ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2566

คือความดีที่ค้ำจุนโลก : โคลงสี่สุภาพ


คือความดีที่ค้ำจุนโลก โคลงสี่สุภาพ


๑. โลกาก่อเกิดด้วย...........................สิ่งใด?
บ่สามารถมีใคร..............................ล่วงรู้
"ธรรมชาติ"เป็นปัจจัย......................ประสาท(คำกริยา=
ยินดีให้, โปรดให้
)
อาจมีคนกล่าว"พระผู้-......................เป็นเจ้า"บัญชาฯ

๒. โลกาคงอยู่ด้วย..............................ความดี
ท่ามกลางยุคกลี.............................ทลายล้าง(ครั้งแล้วครั้งเล่า)
(ความ)อุตสาห์+อดทนฯลฯมี.............สรรเสก(เสกสรร=เลือกทำเอง)
คุณเอนกเสริมสร้าง..........................เริ่มต้นใหม่ครันฯ

๓. สังคมมั่นคงด้วย..............................ความดี
หาใช่ความอัปรีย์.............................ปลุกปั้น
จารีตประเพณี.................................(เฉพาะที่)ก่อประโยชน์
โปรดช่วย(กัน)จรรโลงดั้น-.................ด้นสืบทอดทวยฯ

. ครอบครัวสุขสันติ์ด้วย.......................ความดี
ยิ่งกว่าความมั่งมี..............................ทรัพย์ท้น
ความรักความสามัคคี........................เผื่อแผ่(แก่กันและกัน)
บ่เห็นแก่ตัว(พารอด)พ้น....................เภทร้ายแหลกลาญ(ครอบครัวแตกแยก)ฯ

. ชีวันรุ่งเรืองด้วย...............................ความดี
ศีลธรรมประสิทธิ์ศรี...........................ส่งให้
จุดหมายของชีวี...............................พิชิต,เชิด-
ชูประเสริฐสูงไซร้..............................ไม่ต้องเสียชาติชนฯ(ไม่เสียชาติเกิด)

๖. กุศลจิตจึงก่อเกื้อ..............................ความดี(ไม่ใช่อกุศลจิต)
ใจสุจริต-สุทธี...................................หล่อเลี้ยง(สุทธี=มีใจสะอาด)
ความคิดชอบ(ถูกต้อง)=มนตรี..............เคลื่อนขับ
มิกลอกกลับจิตเพี้ยง...........................(การ)ปกป้องรักษาฯ

. (ใจ)ยอมรับคุณค่าเอื้อ........................ชีวี
มั่นคงในความดี.................................สืบรั้ง
กายกรรมเจือวจี.................................มนัสจัก
ปักหลักมิหยุดยั้ง................................คืบหน้าความดี

. ความดีส่งผลให้................................(ความ)สุขสันติ์
เกิดแก่ทุกชีวัน...................................ทั่วถ้วน
อย่ามัวเมาใฝ่ฝัน.................................คิด(ฟุ้ง)ซ่าน(ไร้สาระ)
บั่นทอนโอกาสล้วน.............................รับรู้สัจธรรมฯ

๒๐ กันยายน ๒๕๖๖

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น