ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2562

อย่าส่งลูกมาทรมาน : กาพย์สุรางคนางค์๒๘







อย่าส่งลูกมาทรมาน : กาพย์สุรางคนางค์๒๘

    .................................................ฝนตก ตอนเช้า
อากาศ ร้อนเร่า............................บรรเทา ลงถนัด
ฟ้ามืด สลัว.................................(เมฆปกคลุม)มัวเห็น ไม่เด่นชัด
สุรีย์ ศรีสวัสดิ์..............................ทัศนะ วิสัย

    .................................................แมงเม่า โผบิน
หลากหลาม ตามดิน.....................แม้กิน ไม่ได้
แมวเล่น ไล่จับ............................อย่างกับ ประทับใจ
บรรยากาศ วันใหม่.......................ในสุด สัปดาห์

    .................................................ลูกเล็ก เด็กน้อย
ยังคง ต้องคอย............................(ให้พ่อแม่)ดูแล รักษา
วัยกิน วัยนอน..............................อ่อนแอ กายา(จิตใจ อารมณ์)
ต้องการ พัฒนา(ทุกด้าน)...............ก้าวหน้า ต่อไป

    .................................................อย่าพา มาบวช
ฝืนทน มนต์สวด...........................ปวดหัว-เบื่อไฉนฯลฯ
อดกิน อดนอน.............................บั่นทอน (สุข)อนามัย
ศีล-สมาธิฯลฯ มิสนใจ...................ไร้สา ระปาน

    .................................................หลักการ บรรพชา
มุ่งพ้น โลกา................................วัฏฏะ สงสาร
(เหมาะ)สำหรับ ผู้ใหญ่...................ผู้ไม่ ต้องการ
โลกธรรม สำราญ..........................นิพพาน มุ่งแล

    .................................................สอนให้ เด็ก(เป็นคน)ดี
นั้นคือ หน้าที่...............................(ญาติ)พี่น้อง พ่อแม่
ฝากพระ เลี้ยงให้..........................ไม่เข้า ท่าแท้
ชีวัน ผันแปร................................ยักแย่ ยักยันฯ

๒๗ เมษายน ๒๕๖๒


*วัยเด็ก เป็นวัยที่ต้องการอาหารและการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาร่างกาย-สมอง-จิตใจ-สุขภาพ
แต่สามเณรถือศีล ๑๐ ต้องงดทานอาหารเวลาวิกาล(ประเทศไทยนับตั้งแต่หลังเที่ยงวัน จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น) ดื่มได้แค่สิ่งที่จัดเป็นเภสัช น้ำปานะ ๘ ชนิดและน้ำหวาน ห้ามดื่มนม,เครื่องดื่มโกโก้-ช็อคโกแลต,ซุปไก่ฯลฯ เด็กจึงขาดสารอาหารอย่างแน่นอน นอกเสียจากจะละเมิดวินัย/ศีลขาด
ไม่นับการทานอาหารเท่าที่ได้จากการบิณฑบาต ที่เลือกอาหารไม่ได้-แล้วแต่ชาวบ้านจะเมตตา และมักไม่ครบ ๕ หมู่ตามหลักโภชนาการ

*วัดจำนวนมาก ชอบตั้งกฎที่ไม่มีในพุทธบัญญัติ เพื่อแสดงความเคร่งครัดอย่างไร้สาระ เช่น ต้องตื่นตั้งแต่ ตี ๓ เพื่อทำวัตรเช้า ตี ๔ ปฏิบัติธรรมจนถึง ๓-๔ ทุ่ม ระหว่างวันจะปล่อยให้พักเป็นระยะๆ ทำให้การนอนหลับต่อเนื่องไม่เพียงพอ (บางวัดมีกฎต้องตื่น ตี ๒ ครึ่ง)

*หากลูกนอนไม่เพียงพอจนเผย 5 สัญญาณบอกว่าลูกนอนน้อยไป เสี่ยงพัฒนาการถดถอย เเละหากลูกนอนน้อยบ่อยๆ จนเรื้อรังจะทำให้มีปัญหาด้านการนอน ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นโรคสมาธิสั้นหรือ ADHD หรือเป็นโรคซึมเศร้า ยังไม่นับรวมถึงพัฒนาการด้านสมองเเละร่างกายที่ไม่เป็นไปตามวัยอีกด้วย เนื่องจากโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) อาจจะทำงานไม่ดีหรือไม่ทำงาน
จาก <https://th.theasianparent.com/5-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%9B-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%94%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%A2>

*งานวิจัยทางสมองยืนยันว่า การนอนไม่เพียงพอส่งผลเสียต่อกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาการทางสมอง โดยเฉพาะถ้าอยู่ในช่วงวัยเด็กจนถึงวัยรุ่น เพราะปัญหาเรื่องการนอนสร้างความกังวลและอาจทำให้เป็นโรคซึมเศร้า แถมยังกระทบต่อกลไกทางอารมณ์ในสมองที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคจิตเภทในระยะยาว 
*Sleep and Emotional Risk in Children
จาก <https://www.youtube.com/watch?v=jRSdN0Gnhe4>

*ไม่มีข้อห้ามคนเลวมาบวช พระจึงไม่ใช่คนดีทุกคน* 
จากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน พบว่าพระส่วนใหญ่ด้อยสติปัญญาและสัมมาทิฏฐิ โดยเฉพาะไม่มีความรู้-ไม่สนใจสุขอนามัยและพัฒนาการของเด็ก แต่ชอบให้เด็กทำตามคำสั่ง
ที่สำคัญ พระกี่คนรู้วิธี-จิตวิทยาการเลี้ยงดูเด็ก เพราะไม่ใช่กิจธุระของพระที่จะมาเลี้ยงลูกให้ใคร และพระพุทธเจ้าก็ไม่สอน
พ่อแม่ที่ใส่ใจในพัฒนาการที่สมบูรณ์ของลูก จึงไม่ควรให้ลูกไปบวชสามเณร 
อย่าคิดเอง-เชื่อเองว่าพระจะรักและอบรมสั่งสอน ให้ลูกเป็นเด็กดี-มีศีลธรรม-เฉลียวฉลาด-มีระเบียบวินัยฯลฯ ได้ดีกว่าตัวพ่อแม่เอง
พ่อแม่ลองหาเวลาว่างสักวัน ไปแอบสอดส่องดูพฤติกรรมของพระ-สามเณรในวัดทั่วๆไปดูก็ได้ ถ้าเห็นว่าตัวเองเลี้ยงลูกได้แย่กว่าพระ ค่อยให้ลูกไปบวชเณร 

อันที่จริง ถ้าพ่อแม่ครอบครัวไหนที่เลี้ยงลูกได้แย่ขนาดนั้น(แย่กว่าพระ) ก็ไม่สมควรมีลูกแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น