ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ทำมาหากิน : กาพย์ฉบัง๑๖


ทำมาหากิน : กาพย์ฉบัง๑๖

    ทำมาหาเลี้่ยงชีวิต...................(เป็น)ชีวันภารกิจ(ภาร ให้อ่าน พาน)
อย่าคิดอิดหนาสาไถย

    ชีวีต้องมีปัจจัย...................รักษา-อาศัย
ให้อยู่รอดปลอดทุกข์เข็ญ

    อย่ามัวเมาเอาแต่เล่น..................ประดุจดั่งเช่น
เป็นเด็กไม่ประสีประสา

    ปล่อยจิตปล่อยใจใช้เวลา..................ปราศจากคุณค่า
(กับ)เรื่องไร้สาระปองประสงค์

    ก่อบาปหยาบทรามจำนง.................เหลวไหลใฝ่พะวง
มิซื่อตรงทรงจินดา

    คิดคุดทุจริตมิจฉา....................เชี่ยวชาญมารยา
ปรารถนาลามก รกฤดี

    จงเข้าใจในวิถี...................ธรรมชาติชีวี
ที่ต้องกิน-ใช้ปัจจัยหา

    เพื่อการดำรงชีวา................อยู่บนโลกา
(ที่)แหล่งให้พึ่งพาหายากแสน

    ครึ่งของปัถพินดินแดน..................กันดารขาดแคลน
แร้นแค้นชีวาตม์ปัจจัย

    รู้จักอุตส่าห์หาไว้..................เก็บออมถนอมให้
ภายหน้าอย่าขัดสนเอยฯ

๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๑

วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2561

หายใจเป็นหวย : กลอนสะท้อนสังคม





หายใจเป็นหวย : กลอนสะท้อนสังคม

    ดื่นคน ด้นแสวง แสงสว่าง........................หนทาง แห่งความ พ้นทุกขา
ที่คอย แวะเวียน เปลี่ยนชีวา........................ให้เผชิญ ชะตา ยากระกำ

    มีคน มักง่าย ไม่สำนึก.............................ใคร่ด่วน ครวญตรึก ไร้ลึกล้ำ
ตระเวน เล่นหวย ด้วยหวังทำ(ให้).................รวยร่ำ เร็วไว ในทันที

    งานประจำ พร่ำเพรื่อ แสนเบื่อหน่าย...........เรรวน ขวนขวาย ในหน้าที่
ความตั้ง ใจ(ทำงาน)สิ้น หมดยินดี................(ทำ)แค่ขอ ไปที ทุกวี่วัน

    หวยออก วันไหน ให้คึกคัก.......................ปักหลัก ลุ้นถูก เป็นสุขสันติ์
หวยกิน สิ้นแรง แห้งชีวัน............................แก้มือ เท่านั้น นึกทันใด

    ลูกขอ เงินซื้อ หนังสือเรียน......................ผัดเพี้ยน ย้อนยอก หลอกผลักไส
แต่ถ้า ซ์้อหวย ฉวยเร็วไว............................ควักจ่าย ไม่ยั้ง คิดรั้งรอ

    อบายมุข ผูกใจ พระไม่น้อย......................เฝ้าคอย ใบ้หวย ด้วย(แถว่า)คนขอ
"โปรดสัตว์" อาตมา อ้างบ้าบอ.....................ไม่พอ (ยัง)ร่วมเล่น มิเห็นธรรม

    การพนัน พันธ์แพร่ กระแสเลือด.................บ่เคย แห้งเหือด หรือลดต่ำ
มักง่าย ไม่เว้น เป็นประจำ............................ครอบงำ ความคิด และจิตใจ

    เมื่อ(ประชาชน)ไม่ ขยัน หมั่นการกิจ...........เสพติด การพนัน เป็นงานใหญ่
อนาคต ตามคาด ของชาติไทย.....................คงไม่ มีวัน มั่งคงเอยฯ

๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๑

วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2561

บริษัทญี่ปุ่นกับสินบนในไทย!Suthichai Liveสุทธิชัย Live27/12/2018

ขอพรปีใหม่ : กาพย์ยานี๑๑


ขอพรปีใหม่ : กาพย์ยานี๑๑

    ดิถี แห่งปีใหม่...........................พรใดๆ ในแดนสยาม
ขอจง จรรโลงความ......................ล้ำเลิศให้ ไทยทั้งมวล

    ปรีดิ์เปรม เกษมสวัสดิ์.................สิ่งข้องขัด ไปปราศล้วน
เพลิดเพลิน จำเริญชวน.................ทุกถ้วนหน้า อย่าโศกี

