เข้าสู่เดือน เมษา กลางหน้าแล้ง สุระแรง แสงเร่า กายผ่าวร้อน
หมู่วิหค นกน้อย เกาะคอยคอน ผลัดพักผ่อน ไซ้ขน ปรนเพื่อนทาน
ห้วยระแหง แห้งเหิด เกิดดอนเด่น แอ่งน้ำเว้น เป็นช่วง ห้วงระหาน
คลื่นไอร้อน ลอยเรื่อ เหนือกันดาร อกสะท้าน หวั่นนรก อเวจี
แม้แต่" โขง " คงคา มหาสินธุ์ ผ่านแดนดิน ถิ่นประเทศ เขตสุขี
ชื่อแม่น้ำ นานาชาติ ทัศน์ทวี ในบัดนี้ ยังแห้ง เกิดแอ่งกลาย
เกาะแก่งหิน นิลดำ หลามลานตา ยอดศิลา แหลมคม ชวนชมฉาย
ปานปลายเขา เนานัว ผุดทั่วกราย เหลือร่องไหล คลายเชี่ยว เลี้ยวหลบเรือ
ปานปลายเขา เนานัว ผุดทั่วกราย เหลือร่องไหล คลายเชี่ยว เลี้ยวหลบเรือ
สองริมฝั่ง ห่างไกล คล้ายเทือกเขา พุ่มไม้เฉา ราวใจ..เรา ใช่เถือ
ถีงแดดร้อน ผ่อนได้ ลมชายเรือ แต่ร้อนเหลือ ใจเรา เศร้าศรัทธา
ถีงแดดร้อน ผ่อนได้ ลมชายเรือ แต่ร้อนเหลือ ใจเรา เศร้าศรัทธา
หลายแหล่งกล่าว เล่าโจษ โทษเขื่อนจีน กักน้ำสิ้น จีนไซร้ ไม่ประสา
เขื่อนสามแหล่ง แล้งไร้ ตายปูปลา ทั้งหมดว่า แปดเขื่อน!....เหลือเลือนฟัง
โอ้..อนิจจา ปลาบึก นึกสงสาร ปลาคู่ปราณ มหรรณพ จบความหวัง
บัดนี้เห็น แต่ปลากด...เหลือง,กดคัง ฤาจะเหลือ แค่ความหลัง นั่งคุยกัน
บัดนี้เห็น แต่ปลากด...เหลือง,กดคัง ฤาจะเหลือ แค่ความหลัง นั่งคุยกัน
ขอกล่าวกลอน สะท้อนใจ อาลัย" โขง " จะดำรง โพลงอยู่ใน หัวใจฉัน
แม้วันหน้า จะไม่เป็น เช่นวานวัน อธิษฐาน แม่น้ำใส สันติ์ไปดี ฯ
๑ เมษายน ๒๕๕๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น