ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556

หนาวไม๊ ? : กลอนจรรโลงใจ




หนาวไม๊ ? : กลอนจรรโลงใจ
(เป็นฉันทลักษณ์ที่ผมคิดประดิษฐ์ขึ้นเอง)

    หนาวไม๊ ต้นหญ้า ?.............คืนคลาน ผ่านครา ราตรี
ผ้าห่ม ไม่มี...........................มีแต่ น้ำค้าง พร่างหาว

    ฤดู เหมันต์........................กลางคืนสั้น กลางวันยาว
กว่าจะ รุ่งเช้า.........................ย่อมหนาว ลำบาก ยากเย็น

    หนาวไม๊ แผ่นดิน ?..............กรวดหิน เย็นเฉียบ เยียบเห็น
หมอกเช้า ขาวเช่น...................ชวนเล่น ไล่จับ ซ่อนหา

    ยิ่งสาย ยิ่งหนาว..................ยิ่งราว กับไม่ นำพา
แสงสุ ริยา..............................จำรัส จัดจ้า ท้าทาย

    หนาวไม๊ เด็กๆ ?..................ตัวเล็ก ตัวน้อย ตื่นสาย
รู้สึก สบาย..............................ยามหาย ใจเข้า ไหมหนอ ?

    ไอลม ซาบซ่าน....................เลือดพล่าน ทะยาน ไม่พอ
กายสั่น ขวัญฝ่อ........................ต้องขอ ผ้าห่ม มาคลุม

    หนาวไม๊ ผู้เฒ่า ?...................บอกเล่า สาวๆ หนุ่มๆ
แต่ก่อน หนาวกุม........................จนต้อง สุมไฟ ไว้ผิง

    เดี๋ยวนี้ ป่าไม้.........................หดหาย จนใจ ประวิง
ผลลัพธ์ สรรพสิ่ง........................ไม่นิ่ง ไม่แน่ ไม่นอน

    เขาเรียก กันว่า.......................ผลส ภาวะ โลกร้อน
ไม่หนาว เหมือนก่อน...................ตอนผู้ เฒ่ายัง สาวหลาย

    หน้าหนาว ผ่าวร้อน..................สะท้อน ป่าถูก ทำลาย
สมดุล สูญหาย...........................เภทร้าย ธรรมชาติ ทวี ฯ

๕ มกราคม ๒๕๕๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น