    ตั้งตน กุศลธรรม........................สุจริตกรรม นำวิถี
ตั้งหน้า กระทำ(ความ)ดี.................แพร่หลายมี มานวิไล

    มิเห็น ผิดเป็นชอบ......................รอบคอบคิด วินิจฉัย
รู้จัก ยับยั้งใจ...............................มิหลงใหล อบายทาง

    มากมี สติปัญญา........................มุ่งศึกษา สัจจากระจ่าง
ทัศนะ อย่าเลือนราง......................สรรค์สร้างสิ่ง ที่ดีงาม

    อนุรักษ์ ธรรมชาติ.......................เพื่อชีวาตม์ พิลาสหลาม
อย่าได้ ทำให้ความ.......................ร้อนโลกเพิ่ม เริ่มลด(ลง)ไป

    เมตตา ปราณีกัน........................เลิกยึดมั่น เห็นแก่ได้
เสียสละ น้ำหทัย..........................ช่วยให้โลก เปี่ยมโชคดี

    หยุดถือ ตนเป็นใหญ่...................มองใครๆ เหมือนน้องพี่
ชีวัน เช่นอัญมณี...........................วิเศษสุทธิ์ ชุติมาฯ(ชุติมา=ผู้มีความรุ่งเรือง)

๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๑

วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เริ่มต้นแก้ปัญหาตรงไหนดี? : เรื่องสั้น



  





เริ่มต้นแก้ปัญหาตรงไหนดี? : เรื่องสั้น

    รู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึก
    ได้เสียงชายหนุ่ม 2-3 คนคุยกันเรื่องกินเหล้า-แต่งรถ จากบ้านที่อยู่หลังบ้านของฉัน สอดแทรกกับเสียงเฮฮาสนุกสนานของกลุ่มเด็กวัยรุ่น ดังไกลมาจากโรงเรียนวัด(เอกชน)
    "เวลาเท่าไรแล้ว?" ฉันนึกสงสัย จึงควานหามือถือมาเปิดดู
    " 01:29 น. ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป กลางวันมีงานต้องทำ" ฉันบอกตัวเอง ก่อนจะรวบรวมสมาธินอนหลับต่อไป

    เช้าวันนั้น
    โรงเรียนวัด(เอกชน)ใกล้บ้านเริ่มแข่งกีฬาสี มีนักเรียนมาเก็บตัวกิน-นอน เพื่อฝึกซ้อมกีฬากันที่โรงเรียน ชายหนุ่มหลังบ้านฉันมีหน้าที่ต้องขับรถนำหน้าขบวนพาเหรดกีฬาสี แต่ตีหนึ่งครึ่งยังไม่ยอมเข้านอน
    อดไม่ได้ ที่จะคิดถึงข่าวรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลวิ่งชนท้ายรถ 18 ล้อที่จอดข้างทาง ผู้ช่วยพยาบาลตาย 1 คน บาดเจ็บสาหัส 2 คน ตำรวจสันนิษฐานว่าคนขับรถฉุกเฉินหลับใน
    รู้ตัวว่าต้องขับรถแต่กลับกินเหล้าไม่หลับไม่นอน รู้ตัวว่านอนไม่เพียงพอแต่ก็มาขับรถฯลฯ คนขับรถมากมายเป็นเสียแบบนี้ ประเทศไทยจึงครองแชมป์โลกด้านอุบัติเหตุบนท้องถนน คนบริสุทธิ์ต้องสังเวยชีวิตให้กับความประมาทของคนไม่กี่คนทุกๆวัน

    สายของวันนั้น มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คนหนึ่งมาซื้อของ แล้วบ่นให้ฟังว่า
    "พวกนักโทษใช้ของไม่ทน"
    ฉันจึงพูดเสริมให้ว่า "ถ้าเป็นคนมีคุณภาพ คงไม่มาติดคุก"
    เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์บอกว่า "คุกก็ล้น-คนเก่าไม่มีที่นอน ยังมีคนใหม่เข้ามาเพิ่มอีก ตีกันมากมาย เดี๋ยวนี้เจ้าหน้าที่จะไปลงไม้ลงมือไม่ได้กับนักโทษแล้วนะ นักร้องเยอะ-โดนย้ายเด้งไปไกล เบื่อ" พูดแล้วก็หัวเราะเบาๆก่อนจะขับรถจักรยานยนต์จากไป

    ฉันเก็บเอามาคิดต่อ
    หลายสัปดาห์ก่อน มีข่าวซูเปอร์โพลเผยผลสำรวจเกาะติดความปลอดภัยของประชาชน” พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาข่มขืน-อุบัติเหตุ-ยาเสพติด เป็นการเร่งด่วน
    "แล้วจะเริ่มแก้ปัญหาตรงไหนดี?" ฉันลองคิดดู

