สุขสันติ์จรรโลง : กาพย์ฉบัง๑๖
๏
หมอกไหลเหมือนสายน้ำตก..................จากฟ้าวลาหก(วลาหก=เมฆ)
ลงมาปกคลุมลุ่มเขา
๏
ยอดผาอากาศบางเบา.................หากแต่ยามเช้า
แห่งฤดูหนาวเพราไสว
๏
ชุ่มชื่นรุ่มรื่นฤทัย.............หายใจเป็นไอ
ชวนให้ตกอยู่ใต้ภวังค์
๏ ชีวีมีปัญหารั้ง.............ทุกขาประดัง
เหมือนหมอกเมฆบังสุริยน
๏ จิตใจวุ่นวายขัดสน..............แสนสุดจะทน
เวียนวนฟุ้งซ่านรำคาญเคือง
๏
แม้นมีหลักธรรมประเทือง...............จำรูญหนุนเนื่อง
อาจเปลื้องอารมณ์โทมนัส
๏ อุราระกำบำบัด...............ทุกขาขจัด
เปลี่ยนผลัดทัศนวิสัย
๏ เกิดความสงบภายใน..............หมดวุ่นวายใจ
ทำให้รู้แจ้งเห็นจริง
๏
ทุกข์ใย(เพราะ)ทำให้ใจยิ่ง............มืดมนสนสิง
ไม่อาจวิ่งหลีกปลีกพ้น
๏ ทุกข์ไร้ไปจากกมล...............กลับบันดาลดล
ให้เห็นหนทางสว่างศรี
๏ ธรรมะคือกุศลมนตรี................อยู่ยงคงฤดี
ย่อมมีสุขสันติ์จรรโลงใจ
ฯ
๔ มกราคม ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น