ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2562

พุทธที่เป็นคติชีวิต ไม่ใช่ประเพณี : กาพย์ฉบัง๑๖



พุทธที่เป็นคติชีวิต ไม่ใช่ประเพณี : กาพย์ฉบัง๑๖

    คติชีวิตแบบพุทธ.....................โสภีบริสุทธิ์
เพราะหยุดก่อกรรมทำเข็ญ

    วิมลกุศลธรรมบำเพ็ญ....................ชั่วช้าละเว้น
ถือเป็นปกติวิสัย(เป็นศีล)

    ครองหลักศีลธรรมอำไพ....................ควบคุมกาย-ใจ
มิให้ล่วงสู่อกุศล

    หนักแน่นมั่งคงกระมล....................ประคับประคองตน
ยืนหยัดบนกุศลหนทาง

    ขัดเกลาจิตใจใสกระจ่าง.....................ปวงกิเลสล้าง
ตัณหาสะสางให้ห่างหาย

    ขจัดมลทินจินต์มลาย..................เสื่อมสูญสลาย
ไม่คลายปฏิบัติเป็นวัตรศรี

    (คือ)พุทธที่เป็นคติชีวี..................ไม่ใช่ประเพณี
(ทำ)พอเป็นพิธีตามเขาไป

    ต้องมีความรู้ความเข้าใจ....................อย่างสิ้นสงสัย
ในหลักปฏิบัติ-เหตุ-ผลฯลฯ

    น้อมรับมากำกับกระมล....................ยอมประพฤติตน
อย่างคนสมัคร(ใจ)หนักแน่นหนา

    (จึง)มิหวั่นไหวในศรัทธา...................แม้วันเวลา
จะล่วงชรา-มรณาเอยฯ

๓๐ เมษายน ๒๕๖๒

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2562

การทำหน้าที่ชีวิต : กลอนคติชีวิต


การทำหน้าที่ชีวิต : กลอนคติชีวิต

    การทำ หน้าที่ ในชีวิต...............................................ทำผิด ทำถูก ผูกพันผล
ทำผิด จะนำ ทุกข์จำนน.............................................หากทำ ถูกท้น สุขล้นเนือง

    ชีวา หน้าที่ ไม่มีกลางๆ..............................................ระหว่าง ถูก-ผิด ให้คิดเฟื่อง
ทำดี มีผล ดลรุ่งเรือง.................................................ทำฉ้อ(ชั่ว) ก่อเรื่อง โทษเคืองจินต์

    จงตัด สินใจ ให้รอบคอบ............................................อย่าเอา ความชอบ เป็นกรอบถวิล
ยึดมั่น ตัณหา มักราคิน...............................................ควรยิน ดีย่าง คล้อยทางธรรม

    ตั้งใจ อุตสาห์ ทำหน้าที่.............................................ให้ดี ประเสริฐ งามเลิศล้ำ
วิริยะ วิจิตร สุจริตกรรม...............................................ย่อมนำ ผลนอง รองเรืองมี

    ทำ(หน้าที่)ดี มีชัย ไปกว่าครึ่ง......................................ซาบซึ้ง ถึงหลัก แห่งศักดิ์ศรี
ปราศจาก มลทิน สิ้นราคี............................................ย่อมมี เกียรติศักดิ์ ภาคภูมิใจ

    ทำชั่ว ทั่วท้น คนครหา...............................................โทษทัณฑ์ พรรณนา พาหวั่นไหว
ทำถูก สุขทวี ปรีดิ์เปรมฤทัย........................................กินได้ นอนหลับ ไร้อับจน

    (ทำ)แค่ขอ ไปที มีความผิด........................................(เท่ากับ)ทุจริต จิตไพร่ ใจฉ้อฉล
ขาดความ จริงใจ ในกระมล.........................................ก็คือ อกุศล บาปหนทาง

    การทำ หน้าที่ ในชีวิต................................................จงคิด พิสมัย ความใสสว่าง
สะอาด บริสุทธิ์ ดุจน้ำค้าง...........................................พราวพร่าง กลางนภา อุษาเทอญฯ