    มีคำบ่นเปรียบเปรยให้ได้ยินบ่อยๆว่า "เราอยู่ในยุดที่พิชซ่ามาถึงก่อนตำรวจ" สะท้อนถึงปัญหาความปลอดภัยในสังคมไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ประพฤติตัวเป็นจำเลยสังคม ไม่ใช่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
    กฎหมายไทยก็มีข้อกำหนดพิลึกๆ เช่น การกำหนดโทษสูงสุดเอาไว้ ใครทำความผิดมากแค่ไหนก็ลงโทษได้ไม่เกินกว่านั้น
    เมื่อวันก่อนก็ข่าวเจ้าหน้าที่คลังโกงเงินของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง 689 ล้านบาท คนที่โดนลงโทษหนักสุดถูกศาลตัดสินให้คิดคุกรวม 203 ปี แต่กฎหมายกำหนดโทษสูงสุดไว้ไม่เกิน 50 ปี ศาลจึงตัดสินให้จำคุก 50 ปี ข้อกำหนดทำนองนี้มีแต่จะยุยงส่งเสริมให้คนทำผิดให้มากๆ เพราะได้รับโทษเท่ากับคนทำผิดน้อยกว่า
    การลดโทษแบบ "ลดแลกแจกแถม" ย่อมทำให้คนเลวๆคิดว่า ติดคุกแค่ประเดี๋ยวเดียวเดี๋ยวก็ได้ออกมา
    คนไทยชอบล้อเลียนการลดโทษของประเทศไทย เพราะไม่เคยเห็นข่าวแบบนี้ในชาติอื่น ฉันเคยอ่านความเห็นของคนไทยที่อยู่ญี่ปุ่นว่า ประเทศญี่ปุ่นไม่มีการลดโทษให้ใคร เพราะต้องการปรามไม่ให้คนทำผิดกฎหมาย
    โดยส่วนตัวก็เคยเห็นข่าวศาลประเทศสหรัฐอเมริกาตัดสินจำคุกเป็นร้อย-พันปี ไม่เห็นมีเรื่องกำหนดโทษสูงสุด-ลดโทษไว้แต่อย่างใด
    มีคนไทยไม่น้อยชอบอ้างความเป็นเมืองพุทธบ้าง อ้างหลักมนุษยธรรมบ้าง อ้างแรงกดดันจากสังคมโลกบ้างฯลฯ เพื่อเรียกร้องให้ลดโทษ-งดประหารให้แก่อาชญากร
    แต่คนพวกนี้มีใครสนใจผู้เสียหาย? เงินชดเชยจากรัฐ(ไม่กี่บาท) ไม่อาจทดแทนการสูญเสียของผู้เสียหายได้ คนทำผิดส่วนใหญ่ก็ไม่มีเงินชดใช้ค่าเสียหาย
    ความยุติธรรมที่เข้าข้างคนผิดจะสร้างวิกฤติให้แก่ผู้บริสุทธิ์
   
    ระบบการศึกษาของไทยที่มีปัญหาคาราคาซังเป็นดินพอกหางหมู ดูเหมือนการแก้ปัญหาจะเป็นการสร้างปัญหาใหม่มากกว่า
    แต่ก่อนครูชอบอ้างว่า การได้รับเงินเดือนต่ำไม่จูงใจให้คนเก่งๆมาเรียนวิชาครู-ประกอบอาชีพครู จึงมีการปรับฐานเงินเดือนครูจนสูงกว่าข้าราชการอื่นๆในสังกัด กพ.
    แต่ปรากฏว่าคุณภาพการศึกษาของไทย ไม่ได้สูงขึ้นตามเงินเดือนครูที่เทียบเท่ากับเงินเดือนแพทย์แล้ว มิหนำซ้ำยังทำท่าว่าจะสวนทาง-แย่ยิ่งกว่าเดิม เพราะการสอบวัดผลเมื่อเทียบกับต่างชาติ ไทยรั้งท้ายประเทศอาเซียนด้วยกัน (ที่ประชุมศก.โลก 'WEF' 2012-2013 จัดอันดับการศึกษาไทยรั้งท้ายอาเซียน ชี้เด็กไทยคิดไม่เป็น)
    เมื่อ"คิดไม่เป็น" ก็ไม่ต้องสงสัยแล้วว่าเด็กจะ"ทำอะไรเป็น รู้ว่าควรทำ-ไม่ควรทำอะไร?"
    เมามัวการพนัน สิ่งเสพย์ติด เพศสัมพันธ์ ไม่สนใจเรียนฯลฯ เป็นปัญหาใหญ่ของเด็กไทยสมัยนี้ พ่อแม่โทษโรงเรียน โรงเรียนโทษผู้ปกครอง
    
