ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2553

โคลงสี่สุภาพ : " โง่ ไม๊ ? "



โคลงสี่สุภาพ : " โง่ ไม๊ ?  "

๑.สายหมอกซอนซอกเข้า                หนาวนา
สัมผัสกายให้หา                            ห่มผ้า
คืนค่ำดำเนินมา                             เกือบรุ่ง
สงบสงัดอ้า                                  อิ่งอ้อยนิทราฯ

๒.เสียงอีการ่ำร้อง                           กรองไกร
เบิ่งตาอาภาใส                               ส่องส้าย(ส้าย=สู้)
ความมืดดำครามไข                         ป่ายปราศ
รุ่งอรุณคืบค่อยคล้าย                        ห่วงห้วงเพลา ฯ

๓.สุรีย์ล่วงสั่งหล้า                            สู่วัน
สืบกิจนิจอนันต์                                คุ่ฟ้า
ตรง-สัตย์ ปราศแสร้งสรรค์                  ลวงเล่ห์
ประสิทธิ์ประโยชน์กล้า                       กึกก้องเกริกไกลฯ

๔.สุจริตจากจิตด้วย                           ศรัทธา
ซื่อสัตย์ปราศมารยา                           เล่ห์ร้อย
เอื้อประโยชน์แก่สาธา-                        รณะล่วง
ยืนหยัดมิคลาดคล้อย                          ด่างพร้อยประพฤติ ฯ

๕.คือคนมีค่าด้วย                               ความดี
กำเนิดประเสริฐธีร์                              โลกท้า
แม้ตายไม่เสียที                                  ชาติเกิด
สังขารสิ้นดินฟ้า                                  ชื่อยั้งยืนยง ฯ

๖."สัตย์ซื่อ " คือโง่เค้า                         พาลเห็น
" เจ้าเล่ห์เพทุบาย " เป็น                        เลิศแล้
 คนดี..ดีบำเพ็ญ                                  เจิดจิต
ความชั่วมัวหมองแม้                             ชีพม้วยไป่ถวิล ฯ

๗." เล่ห์ " นักใครจักไว้                         วางใจ
" พาล " นักใครจักไป                            คบค้า
" ร้าย " นักใครจักใจ                             ใฝ่มิตร
" โง่ " นักมักชั่วช้า                                ไป่แจ้งจักรกง ฯ

๘." คนซื่อ " ใครคบด้วย                         ยินดี
" คนสัตย์ " ยังปัถพี                               สูงล้ำ
" คนตรง " อานิสงค์มี                            จิตแจ่ม
" คนสุจริต " กิจค้ำ                                ก้าวหน้าสถาผล ฯ

๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๓

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น