๒๙ เมษายน ๒๕๖๒

วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2562

เรื่องถนัดคือโทษรัฐบาล : กาพย์ยานี๑๑





เรื่องถนัดคือโทษรัฐบาล : กาพย์ยานี๑๑

    แทนที่ มีเวลา......................................................จะอุตสา หะ(ทำมา)หากิน
(กลับ)โง่เขลา เมาถวิล..........................................ดิ้นรนเน้น เล่นการพนัน

    (โอกาส)ได้(เงิน)ยาก เสีย(เงิน)มาก-ง่าย...................ยังขวนขวาย หมายแข็งขัน
วิถี ของชีวัน........................................................เฝ้าฝันใฝ่ (แต่)ไม่พยายาม(ทำงาน)

    ฝันว่า ฉันจะรวย....................................................ทุ่มซื้อหวย ด้วยใจย่าม(ย่ามใจ)
อุระ ตะกละตะกลาม..............................................มีแค่ความ โลภธำรง

    เข้าวัด ไม่ปรารถนา................................................พุทธสัมมา อานิสงส์
(อยากแค่)ขอหวย อย่างงวยงง................................กิเลสคง มิเสื่อมคลาย

    พิธีกรรม ตามร่วมเข้า..............................................ถูกมอมเมา เขาหลอกขาย
(พุทธ)พาณิชย์ ติดง่ายดาย.....................................(เพราะ)ชอบไสยศาสตร์ อาจอุรา(อาจ=กล้า)

    เงินหมด อดใช้สอย................................................ได้แต่คอย ละห้อยหา
รัฐบาล จะหันมา....................................................แจกเงินตรา ประชานิยม

    ถนัด(แต่) โทษรัฐบาล.............................................ตน(กลับ)เกียจคร้าน พาลสั่งสม
มั่วสุม รุมถล่ม.......................................................(ด่า)รัฐบาลผิด (ทำ)เศรษฐกิจพัง

    ตนยัง (หวัง)พึ่งไม่ได้..............................................คนอื่นใด อย่าไปหวัง
(คำสอน)ทำดี มิเชื่อฟัง...........................................ตั้งโทษเขา งี่เง่าเอยฯ

๒๘ เมษายน ๒๕๖๒

วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2562

อย่าส่งลูกมาทรมาน : กาพย์สุรางคนางค์๒๘







อย่าส่งลูกมาทรมาน : กาพย์สุรางคนางค์๒๘

    .................................................ฝนตก ตอนเช้า
อากาศ ร้อนเร่า............................บรรเทา ลงถนัด
ฟ้ามืด สลัว.................................(เมฆปกคลุม)มัวเห็น ไม่เด่นชัด
สุรีย์ ศรีสวัสดิ์..............................ทัศนะ วิสัย

    .................................................แมงเม่า โผบิน
หลากหลาม ตามดิน.....................แม้กิน ไม่ได้
แมวเล่น ไล่จับ............................อย่างกับ ประทับใจ
บรรยากาศ วันใหม่.......................ในสุด สัปดาห์

    .................................................ลูกเล็ก เด็กน้อย
ยังคง ต้องคอย............................(ให้พ่อแม่)ดูแล รักษา
วัยกิน วัยนอน..............................อ่อนแอ กายา(จิตใจ อารมณ์)
ต้องการ พัฒนา(ทุกด้าน)...............ก้าวหน้า ต่อไป

    .................................................อย่าพา มาบวช
ฝืนทน มนต์สวด...........................ปวดหัว-เบื่อไฉนฯลฯ
อดกิน อดนอน.............................บั่นทอน (สุข)อนามัย
ศีล-สมาธิฯลฯ มิสนใจ...................ไร้สา ระปาน

    .................................................หลักการ บรรพชา
มุ่งพ้น โลกา................................วัฏฏะ สงสาร
(เหมาะ)สำหรับ ผู้ใหญ่...................ผู้ไม่ ต้องการ
โลกธรรม สำราญ..........................นิพพาน มุ่งแล

    .................................................สอนให้ เด็ก(เป็นคน)ดี
นั้นคือ หน้าที่...............................(ญาติ)พี่น้อง พ่อแม่
ฝากพระ เลี้ยงให้..........................ไม่เข้า ท่าแท้
ชีวัน ผันแปร................................ยักแย่ ยักยันฯ