    มีความพยายามที่จะฝากความหวังไว้กับศาสนาพุทธ(ศาสนาหลักของคนไทย) สารพัดเงินงบประมาณจัดสรรให้ แถมท้ายด้วยยศถาบรรดาศักดิ์
    แต่จากข้อเท็จจริง โดยส่วนใหญ่คนมีฐานะ-โอกาสที่ดีในสังคมจะไม่ส่งลูกมาบวชเรียน แต่ไหนแต่ไรมา สามเณรที่บวชเรียนมักมาจากครอบครัวยากไร้ในชนบท บวชเรียนเพื่อหวังได้เรียนจบปริญญา-ลาสิกขาบทสึกออกมีงานทำ-สร้างครอบครัว
    เดี๋ยวนี้การบวชพระตามประเพณีก็ลดลง ใช้เวลาบวชน้อยลง คนเก่ง-มีการศึกษามักจะไม่อยู่เป็นพระนานๆ คนที่อยู่เป็นพระเพราะเลื่อมใสศรัทธาอยากจะปฏิบัติตามธรรมวินัยมีสัดส่วนน้อยมาก กิจกรรมของพระที่ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากคนในสังคม มักเป็นเรื่องไสยศาสตร์-อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ไม่ใช่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
    คนไทยส่วนใหญ่คาดหวังให้พระเป็นผู้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ที่ไม่ใช่หลักศาสนพุทธแต่เป็นศาสนาพราหมณ์ที่อยู่คู่วัฒนธรรมไทยมาอย่างยาวนาน การอ้าง"ประเพณี ความเป็นไทย" จึงเป็นอะไรที่ไม่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของคนที่มีความเชื่อและเกี่ยวข้องกับเรื่องไสยศาสตร์-เวทมนตร์-คาถาอาคม-เครื่องรางของขลัง
    กิจกรรมของวัดที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น มักสนับสนุนให้เกิดการสะสมความมั่งคั่งทางการเงิน  ปลูกสร้างถาวรวัตถุยิ่งใหญ่-สวยงาม และการส่งเสริมท่องเที่ยว มีหลายวัดโดยเฉพาะวัดที่มีชื่อเสียงที่พระมีกิจกรรมที่แทบไม่แตกต่างจากฆราวาส การดำเนินชีวิตที่ไม่สอดคล้องกับธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า
    พระทำผิดเลวร้ายให้มีข่าวอยู่แทบทุกวัน สะท้อนถึงปัญหาคนชั่วอาศัยผ้าเหลืองบังหน้าหากิน เพราะคนไทยไม่น้อยชอบทำบุญให้เงินพระแบบหลับหูหลับตา ไม่เคยศึกษาธรรมวินัยของพุทธศาสนา ไม่รู้ว่าพระแบบไหนดี-แบบไหนเลว ศรัทธากันตามที่ชอบใจ-ทำอะไรตามใจคือไทยแท้
   
    เป็นที่ยอมรับกันว่า
    รัฐบาลคือเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนและนำพาประเทศไปสู่ทิศทางที่ต้องการ รัฐบาลของประเทศที่่่ปกครองแบบประชาธิปไตย ได้มาจากการสนับสนุนของผู้แทนที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน การเลือกตั้งของประชาชนทำให้ได้คนซึ่งเป็นตัวแทน เข้าไปสู่สภาฯทำหน้าที่นิติบัญญัติและตั้งรัฐบาลขึ้นมาบริหารประเทศ
    การเมืองไทยไม่เคยหลุดพ้นจากวังวนของการเลือกตั้งและรัฐประหาร การเลือกตั้งของไทยไม่เคยปราศจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆให้อำนาจอธิปไตยแก่นักการเมือง ไม่ใช่ประชาชน ประชาชนเป็นเครื่องมือขึ้นก้าวสู่อำนาจของนักการเมือง มากกว่าจะควบคุมนักการเมือง แม้แต่การลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกผู้แทน ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังขาดความเป็นตัวของตัวเอง และนั่นก็เป็นโอกาสเดียวที่ใกล้เคียงกับความมีประชาธิปไตยมากที่สุด เท่าที่ประชาชนจะมีได้ในสังคมไทย เพราะการชุมนุมเรียกร้องใดๆของคนไทยในประเด็นการเมือง มักมีผลประโยชน์ของพรรคการเมืองซ่อนเร้นอยู่เสมอ   

