ความรู้สึก : กลอนเจ็ด
๏ ขอบฟ้า ราตรี
มีแสงวาบ.................ฟ้าแลบ แปลบปลาบ กำซาบสี
จดจ่อ รอฝน
เยือนยลที......................กลับมี แต่ลม โถมพัดปลิว
๏ เช้าชวน ชื่นชม โสมนัส..................ลมรำ
เพยพัด สัมผัสผิว
กิ่งไม้ ไหวโยก
ใบโบกพลิ้ว.................งามลิ่ว พิไล ในอารมณ์
๏ สูรย์แอบ แนบซ่อน หลังก้อนเมฆ......สรรค์เสก
แสงสร อ่อนโยนสม
เย็นกาย ใจกรุ่น
อุ่นวิกรม.....................อุดม เอมอิ่ม พริ้มเพริศเพรา
๏ สัมพันธ์(ระหว่างกัน)สรรพ์พา
อุระแผก....ต่างแตก ตามคน กมลเค้า
ผิดรส พจนีย์
ฤดีเนา.............................สุข/เศร้า เสาวดล/วิกลดาล ฯลฯ
๏ เอาอก เอาใจ
เอาใส่จิต...................เอาความ นึกคิด พิษฐาน(พิษฐาน=มุ่งหมาย)
เอาความ รู้สึก
ตรึกต้องการ...................ลึกล้ำ สำคัญ สานสายใย
๏ แม้นเมิน มองข้าม
ความรู้สึก.............สัมพันธ์ สานลึก ผนึกไว้
กลายขื่น
ตื้นเขิน สะเทินไคล.................จะไร้ จีรัง หยุดยั่งยืน(สะเทิน=ครึ่งๆกลางๆ)
๏ (กับคนที่)ไม่คิด คำนึง
ถึง(ความ)รู้สึก.......สำนึก สึกหรอ มิขอขืน
คบหา (มีแต่)ระกำ
คอยกล้ำกลืน............สะอื้น อกตรม ซมเศร้าทรวง
๏ ปัจจัย ภายนอก บอกเล่าไป...............หาซาบ
ซึ้งใจ อาลัยล่วง
เอาใจ ใส่ใจ
ไม่หลอกลวง.....................เหนือสิ่ง ทั้งปวง ห่วงหาเอย ฯ
๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น