๒๗ เมษายน ๒๕๖๒


*วัยเด็ก เป็นวัยที่ต้องการอาหารและการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาร่างกาย-สมอง-จิตใจ-สุขภาพ
แต่สามเณรถือศีล ๑๐ ต้องงดทานอาหารเวลาวิกาล(ประเทศไทยนับตั้งแต่หลังเที่ยงวัน จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น) ดื่มได้แค่สิ่งที่จัดเป็นเภสัช น้ำปานะ ๘ ชนิดและน้ำหวาน ห้ามดื่มนม,เครื่องดื่มโกโก้-ช็อคโกแลต,ซุปไก่ฯลฯ เด็กจึงขาดสารอาหารอย่างแน่นอน นอกเสียจากจะละเมิดวินัย/ศีลขาด
ไม่นับการทานอาหารเท่าที่ได้จากการบิณฑบาต ที่เลือกอาหารไม่ได้-แล้วแต่ชาวบ้านจะเมตตา และมักไม่ครบ ๕ หมู่ตามหลักโภชนาการ

*วัดจำนวนมาก ชอบตั้งกฎที่ไม่มีในพุทธบัญญัติ เพื่อแสดงความเคร่งครัดอย่างไร้สาระ เช่น ต้องตื่นตั้งแต่ ตี ๓ เพื่อทำวัตรเช้า ตี ๔ ปฏิบัติธรรมจนถึง ๓-๔ ทุ่ม ระหว่างวันจะปล่อยให้พักเป็นระยะๆ ทำให้การนอนหลับต่อเนื่องไม่เพียงพอ (บางวัดมีกฎต้องตื่น ตี ๒ ครึ่ง)

*หากลูกนอนไม่เพียงพอจนเผย 5 สัญญาณบอกว่าลูกนอนน้อยไป เสี่ยงพัฒนาการถดถอย เเละหากลูกนอนน้อยบ่อยๆ จนเรื้อรังจะทำให้มีปัญหาด้านการนอน ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นโรคสมาธิสั้นหรือ ADHD หรือเป็นโรคซึมเศร้า ยังไม่นับรวมถึงพัฒนาการด้านสมองเเละร่างกายที่ไม่เป็นไปตามวัยอีกด้วย เนื่องจากโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) อาจจะทำงานไม่ดีหรือไม่ทำงาน
จาก <https://th.theasianparent.com/5-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%9B-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%94%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%A2>

*งานวิจัยทางสมองยืนยันว่า การนอนไม่เพียงพอส่งผลเสียต่อกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาการทางสมอง โดยเฉพาะถ้าอยู่ในช่วงวัยเด็กจนถึงวัยรุ่น เพราะปัญหาเรื่องการนอนสร้างความกังวลและอาจทำให้เป็นโรคซึมเศร้า แถมยังกระทบต่อกลไกทางอารมณ์ในสมองที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคจิตเภทในระยะยาว 
*Sleep and Emotional Risk in Children
จาก <https://www.youtube.com/watch?v=jRSdN0Gnhe4>

*ไม่มีข้อห้ามคนเลวมาบวช พระจึงไม่ใช่คนดีทุกคน* 
จากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน พบว่าพระส่วนใหญ่ด้อยสติปัญญาและสัมมาทิฏฐิ โดยเฉพาะไม่มีความรู้-ไม่สนใจสุขอนามัยและพัฒนาการของเด็ก แต่ชอบให้เด็กทำตามคำสั่ง
ที่สำคัญ พระกี่คนรู้วิธี-จิตวิทยาการเลี้ยงดูเด็ก เพราะไม่ใช่กิจธุระของพระที่จะมาเลี้ยงลูกให้ใคร และพระพุทธเจ้าก็ไม่สอน
พ่อแม่ที่ใส่ใจในพัฒนาการที่สมบูรณ์ของลูก จึงไม่ควรให้ลูกไปบวชสามเณร 
อย่าคิดเอง-เชื่อเองว่าพระจะรักและอบรมสั่งสอน ให้ลูกเป็นเด็กดี-มีศีลธรรม-เฉลียวฉลาด-มีระเบียบวินัยฯลฯ ได้ดีกว่าตัวพ่อแม่เอง
พ่อแม่ลองหาเวลาว่างสักวัน ไปแอบสอดส่องดูพฤติกรรมของพระ-สามเณรในวัดทั่วๆไปดูก็ได้ ถ้าเห็นว่าตัวเองเลี้ยงลูกได้แย่กว่าพระ ค่อยให้ลูกไปบวชเณร 

