พายุ<=> นารี : กลอนไม่มีสาระ
(แต่งตามที่คุยสนุกๆ
ขำๆกับเพื่อน ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริงแต่อย่างใด)
๏ หลายปีที่
คลาดคลา ไร้พายุ..............แต่ล่วงลุ ปีนี้ ลูกที่สาม
ไต้ฝุ่นเคลื่อน
เข้ามา " นารี "
นาม..........คงจะงาม ล้ำเลิศ เชิดนารี
๏ ใครหนอช่าง ตั้งชื่อ หรืออคติ
?..........พายุสิ มีอะไร คล้ายอิตถี ?
สังเกตการณ์
บรรดา ดรุณี.....................ดูเรียบร้อย ด้อยมี นิรภัย
๏ หากพินิจ พิจารณา อารมณ์หญิง........ช่างเป็นสิ่ง ชวนพิศวง อย่าสงสัย
เหมือนลมเพ
ลมพัด อัศจรรย์ใจ.............ปกติให้ ได้รื่น ชื่นภิรมย์
๏ แต่คราใด ไม่ทำ
ตามใจประสงค์...........ขอท่านจง รู้ว่า " พายุ " สม
สตรีงอน โกรธา
พาระทม......................สักแต่ว่า ระบายอารมณ์ วิกรมลาญ
๏ สติขาด ปราศไร้
ใช้เหตุ-ผล...............กลับเปลี่ยนเป็น คนละคน ล้นล้างผลาญ
ไม่เกรงใคร
ใจกล้า ประจัญการ...............พละกำลัง มหาศาล ปานแรงลม
๏ ขืนไปขวาง ไปขัด
ตระบัดเจตน์..........เธอเทวษ ร่ำไห้ กลายขื่นขม
น้ำตาหลั่ง
ดั่งว่า น้ำป่าจม......................พัดถล่ม โลกา อุทกภัย
๏ เพราะฉะนี้ เมธีท่าน
บุราณปราชญ์.......จึงประสาท คำสอน บัญชรไว้(ประสาท=โปรดให้)
กิจการ
ในบ้านเรือน อย่าเคลื่อนไคล........" นารี "ยก
ย่องเป็นใหญ่ อย่าไปคาน
๏ ชายจึงมัก ถูกครหา ว่า " กลัวเมีย "......ใจระเหี่ย จนปัญญา น่าสงสาร
เมื่อนารี มีฤทธิ์
กฤดาการ.......................ควรคิดอ่าน ขนานคู่ " พายุ " เอย ฯ(กฤดาการ=ที่ทำไว้)
๑๕ ตุลาคม
๒๕๕๖
(ประเทศเกาหลีใต้
เป็นผู้เสนอชื่อ " นารี " แปลว่า ดอกลิลลี่
แต่ที่นี้ นำมาล้อกับคำที่แปลว่า
ผู้หญิง ในภาษาไทย)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น