ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย
เป็นเส้นทางที่คับแคบ ลำบาก ขัดสน ต้องดิ้นรนต่อสู้
เวลาแห่งวัยนั้น ช่างรวดเร็ว
อายุขัยช่างแสนสั้น
ความชราภาพ ความเจ็บป่วย ความตาย รอรับอยู่เบื้องหน้า
แม้รักกันแค่ไหน ก็ตายแทนกันไม่ได้
แม้ผูกพันกันแค่ไหน ก็ยื้อยุดฉุดรั้งกันไม่อยู่
แม้เกิดมาคู่กัน ก็ต้องตายจากกัน
คนฉ้อฉล โกงความตายไม่ได้
คนร่ำรวย ซื้ออายุขัยไม่ได้
ผู้ยิ่งใหญ่ทุกคน ล้วนพ่ายแพ้แก่มัจจุราช
สินบน ใช้กับมัจจุราชไม่ได้
บรรณาการ ก็ส่งไปไม่ถึง
การกราบไหว้วิงวอนนั้นไร้ประโยชน์
การสวดมนต์คาถาไร้สรรพคุณ
การร้องไหัคร่ำครวญ ไม่ชวนให้ความตายใจอ่อน
การตัดพ้อไม่ทำให้คนตายฟื้นคืนมาได้
ยิ่งร้องไห้ ยิ่งเป็นทุกข์
ยิ่งคร่ำครวญ ยิ่งขาดสติ
ยิ่งตัดพ้อ ยิ่งสูญเสียความมีเหตุผล
ยิ่งโศกเศร้า ยิ่งเขลาปัญญา
ความอาลัยรักที่มีให้ ยิ่งสร้างความเจ็บป่วยแก่กายและใจ
การสงบสติอารมณ์ ยังดีเสียกว่า
สัตว์ผู้ตกอยู่ในอำนาจแห่งสังสารวัฏฏ์
ล้วนต้องเดินไปบนเส้นทางแห่งวิบากกรรมที่ตนได้เคยก่อเอาไว้
เมื่อถึงเวลาแห่งการชดใช้
ความพยายามดิ้นรน และสำนึกในความผิดที่ตนได้กระทำไว้ ย่อมสายเกินไป
แก้ไขอะไรไม่ได้
การไม่ทำบาปเสียตั้งแต่ต้นนั้นประเสริฐกว่า
การไม่ก่อเวร การไม่เบียดเบียน การไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น
เป็นเสมือนการบรรจงกวาดทางชีวิตข้างหน้า ให้สะอาด-ราบเรียบ-ร่มรื่น
การตัดความหวงแหน ห่วงใยในชีวิตได้
ไม่ต่างกับนักโทษผู้ตัดพันธนาการแห่งโซ่ตรวนออกไป......เป็นอิสระ
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปรไป ตามกาลเวลา
ทั้งร่างกาย สุขภาพ อารมณ์ ความรู้สึก ความสัมพันธ์ ความผูกพัน
การพลัดพรากเป็นสิ่งที่ต้องมี ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
ทรัพย์สินซึ่งไร้ชีวิต ที่มีการจารึกชื่อไว้บนแผ่นโลหะ
ก็ไม่อาจติดตามผู้ตายไปได้
หรือแม้แต่ชื่อ สกุล ชาติ เผ่าพันธุ์
ก็ตายไปพร้อมๆกัน
การแบ่งปัน ช่วยเหลือผู้ขัดสน ตกทุกข์ได้ยาก ลำบากเดือดร้อน
จึงเป็นวิธีนำทรัพย์สินติดตัวไปอย่างชาญฉลาด ฯ
๕ กันยายน ๒๕๕๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น