ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

ครองโสด..ครองคู่ : กลอนหก

                       
                                       

ครองโสด..ครองคู่ : กลอนหก
ขอขอบคุณคุณตะวัน ที่จุดประกายความคิด

      ฟ้าหมองหม่น ฝนหลั่งริน             เดือนสาบสิ้น ดินฉ่ำชื้น
น้ำเนืองนอง (เป็น)หนองชั่ว)ข้ามคืน   เราหยุดยืน ลื้นลมโลม(ลื้น=เศร้าสลด)

      ลมพัดพลิ้ว ลิ่วเรี่ยน้ำ                   คลื่นไล่ลาม คล่ำห้อโหม
ฝนสาดซัด ฟาดผาดโทรม                เสียงคลาดโครม ซมเศร้ากราย

      ชีวีว้าง ช่างหงอยเหงา                  อยู่เปลี่ยวเปล่า ยาวหม่นหมาย
ไร้ใครคู่ ครู่เคียงคลาย                     กาลผ่านผาย กรายผ่านพาน

      ไป่ทุกข์เทียบ เปรียบชีวิต             คร่ำครวญจิต คิดขวนขาน
อยู่ตราบตาย ใยดักดาน                   สืบสังขาร สานสังวร

      อยู่อย่างคน ยลกามกร่ำ                 ยิ่งทุกข์ทำ  ย่ำหลักหลอน
อยู่อย่างพระ(มีศีล) อย่านิ่งนอน          พานผ่านร้อน ผ่อนผ่านเย็น

      ไม่มีใคร ไม่ครุ่นคิด                      ชีพชีวิต ชิดคาดเข็ญ
กาลแก่เฒ่า กายเก่าเกณฑ์                 อยู่ยากเป็น เย็นยากปัน

      ครองความโสด ขดความเข็ญ          ปลอดโปร่งเห็น เป็นประหรรษ์
ครองคู่เรียง เคียงคู่รัน                       ต้องผูกพัน ต้านผองภัย

      ต่างด้อย-ดี ตริวิตก                       ระเหินหก รกคิดไข
ฝ่าลมล้น ฝนโรมไร                          กลับบ้านไป ก่ายหน้านอน ฯ

๑๒ กันยายน ๒๕๕๔

2 ความคิดเห็น:

  1. ทุกคมคำ ย้ำคมคิด ................ประดับจิตร อุทาหรณ์
    เคลือบแผงไว้ ในลายกลอน.... เป็นคำสอน ก่อนนิทรา
    กลอนแนวแปลก ใช่แตกต่าง ...คือเสริมสร้าง สานคุณค่า
    ดังเพลงพิณ จินตนา ...............สมภาษา วงศ์กวี

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ13 กันยายน 2554 เวลา 11:30

    ขอบคุณ ในผลงานสรรค์สร้างครับ
    ศิลปะ คือ ความสร้างสรรค์ อันไร้กรอบจำกัด....

    ตอบลบ