ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

โคลงสี่สุภาพ : รักจริงไม่อิงอ้างใดใด




โคลงสี่สุภาพ : รักจริงไม่อิงอ้างใดใด


๑. รักจริงไม่อิงอ้าง........................เวลา
ยงหยั่งฝังโลกา...........................คู่ฟ้า
ไม่เสื่อมทรามชรา........................เยาว์ใหญ่
ร่างวายรักว่อนว้า.........................สาปสิ้นดินสลาย ฯ

๒. รักจริงไม่อิงอ้าง........................ทางไกล
แยกห่างอยู่อย่างไร.....................สุดหล้า
รักมั่นปานฤทัย...........................แนบอยู่
เคียงคู่ใจจรัสจ้า..........................เจิดแจ้งแสง(รุ่ง)สาง ฯ

๓. รักจริงไม่อิงอ้าง.........................เหตุการณ์
ถึงยากลำบาก..บาล......................บ่นใบ้
ดูแลผิพิการ...............................เจ็บป่วย
เสมอตนปรนให้............................ปราบเปลื้องภัยพาน ฯ

๔. รักจริงไม่อิงอ้าง..........................ศาสนา
รักเยี่ยงเพียงสัทธา........................แน่แท้
รักมั่นสรรสิกขา.............................ประสิทธิ์
รักเทิดประเสริฐแล้........................ล่วงล้ำคำสอน ฯ

๕. รักจริงไม่อิงอ้าง..........................ประเพณี
รักงามธรรมเนียมมี........................มอบให้
อุบัติก่อนลัทธี..............................จารีต ใดๆ
ศักดิ์สิทธิ์กว่าเทพไท้.....................หมู่ฟ้าพรหมินทร์ ฯ

๖. รักจริงไม่อิงอ้าง...........................ชั้นชน
รักงามกำแพง-พล..........................พ่ายแพ้
รักทอดรอดค่ายกล.........................กองศึก
รักผนึกลึกลาดแล้...........................ล่วงชั้นวรรณะ ฯ

๗. รักจริงไม่อิงอ้าง..........................ชาติพันธุ์
สูงต่ำดำขาววรรณ..........................บั่นเว้น
ต่างสำเนียงต่างปัน........................รักป่าย
ภาษารักล่ามเร้น............................ถ่ายถ้อยหทัย ฯ

๘. รักจริงมิอิงอ้าง............................ใดใด
รักเจตน์เหตุผลใจ..........................ไขว่คว้า
รักเพริศเพราะรักใคร.......................คนอื่น
รักตนยลหม่นล้า............................กว่าล้นรักเขา ฯ

๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๓

11 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ30 มีนาคม 2556 เวลา 20:08

    เพราะมากเลยครับ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับ ที่ชอบ
    คนแต่งมีกำลังใจครับ

    ตอบลบ
  3. บทที่ 6 แปลได้ว่าไงหรอคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ๖. รักจริงไม่อิงอ้าง ชั้นชน
      รักงามกำแพง-พล พ่ายแพ้
      รักทอดรอดค่ายกล กองศึก
      รักผนึกลึกลาดแล้ ล่วงชั้นวรรณะ ฯ

      ความรักที่แท้จริง จากใจจริง จะไม่อ้างอิงเรื่องชนชั้น(ยศ,ตำแหน่ง,ฐานะฯลฯ) ไม่ยึดว่าต้องรักแต่คนในชนชั้นเดียวกัน
      ความรักที่งดงาม จากใจที่งดงาม สามารถเอาชนะกำแพงที่ขวางกั้น-กองทหาร-กำลังคนทั้งหมด
      ความรักที่มอบให้แก่กัน สามารถเล็ดรอดค่ายกล-กองทัพ อย่างไม่มีอุปสรรค
      ความรักที่ผนึกแน่นในหัวใจ-แผ่ซ่านกว้างไกลออกไป จะล่วงพ้นความเชื่อเรื่องแบ่งแยกทางชนชั้นวรรณะ(ชาติตระกูล,เชื้อสายฯลฯ)

      ลบ
  4. ช่วยแต่ง โคลงสี่สุภาพ. หัวข้อ สีดำ หน่อยค่ะ พอดีอาจารย์สั่ง 3บท แต่นึกไม่ออก รบกวนช่วยหน่อยนะคะ

    ตอบลบ
  5. การบ้าน คือ แบบฝึกหัดเพื่อพัฒนาความรู้ที่ได้เล่าเรียนมา
    การทำการบ้านไม่ได้ แสดงว่ายังไม่มีความรู้
    สิ่งทีควรทำ คือ ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
    ทำการบ้านเองได้ จะส่งผลต่อดีการทำข้อสอบในอนาคต
    ถ้าทำการบ้านเองไม่ได้ก็จะทำข้อสอบไม่ได้
    เกรดจะไม่ดี มีผลต่อเนื่องไปอีกยาว
    การลอกการบ้านคนอื่นหรือให้คนอื่นทำการบ้านให้ คือ การทุจริต คิดชั่ว
    กรรมจะตามสนองเรา
    การทำการบ้านให้คนอื่นก็เช่นเดียวกัน

    ตอบลบ
  6. บทที่1-3 แปลว่าอะไรคะ รบกวนด้วยคะ

    ตอบลบ
  7. ๒. รักจริงไม่อิงอ้าง........................ทางไกล
    แยกห่างอยู่อย่างไร.....................สุดหล้า
    รักมั่นปานฤทัย...........................แนบอยู่
    เคียงคู่ใจจรัสจ้า..........................เจิดแจ้งแสง(รุ่ง)สาง ฯ

    แปลว่า : ความรักที่จริงใจจะไม่ผันผวนตามระยะทาง(ที่ห่างไกลกัน) ถึงจะห่างกันไกลสุดขอบโลก ก็ยังรักมั่นปานว่าหัวใจอยู่แนบชิดกัน เคียงคู่กันด้วยดวงใจที่เจิดจรัสดุจแสงอาทิตย์ยามรุ่งสาง

    ตอบลบ
  8. ๓. รักจริงไม่อิงอ้าง.........................เหตุการณ์
    แม้ยากลำบาก..บาล.....................บ่นใบ้
    ดูแลแม้พิการ...............................เจ็บป่วย
    เสมอตนปรนให้............................ปราบเปลื้องภัยพาน ฯ

    แปลว่า : ความรักที่แท้จริงจะไม่ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์/สถานการณ์ แม้จะเผชิญกับความยากลำบากในการดูแลรักษา(ความรัก)ก็ไม่ปริปากบ่น แม้อีกฝ่ายจะเจ็บป่วย-ร่างกายพิการ ก็ยกให้มีความสำคัญเทียบเท่าตัวเอง จะอยู่เฝ้าคอยปักป้องเภทภัยมิให้กล้ำกรายคนรักเหมือนดูแลตัวเอง

    ตอบลบ
  9. ๑. รักจริงไม่อิงอ้าง........................เวลา
    ยงหยั่งฝังโลกา...........................คู่ฟ้า
    ไม่เสื่อมทรามชรา........................เยาว์ใหญ่
    ร่างวายรักว่อนว้า.........................สาปสิ้นดินสลาย ฯ

    แปลว่า: ความรัก(จากใจ)จริงย่อมอยู่เหนือกาลเวลา ยืนยงฝังอยู่ในโลกและคู่ฟ้า ไม่เสื่อมไม่ทรามตามความชรา(ของคน) หากแต่จะเยาว์วัย-ยิ่งใหญ่ตลอดกาล แม้ตัวตายแต่ความรักจะยังวนเวียนอยู่ชั่วดินสลาย

    ตอบลบ