ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอังคารที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2560

มิติชีวิต..ปริมาณและคุณภาพ : บทความคติชีวิต




มิติชีวิต..ปริมาณและคุณภาพ : บทความคติชีวิต

    หากเปรียบเสมือนการผลิตสินค้า
    ที่เน้นให้ได้จำนวนมากๆ เพื่อจะมียอดการผลิต-จำหน่ายมากๆ แต่คุณภาพของสินค้าไม่สนใจ
    การดำเนินชีวิตของบางคนก็มีลักษณะเช่นนั้น
    มุ่งเน้นที่มิติด้านปริมาณ แต่ไม่ใส่ใจในคุณภาพของชีวิต
    คนส่วนใหญ่ยังเรียกด้านปริมาณเหล่านี้ ว่าเป็นคุณภาพของชีวิตด้วยซ้ำไป

    อย่างเช่นเรื่องอาหารการกิน
    เป็นปกติที่จะเห็นเด็กทานขนมกรุบกรอบ ผู้ใหญ่ชอบทานอาหารขยะ เพราะมีรสชาติอร่อย ดูเท่ห์-ทันสมัย ดูมีฐานะ แต่คุณค่าทางโภชนาการไม่ค่อยจะมี
    ทานอาหารตามใจปาก ทานเพื่อความอร่อย เพื่อความสุข จนกระทั่งทานมากเกินไป
    ไม่เพียงไม่สร้างประโยชน์ แต่ยังเป็นโทษต่อสุขภาพร่างกาย ทำให้ขาดสารอาหารและเป็นบ่อเกิดแห่งโรคหลายๆโรค
    คนที่ใส่ใจในสุขภาพ จะพิจารณาถึงคุณค่าทางโภชนาการที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ให้เหมาะสมสอดคล้องกับกิจกรรมที่ทำ คำนึงถึงความสะอาดถูกสุขอนามัย ไม่ใช่ความอร่อย ค่านิยมหรือภาพลักษณะทางสังคม
   
    เรื่องการรักษาความงามของรูปกายและใบหน้า
    คนมากมายไม่สนใจในโภชนาการอย่างที่เล่ามา ทำให้อ้วน มีไขมันสะสมฯลฯ
    แล้วจึงมารักษารูปร่างด้วยการอดอาหาร ทานอาหารเสริมตามที่เห็นโฆษณาฯลฯ แทนที่จะเป็นการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญอาหารส่วนเกิน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
    การใช้เครื่องสำอางเป็นสิ่งที่นิยมแพร่หลาย จนแทบจะกลายเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ชีวิต แม้กระทั่งกับผู้ชาย
    การศัลยกรรมปรับเปลี่ยนใบหน้า-รูปร่าง ก็กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้วในทุกวันนี้
    แต่วิธีเสริมความงาม อันเกิดจากความมีสุขภาพดี ไม่ค่อยได้รับการเหลียวแล
    ทั้งๆที่ปัจจัยสำคัญต่อความงดงามของร่างกาย มาจากสุขภาพที่ดี ประกอบกับการบริโภคที่มีโภชนาการครบถ้วนสมบูรณ์ ออกกำลังกายอย่างพอดี มีการพักผ่อนหลับนอนที่เพียงพอ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีมลภาวะ
    ความมีคุณธรรม-ศีลธรรม มีจิตใจที่โอบอ้อมอารี มีเมตตา สามารถส่งผลต่อความงามของคนได้ และเห็นได้อย่างชัดเจน
    คนมีศีลธรรม จะมีบุคลิกลักษณะ ผิวพรรณที่ดีได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องสำอางใดๆเลยด้วยซ้ำ เป็นความงดงามจากภายในจิตใจ ที่แผ่ขยายออกมาสู่ร่างกายภายนอก
    แต่เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ยาก ในโลกของความเร่งรีบ-แข่งขัน ในสังคมของคนที่มีแต่ความอยาก-ความโลภมากมายไม่สิ้นสุด

    เรื่องการออกกำลังกายก็เหมือนกัน
    คนหนุ่มสาวที่ออกกำลังกายส่วนใหญ่ จะมุ่งความสวยงามเป็นหลัก สุขภาพเป็นรอง
    เน้นรูปร่างไม่ใช่ความแข็งแรงของอวัยวะภายใน
    ผู้ใหญ่มีไม่น้อยเลยที่เล่นกีฬาเพื่อความเท่ห์ เพื่อให้ได้รับการยอมรับในสังคม แต่ประโยชน์ต่อสุขภาพแทบไม่มี เล่นกีฬาเพื่อสังสรรค์ในหมู่เพื่อนฝูง
    คนเหล่านี้ชอบเที่ยวกลางคืน เที่ยวตามสถานบันเทิงแหล่งเริงรมย์ มีอาหาร-เหล้า-เบียร์ ให้ความรื่นรมย์  
    การกระทำเช่นนี้จะมีค่าใช้จ่ายมาก แต่สุขภาพไม่ค่อยจะได้
    คนเหล่านี้พอมีครอบครัว มีอายุมากขึ้น ก็เลิกออกกำลังกายไปแทบทั้งหมด
    วิธีรักษาสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายมากเสมอไป
    การทำงานบ้านก็ช่วยออกกำลังกายได้ การมีรองเท้าคู่เดียวแล้วไปวิ่งเหยาะๆ ก็ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงได้เป็นอย่างดี ประหยัดเวลาและมีโอกาสังสรรค์กับคนที่ชอบวิ่งเหมือนกัน เป็นต้น
    คนเราควรออกกำลังกายไปตลอดชีวิต เพราะธรรมชาติของร่างกายจะอ่อนแอ-มีโรคภัยเบียดเบียนเมื่อไม่ออกกำลังกาย