    "เริ่มแก้ปัญหาตรงไหนดี?"
    จึงเป็นข้อปัญหา พอๆกับปัญหาสังคมที่มีลักษณะของปัญหาที่ไม่มีทางแก้ เพราะต้องแก้ปัญหาที่ตัวบุคคล-ประชาชนทุกคน อันเป็นกลไกขับเคลื่อนให้เกิดปัญหาและต้องร่วมกันแก้ปัญหา
    ในขณะที่่คนส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสำคัญกับ"การรักดี และความมีศีลธรรม" การแก้ปัญหาสังคมจึงคงเป็นเพียงข้อเรียกร้องที่จะไม่มีวันได้รับการตอบสนองตลอดไป
    สุดท้ายก็หนีไม่พ้นการเอาตัวรอดแบบตัวใครตัวมัน ที่ทำกันเป็นประจำฯ
   
๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๑

วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ทางเลือกของ ”บิ๊กตู่” กับทางออกของประเทศ : คนเคาะข่าว 25/12/2018



ความเห็นส่วนตัว
แอดมินไม่ห่วงว่า หลังเลือกตั้ง 2562 จะเกิดเหตุนองเลือกนะครับ
เพราะ
ตอนนี้ พรรคการเมืองเก่าๆอ่อนแอหมด ผู้นำพรรคใหญ่ๆมีคดีติดตัว-มีข้อครหามากมาย
กองทัพ-ตำรวจ-ราชการ อยู่ในการควบคุมของรัฐบาลอย่างเบ็ดเสร็จ

รัฐบาลมี "โครงการประชารัฐ"  

แจกแหลก ไม่ยอมน้อยหน้ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เอาใจรากหญ้า
ที่สำคัญ ผู้นำได้วางแผนสานต่ออำนาจ โดยได้รับการสนับสนุนจากนักการเมืองและนักธุรกิจจำนวนมาก

ที่น่าห่วงคือ 

ประชาธิปไตยหลังการเลือกตั้ง จะมีถึงครึ่งใบหรือเปล่า?

ชีวิตจริงคือสิ่งซับซ้อน-ยุ่งเหยิง : กลอนคติชีวิต

                                           สจล. พยากรณ์อากาศ(ฝน)ประเทศไทย
                                  


ชีวิตจริงคือสิ่งซับซ้อน-ยุ่งเหยิง : กลอนคติชีวิต

    ไม่เพียงแค่ กลางวันร่ำ.......................อากาศค่ำ เปลี่ยนหลามไหล
ร้อน(ขึ้น)-เย็นลง คงเป็นไป...................อย่างที่ไม่ มีแน่นอน

    ระหว่างวัน ก็ผันแปร..........................ความเย็นแล กระแสร้อน
เป็นอะไร ที่ไหวอ่อน............................สลับซับซ้อน ย้อนเวียนวน

    แต่ทว่า ธันวาฯปลาย.........................หากยังสยาย หยาดสายฝน
เป็นวิถี แปลกพิกล..............................ชวนฉงน สนเท่ห์หทัย

    ความเป็นจริง=สิ่งยุ่งเหยิง..................หลงระเริง ได้ที่ไหน
หากพลั้งพลาด อาจเจอภัย...................ที่ทำให้ ลืมไม่ลง

    ชีวิตจริง=สิ่งซับซ้อน.........................บ่แน่นอน ย้อนยอกบ่ง
แม้นมักง่าย ไม่พะวง...........................อาจถูกส่ง สู่พงพี

    ความคิดคน ล้นแตกต่าง.....................(ส่วนมาก)ชอบสรรสร้าง สิ่งบัดสี
คิดไม่ซื่อ คือวิธี..................................เกษมเปรมปรีดิ์ ครองชีวา

    มุ่งเอารัด เอาเปรียบเขา......................โดน(เอาเปรียบ)บ้างเล่า เฝ้าครหา
ปฏิสัมพันธ์(คน) มากมารยา...................อย่าประมาท ระมัดระวัง

    (คน)น้อยนักที่ ถือศีลธรรม...................ก่อบาปกรรม ทรามสมสั่ง
คอยประชุม(สร้าง) ความคลุ้มคลั่ง...........ให้สะพรั่ง ทั้งโลกเอยฯ

๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๑

วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ธรรมวิถี : กลอนธรรมะ


ธรรมวิถี : กลอนธรรมะ

    ราคะ(โลภะ) โทสะ โมหะ.....................คือ อ กุศล ต้นสาย
ทุกข์ ทรมาน เป็นบั้นปลาย.......................อย่าหมาย ได้ดิบ ได้ดี

    (ผู้)มุ่งจะ ขจัด อกุศล...........................(จง)ตั้งตน บนธรรม วิถี
ปฏิบัติ ขัดเกลา ฤดี................................อย่ามี กิเลส เวทนา

