ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กลอน : สัจจะ จากป่าใหญ่

                                                            

กลอน : สัจจะ จากป่าใหญ่


       ยืนอยู่ริม ปริ่มขอบผา กลางป่าใหญ่           มองลงไป ยอดไม้ทึบ เต็มหลืบเขา
หลังฝนซา ป่าสดใส ดั่งวัยเยาว์                      ไอหมอกขาว เบาอ่อนนุ่ม คลุมทั่วไป

      ไอหมอกนุ่ม รวมกลุ่มขาว ราวกับเมฆ         คล้ายใครเสก ค่อยๆเคลื่อน เลื่อนลอยได้
ผละยอดไม้ ไล้ภูเขา ราวอาลัย                      ร่วมสหาย ในนภา ทะเทียมกัน

      มองธรรมชาติ อัตตา ในทารก                  ที่มองโลก ยกไส ไม่สำคัญ
ไม่มีใคร ยิ่งใหญ่ ได้เท่าฉัน                          เป็นพื้นฐาน ปั้นใจคน แต่ต้นมา

      คนทั่วไป ไม่มอง ตรองสติ                     ว่าตนมี นิสัย ใดหยาบช้า
ความเคยชิน ผินให้ ไร้ปัญญา                       ไม่มีตา หาโทษ ปลดปล่อยไป

      หลายปัญหา อุปสรรค เกิดจากตัว             เพราะเมามัว หัวดื้อ ถือนิสัย
กลับจับผิด คิดโกรธ โทษใครๆ                      ตนยิ่งใหญ่ ไม่ผิด แม้นิดเดียว

      หลายคนหมด จดจ่อ เฉพาะ "หน้า"          แต่งกายา พิสดาร ช่างชาญเชี่ยว
ไร้ใครชม ตรมรุก ทุกข์ร้อนเทียว                    ไม่เคยเหลียว แลใจ นิสัยตัว

      อย่าแปลกใจ ใยโลก ล้นโศกเศร้า            เพราะความเขลา เอาแต่ใจ นิสัยชั่ว
ต่างสั่งสม ชมแส่ เห็นแก่ตัว                         เต็มไปทั่ว สากล ท้นธรณี

      ผู้ที่มี วิสัย ใจบัณฑิต                           เห็น-ได้คิด จิตใส ใคร่ผ่องศรี
มองนิสัย ใจตน ค้นให้ดี                              สกปรกมี ปัดกวาด เพียรขัดเกลา

      ชำระใจ ให้งาม ด้วยธรรมศิล(ศีล)            ล้างมลทิน สิ้นไป คลายโง่เขลา
ใจสะอาด อ่อนนุ่ม ชุ่มชื่นเบา                        ปัญญาเชาว์ ปราดเปรื่อง เรืองวิไล

      ความสดชื่น เพียงใด เมื่อกายสะอาด        เราสามารถ รู้สึก สำนึกได้
ความสะอาด เบานุ่ม ชุ่มชื่นใจ                       รับรู้ได้ ในงาม ล้ำใจเรา

      เมื่อใจงาม ทำ-พูด-คิด ไม่ผิด-ชั่ว             ไม่ต้องกลัว บาปกรรม นำผลเศร้า
คนทำดี ได้ดี มีนานเนา                               ดั่งเมฆขาว เบานุ่ม คุ้มฟ้าเอย ฯ

                                                           ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๓

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น