ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553

รัก กับ หลง ต่างกันตรงไหน?

                           


รัก กับ หลง ต่างตรงไหน?

ความรัก ...
ต้องเกิดขึ้นอย่างมีสติ มีปัญญา ความรู้ตัวดี ควบคุมจิตใจตัวเองได้
มีเหตุมีผล
มีความสามารถยับยั้งชั่งใจ ควบคุมกิริยาอาการได้
มิได้ทำตามอำเภอใจ

รู้ตัวว่า....
กำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง-ชอบธรรม-ไม่ผิดศีลธรรมอันดีงาม
รู้ว่า...
ที่เรารักนั้น เพราะ สิ่ง / คนที่เรารัก มีคุณงามความดี มีความประเสริฐ
มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อม เป็นที่ประจักษ์
ไม่ทำร้ายเรา ไม่ทำร้ายใคร
อีกทั้งยังประกอบด้วยความปรารถนาดี 
โอบอ้อมอารี-เอื้อเฟื้อต่อสรรพสิ่ง

ผู้มีความรัก....
ย่อมรู้สึก-ตรึกตรอง-รับรู้ได้ถึง...ความสวยงามเกินคำบรรยาย ของความรักนี้
อิ่มเอิบเติบเต็มหัวใจ...มิได้คลายแคลง
รู้ดีว่า รักนี้...มีเหตุและผลเป็นเช่นไร

รู้ดีว่าความรักนี้......
มิได้เป็นประโยชน์เพื่อตัวเอง ไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว 
หรือเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างโดยขาดสติยั้งคิด
แต่เป็นไปเพื่อประโยชน์-สร้างสรรค์-นำไปสู่ความสุขความเจริญ ของทั้งสองฝ่าย

แม้บางครั้ง......
การเสียสละนั้น จะเกิดประโยชน์แก่สิ่ง / คนที่เรารักเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
แต่ก็ไม่ใช่เป็นการกระทำไปโดยขาดสติ 
หากแต่กระทำไป....ด้วยอุดมการณ์ที่เข้าใจ
ถึงนิยามของความรัก...อย่างถ่องแท้ ถี่ถ้วน

ส่วนความหลง...กลับตรงกันข้าม
ไม่รู้ว่าอาการที่รู้สึก-ที่เป็นอยู่นั้น คือ หลง
สติ-ปัญญาล้วนมืดมน จนไม่รู้ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี
ได้แต่ทำตามความปรารถนาของอารมณ์
ทำตามอำเภอใจ อย่างไร้เหตุ-ผล

สิ่ง / คน ที่ตนหลงอยู่....จะเลวอย่างไร ก็ไม่รู้ไม่ชี้ ..
จะชั่วแค่ไหน......ก็ให้การสนับสนุน
จะถูกหลอกลวงกี่ครั้ง.....ก็ยังเชื่อใจ
ทำร้ายเราอย่างไร.....ก็ไม่เคยคิดที่จะผละหนี
ทำตัวเหมือนสุนัขที่ซื่อสัตย์-ติดเจ้าของ อย่างจงรักภักดี
ไม่มีสติ-ปัญญาที่จะรู้คิดถึง..ความถูกต้องตามครรลองคลองธรรม

ที่หลงผิดคิดว่ารัก... ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับตัวเองเลย 
หาความเจริญทางวัตถุ ทางจิตใจ ทางปัญญาก็ไม่ได้
ที่รู้สึกว่ามีความสุข...
ก็เป็นเพราะหลงผิด
 คิดเคลิบเคลิ้ม......
ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง

ที่สำคัญ
ความรักนั้น ยืนยาว ..... 
แม้อาจจะจืดจาง.....เมื่อเหินห่าง-จากกันไป
แม้อาจเกือบเลือนหาย.....ไปตามกาลเวลา
แต่ยามใดที่ได้หวนรำลึกนึกถึง.....ก็ยังตราตรึงจิต-คิดซึ้งใจ 
ในความดีงาม.....
ในคุณค่าของความรักนั้น....
ปรารถนาจะกลับไปรักอีก.......
อยากอยู่เคียงคู่กัน .......
ตราบชั่วฟ้าดินสลาย...........

ส่วนความหลงนั้น มักจะกินเวลาสั้นๆ 
และ เมื่อหมดหลงแล้ว
จะรู้สึก...เบื่อ...เซ็ง....
หวนคิดถึงยามใด.....ก็ไม่ประทับใจอะไร  
แถมบางที
อาจมารู้ทีหลังว่า.......เราโง่ไปแล้ว
ก็กลับผูกโกรธ-ชิงชัง-เครียดแค้น

คนโง่ ....
ผู้ไม่ผ่านการอบรมจิตใจ ไม่มีศีลธรรม
ไม่ศึกษาหาความรู้ทางปรัชญา-จิตวิทยา-จริยธรรม(ไม่จำเป็นต้องจากสถาบันการศึกษา)
จะไม่รู้หรอกว่า...ตนกำลังรัก / กำลังหลง
จึงยินดีที่ได้หลง

คนทีมีสติปัญญา.....
ผ่านการอบรมจิตใจ 
มีการศึกษาอบรมทางปรัชญา-จิตวิทยา-จริยธรรม(ไม่จำเป็นต้องจากสถาบันการศึกษา)
เป็นผู้ประกอบด้วยศีลธรรมอันดีงาม
จึงจะรู้ตัวดีว่า...กำลังทำอะไร?
จะไม่ยอมหลง
แต่ปลงใจที่จะรัก........
แม้จะเป็น...รักข้างเดียว.......
ก็มีความเอิบอิ่มใจ......
ที่ได้รักฯ

๒๔ กันยายน ๒๕๕๓

2 ความคิดเห็น:

  1. ขออนุญาตนำไปแชร์ในยูทูป(ช่องชุมชน)ได้ไหมคะ ? สาธุ สาธุ สาธุค่ะ

    ตอบลบ