นักล่าความฝัน : กาพย์ฉบัง๑๖
๏ หยาดฝนหยดบนยอดไม้.......................เกิดจังหวะกระไร
ผ่องใสไพเราะเสนาะเสียง
๏ โรยรินกลิ่นฝนพรำลำเลียง......................ทิพย์สุคนธ์โอนเอียง
ใกล้เคียงลงมาจากสวรรค์
๏ ณ
ราตรีนี้รังสีจันทร์......................ไร้ความสำคัญ
นักล่าความฝันต้องการฝน
๏
กล่อมให้นอนหลับกับ(ความ)มืดมน.....................ประเดิมเริ่มต้น
พาตนพ้นโลกวิหคคล้าย
๏
บินสู่ฟากฟ้านภาพราย.....................ทอดทิ้งเรือนกาย
และความวุ่นวายในโลกนี้
๏
แสวงหาสิ่งอันฝันดี....................เท่านั้นที่มี
โดยที่มิต้องคับข้องเข็ญ
๏
ทุกสิ่งที่ฝันบันดาลเป็น.....................จะปรากฏโดดเด่น
เฉกเช่นสัจจริงสิ่งทั้งหลาย
๏
เหตุการณ์พานประจักษ์มากมาย.....................มิแตกต่าง;คล้าย
เกิดกับกาย-ใจได้สนอง
๏
อารมณ์-ความรู้สึก-การตรึกตรองฯลฯ.....................ถ่ายทอดสอดคล้อง
มิขาดตกบกพร่องต้องเค้า
๏ เวลา ๑ ใน ๓
ของ(ชีวิต)เรา......................(ใช้)นอนหลับฝันเนา
ควรเอามาใช้ให้เกิดคุณ
๏
เข้านอนด้วยการเกื้อหนุน......................จิตให้ใคร่ครุ่น
คิดถึงบุญกุศลเจตนา
๏
ตัวตนที่สร้างขึ้นมา(ขณะเริ่มเคลิ้มหลับ)......................คอยบังคับบัญชา
ให้เป็นเช่นปรารถนาปรารมภ์
๏
(มี)คุณสมบัติที่เรานิยม......................จะได้ฝันสม(ล่าความฝัน)
บรรลุอุดมสมปองฯ
๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๒
*อธิบาย
คนเราใช้เวลา 8 ชั่วโมง/วัน ในการนอนหลับ หรือเท่ากับ 1 ใน 3 ของชีวิต
เราอยู่ในห้วงแห่งความฝัน
เราจะรู้ตัวว่า เราเป็น-รู้สึก-นึกคิด-เห็น-ได้ยิน-สัมผัสฯลฯ ตามที่ฝัน ไม่ใช่เป็นไปตามสิ่งที่ตัวเราที่นอนหลับอยู่
ดังนั้น
แม้ว่าจะเป็นแค่ความฝันของเราที่เป็นตัวเราจริงๆ แต่มันก็เป็นความจริงของจิตของเราที่กำลังฝันอยู่ ตัวเราที่นอนหลับอยู่กลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่มี-ไม่จริงสำหรับจิตของเราที่กำลังฝัน
ยกตัวอย่างเช่น
หากเราฝันว่า ชีวิตของเราลำบากยากจน จิตของเราก็จะรู้สึกลำบากยากจน ตลอดช่วงเวลาที่ฝัน
หากฝันว่าร่ำรวย มีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ จิตของเราก็จะรับรู้ว่าเรามี-เราเป็น เช่นนั้นจริงๆ
จึงไม่สำคัญว่า
เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เราจะเป็นอะไร? รู้สึกอย่างไร?
