ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

กลอน : ความรัก ทำให้คนตาบอด

                         
กลอน : ความรัก ทำให้คนตาบอด


      วันวัสสา จะลาสิ้น ฝนรินเรื่อย                         ลมอ่อนเอื่อย ไหลเลื้อยล้น พ้นผัสสา
เมฆีครึ้ม ทึมทะลัก ผลักสุริยา                        จนหายหน้า หาไม่เห็น เร้นไร้ราว

      สายลมหนาว เอาแต่ลม มาโหมไม่                 ยังเอาใจ ชาวชายหญิง วิ่งหนีหนาว
เคยโดดเดี่ยว ไม่เดียวดาย กายแกร่งกราว        โดนลมหนาว ดลเหงาหงอย ละห้อยใจ

      สายลมฝน ระคนหาย ใกล้สิ้นฝน                    ดวงกมล คนหนุ่มสาว เหงาใจใฝ่
มองหาคู่ อยู่เคียงข้าง มิร้างไกล                     สายลมไหว สายใจว้า เหว่อาวรณ์

      ความรักกรุ่น อุ่นอกไอ อย่างไรหนอ?              ความรักรอ ขอความรัก เขียนอักษร
ความรักใกล้ คนรักไกล อาลัยรอน                 ความรักซ่อน รู้ค่อนเค้า เราสองคน

      ชะตากรรม นำความรัก มาหนักเหน็บ              หรือกามเทพ เสพสุรา มาแผลงสนธิ์
ความรักจึง มารึงรัด มัดกมล                         ประหนึ่งตน โดนพันธนา รักคร่าครอง

       ทุกเวลา และนาที มีแต่รัก                             คนรัก..พักตร์ มักมาลอย คอยเจ้าของ
อ่านหนังสือ หรือตำรา เห็นหน้านอง                เพ็ญพักตร์ผ่อง ระรองเรื่อง เปลื้องปัญญา

      นี่ละหรือ คือใครรัก ม้กตาบอด ?                     ฟังเขาพรอด ยังขอดเขลา เมาหนักหนา
พอความรัก มาปักอก ปรกอุรา                      จึงรู้ว่า ตาบอด..รัก หนักเพียงไรฯ

๔ ตุลาคม ๒๕๕๓

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น