กวีพิภพ : กลอนจรรโลงใจ
๏ หากหลงใหล ในความงาม
ของคำศัพท์........ชอบสดับ ตรับฟัง สร้างสรรค์เสียง
อักขระ
มธุระ ขจิตเรียง..................................ขอเธอเพียง พจนา บทกวี(มธุระ=ไพเราะ)
๏ จิตพิลาส ปรารถนา
อยากจะเล่า..................เรื่องสนุก คลุกเร้า เคล้าโศกศรี
ประสบการณ์
สัญญา สาราณีย์........................สดุดี วีรกรรม รัมณียา(สาราณีย์=เป็นที่ตั้งแห่งความรำลึก,รัมณีย-=รมณีย์)
๏ อยากระบาย อารมณ์
อันสมสั่ง....................ความรู้สึก ลึกหลั่ง (ผ่าน)ทางภาษา
ให้ได้เห็น ได้ยิน
จินตนา................................อย่ารอช้า พาที กวีบรรเลง
๏ คำสั่งสอน ผ่านกลอนบท
หมดจดนัก.............คำบอกรัก ปักจิต ประดิษฐ์เร่ง
คำขวัญตรึง ซึ้งไตร
ไคลวังเวง........................คำคมควร ล้วนเคร่ง เปล่งเป็นกลอน
๏ ร้อยกรองกลั่น พรรณนา
ไว้อาลัย.................ความเสียอก เสียใจ ใคร่ถ่ายถอน
ความขมขื่น/ชื่นบาน/เที่ยวสัญจร.....................บทละคร
ฯลฯ ร่อนคำ ลำนำครวญ
๏ ให้สุนทรีย์ ฤดีทำ
นำทางถ้อย.......................จิตการ หว่านคล้อย ร้อยเรียงขวน(ขวน=ขวนขวาย)
โปรยอารมณ์ ผสมรุ่ม
อย่างนุ่มนวล...................บรรจงกวน กระบวนแกล้ว แพรวกวี
๏ เอื้อนสลัก อักษรดล
บนกระดาษ...................วรรณนิรุตติ์ ผุดผาด สวาทศรี
กานท์ทำนอง กรองร้อย
กลอยท่วงที.................สวัสดี วิเศษ เวทนา
๏ แล้วเธอจะ ประสบ
พิภพใหม่........................งามวิไล ให้ฤดี สิเน่หา
เป็นโลกแสน ประเสริฐ
บรรเจิดตา.....................ทุกทิวา ราตรี ตราบนิรันดร์ ฯ
๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น