อันที่จริง ถ้าพ่อแม่ครอบครัวไหนที่เลี้ยงลูกได้แย่ขนาดนั้น(แย่กว่าพระ) ก็ไม่สมควรมีลูกแล้ว

วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2562

แค่มีศาสนาบังหน้า : กลอนคติเตือนใจ




แค่มีศาสนาบังหน้า : กลอนคติเตือนใจ

    เวลา หายอม หยุดนิ่ง.................................ซัดพา สารพัดสิ่ง ไปด้วย
ชีวิต พิศวง งงงวย....................................เกิด-แก่-เจ็บป่วย-มรณา

    ดิ้นรน (หา)หนทาง อยู่รอด..........................สืบทอด อายุขัย อย่างไร้ค่า(ตายอยู่ดี)
(แต่คน)ขวนขวาย ให้ได้ กลับมา.................ปรารถนา เกิดใหม่ ใฝ่ปอง

    ยึดมั่น ตัวตน ผลประโยชน์...........................รัก-โกรธ-เกลียด-ชอบฯลฯ ตอบสนอง
รสชาติ ชีวัน ครรลอง................................เสพย์ติด คิดข้อง ต้องการ

    (บางคน)ได้ยิน เขาว่า อริยสัจ.......................วิธีตัด วัฏฏะ สงสาร
(ก็ยัง)ไม่รู้ อะไรฤา คือนิพพาน....................ฝันหวาน (ว่าเป็นสิ่ง)บันเทิง เริงฤดี

    คับจิต อิดหนา ระอาทุกข์.............................ใคร่สุข ล้ำเลิศ ประเสริฐศรี
(ยัง)ยึดติด อัตตา หนาแน่นมี......................อยากสุขี ร่ำรวย (อายุ)ยืนยง

    ชักชวน กันทำ(กิจกรรม) ตามจริต..................ยึดติด งมงาย ใหลหลง
หากเพราะ หัวใจ ไร้ซื่อตรง.........................กิจกรรม จำนง จึงหลงทาง

    เชื่อสิ่ง ซึ่งไร้ สาระ.....................................ปราศจาก ปัญญา สุก สล้าง
ทำสิ่ง โง่เขลา เอาอย่าง.............................คอยอ้าง ความคิด อวิชชา

    ยึดถือ แค่(สะเก็ด)เปลือก เลือกรับ................ติดกับ ดักกิเลส ตัณหา
มิต่าง ดั่งคน ธรรมดา(ทั่วไป).......................แค่อาจ มีศาสนา บังหน้า(เท่านั้น)เองฯ

๒๖ เมษายน ๒๕๖๒

วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2562

สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์วุ่น! ศาล รธน. สอนมวย กกต. | เจาะลึกทั่วไทย | 24 เ...




                                  https://www.khaosod.co.th/election-2019/news_2345188

การพัฒนาจิตใจ : กลอนจรรโลงใจ


การพัฒนาจิตใจ : กลอนจรรโลงใจ

    พิเคราะห์ ความเป็น ธรรมดา......................................หากการ พัฒนา จิตใจ
มีอัน ต้องสะดุด หยุดไป.........................................แล้วเริ่ม ต้นใหม่ อยู่เสมอ

    ไม่ต่าง ยังย่ำ อยู่กับที่...............................................ชาตินี้ คงมิ พบเจอ
จุดหมาย ปลายทาง สะพรั่งเพ้อ...............................เสมอ เดือนดาว พราวพิไล

    (หาก)ล้มลุก คลุกคลาน กันบ่อยๆ................................ต้องค่อย ค่อยก้าว ง่วงเหงาไฉน
แค่พ้น ต้นทาง ยังห่างไกล.....................................จุดหมาย อย่าได้ คะนึง

    (การ)พัฒนา ประสงค์ จงมุ่งมั่น....................................เท่าทัน ธรรมชาติ มนัสซึ้ง
อย่าดี แต่ทำ รำพึง................................................พูด(บ่น)ถึง เป้าหมาย ปลายมรรคา

