ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กลอนคติชีวิต : สายรุ้ง


กลอนคติชีวิต : สายรุ้ง       

    

     ดั่งเด็ก มองสายรุ้ง                พวยพุ่ง จากพื้นสู่ฟ้า
สีสัน ละลานตา                          อยากไขว่คว้า มาครอบครอง

      วิ่งรุด สุดฝีเท้า                     มือป่าย หมายเอาจับต้อง
เมฆมิด อาทิตย์หมอง                  สายรุ้งล่อง..หน ฉงนใจ ?

      ธรรมชาติ ของชีวิต               ย่อมคิด อยากมี-เป็น-ได้
ตั้งความหวัง-เป้าใฝ่                    ต้องไขว่ คว้าความสำเร็จ

      สร้างสาย ใยผูกพัน               จิตใจ-สิ่งอัน พิเศษ
ผิดหวัง ดังภัยเภท                       เกิดเวท..นาต่างๆพาน

      บางคน แค่โศกร้าว                บ้างข้าว-อาหารไม่ทาน
บ้างเก..เรอันธพาล                      บ้างต้องการ ประหารตน ฯลฯ

      เพราะคิด สร้างความอยาก       กรากใจ ต้องได้มายล
ละเลย ซึ่งเหตุ-ผล                       ไม่ฝึกฝน ความคิดจิตใจ

      ว่า...ไม่ควร สร้างสัมพันธ์         อย่ายึดมั่น สานเยื่อใย
ระหว่าง ทุกอย่างไซร้                    ผูกกับ "จิตใจ-อัตตา"

      จงอย่า ตั้งความหวัง                เสริมสั่ง แรงปรารถนา
เพียงมี เป้าหมาย..ข้างหน้า             ตั้งใจว่า..ไปให้ถึง

      เป็นเป้า หมายประเสริฐ              ดีเลิศ งามล้ำคำนึง
เกิดประโยชน์ ลึกซึ้ง                      ไม่พึง ผิดศีลธรรมใด

      ทำให้ ดีที่สุด                         ภายใต้ มนุษย์วิสัย
ไม่เกิน กำลังไกร                          ใช้ความ สามารถตัวเอง

      ไม่งอ..มืองอเท้า                     รอใครเขา ช่วยบรรเลง
ชีวิตนั้น เครียดเคร่ง                       ทุกคนต่างเพ่ง การย์ตน

      ไม่ยึด ติดผลลัพธ์                   วางกับดัก "สัมฤทธิ์ผล"
เสร็จการย์..พิจารณ์ตน                   ฝึกฝน-แก้ไข-ปรับปรุง

       สิ่งใด ที่พลาดหวัง                 อย่าฝัง..ใจให้ จิตยุ่ง
ถึงไม่เฟื่อง เรืองฟุ้ง                       แต่อาจมุ่ง หน้าใหม่เอา

       ความจริง....ลองตรองดู           ที่รับรู้ "เรา..ของเรา"
หรือว่า "เขา....ของเขา"                 ดูคล้าย "เงา...แห่งมายา"

       หากมี "ใคร....ของใคร"           ทำไม ? ไม่เป็น เช่นปรารถนา
กาย-ใจ...ไม่นำพา                        เหมือนว่า....สิ่งอื่นบงการ

       สิ่งนั้น....คืออะไร ?                 อำนาจยิ่งใหญ่ มหาศาล
สรรพสิ่ง "เกิด-คง-เสื่อม-ราญ"            บงการ โดย...ธรรมชาติ !

       แต่ใจ ที่ฝึกฝน                       ด้วยกุศล..ธรรมกรำศาสน์
เบา-ไม่ก้าวร้าว-สะอาด                   "ตน"สามารถ ควบคุมได้

       พากเพียร อย่าละถอย              ไม่ปล่อย ตามอำเภอใจ
จิตที่ ฝึกดีไซร้                              ทำสิ่ง ยิ่งใหญ่ เกินคน

       มหา บุรุษในโลก                    ถูกโภค ยกซ้องสากล
ทำประโยชน์ ท่วมท้น                     มี "จิต"/"ตน"ฝึกดีแล้ว

       ชีวี ที่ยิ่งใหญ่                         จิตใจ ประเสริฐเพริศแพร้ว
ปุถุชน.....คนละแนว                       ดั่งแววดาว...จันทร์เจ้านวล

       จิต...สงบ-ราบรื่น                    ดั่งน้ำไร้คลื่น-ลมผวน
ความคิด..ว่องไว-ใคร่ครวญ              กายไม่แปรปรวน..ผ่อนไคล

       ใช่ !...เหมือนไร้รสชาติ             ไม่ผาดโผน จนเสียวไส้
ไม่ตื่นเต้น เข้าเส้นชัย                      ไชโย โห่ร้องเซ็งแซ่   

       แต่ใจ ไม่โอนเอียง                   ร้องไห้เสียง...กระจองอแง
ไม่รู้สึก พ่ายแพ้                              ไม่แม้ แต่สะเทือนใจ

       ความรู้ แจ้งสัจจะ                     มีค่า กว่าทรัพยะไหนๆ
ปัญญา ยิ่งกว้าง-คม-ไว                    สิ่งใด ยิ่งใหญ่เทียบเทียม ฯ

                                                ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๓

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น