ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สัญชาตญาณพาพานทุกข์ : กลอนแปด



สัญชาตญาณพาพานทุกข์ : กลอนแปด

    ตำลึงเถา หนาวทน จนแห้งกรอบ...................เกี่ยวรายรอบ ริมรั้ว พัวพันเห็น
ผลฟักทอง กองก่าย มากมายเป็น.......................ซุ่มซ่อนเร้น นอนใต้ ใบเขียวนวล

    ลมกรรโชก โกรกกราย ชายคาบ้าน.................สั่นสะท้าน ดาลเสียง เยี่ยงโหยหวน
อากาศหนาว เข้ามา คล้ายขบวน.........................พัดไพรสัณฑ์ ปั่นป่วน รวนเรไป

    จิ้งหรีดร้อง ก้องร่ำ กลางค่ำมืด........................ความเย็นชืด ประชัน มิหวั่นไหว
ด้วยฤทธิ์แห่ง แรงผลัก จากภายใน.......................ยังผลให้ ภัยภาษ บอกศัตรู(ภาษ=บอกกล่าว)

    พิเคราะห์คล้าย ใจคน จลจราญ.......................สัญชาตญาณ ดัน-ดึง ทะลึ่งสู่(จราญ=ผลัก)
(คน)ไม่เท่าทัน ขานชัด อัตตาชู...........................พร้อมพรั่งพรู กรูกล้ำ ตามจิตไกร

    คนมีความ ยับยั้ง ชั่งดวงจิต............................พอจะมี ชีวิต ชวนพิสมัย
รู้ระแวด ระวัง มิพลั้งภัย......................................ทำอะไร รอบคอบ รับชอบธรรม

    บริโภค โลกธรรม ด้วยความสุข........................อย่างสนุก สนาน สราญล้ำ
ไม่ค่อยพาน ปัญหา ทุกขาพรำ.............................เป็นประจำ ปกติ ชีวีตน

    ส่วนคนที่ มิยับ ยั้งช่างจิต...............................ทุจริต คิดคด โฉดฉ้อฉล
แสวงหา สรรพสิ่ง อิงเล่ห์กล...............................มิกังวล ยึดกรอบ ชอบธรรมา

    มักไม่พ้น มลมาน ลานอุปสรรค........................ชีวิตหนัก ยากแค้น แน่นปัญหา
ร้อนรุ่มอก รกใจ ไร้จิตรา.....................................ขาดแคลนสุข ทุกขา อนิจจัง(จิตรา=จิตร=งดงาม)

    จึงจำเป็น เจนจัด สัญชาตญาณ.......................รู้ต้านทาน บรรเทา เบาสมสั่ง
หัดกุศล กลไก ให้พลัง.......................................ขับเคลื่อนจิต คิดฝัง ตั้งใจเอย ฯ

๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๗

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น