    การจะ ก้าวหน้า ต้องกล้าหาญ....................................ใจแข็ง แกร่งปาน หินผา
ไม่ย่น ระย่อ ท้ออุรา..............................................ฟันฝ่า อุปสรรค หนักเบาไป

    อย่าปล่อย จิตใจ ไหวอ่อน.........................................รนร้อน-อดทน ไม่ได้
(มิฉะนั้น)อย่าหวัง อยู่รอด ตลอดไป..........................เหลวไหล ไม่ชัด พัฒนา

    (ยิ่ง)ถ้าออก นอกลู่ นอกทาง......................................ยิ่งสร้าง ฉกรรจ์ ปัญหา
ไม่ใช่ แค่ไม่ พัฒนา...............................................แต่ว่า จะล้าหลัง ตลอดกาล

    ต้องมี ดี-งาม ความคิดเห็น........................................ศีลธรรม บำเพ็ญ เป็นแก่นสาร
ประกอบ ไหวพริบ ปฏิภาณ......................................(มีความ)ทะเยอ ทะยาน (เป็นแรง)บันดาลใจ

    เพื่อมี พิสิฐ ชีวิตผล.................................................ข้ามพ้น มลทิน วิญญาณไส
จะต้อง พัฒนา จิตใจ..............................................พึ่งใคร ไม่ได้ รู้ไว้เทอญฯ(ต้องพยายามทำเอง)

๒๕ เมษายน ๒๕๖๒

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2562

ก่อนจะไม่มีโลกให้อยู่อาศัย : โคลงสี่สุภาพ(สภาวะโลกร้อน)






ก่อนจะไม่มีโลกให้อยู่อาศัย : โคลงสี่สุภาพ(สภาวะโลกร้อน)

๑.บิลค่าไฟ(ฟ้า)คราวนี้.............................ทำสถิติ
(อากาศ)ระอุจนบ่อยากปริ...................ปากเว้า(เว้า=พูด)
แอร์เปิดทุกคืนจึงสิ............................หลับนอน(นอนหลับ)
พยากรณ์(อนาคต)เริ่มเห็นเค้า..............โลกร้อนโลกันตร์ฯ

๒.โทษทัณฑ์เพราะตัดไม้..........................ทำลายพนา
ส่งผลต่อโลกา..................................เร่าร้อน
(ตั้งแต่)ปฏิวัติอุตสาหกรรมพา...............เพิ่มผลิต
ชีวิตยุคใหม่สะท้อน............................น้ำมันผลาญเผาฯ

๓.บันดาลโลกเราเพี้ยง.............................เรือนกระจก
(ชั้น)บรรยากาศคลุมปก......................กัก(ความ)ร้อน
นับวันยิ่งน่าวิตก.................................สถิติ
แสงสุริยะย้อน...................................เพิ่มให้คับขันฯ

๔.ผลักดัน(ให้เกิด)ความแห้งแล้ง...............กันดาร
วิกฤตสถานการณ์...............................โหดร้าย
ผลิตผลทางอาหาร.............................ประสบพิบัติ(พิบัติ=ความฉิบหาย)
เกิดขาดแคลน...สุดท้าย......................ของขึ้นราคาฯ

๕.พายุฤดูร้อน........................................รุนแรง
ผลจากการเปลี่ยนแปลง......................โลกร้อน
พอฤดูฝนสำแดง.................................อุทกเภท
ขยายขอบเขตซับซ้อน.........................(จน)ตั้งรับไม่ไหวฯ

๖.ไม่มีทางรอดพ้น...................................นอกจาก
ร่วมมือกันบั่นบาก...............................ต่อสู้
ลดละความโลภ-อยาก........................รวย-สนุก
เลิกบุกรุกป่า,รู้...................................สิ่งแวดล้อมรักษาฯ

๗.หันมาเปลี่ยนแปลงใช้...........................พลังงาน-
ทดแทนน้ำมันผลาญ...........................โลกร้อน
หากทำไม่ทันการณ์............................จงตระหนัก
จักไม่มีโลกย้อน.................................ให้อยู่อาศัยฯ

๒๔ เมษายน ๒๕๖๒

วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2562

เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand (Full) | เจาะลึกทั่วไทย | 23 เม.ย.62