    วิถี ทางโลกย์ สร้างโศกเศร้า.................มอมเมา กระสัน ตัณหา
ตราบถ้า สติ ปัญญา...............................อ่อนล้า (จะ)เสียท่า ทันที

    เข้าใจ ในเหตุ แห่งผล.........................กุศล-อกุศล วิถี
(หมั่น)สำนึก ตรึกตรอง ถ่องดี..................จะมี วิสุทธิ์ วุฒิธรรม(วุฒิ=ความเจริญ,ความงอกงาม)

    เกิดกิเลส ตัณหา คราใด......................ประกฤติ จิตใจ ใฝ่ต่ำ(ประกฤติ=ต้นเหตุ,รากเหง้า)
ชักพา กระมล มืดดำ..............................เรื่องระยำ ทำได้ ง่ายดี

    ก่อกรรม ทำเวร เป็นหน-......................ทางผจญ ท้นทุกข์ สิ้นสุขี
ถูกหลัก ทำดี (ย่อม)ได้ดี........................ใครที่ ทำชั่ว ชั่วตอบแทน

    ประจักษ์ หลักการ มั่นเหมาะ.................สืบเสาะ เพาะบ่ม อุดมแหน
ศีลธรรม ค้ำจินต์ ดินแดน........................มาดแม้น ฝืนใจ ไม่ผ่อนปรน

    วิถี แห่งธรรม ล้ำเลิศ...........................ประเสริฐ วสุ กุศล(วสุ=ทรัพย์,สมบัติ)
จรุง สูงสุด มนุษย์ชน.............................ที่ค้น คว้าได้ ในโลกเอยฯ

๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๑

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ความดี-คนดีที่แท้จริง : กลอนเปล่า



ความดี-คนดีที่แท้จริง : กลอนเปล่า

    กระบวนการทางความคิด
สัมพันธ์กับระดับจิตใจ(มากกว่า)
ไม่ใช่การศึกษา

    เราจึงมักพบเห็น
คนเป็นนิสิต-บัณฑิตปริญญา(หรือมหาเปรียญ)
ทำอะไรหยาบช้า
ยิ่งกว่าคนไม่ได้เล่าเรียน
หลายต่อหลายคน

    เมื่อมีตำแหน่งใหญ่โต
มักโอ้อวด-โฉดฉล
ทำอะไรตามใจตน
กดขี่คนอื่นดื่นร่ำไป

    ความมีทัศนคติที่ดี
การประพฤติศีลธรรมช่วยชี้นำได้
มโนธรรมประจำใจ
เป็นปกติวิสัยในสาธุชน

    ความสามารถยับยั้งชั่งใจ
ควบคุมหทัยให้ห่างอกุศล
ความมีสติ-ดำริวิมล
ป้องกันบุคคลพ้นจากบาปกรรม

    หลักศีลธรรม(ของจริง)
อยู่นอกตำรา(หลักสูตร)การศึกษา(ของคน)
การท่องจำธรรมดา
จึงหาทำให้จิตใจเลิศล้ำ

    ความดีที่แท้
ได้แก่การกระทำ(ความดี)
ไม่ใช่สร้างวาทะกรรม
ทรงจำ(ธรรมะ)ไว้ได้มากมายมี

    หลงตน-เข้าข้างตน(ว่าเป็นคนดี)
เป็นเหตุผลบนโลกวิถี
เต็มไปด้วยความอัปรีย์
และคนที่บาปหนาเอยฯ

๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๑

วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ 24/12/61 : สมรภูมิ เงินบริจาค VS ท่อน้ำเลี้ยงเลือกตั้ง

ปัญหาปัญญาอ่อน : กาพย์ยานี๑๑




ปัญหาปัญญาอ่อน : กาพย์ยานี๑๑

    ปัญหา ปัญญาอ่อน...........................สิ่งสะท้อน สังคมไทย
ชอบทำ ความเสื่อมไส.........................เกิดขึ้นให้ ได้ปวดหัว

    (เช่น)โทรศัพท์ ป่วนตำรวจ.................คุยโอ้อวด เรื่องส่วนตัว
เบื้องหลัง หวังหาผัว............................ในเครื่องแบบ แสบทรวงสม

    เอาพระ ทำสามี................................พระใจดี ร่วมอภิรมย์
เถระ ชั้นพระพรหม...............................ยังนิยม ผสมพันธุ์

    จนยาก แต่อยากมี.............................ลูก(หลาน)ทวี ฤดีฝัน
(เด็ก)อดอยาก ช่างหัวมัน......................วอนรัฐบาล ช่วยเหลียวแล

    (ลูกหลานโตเป็น)วัยรุ่น วุ่นกาเม...........ทำเสเพล เหมือนพ่อแม่
แยกทาง กันตั้งแต่...............................เริ่มตั้งท้อง ร้องหา(แฟน)ใหม่