    การหาความบันเทิง
    ดูจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คนจะหาความบันเทิงด้วยการเดินทางไปท่องเที่ยว ได้ไปใช้จ่าย-ช้อปปิ้ง โดยเฉพาะในต่างประเทศ เห่อของนอก
    และดูจะเป็นความภาคภูมิใจ ที่จะเอามาอวดใครต่อใครว่าได้ไปเที่ยวหลายแห่งในหลายประเทศ บางคนถึงกับเก็บเป็นสถิติไว้เลยทีเดียว เสมือนว่าเป็นรางวัลของการมีชีวิต
    บางคนทำงานหาเงินทั้งปี เพื่อจะได้ไปเที่ยวต่างประเทศไม่กี่วัน เที่ยวกลับมาก็มาก้มหน้าก้มตาหาเงินเพื่อจะได้ไปเที่ยวใหม่
    บางคนถึงกับยอมเป็นหนี้ เพื่อจะได้มีสินค้าแบลนด์เนม
    ส่วนหนึ่งของคนพวกนี้ ก็คือคนที่ชอบรณรงค์เรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สภาวะโลกร้อน
    โดยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่า การเดินทางต้องใช้ยานพาหนะ ยานพาหนะต้องใช้เชื้อเพลิง เชื้อเพลิงที่ถูกเผาผลาญก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมและโลก
    การบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือย ล้วนต่างต้องแลกด้วยการทำลายทรัพยากรจากธรรมชาติ เพิ่มขยะให้กับโลก และเพิ่มสภาวะโลกร้อน
    เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นทุกวันกับชีวิตที่เน้นปริมาณ ไม่ใช่คุณภาพ

    การหาคู่ครอง-คู่ชีวิต
    ก็มีทั้งปริมาณและคุณภาพมาเกี่ยวข้อง
    เป็นค่านิยมของคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนทันสมัย ด้วยการคบคนเป็นคู่ครองโดยไม่ต้องแต่งงาน ไม่สนใจจะสร้างครอบครัว
    พบเห็นมากขึ้นเรื่อยๆกับคนหนุ่มคนสาว ทั้งวัยเรียนและวัยทำงาน เพื่อตอบสนองความสุขทางเพศ ความอยากมีแฟน
    ส่วนใหญ่จะมุ่งหาคู่ครองที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม มีฐานะดี โดยที่ไม่สนใจนิสัยใจคอ-ความประพฤติ
    การครองคู่เช่นนี้มักมีวาระสั้นๆไม่ยั่งยืน จบลงด้วยการเลิกราและหาใหม่
    เพราะรูปร่างหน้าตา-ฐานะ เป็นเพียงเปลือกนอกของคน 
    ความนึกคิด ค่านิยม อุปนิสัยใจคอฯลฯ ต่างหากที่เป็นแก่น-เป็นตัวตนของคนที่แท้จริง
    รูปร่างหน้าตาย่อมเสื่อมไปอย่างรวดเร็วตามอายุและกิจกรรม
    บางคนตอนเริ่มคบกันก็เสแสร้ง-ปกปิดนิสัยที่แท้จริง เพียรเอาอกเอาใจเพื่อให้คนที่ตนสนใจรักใคร่ชอบพอ
    เมื่อได้ครองคู่สมใจก็ทำตัวตามใจชอบ ตามนิสัยที่แท้จริง
    ก่อให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง แยกทางกันไป ทิ้งปัญหาเด็กที่พ่อแม่แยกทางกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในสังคม
    จึงเป็นการดำเนินวิถีที่มีแต่ปริมาณ ไม่มีคุณภาพ

