ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

ในโลกของความซึมเศร้า : กลอนกำลังใจ

                   
                                       

ในโลกของความซึมเศร้า : กลอนกำลังใจ


      ในยาม ฟ้าครึ้ม ซึมคล้ำ                เมฆดำ ฉ่ำฝน หล่นเฝือ
เย็นชืด มืดชุม คลุมเครือ                     ไม่เหลือ ทางเลือก เยือกใย(เยือก=เย็นเข้าหัวใจ)

      ยามจิต อึมครึม ซึมเศร้า                ฉันเฝ้า ฝังตน หนใฝ่
อยู่ใน กรอบแคบ แทบไคล                   ห่างไกล ไปจาก โลกา

      แม้เดิน ท่ามกลาง ระหว่างชน          แม้โดน ชนคะมำ คว่ำหน้า 
แม้ตอบ โต้ใคร ไปมา                          แต่ทว่า เหมือนยล (อยู่)คนเดียว

      อยู่ใน โลกไร้ ชีวิต                        อยู่ชิด ติดความ เปล่าเปลี่ยว
อยู่อย่าง เย็นชืด มืดเชียว                      อยู่เหี่ยว แห้งร้าง วังเวง

      โลกที่ ไม่มี ทางออก                     โลกชอก ช้ำซม ข่มเหง
โลกไร้ สีสัน บรรเลง                           โลกเคร่ง เร่งเครียด เบียดบัง

      อยากมี สักคน เข้าใจ                     เข้ามา ข้างใน ให้หวัง
ปลุกปลอบ มอบใจ ไกรพลัง                   ให้ห่าง ดังเปลี่ยว เดียวใด

     สักคน ช่วยค้ำ ประคอง                    เช็ดหน้า น้ำนอง ร้องไห้
เอาใจ แนบโอบ กอดใจ                        พาฉัน ออกไป เสียที

      ใครล่ะ จะมา เหลียวแล?                  มีแต่ แห่หัน หน้าหนี
ปราศจาก น้ำใจ ไมตรี                           ต่างมี แต่เห็น แก่ตน

      สมควร แก่กาล (เริ่ม)เรียนรู้               ซึมสลด หดหู่ = อกุศล
ฝังใจ ในโลก มืดมน                                ไม่มี ทางพ้น น้ำตา

      (จึง)หายใจ เข้าไป ลึกๆ                    ตรองตรึก ผนึก ปัญหา
ลุกขึ้น ยืนสู้ อยู่ท้า                                 ฟันฝ่า อย่าท้อ ต่อไป

      พึ่งพา ตนพ้น หนทาง                       อ้างว้าง เศร้าซึม ลืมไส
ปลุกเร้า ความคิด จิตใจ                           สร้างสรรค์ ฝันใฝ่ ไป(เป็น)จริง

      เมฆหม่น พ้นผ่าน คลานเคลื่อน            แสงทอง รองเลื่อน เชือนพริ้ง
นกร้อง ซ้องใส ไหวติง                            ทุกสิ่ง สวยสด งดงาม ฯ

๒๑ กันยายน ๒๕๕๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น