คมชัดลึก | โง่ซ้ำ..โง่ซาก! ตั้งใจโง่...หรือตั้งใจโกง! | 22 เม.ย. 62

ความหมายที่ไม่ยุติของชีวิต : กลอนคติชีวิต




ความหมายที่ไม่ยุติของชีวิต : กลอนคติชีวิต

    คนตาบอด คลำช้าง ยังรู้ได้........................................ลักษณะเด่น เช่นใด ในคชสาร
มีงวง-งา-ขา-หางฯลฯ อลังการ.................................พอที่จะ อนุมาน พูดบรรยาย

    แต่ทว่า ถ้าต่างคน ยลชีวิต..........................................ต่างความคิด ประสบการณ์ อันหลากหลาย
ต่างระดับ สติปัญญาฯลฯ อรรถาธิบาย........................กระจัดกระจาย ชีวิต ผิดแผกพลัน

    (ที่สำคัญ)น้อยคนนัก จักเข้าใจ ในชีวิต..........................ได้แค่ประดิษฐ์ คิดความ ตามใฝ่ฝัน
ไม่มีสอน ในโรงเรียน (เพราะ)ถ้าเขียน(ตำรา)ครัน.........คงต้องประชุม ทุ่มเถียงกัน จนวันตาย

    ชีวิตของ แต่ละคน ล้นแตกต่าง....................................แม้ระหว่าง ทางชีวิต(ของคนๆเดียว) ยังผิดผาย
ขีดจำกัด อุปสรรค อันมากมาย..................................วันสุดท้าย(ก่อนจะตาย) แทบไม่รู้ เรื่องอยู่ดี

    มองดูคน มากมาย ใช้ชีวิต..........................................เหมือนลองผิด ลองถูก ผูกวิถี
(ส่วนใหญ่)ทำตามวัฒ (ฒะ)นธรรม ประเพณี................ทำเหมือนที่ มีคนอื่น ดาษดื่นทำ

    ชีวิตคือ อะไร? ไม่เคยสน...........................................(คิดแค่)หาความสุข ให้ตน เช้าจนค่ำ
ปราศจาก มาตรฐาน การก่อกรรม...............................(ขอแค่)เอาตัวรอด คือยอดคำ ชีพดำเนิน

    จะดีกว่า ถ้า(มี)ผู้ใหญ่ ให้ความรู้..................................เพราะเป็นผู้ ผ่านชีวิต แม้พิศเผิน
ยิ่งดีกว่า ถ้า(ผู้ใหญ่)ไม่ประมาท ขาดๆเกินๆ..................(ไม่)เป็นเพียงผู้ (หาความ)เพลิดเพลิน ไปวันๆ

    ง่ายดายกว่า ถ้าทำตาม คำ(ผู้ใหญ่)บ่งชี้........................ปลอดภัยมี แต่ทั้งนี้ และทั้งนั้น
ชีวิตของ ทุกๆคน มีผลอนันต์.....................................คำขยาย ความหมายนั้น (ต้อง)หากันเองฯ

๒๓ เมษายน ๒๕๖๒

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2562

อนาคตชีวี...ที่ไม่อยากคาดเดา : กลอนสิ่งแวดล้อม











อนาคตชีวี...ที่ไม่อยากคาดเดา : กลอนสิ่งแวดล้อม

    ซุปเปอร์ คอมพิวเตอร์ (ราคา)เป็นพันล้าน......................ยังไม่อาจ คาดการณ์ กระทั่งฝน(พยากรณ์ผิด)
อากาศร้อน ระอุ จนทุรทน..........................................พสุธา ผจญ พิบัติภัย

    โลก(สิ)พินาศ เพราะตัดไม้ ทำลายป่า...........................สันดานคน ฉลชั่วช้า แสนสาไถย
อากาศที่ เร่าร้อน มิผ่อนไป.........................................ยังจุดไฟ เผาเพิ่ม เหิมเลวทราม

    พยากรณ์ ชีวา ยิ่ง(ยาก)สาหัส.....................................สารพัด ปัจจัย ไหลหลั่งหลาม
เกี่ยวข้องคน ยิ่งมาก ยิ่งหลากความ..............................(เพราะ)ต่างนิยม ทำตาม ความชอบ(ส่วน)ตน

    เปรียบประดุจ จุดไฟ เผาไหม้ป่า..................................ผู้ไม่เกี่ยว ข้องต้องมา ประสบผล
ร่วมชะตา มลพิษ วิกฤติดล..........................................เจ็บป่วยรับ อับจน หนทางตัน

