รัก กับ หลง ต่างตรงไหน?
ความรัก ...
ต้องเกิดขึ้นอย่างมีสติ มีปัญญา ความรู้ตัวดี ควบคุมจิตใจตัวเองได้
มีเหตุมีผล
มีความสามารถยับยั้งชั่งใจ ควบคุมกิริยาอาการได้
มิได้ทำตามอำเภอใจ
รู้ตัวว่า....
มิได้ทำตามอำเภอใจ
รู้ตัวว่า....
กำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง-ชอบธรรม-ไม่ผิดศีลธรรมอันดีงาม
รู้ว่า...
ที่เรารักนั้น เพราะ สิ่ง / คนที่เรารัก มีคุณงามความดี มีความประเสริฐ
มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อม เป็นที่ประจักษ์
ไม่ทำร้ายเรา ไม่ทำร้ายใคร
อีกทั้งยังประกอบด้วยความปรารถนาดี
โอบอ้อมอารี-เอื้อเฟื้อต่อสรรพสิ่ง
อีกทั้งยังประกอบด้วยความปรารถนาดี
โอบอ้อมอารี-เอื้อเฟื้อต่อสรรพสิ่ง
ผู้มีความรัก....
ย่อมรู้สึก-ตรึกตรอง-รับรู้ได้ถึง...ความสวยงามเกินคำบรรยาย ของความรักนี้
อิ่มเอิบเติบเต็มหัวใจ...มิได้คลายแคลง
รู้ดีว่า รักนี้...มีเหตุและผลเป็นเช่นไร
รู้ดีว่าความรักนี้......
มิได้เป็นประโยชน์เพื่อตัวเอง ไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว
หรือเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างโดยขาดสติยั้งคิด
มิได้เป็นประโยชน์เพื่อตัวเอง ไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว
หรือเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างโดยขาดสติยั้งคิด
แต่เป็นไปเพื่อประโยชน์-สร้างสรรค์-นำไปสู่ความสุขความเจริญ ของทั้งสองฝ่าย
แม้บางครั้ง......
การเสียสละนั้น จะเกิดประโยชน์แก่สิ่ง / คนที่เรารักเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
การเสียสละนั้น จะเกิดประโยชน์แก่สิ่ง / คนที่เรารักเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
แต่ก็ไม่ใช่เป็นการกระทำไปโดยขาดสติ
หากแต่กระทำไป....ด้วยอุดมการณ์ที่เข้าใจ
ถึงนิยามของความรัก...อย่างถ่องแท้ ถี่ถ้วน
ถึงนิยามของความรัก...อย่างถ่องแท้ ถี่ถ้วน
ส่วนความหลง...กลับตรงกันข้าม
ไม่รู้ว่าอาการที่รู้สึก-ที่เป็นอยู่นั้น คือ หลง
สติ-ปัญญาล้วนมืดมน จนไม่รู้ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี
ได้แต่ทำตามความปรารถนาของอารมณ์
ทำตามอำเภอใจ อย่างไร้เหตุ-ผล
สติ-ปัญญาล้วนมืดมน จนไม่รู้ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี
ได้แต่ทำตามความปรารถนาของอารมณ์
ทำตามอำเภอใจ อย่างไร้เหตุ-ผล
สิ่ง / คน ที่ตนหลงอยู่....จะเลวอย่างไร ก็ไม่รู้ไม่ชี้ ..
จะชั่วแค่ไหน......ก็ให้การสนับสนุน
จะชั่วแค่ไหน......ก็ให้การสนับสนุน
จะถูกหลอกลวงกี่ครั้ง.....ก็ยังเชื่อใจ
ทำร้ายเราอย่างไร.....ก็ไม่เคยคิดที่จะผละหนี
ทำตัวเหมือนสุนัขที่ซื่อสัตย์-ติดเจ้าของ อย่างจงรักภักดี
ไม่มีสติ-ปัญญาที่จะรู้คิดถึง..ความถูกต้องตามครรลองคลองธรรม
ที่หลงผิดคิดว่ารัก... ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับตัวเองเลย
หาความเจริญทางวัตถุ ทางจิตใจ ทางปัญญาก็ไม่ได้
ที่รู้สึกว่ามีความสุข...
ก็เป็นเพราะหลงผิด คิดเคลิบเคลิ้ม......
ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง
ก็เป็นเพราะหลงผิด คิดเคลิบเคลิ้ม......
ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง
ที่สำคัญ
ความรักนั้น ยืนยาว .....
แม้อาจจะจืดจาง.....เมื่อเหินห่าง-จากกันไป
แม้อาจเกือบเลือนหาย.....ไปตามกาลเวลา
แต่ยามใดที่ได้หวนรำลึกนึกถึง.....ก็ยังตราตรึงจิต-คิดซึ้งใจ
ในความดีงาม.....
ในคุณค่าของความรักนั้น....
ปรารถนาจะกลับไปรักอีก.......
ในความดีงาม.....
ในคุณค่าของความรักนั้น....
ปรารถนาจะกลับไปรักอีก.......
อยากอยู่เคียงคู่กัน .......
ตราบชั่วฟ้าดินสลาย...........
ส่วนความหลงนั้น มักจะกินเวลาสั้นๆ
และ เมื่อหมดหลงแล้ว
จะรู้สึก...เบื่อ...เซ็ง....
จะรู้สึก...เบื่อ...เซ็ง....
หวนคิดถึงยามใด.....ก็ไม่ประทับใจอะไร
แถมบางที
อาจมารู้ทีหลังว่า.......เราโง่ไปแล้ว
ก็กลับผูกโกรธ-ชิงชัง-เครียดแค้น
ก็กลับผูกโกรธ-ชิงชัง-เครียดแค้น
คนโง่ ....
ผู้ไม่ผ่านการอบรมจิตใจ ไม่มีศีลธรรม
ไม่ศึกษาหาความรู้ทางปรัชญา-จิตวิทยา-จริยธรรม(ไม่จำเป็นต้องจากสถาบันการศึกษา)
จะไม่รู้หรอกว่า...ตนกำลังรัก / กำลังหลง
จึงยินดีที่ได้หลง
คนทีมีสติปัญญา.....
ผ่านการอบรมจิตใจ
มีการศึกษาอบรมทางปรัชญา-จิตวิทยา-จริยธรรม(ไม่จำเป็นต้องจากสถาบันการศึกษา)
เป็นผู้ประกอบด้วยศีลธรรมอันดีงาม
จึงจะรู้ตัวดีว่า...กำลังทำอะไร?
จะไม่ยอมหลง
แต่ปลงใจที่จะรัก........
แม้จะเป็น...รักข้างเดียว.......
ก็มีความเอิบอิ่มใจ......
ที่ได้รักฯ
๒๔ กันยายน ๒๕๕๓
ขออนุญาตนำไปแชร์ในยูทูป(ช่องชุมชน)ได้ไหมคะ ? สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
ตอบลบด้วยความยินดีครับ
ลบขอบคุณที่ชอบ