพุท-ธา 

ตัวข้า บุษบาขอกราบวิงวอน 

...ข้าสวดมนต์ขอพระพร

วิงวอนให้ หทัยระเด่นปรานี

รักอย่าเคลือบแฝง ดังแสงเทียนริบหรี่

ขอองค์ระเด่นมนตรี โปรดมีจิตนึกเมตตา

ขอเทียนที่เสี่ยงทาย ดลให้คนรักข้า

รักเพียงแต่บุษบา ดั่งข้านี้ ตั้งใจ

          







พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ : กลอนแปด




พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ : กลอนแปด


      ณ " พุทธะ ชยันตี " ปีบวร                   อนุสรณ์ ย้อนสู่ ตรัสรู้เห็น
แห่งพุทธะ ประสงค์ ทรงบำเพ็ญ                      สำเร็จเป็น อภิชาต ศาสดา

      ๒,๖๐๐ ปี ที่ปรากฏ                            โลกุตรธรรม งามบท ปลดทุกขา
อริยสัจ จา ๔ สุวิชชา                                   ที่นำพา เวไนยสัตว์ พ้นวัฏฏ์วน

      ทุกข์ : ขันธ์ ๕ อุปาทาน บีบคั้นใจ           สมุทัย : คือตัณหา อกุศล
นิโรธ : ดับ ทุกข์สิ้น หมดดิ้นรน                       มรรค ๘ หน ศีล-สมา ธิ-ปัญญา

      ปริญญา : เข้าใจ ในทุกข์เขต                 ปหานะ : ละเหตุ เภทตัณหา
สัจฉิกิริยา : ทำให้แจ้ง นิพพานา                     ภาวนา : ปฏิบัติ ด้วยสัตย์จริง

      อย่ามัวแต่ บูชา ด้วยอามิษ                     ละเลย " จิต " มิจฉา ตัณหาสิง
" ปฏิบัติ " บูชา อุตส่าห์อิง                              สบผลยิ่ง ทิ้งทุกข์ เป็นสุขเทอญ ฯ

 “พุทธชยันตี แปลตามศัพท์ว่า “ความมีชัยชนะของพระพุทธเจ้า
อธิบายขยายความว่า “การประสบชัยชนะที่มีต่อหมู่มารและกิเลสของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในคืนวันที่ตรัสรู้”
กล่าวคือ ในยามค่ำคืนแห่งวันตรัสรู้นั้น พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญเพียรทางจิตต่อสู้กับหมู่มารและกิเลสในพระทัย
จนประสบชัยชนะ สำเร็จเป็นพระอรหันต์ผู้มีพระทัยบริสุทธิ์ดับเพลิงทุกข์เพลิงกิเลสได้หมดสิ้น
และสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง
เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นในยามราตรีแห่งวันเพ็ญเดือนวิสาขะ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖
ณ ภายใต้ควงไม้อัสสัตถพฤกษ์ (ต้นโพ
ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ ดินแดนชมพูทวีป เมื่อก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี 

 อริยสัจจ์ 4 เป็นหลักคำสอนหนึ่งของระพุทธเจ้า แปลว่า ความจริงอันประเสริฐ ความจริงของพระอริยะ หรือความจริงที่ทำให้ผู้เข้าถึงกลายเป็นอริยะ 
       1. ทุกข์ 
       2. ทุกขสมุทัย
       3. ทุกขนิโรธ 
       4. ทุกขนิโรธคามีนิปฏิปทา เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มัชฌิมาปฏิปทา แปลว่า ทางสายกลาง 
           มรรคมีองค์ 8 นี้ สรุปลงในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา

กิจในอริยสัจ คือสิ่งที่ต้องทำต่ออริยสัจ 4 แต่ละข้อ ได้แก่
      1.ปริญญา 
      2.ปหานะ
      3.สัจฉิกิริยา
      4.ภาวนา

๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สุขใจในไพรพง : กาพย์ฉบัง ๑๖



สุขใจในไพรพง : กาพย์ฉบัง ๑๖


      เดียวดายอยู่ในไพรพง..............ตั้งสติตรง
มิงงพะวงหลงใหล

      อากาศบริสุทธิ์ฉุดใจ...............ตกภวังค์ดั่งไป
อยู่ในแห่งห้วงสรวงสวรรค์

      ลมเย็นเล่นไล้พรายพรรณ..............ชโลมผิวฉันท์
สำราญล้ำเลิศเจริดจินต์

      พยับแดดแวดธรณิน..............โอบกอดกายิน-
ทรีย์มิสิ้นอบอุ่นอาย

      ลืมทุกข์แสนสุขสบาย..............โดดเดี่ยวเดียวดาย
ปัญหาระเคืองคายไม่มี

      ธรรมชาติอัศจรรย์ดาลศรี.............สุขเขษมเปรมปรีดิ์
ไม่ใยดีโลกียกรรม

      เห็นแจ้งสัจจานิรนำ..............โลกุตรธรรม 
ชุ่มฉ่ำดำรงทรงกุศล

      จะมีใครสักกี่คน ?..............วิรตะกมล
ไม่ยลยืดยึดโภคี

      คุณสมบัติปราชญาเมธี.............อริยะรดี
ผู้มีเนกขัมบำเทิงเอย ฯ

๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