    ยิ่งกว่าไฟ(ป่า) ใกล้ตัว เมืองมัวฝุ่น(PM2.5)....................ความทารุณ หมุนเวียน มิเปลี่ยนผัน
ตราบที่คน มิสนใจ ในกิจกรรม์.....................................หยุด(ใช้)ชีวัน บันเทิง เริงรื่นรมย์

    (ปัญหา)PM 2.5 ยังละอ่อน........................................สภาวะ โลกร้อน ซ้อนสะสม
(จะ)ทำให้ทุก ชีวัน พานระทม.....................................เพราะสังคม งมงาย หมายสุข(เฉพาะหน้า)มี

    (ทุกวัน)ได้ยิน(แต่)คน บ่นว่า อากาศร้อน(เหลือ).............(แต่)ไม่ได้ยิน ใครย้อน สะท้อนวิถี
ถึงสาเหตุ ให้เป็น ร้อนเช่นนี้.......................................(และไม่รู้ว่า)ร้อนขึ้นทุก ทุกปี สถิติทำ

    อนาคต อันใกล้ ในชีวิต.............................................คงประสบ วิกฤติ จิตระส่ำ
หนทางแก้ ปัญหา คลายระกำ.....................................คนแค่ทำ พูดท่อง แคล่วคล่องเอยฯ

๒๒ เมษายน ๒๕๖๒

วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2562

เส้นทางชีวีที่อบอุ่น : กลอนจรรโลงใจ



เส้นทางชีวีที่อบอุ่น : กลอนจรรโลงใจ

    ห้วงน้ำ ความหนาว.............................หมอกขาว บริสุทธิ์ สดใส
รุ่งอรุ โณทัย....................................ภายใต้ แสงอา ทิตย์ส่อง
กลับนุ่ม ละมุน..................................อบอุ่น ประเทือง เรืองรอง 
เยี่ยมยอด สอดคล้อง.........................ครรลอง ธรรมชาติ ปรัชญา

    เมื่อมี ชีวิต........................................ทุกคน ย่อมคิด หา(ความ)สุข
ปราศจาก ซึ่งทุกข์.............................สนุก สนาน มานเริงร่า
เลือกดำเนิน ชีวัน..............................ตามที่ หมายมั่น ฝันมา
(และ)ด้วยการ ศึกษา.........................แปรเปลี่ยน ชีวา สถานการณ์

    เส้นทาง ชีวี........................................ไม่ได้ มีแค่ ทางเดียว
ทางแยก ทางเลี้ยว............................ทางเปลี่ยว ทางคู่ ขนานฯลฯ
แต่ทุก เส้นทาง.................................ล้วนต่าง มีผู้ เดินผ่าน
มาอย่าง ยาวนาน..............................เล่าขาน สืบต่อ กันมา

    เส้นทาง โลกีย์....................................นั้นมี ที่มา ธรรมชาติ
ทุกคน สามารถ.................................ผดุง มุ่งมาด ปรารถนา
เสพสม อารมณ์เร้า.............................มัวเมา เท่าที่ ชีวา
แก่เฒ่า เก่าชรา.................................มรณา ไร้สา ระทำ

    (อีกหนึ่ง)เส้นทาง ต่างแตก....................ที่แยก ไปคน ละทิศ
โลกุต ตระสฤษฏ์...............................วิจิตร ประเสริฐ เลิศล้ำ
สละ โลกีย์.......................................มุ่งสู่ วิถี วิจิตรกรรม
ที่มี จริยธรรม....................................จุนค้ำ กำกับ ชีวิน

    เป็นทาง สว่างวาท...............................สะอาด สุจริต พิสมัย(วาท=ลัทธิ,ความเห็น)
อบอุ่น ละมุนละไม.............................สดใส บริสุทธิ์ ดุจสินธุ์
เว้นก่อ บาปกรรม...............................กระทำ แต่กุศล ไร้มลทิน
สุขสันติ์ บันเทิงจินต์...........................ในดิน แดนวิโยค โศกตรมฯ(วิโยค=ความร้าง,ความห่างเหิน)