ถ้าเราสามารถใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิต นอนหลับฝันถึงสิ่งที่ปรารถนา
ก็ดีกว่าจะปล่อยให้เวลาทั้งชีวิต คือทั้งชีวิตจริงและชีวิตในฝัน ไม่สมปรารถนา(ในบางคน)
จึงเป็นเรื่องที่ทำได้และมีประโยชน์ ที่จะควบคุมจิต-ความฝัน ให้เป็นไปตามที่ต้องการ
โดยพยายามคิดว่าเราเป็นในสิ่งที่อยากเป็น พยายามฝันถึงสถานที่อยากไปฯลฯ ตั้งแต่เริ่มคลิ้มหลับ ควบคุมความคิด-จิตสำนึกให้ได้ เป็นจุดที่สำคัญมาก
หลังจากหลับ-ฝันแล้ว เราจะควบคุมจิต-ความฝันไม่ได้ ซึ่งไม่ต้องกังวลใจ เพราะคนเราส่วนใหญ่จะจำไม่ได้ว่าฝันอะไรบ้าง? หลังจากรู้สึกตัวตื่น
ลองทำดู
จะรู้ว่าพอจะทำได้ ทำบ่อยๆจะค่อยๆชำนาญ-ฝันดี มีความสุข
ดีกว่าปล่อยให้นอนหลับ-ฝันอย่างสะเปะสะปะ หรือฝันตามอารมณ์ความรู้สึกที่โศกเศร้า-เป็นทุกข์
เสียโอกาส-เสียเวลา 1 ใน 3 ของชีวิตไปอย่างน่าเสียดายฯ
*อธิบาย
คนเราใช้เวลา 8 ชั่วโมง/วัน ในการนอนหลับ หรือเท่ากับ 1 ใน 3 ของชีวิต
เราอยู่ในห้วงแห่งความฝัน
เราจะรู้ตัวว่า เราเป็น-รู้สึก-นึกคิด-เห็น-ได้ยิน-สัมผัสฯลฯ ตามที่ฝัน ไม่ใช่เป็นไปตามสิ่งที่ตัวเราที่นอนหลับอยู่
ดังนั้น
แม้ว่าจะเป็นแค่ความฝันของเราที่เป็นตัวเราจริงๆ แต่มันก็เป็นความจริงของจิตของเราที่กำลังฝันอยู่ ตัวเราที่นอนหลับอยู่กลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่มี-ไม่จริงสำหรับจิตของเราที่กำลังฝัน
ยกตัวอย่างเช่น
หากเราฝันว่า ชีวิตของเราลำบากยากจน จิตของเราก็จะรู้สึกลำบากยากจน ตลอดช่วงเวลาที่ฝัน
หากฝันว่าร่ำรวย มีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ จิตของเราก็จะรับรู้ว่าเรามี-เราเป็น เช่นนั้นจริงๆ
จึงไม่สำคัญว่า
เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เราจะเป็นอะไร? รู้สึกอย่างไร?
ถ้าเราสามารถใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิต นอนหลับฝันถึงสิ่งที่ปรารถนา
ก็ดีกว่าจะปล่อยให้เวลาทั้งชีวิต คือทั้งชีวิตจริงและชีวิตในฝัน ไม่สมปรารถนา(ในบางคน)
จึงเป็นเรื่องที่ทำได้และมีประโยชน์ ที่จะควบคุมจิต-ความฝัน ให้เป็นไปตามที่ต้องการ
โดยพยายามคิดว่าเราเป็นในสิ่งที่อยากเป็น พยายามฝันถึงสถานที่อยากไปฯลฯ ตั้งแต่เริ่มคลิ้มหลับ ควบคุมความคิด-จิตสำนึกให้ได้ เป็นจุดที่สำคัญมาก
หลังจากหลับ-ฝันแล้ว เราจะควบคุมจิต-ความฝันไม่ได้ ซึ่งไม่ต้องกังวลใจ เพราะคนเราส่วนใหญ่จะจำไม่ได้ว่าฝันอะไรบ้าง? หลังจากรู้สึกตัวตื่น
ลองทำดู
จะรู้ว่าพอจะทำได้ ทำบ่อยๆจะค่อยๆชำนาญ-ฝันดี มีความสุข
ดีกว่าปล่อยให้นอนหลับ-ฝันอย่างสะเปะสะปะ หรือฝันตามอารมณ์ความรู้สึกที่โศกเศร้า-เป็นทุกข์
เสียโอกาส-เสียเวลา 1 ใน 3 ของชีวิตไปอย่างน่าเสียดายฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น