กุศลารมณ์ : กลอนเจ็ด
๏ สัมผัส อุ่นไอ
ใต้ผ้าห่ม................ภิรมย์ อุษา ในหน้าหนาว
เคลิ้มฝัน วันหยุด
ประดุจราว.............ได้ก้าว เข้าสู่ ประตูพิมาน
๏ เย็นไล้ ไอลูบ จูบผิวหน้า.............ปักษา
เสนาะ เพลงเพราะสาน
ผ้าห่ม กลมกอด
ยอดดวงกานต์.........สราญ บันเทิง เริงรื่นใจ
๏ เสมือน บรรลุ กุศลารมณ์..............อุดม
สติ อดิศัย
กิเลส ตัณหา
ต่างคลาไคล................สงบ สบไท ไร้มลทิน
๏ จิตใส ใจสวย ฉลวยฉลาด.............สะอาด
บริสุทธิ์ มุตตาสินธุ์(มุตตา=ไข่มุก)
ละเมียด
ละไม ไรรองริน...................ประคิ่น วินชา ศิราทร(ศาทร=ศิระ+อาทร)
๏ เลิศล้ำ ธรรมา อนุสติ...................ปริ
วิตก ดิลกสร(ดิลก=เลิศ,สร=แกล้วกล้า)
มั่นคง
อุรา มิอาวรณ์........................โลกีย์ นิกร รอนฤทัย(นิกร=หมู่,พวก)
๏ สมบูรณ์ สุนทรีย์
ปรีดาสุข.............ปราศทุกข์ รุกราน สะคราญไหล
เสรี อิสระ
ประภาประไพ....................ไสว สว่าง กลางกระมล
๏ อารมณ์ ใดๆ ไม่ปานเปรียบ............อาจเทียบ
วสุ ธารกุศล(วสุ=ทรัพย์สมบัติ)
ประเสริฐ
เลิศค่า ชีวาคน....................ส่งผล พิสิฐ ประกฤติการ(พิสิฐ=วิเศษ,ประกฤติ=ความเป็นธรรมดา)
๏ รักษา อารมณ์ คุณสมบัติ...............กุศล
กลสัต ปทัสถาน(สัต=ดีงาม)
อบอุ่น ฤดี
อภิบาล............................เป็นสุข ปลุกศานติ์ นิรันดร ฯ
๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น