    ลูกเกิด มาไม่มี.................................พ่อแม่หนี สิพึ่งใคร?
คนแก่ ดูแลใกล้...................................เคียงวัวควาย ในท้องนา

    (หลายคน)ใบเกิด ก็ไม่มี.....................ทั้งชีวี พีปัญหา
ต้องเผชิญ โชคชะตา............................ที่หยาบช้า แตกหักพัง

    ส่วนใหญ่ ในชีวิต...............................พอจะเหลือสิท ธิเลือกตั้ง
เลือกใคร ที่จ่ายสตังค์...........................คือความ(สิ้น)หวัง ของชาติเอยฯ

๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๑

วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ความดีบริบาล : กาพย์สุรางคนางค์๒๘


ความดีบริบาล : กาพย์สุรางคนางค์๒๘

    ......................................เวลา ฟ้ารั่ว
ฝนสาย ไหลรัว....................มืดมัว ทุกหน
มิเห็น เมฆา........................แม้ น ภาดล
น้ำบ่า ถนน.........................ท้นท่วม พสุธา

    ......................................ฟ้าร้อง คำราม
สัญญาณ ปานปราม..............ถึงความ รู้ว่า
อย่าอยู่ กลางแจ้ง.................เพราะแรง ฟ้าผ่า
มิเคย เลือกหน้า...................คร่าชี วีใคร

    ......................................การทำ ความดี
สำคัญ มาน(ต้อง)มี...............สติ ระลึกได้
เจียนทรวง ล่วงหน้า..............จงอย่า สาไถย
ทบทวน ครวญใคร่................ให้ถูก คลองธรรม

    .......................................ควบคุม ความคิด
สุทธี พินิจ...........................จิตเพริศ เลิศล้ำ
ปิดกั้น อกุศล.......................ให้พ้น กลกรรม
อย่าได้ กรายกล้ำ..................ต่ำช้า สามานย์

    .......................................(เป็น)ชีวิต กิจวัตร
หมั่นตรึก ฝึกหัด....................ปฏิบัติ อาจหาญ
กุศล ท้นค่า..........................ศรัทธา สราญ
ชีวี บริบาล...........................ศานติ นิรมลฯ

๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๑

วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ปัญหาธรรมชาติชีวิต : กลอนคติชีวิต


*นักวิทย์นาซา ใช้ภาพดาวเทียมสำรวจโลกวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลกิจกรรมของมนุษย์บนโลก
เพื่อสร้างแผนที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของแหล่งน้ำจืดทั่วโลก
พบว่า บริเวณไหนที่น้ำมากก็จะยิ่งมีมาก บริเวณไหนที่น้ำน้อยก็จะยิ่งแห้งแล้ง

การเติบโตของพื้นที่เกษตร ที่มีการจัดสรรน้ำเพิ่มขึ้นเป็นดอกเห็ดมาตั้งแต่ปี 1987 จนถึงปัจจุบัน
เป็นสาเหตุที่อธิบายได้ถึง ความแห้งแล้งที่เพิ่มมากขึ้น
From <https://mgronline.com/science/detail/9610000049133>


ปัญหาธรรมชาติชีวิต : กลอนคติชีวิต

    (มี)แค่สังขาร ของคนตาย (ที่)ไม่ต้องสู้....................มิรับรู้ ความยาก ลำบากเข็ญ
เพราะแม้แต่ วิญญาณ ยังพานเวร..............................กรรมเก่าเป็น ปรากฏ กำหนดการณ์

    สัจสอดส่อง ตรองดู จะรู้จัก....................................ว่ามีหลัก ปรัชญา ให้(ชีวิต)กล้าหาญ
ธรรมชาติ โลกา แลจักรวาล.....................................สารพัดทุกข์ ทรมาน คอยดาลดล

    เพราะ(การมี)ปัญหา อุปสรรค เป็น(เรื่อง)ปกติ.............ของชีวะ วิถี มีทุกหน
ตั้งแต่เกิด จวบตาย กรายประจญ...............................ทั้งจากคน-สิ่งแวดล้อม พร้อมเพรียงพี

    ไม่มีกาล ปรากฏ (ชีวิต)หมดปัญหา..........................จงตั้งหน้า ตั้งตา อย่าท้อหนี
แก้ปัญหา ให้ได้ ใช้วิธี.............................................เสริมความรู้ สู่มี วิริยา

    ทำให้ดี เท่าที่ จิทำได้...........................................มิต้องไป ยึดมั่น (ว่าจะทำให้)หมดปัญหา
ปัญหาเก่า ผ่านไป ใหม่เข้ามา...................................ตามประสา ธรรมชาติ สัจจะจริง

