บัณฑิตย่อมฝึกตน : กลอนเปล่า
๏ ลมหายใจแห่งเหมันต์
พัดเอาความหนาวสั่น
เป็นของขวัญมาฝาก
เมฆสีเทาคราวอรุณรุม
คลุมฟ้าฟาก
เปรียบได้ดังฉาก
จากนวนิยายน่าสะพรึง
๏ เมื่อเพลาสายกรายมาเยือน
เมฆคล้อยลอยเคลื่อน
เขยื้อนขยับรับแสงสีทองส่องถึง
ไม้เมืองหนาว
พร่างพราวประดุจดาวดึงส์
มอบความงามอร่ามซึ้ง
ติดตรึงตรา
๏ ธรรมคติวินิจฉัย
ประดับประดาหทัย
ให้เข้าสู่อุษณีษ์สิกขา(อุษณีษ์=มงกุฎ)
การตรวจสอบจิต
การติดตามความเป็นไปในอุรา
คือศุภบทพรตภัทรา
อันทรงคุณค่าน่านิยม
๏ บัณฑิตย่อมฝึกตน
กุศลต้องหมั่นสร้าง-สั่งสม
เพื่อที่จะนำไปสู่ความอุดม
สมดุลสุนทรทัศน์พัฒนาการ
๏ ความรู้อันใด
ฤาจักสำคัญเทียบได้ดั่งความรู้เรื่องชีวัน
?
ความรู้ที่เบิกทางสู่ความสุขสันติ์
จัดระเบียบตัณหา-สัญชาตญาณ
และความทะยานอยากทั้งหลาย
ควบคุมให้อยู่ในระดับที่พอดี
๏ ไม่มีทางลัดสู่ความสำเร็จ
ไม่มีเคล็ดลับพิเศษ
ที่ทำให้การฝึกตนง่ายดายสบายสุขี
ความมุ่งมั่น-บากบั่น-อุตส่าห์-อดทน
เป็นเพียงพิมลพิธี
สู่เส้นชัยให้สวัสดี
แด่ผู้มีบุญ ฯ
๑๓ มกราคม ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น