หมอกหนา : กาพย์ยานี ๑๑
๏ หน้าร้อน
มีหมอกฝุ่น.................หน้าพิรุณ มีหมอกฝน
หน้าหนาว
หมอกขาวจน................ยลเสมือน สวรรค์แล
๏ จิตใจ
มิไร้หมอก......................ขาวโพลนออก พอกพูนแผ่
พวยพร่าง
บังดวงแด.....................มิแลเห็น ซึ่งสัทธรรม
๏ กิเลส
กับตัณหา.......................คือหมอกหนา คลุ้งคลาคล่ำ
(เมื่อ)ไม่เห็น
เป็นสีดำ....................(ก็)หลงว่างาม จำเริญใจ
๏ เคยชิน กลิ่นกิเลส.....................ตัณหา
เฉท ทัศนวิสัย
หลงว่า
ดีกระไร............................ตะบันไป ตามใจจล
๏ ก่อกรรม
ทำความชั่ว..................เห็นแก่ตัว หัวคิดฉล
บาปทัณฑ์
บันดาลดล....................ทนทุกข์เภท เวทนา
๏ ไม่เห็น
เป็น(สิ่ง)เลวทราม...........คอยคล้อยตาม กิเลสา
(จึง)คงอยู่
คู่อัตตา.........................อันอุรา สาธุการ
๏ กิเลส
กับตัณหา.........................และอัตตา ผสมผสาน
ชั่วกัป
นับกัลป์กาล.........................สืบสังสาร สัตว์ชีวี
๏ ใครเล่า
คิดเท่าทัน......................กิเลสตัณห์ ต้องการหนี
พึงเห็น
เป็นเมธี..............................สวัสดี ศรีสรรเทอญ ฯ
๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น