ความอยาก->ความทุกข์ : กลอนหก
๏ หยาดพิรุณ อันคุ้นเคย................ไฉนเลย
ละเลือนหาย
อากาศอ้าว
อบผ่าวอาย...................จนระคาย กายระคน
๏ หมู่เมฆน้อย ลอยบางเบา.............ล้วนสีขาว
ไร้เทาฝน
ลมรำเพย
เลยล้ำพ้น.......................จนแดดจ้า เริ่มราวี
๏ ไม่รู้ตัว
ชั่วขณะ..........................พลันพบว่า สุระลี้
แดดลับไร้
เงาไม่มี..........................มืดครึ้มคลี่ กรีฑาคลุม
๏ ฟ้าหมองหม่น เมฆฝนมิด..............ขอบฟ้าปิด
สนิทสุม
ม่านสีเทา
เร่าเสียงทุ้ม......................ค่อยปรี่รุม กลุ้มกล้ำมา
๏ ทีละหยาด ถัดละหยด..................พิรุณทด
พยศถา
เริงระบำ
รำระบาด์...........................ซัดสาดซ่า พาสะพรึง
๏ อันที่จริง
สิ่งที่คน........................คิดว่าตน ขัดสนซึ้ง
เพียงระหาย
หลายคะนึง...................ในสิ่งซึ่ง มิพึงครวญ
๏ " ความอยาก "
ไซร้ ไร้ขอบเขต......ทะลวงเจต เทวษป่วน
" อยาก " ยังยง
คงยังยวน.................ใคร่คิดหวน คอยรวนเร
๏ ไม่จำเป็น->เป็น
" ต้องมี ".............เรื่องไม่ดี-> ปรี่หันเห
ดั่งไฟสุม
ทรวงทุ่มเท........................ฉลไฉเฉ เพทุบาย
๏ ดิ้นรนส่ำ
ล่าความสุข.....................กลับต้องทุกข์ สุขห่างหาย
" ความอยาก " กรู
อยู่ไม่กลาย............จึงวุ่นวาย ไปทั่วเอย ฯ
๒๓ ตุลาคม
๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น