    สำคัญคือ คนเรา อย่าเขลาโง่.................................สร้างปัญหา พาโล โมหะสิง
หาเรื่องให้ (ตัวเอง)ลำบาก อยากในสิ่ง.......................ไร้สาระ, ทอดทิ้ง ความจริงไป

    คนทำให้ ปัญหา(ชีวิต) มากกว่าเก่า..........................โลกของเรา จึงเศร้าโศก วิโยคไส
เกินกว่าที่ ธรรมชาติ อุบัติไว้......................................เป็นอะไร ที่โง่เขลา เบาปัญญา

    หลังจากยุค ปฏิวัติ อุตสาหกรรม...............................คนก็ทำ ให้โลกนี้ ทวีปัญหา
ถึงขนาด อาจเปลี่ยน แปลงพสุธา...............................สูญชีวา ณ สิ้น ศตวรรษเอยฯ

๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๑

วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2561

กฎหมายให้ท้ายคนชั่ว : กลอนปัญหาสังคม






กฎหมายให้ท้ายคนชั่ว : กลอนปัญหาสังคม

    เมื่อกฎหมาย ให้ท้ายเด็ก....................เขายังเล็ก ไม่รู้ประสา
ถึงรุมโทรม ข่มขืน-ฆ่าฯลฯ.....................ต้องลดรา อย่าลงทัณฑ์

    เพราะรู้เท่า ไม่ถึงการณ์......................อ้างกับศาล พิสดารสรรค์
พ้นข้อหา อาชญากรรม์.........................ส่งสุขพลัน บ้านเมตตา

    ฤาสร้างความ มีสำนึก?.......................ให้รู้สึก เพ่งอุตสาห์
เปลี่ยนแปลงตน พ้นพาลา.....................ทรงจริยา รักศีลธรรม

    (ที่แท้)มีแต่(เสริม)ให้ เด็กใจชั่ว............ไม่เกรงกลัว กฎหมายส่ำ
เที่ยวสถุล ทารุณกรรม..........................เช้าจรดค่ำ ข่าวร่ำไป

    มิสงสาร ผู้บริสุทธิ์..............................ปราศ(จาก)ความยุติ (ติ)ธรรมได้
ส่วนเยาวชน คนจัญไร...........................ลดโทษให้ มากมายเกิน

    อยากอวดโอ้ สร้างโวหาร.....................ให้สาธารณ์ โลกสรรเสริญ
(ความมี)มนุษยธรรม ฉันจำเริญ...............แต่หมางเมิน (หลัก)ยุติธรรม

    พิจารณา ผลกระทบ............................สังคมประสบ ความระห่ำ
เอือมระอา เด็กระยำ..............................ที่หมั่นทำ เลวทรามทวี

    (ความ)อยุติธรรม ทางกฎหมาย.............(คือ)สิ่งเลวร้าย ทำลายวิถี
ลงโทษ(คน)พาล อภิบาล(คน)ดี..............น่าบัดสี พิกลเอยฯ

๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๑

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เจ้าขุนมูลนาย : กาพย์สุรางคนางค์๒๘




เจ้าขุนมูลนาย : กาพย์สุรางคนางค์๒๘

    ...........................................เจ้าขุน มูลนาย
ยังมิ สูญสลาย...........................ไปจาก ถิ่นสถาน
โมหะ ค่านิยม............................อุดม ธรรมพาล
จมปลัก ดักดาน.........................แบ่งชั้น ชนไทย

    ............................................เป็นเหตุ แห่งผล
บริการ ประชาชน........................มืดมน วิสัย
ชอบช่าง วางมาด.......................อำนาจ บาตรใหญ่
ฝังจิต ฝังใจ...............................(รุ่น)เก่าไป (รุ่น)ใหม่แทน

    ............................................ใช่แค่ ข้าราชการ
แม้แต่ ชาวบ้าน...........................ก็ทะยาน อยากแสน
(เป็น)เจ้าคน นายคน....................แสดงตน ทั่วแดน
รวมทั้ง ผู้แทน............................ราษฎร อ่อนใจ

    ............................................พระก็ พอกัน
ยังแบ่ง ชนชั้น............................มารยา สาไถย
รวมทั้ง ภารโรง..........................เหยียดโยง ลงไป
เด็กโดน ผู้ใหญ่..........................ผลักให้ ต่ำตน

    ............................................คือวัฒ นธรรม
ภาระ ประจำ..............................สร้างความ ขัดสน
ทำลาย ไมตรี............................ศีลธรรม นำกมล
ก่อบาป สรรพผล........................ท้นถิ่น ไทยเอยฯ

๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๑