    เรื่องการทำบุญทำกุศล
    คนที่ได้ยินคำนี้ มักคิดถึงการบริจาคทรัพย์สิน เพราะเป็นสิ่งที่เคยชินและสืบต่อมาอย่างยาวนาน
    คนเหล่านี้ไม่สนใจจะศึกษาคำสอนของศาสนา(พุทธ) เอาแต่ฟังคำเขาเล่าว่าแล้วก็ทำตามๆกันไป
    จึงมีกิจกรรมส่งเสริมกิจกรรมไหว้พระ 9 วัด ฯลฯ เพิ่มการใช้จ่าย-กระตุ้นเศรษฐกิจของชาติ(ซึ่งเป็นคนละเรื่อง)
    คนทำก็คิดว่า ทำแค่นี้ได้บุญกุศลมากมาย หมดเคราะห์หมดโศก-ได้ไปสวรรค์แล้ว เพราะเชื่อเช่นนั้น
    ส่วนคนที่มีความคิด จะศึกษาหาความรู้จากคำสอนจากคัมภีร์ทางศาสนา ตรวจสอบหาความจริงจากประสบการณ์
    การทำบุญแบ่งเป็น ทาน ศีล ภาวนา
    การให้ทาน ทำง่ายที่สุด มีผลน้อยที่สุด
    การรักษาศีล ทำยากกว่า มีผลมากกว่า
    และการภาวนา-อบรมจิตใจให้บริสุทธิ์ปราศจากมลทิน ทำยากที่สุด แต่เป็นบุญเป็นกุศลที่ทำให้คนพ้นจากสภาวะสัตว์และความเป็นปุถุชน
    การให้ทาน รักษาศีล และบำเพ็ญภาวนา
    เป็นกิจวัตรปกติของผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจที่ถ่องแท้ ในพระธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา

    เป้าหมายชีวิตที่คุ้นเคยกันในหมู่มนุษย์
    คือ ความร่ำรวยด้วยทรัพย์สิน มีที่อยู่-เครื่องใช้ที่ทันสมัยสะดวกสบาย มีเกียรติยศชื่อเสียง มีคนนับหน้าถือตา มีตำแหน่งใหญ่โต มีอำนาจอิทธิพล ฯลฯ
    ไม่แปลกอะไรที่จะพบเห็นการแสวงหามาด้วยวิธีการอันชั่วฉล เพราะทรัพยากรเหล่านี้มีน้อยและต้องขันแข่งแก่งแย่งกัน
    คนแทบทั้งหมดจะคิดว่านี่คือสิ่งที่สร้างความสุข-ความสำเร็จให้ชีวิต และคนที่คิดแบบนี้มักจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวเป็นส่วนใหญ่ ทำอะไรๆเพื่อประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น
    เป็นมิติของปริมาณ ไม่ใช่คุณภาพของชีวิต

    ความสมหวัง-ความสำเร็จของชีวิตขึ้นอยู่กับการตั้งเป้าหมาย
    คนที่มีความคิดดี จะแสวงหาทรัพย์สินเพื่อการดำรงชีวิตที่สุขสบาย การแสวงหาทรัพย์สินเพื่อให้มีฐานะที่มั่นคง ไม่ใช่เพื่อความอวดร่ำอวดรวย อวดมั่งอวดมี เพราะไม่มีความจำเป็น
    การประสบความสำเร็จจากคุณงามความดี-ความรู้-ความสามารถ ย่อมนำมาซึ่งเกียรติยศชื่อเสียง โดยไม่ต้องแสวงหาอยู่แล้ว
    การมีตำแหน่งใหญ่โตที่อาศัยเส้นสาย การเลียแข้งเลียขาผู้มีอำนาจ ไม่ใช่ความภาคภูมิใจของคนที่ภาคภูมิใจในตัวเอง
    การมีอำนาจอิทธิพลเหนือคนอื่น มักถูกใช้เป็นเครื่องมือเบียดเบียนผู้อื่น-สร้างบาปอกุศล เพื่อหาประโยชน์ส่วนตน จึงเป็นอะไรที่ไร้สาระมาก

    การเกิดมาแล้วใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์ต่อคนหมู่มากได้ ไม่ใช่เพียงแค่ชีวิตตัวเอง
    จึงเป็นชีวิตของคนที่เกิดมามีคุณภาพมากที่สุด
    ตัวเองไม่เดือดร้อน ครอบครัวสุขสบาย สังคมมีความสันติสุข เป็นเป้าหมายที่ไม่ใช่แค่เรื่องในอุดมคติ 
    หากแต่ทำให้เป็นจริงได้ ด้วยความมุ่งมั่นและอุตสาหพยายาม

    ความมีสติปัญญา วัดกันที่ความมีจิตสำนึก-ความคิดอ่าน 
    ไม่ใช่แค่ความเฉลียวฉลาดมีไหวพริบเหนือคนอื่น หรือเอารัดเอาเปรียบคนอื่น

    มิติของชีวิตที่วัดกัน
    จึงแบ่งแยกเป็นด้านปริมาณและด้านคุณภาพ
    คนมากมายสนใจเพียงแค่ด้านปริมาณ คนส่วนน้อยเน้นที่คุณภาพ
    บางคนอยากประสบความสำเร็จทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ แต่ที่จะทำได้น่าจะมีไม่กี่คน
    เพราะคนส่วนใหญ่ในโลกเป็นคนยากจน ไร้เกียรติยศชื่อเสียง ปราศจากตำแหน่งหน้าที่การงานมั่นคง
    ชีวิตของคนส่วนใหญ่ จึงเป็นชีวิตที่ขาดทั้งปริมาณและคุณภาพ

๑๘ เมษายน ๒๕๖๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น