๒๑ เมษายน ๒๕๖๒

วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2562

กัญชารักษามะเร็งได้ผลแค่ไหน? | อีจัน EJAN

ประพฤติพรหมจรรย์ : กลอนคติเตือนใจ



ประพฤติพรหมจรรย์ : กลอนคติเตือนใจ

    อันเงินตรา นารี=ภัยพิบัติ....................................ทำพระ-วัด บัดสี พินาศไฉน
ผู้มาบวช ต้องกวดขัน ธรรม์วินัย.........................เพื่อป้องกัน ภัยอันตราย เสียหายมี

    แต่ใครเล่า เฝ้าตาม ธรรมปฏิบัติ?..........................(เมื่อ)คนในวัด ต่างกำหนัด สิ่งบัดสี
อาศัยวัด-พุทธศาสนา หาวิธี.............................ลาภ-สักการ กระสันมี ทุกวี่วัน

    ผู้ศึกษา พุทธธรรม (ต้อง)ดำเนินจิต......................คล้อยแนวคิด โลกุตตระ* ขจัดกระสัน
ที่เรียกว่า การประพฤติ พรหมจรรย์.....................อย่างรู้เท่า ถึงธรรม์ สำคัญวินัย

    ต้องมีความ ปรารถนา จะพ้นโลกย์........................พร้อมลดละ บริโภค โลกย์วิสัย
ต้องเบื่อวัฏ (ฏะ)สงสาร บันดาลใจ......................มุ่งบรรพชา จึงจะใช่ ไม่ผิดทาง

    ไม่ใช่มา สะสม ทรัพย์สมบัติ...............................แต่ตามหา อริยสัจ จรัสสว่าง
ขจัดความ โง่เขลา ให้เบาบาง...........................ลด-ละวาง ตัณหา อุปาทาน

    มิใช่บวช อวด-เล่น-หวังเป็นใหญ่.........................คนเคารพ กราบไหว้ ไร้แก่นสาร
ความอยู่ดี กินดี มิต้องการ................................(หวัง)เป็นเกจิ อาจารย์ หลงบรรลัย

    ยิ่งบวชนาน ยิ่งควรผลาญ ลาญกิเลส....................อันเป็นเหตุ เกิด-แก่-แล(ตาย)ดับ-ไข้
พระสะสม รมย์กิเลส เพื่อเหตุใด?.......................(แต่)สอนใครๆ ให้ลดละ แสนสัปดน

    พรหมจรรย์ พุทธิ บริสุทธิ์นัก...............................บวชทำไม ถ้าไม่ภักดิ์ ทางมรรคผล
หลอกกินข้าว ชาวบ้าน พาลกระมล.....................เวรกรรมต้อง สนองตน ทุกข์ท้นเอยฯ

๒๐ เมษายน ๒๕๖๒

*โลกุดร, โลกุตตระ โลกุตระ แปลว่า พ้นจากโลก, เหนือโลก, พ้นวิสัยของโลก

**[๒๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตผู้ประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อลวงประชาชน ก็หามิได้
เพื่อเกลี้ยกล่อมประชาชน ก็หามิได้
เพื่ออานิสงส์ คือ ลาภ สักการะ และความสรรเสริญ ก็หามิได้
เพื่ออานิสงส์ คือ การอวดอ้างวาทะ ก็หามิได้
เพื่อความปรารถนาว่า ชนจงรู้จักเราด้วยอาการดังนี้ ก็หามิได้
โดยที่แท้ ตถาคตอยู่ประพฤติพรหมจรรย์นี้ เพื่อสังวร เพื่อละ เพื่อคลายความกำหนัด เพื่อดับกิเลส ฯ

                          พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ได้ทรงแสดงพรหมจรรย์อันเป็น
                          การละเว้น มีปรกติยังสัตว์ให้หยั่งลงภายในนิพพาน เพื่อ
                          สังวร เพื่อละ หนทางนี้อันท่านผู้ใหญ่ผู้แสวงหาคุณอันใหญ่
                          ดำเนินไปแล้ว อนึ่ง ชนเหล่าใดย่อมดำเนินไปสู่ทางนั้น
                          ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว ชนเหล่านั้นชื่อว่าทำตาม
                          คำสั่งสอนของศาสดา จักกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ ฯ

จาก <http://www.84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=21&item=25&items=1>