บุรพกรรม : กลอนแปด
๏ ไข่มดแดง แบ่งกอง
ใบตองตัด..............เรียงรายจัด ข้างถนน หลากคนขาย
ไข่มด(งาน)น้อย แค่นี้
ยังมิวาย..................ถูกขวนขวาย ปล้นมา ปรุงหากิน
๏ ปรัชญา ชีวี
ที่คิดต่าง...........................เป็นต้นทาง สั่งสม (ค่า)นิยมถวิล
กำหนดทิศ คิดใคร่
ใช้ชีวิน........................แตกต่างกัน ปานดิน เทวินทร์ดล
๏ ประสบการณ์ ดาลให้
ได้ศรัทธา.............เชื่อสัจจา/ปฏิเสธ (ความ)มีเหตุ-ผล
ความสงสัย ใคร่รู้
ผลัก(ดัน)ผู้คน.................ให้คิดค้น หาประเด็น ความเป็นจริง
๏ มีผู้คน ล้นเหลือ
หลงเชื่อง่าย..................มิขวนขวาย ใช้สมอง ตรองทุกสิ่ง
เชื่อตามเขา เมามาย
งมงายอิง....................จึงดำดิ่ง ทางทิศ อวิชชา
๏ มีจิตใจ ไว้ล่าม
ความรู้สึก.......................มีสมอง ไว้ตรองตรึก แต่ตัณหา
มีชีวิต ชิดแส่
แต่กามา...............................มีทำไม ไร้ค่า ชีวาคน ?
๏ ทั้งที่รู้ ที่เห็น
(ความ)เป็นคุณ-โทษ...........แต่บางผู้ อุระโฉด ปราโมทย์ฉล
คุณความดี
มิอาจ นลาฏดล.........................ชอบเป็นคน ฉลชั่ว ชาติมัวเมา(นลาฏ=หน้าผาก)
๏ เหตุอันใด ทำให้
ใครบางคน...................เกิดมาจน ปัญญา อุราเขลา ?
เพราะเหตุใด ใครช่าง
พร่างเพริศเพรา...........สติเร่า เฝ้าคิด หาวิชชา ?
๏ ใครบางคน เกิดมา
แสนฉลาด..................แต่ไม่อาจ รู้ธรรม ร่ำศึกษา
คนมากมาย โง่เขลา
เบาปัญญา....................กลับบูชา ความดี มีศีลธรรม
๏ คงเพราะบุญ บารมี
ที่ทำก่อน...................ผลสะท้อน ย้อนสนอง จองจุนค้ำ
คงเพราะบาป หยาบช้า
บุรพกรรม..................จึงน้อมนำ ทำให้ เป็นไปเอย ฯ
๒๑ มกราคม ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น